OS ตอนที่ 46 ความเชี่ยวชาญอาวุธ

อีควิน็อกซ์เดินไปสักพักจนกระทั่งเขาพบทหารยาม เขาจึงถามว่าค่ายทหารยามไปทางไหน?

จากนั้น เขาก็เดินไปตามทิศทางที่ทหารยามบอก เนื่องจากเขาเดินทางไปพร้อมกับผู้ติดตาม ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สะดุดตา พอพวกเขาเดินผ่านใจกลางเมือง และพวกเด็ก ๆ ต่างก็สนใจกลุ่มของเขา

เด็ก ๆ บางคนอดใจไม่ไหว พวกเขาเข้าไปสัมผัสตัวซิริอุส ดูเหมือนว่าเด็ก ๆ ของเผ่าเดมอสจะไม่กลัวพวกมอนสเตอร์หรือสัตว์อัญเชิญของอีควิน็อกซ์เลย

อีควิน็อกซ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตราบใดที่ซิริอุสยังโอเค เขาก็อนุญาตให้พวกเด็ก ๆ เล่นได้เต็มที่ อย่างไรก็ดี พอเขามองดูเจ้าหมาป่าดี ๆ ดูเหมือนว่าซิริอุสชอบได้รับความสนใจ เนื่องจากเชื่อมต่อของผู้อัญเชิญกับผู้ถูกอัญเชิญ เขาจึงรับรู้อารมณ์ของเจ้าหมาป่าได้

ส่วนคันลาออนกับเซน่า พวกเด็ก ๆ ไม่สามารถสัมผัสพวกมันได้ เนื่องจากพวกมันอยู่บนหัวของอีควิน็อกซ์ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเด็ก ๆ จึงมุ่งความสนใจไปที่ซิริอุส

เมื่อมองภาพตรงหน้า อีควิน็อกซ์ก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว การที่เด็ก ๆ เข้าไปกอดซิริอุส ราวกับกอดตุ๊กตาหมาป่ายักษ์ ช่างเป็นภาพที่วิเศษมาก นอกจากนี้ ขนของมันทั้งนุ่มและลื่น ที่สำคัญยังอุ่นอีกด้วย

แม้ว่าความรู้สึกนั้นจะคงอยู่ได้ไม่นาน เพราะพ่อแม่ของพวกเขาจะพาพวกเด็ก ๆ ไปหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ซึ่งทำให้เด็ก ๆ ดูเศร้าใจอย่างเห็นได้ชัด พ่อแม่ของพวกเขาบอกคำขอโทษกับอีควิน็อกซ์ ซึ่งเขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเท่านั้น

หลังจากเดินไปอีกไม่กี่นาที อีควิน็อกซ์ก็ได้ยินเสียงตะโกน และเห็นชาวเดมอสบางคนกำลังฝึกฝนอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไปถึงจุดหมายแล้ว

เขาเห็นว่าทหารส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดียโบลอนกับอิมป์ และมีจินน์อยู่บ้างประปราย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เนื่องจากจินน์คุ้นเคยกับการใช้เวทย์มากกว่าเผ่าเดมมอสอีกสองสายพันธุ์

อีควิน็อกซ์มองเห็นว่าท่ามกลางคนกำลังฝึกฝน มีชายชาวเดียโบลอนตนหนึ่งที่ตัวใหญ่กว่าตนอื่น ๆ ไม่กี่นิ้ว ซึ่งกำลังดูแลกลุ่มผู้ฝึกฝนอยู่

เขามีรูปร่างสูงใหญ่ และกล้ามเนื้อใหญ่เหมือนนักมวยปล้ำหรือผู้เพาะกาย เขาของเขามีรูปร่างคล้ายกับมงกุฎที่สวมประดับศีรษะ ตัวเขาได้เปลือยท่อนบน โดยมีอักษรูนบนร่างกายของเขา ลวดลายของมันดูซับซ้อน และยังเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน ๆ ออกมาอีกด้วย

ออร่าของเขาสามารถสัมผัสได้จากจุดที่อีควิน็อกซ์ยืนอยู่ มีความองอาจ แต่ก็สง่างาม กิริยาของเขาเป็นเหมือนกับแม่ทัพที่ผ่านศึกสงครามมาอย่างโชกโชน

อีควิน็อกซ์บอกให้พวกสัตว์อัญเชิญอยู่ตรงนี้ พร้อมกับให้ขนมพวกมัน

ขณะที่อีควิน็อกซ์เดินเข้ามาใกล้ผู้ดูแลเดียโบลอนมากขึ้น เขาเริ่มรู้สึกประหม่า เพราะแรงกดดันที่บุคคลนั้นปล่อยออกมา แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อ เขาเชิดหน้าอย่างกล้าหาญและเดินหน้าต่อไป

ผู้ดูแลเดียโบลอนสังเกตเห็นสิ่งนี้ และเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา อันที่จริง เขาตั้งใจทดสอบอีควิน็อกซ์ เนื่องจากสังเกตเห็นว่าอีควิน็อกซ์ตั้งใจมาหาเขา

ในเมื่ออีควิน็อกซ์ผ่านการทดสอบจากเขาแล้ว เขาจึงเต็มใจเปิดรับฟังคำขอของหนุ่มน้อย

เมื่ออีควิน็อกซ์สามารถไปถึงด้านหน้าของผู้ดูแลเดียโบลอนได้ แต่ขาของเขาแทบจะทรุดลง และยังไม่สามารถพูดออกมาได้

"ท่านครับ ผมอยากให้ท่านสอนความเชี่ยวชาญอาวุธให้ผม เพราะผมต้องการที่จะใช้อาวุธทุกชนิดที่มือของผมสามารถสัมผัสได้ครับ"

จากนั้น ชายชาวเดียโบลอนก็ประเมินอีควิน็อกซ์อีกครั้ง และถอนหายใจก่อนจะพูด

"หากนั่นคือคำขอเดียวของคุณ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะอนุมัติ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าความเชี่ยวชาญด้านอาวุธจะไม่นำคุณไปสู่จุดสูงสุดเหมือนคนอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นไปที่อาวุธชนิดเดียวตลอดชีวิต”

“อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ฉันสังเกต คุณต้องการจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยเครื่องมือที่แตกต่างกัน มากกว่าที่จะดิ้นรนกับอาวุธชนิดเดียว

เส้นทางนี้จะนำมาซึ่งความยากลำบาก แต่ฉันหวังว่าคุณจะมีความกล้าที่จะเดินหน้าต่อไปต่อ ด้วยความทะเยอทะยานอันกล้าแกร่งของคุณ

ฉันมีชื่อว่าบร็องซ์ เป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาเมืองของที่ราบพาราด็อกซ์ และเป็นผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์ ในอีกสามชั่วโมงช่วยมาพบฉันที่นี่ และเราจะเริ่มการฝึกฝนกัน"

==

[แจ้งเตือนภารกิจ: บรรลุความเชี่ยวชาญอาวุธ ตอนที่ 1 (ภารกิจต่อเนื่อง)

หัวหน้ากองกำลังรักษาเมืองบร็องซ์จะดูแลการฝึกของคุณเป็นการส่วนตัว จงพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคุณมีความกล้าหาญที่จะก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ พบกับเขาในเวลาที่กำหนดเพื่อเริ่มการฝึกของคุณ

เงื่อนไขการผ่าน: กลับมาในอีกสามชั่วโมง และพบกับบร็องซ์

รางวัล: เพิ่มค่าความสนิทสนมกับบร็องซ์

==

เมื่ออีควิน็อกซ์กดรับภารกิจ บร็องซ์ก็เดินกลับไปที่เต็นท์ และบอกให้ผู้ฝึกฝนพักผ่อน

เมื่อบร็องซ์เดินออกไปจนมองไม่เห็นแล้ว อีควิน็อกซ์ก็ทรุดตัวลงกับพื้น และถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในระหว่างนี้ เขาจะออกจากระบบ เพราะแม่ของเขาได้มาเรียกให้เขาไปทานอาหารกลางวันพอดี เมื่อเขาทานอาหารกลางวันเสร็จ เขาจะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง

อีควิน็อกซ์เข้าสู่ระบบโดยเหลือเวลาอีกห้านาที เขาเรียกสัตว์อัญเชิญของเขากลับมา และบอกให้พวกมันวิ่งเล่นอยู่แถวนี้ แต่ห้ามไปรบกวนคนอื่น

จากนั้น อีควิน็อกซ์ก็ไปหาบร็องซ์อีกครั้ง และรายงานตัวเพื่อเริ่มการฝึก

[แจ้งเตือนภารกิจ: บรรลุความเชี่ยวชาญอาวุธ ตอนที่ 1 สำเร็จแล้ว]

[ภารกิจบรรลุความเชี่ยวชาญอาวุธ ตอนที่ 2 ได้ถูกเพิ่มในหน้าต่างภารกิจแล้ว]

==

[แจ้งเตือนภารกิจ: บรรลุความเชี่ยวชาญอาวุธ ตอนที่ 2 (ภารกิจต่อเนื่อง)]

บร็องซ์ต้องการสอนคุณเกี่ยวกับวิถีดาบก่อน

เงื่อนไขการผ่าน: สามารถชนะการต่อสู้กับผู้ฝึกหัดที่บร็องซ์เลือกมาได้

รางวัล: เลเวล + 1

==

อีควิน็อกซ์ได้รับดาบฝึก โดยดาบเล่มนั้นทื่อเพื่อไม่ให้ฟันใครเข้า จากนั้น เขาก็ได้รับคำสั่งให้ฟันดาบร้อยครั้ง ซึ่งอีควิน็อกซ์คิดว่ามันง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ง่ายเลย

อีควิน็อกซ์ต้องฟันดาบในท่าที่ถูกต้องจึงจะนับได้ ซึ่งระบบจะนับผ่านหน้าต่างภารกิจของเขา ไม่เพียงเท่านั้น บร็องซ์ได้ร่ายคาถาใส่เขาเพื่อไม่ให้ฉายาและทักษะของเขาทำงาน ซึ่งทำให้เขาอ่อนแอลงอย่างมาก

อีควิน็อกซ์ลืมนับจำนวนครั้งที่ฟันไปเลย ดังนั้นจำนวนการฟันอย่างเป็นทางการจึงกลายเป็นร้อยครั้ง แต่เขาก็สามารถฟันได้สำเร็จ และล้มลงเพราะความเหนื่อยล้า

บร็องซ์แสดงความยินดีกับเขาที่ฟันได้ถูกต้องร้อยครั้ง แม้ว่าจะต้องพยายามอย่างหนักด้วยความผิดพลาดหลายครั้งก็ตาม ภารกิจต่อไปคือการสอนอีควิน็อกซ์ปัดป้องด้วยดาบอย่างมีประสิทธิภาพ

อีควิน็อกซ์ต้องใช้ร่างกาย และดาบเพื่อจะปัดป้องได้อย่างเหมาะสม เขาเรียนรู้ที่จะป้องกันแม้ว่าจะถูกโจมตีด้วยความเหนื่อยล้าและแถบพลังกายของเขาเป็นสีแดง แต่ก็ยังพยายามต่อไป

บร็องซ์หยุดการฝึกเอาไว้แค่นี้ แล้วให้มาฝึกต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นข่าวดี เพราะเขาได้อยู่ในเกมมา 12 ชั่วโมงแล้ว

อีควิน็อกซ์โค้งคำนับบรองซ์ และบอกลาเขาสำหรับวันนี้

...

วันถัดมา

อีควิน็อกซ์เข้าสู่ระบบอีกครั้งพร้อมกับร่ำเรียนเคล็ดลับทั้งหมดที่บร็องซ์สอนให้เขา ยกตัวอย่างเช่น ท่าทางที่เหมาะสม และจังหวะที่สมบูรณ์แบบ

อีควิน็อกซ์ยังทำการจำลองสถานการณ์ในหัวของเขาก่อนนอน ซึ่งทำให้เขาฝันถึงการฝึก ดูเหมือนว่าการจำลองสถานการณ์ทั้งหมดที่เขาทำจะได้ผล และเขาสามารถป้องกันการโจมตีของบร็องซ์ได้สำเร็จหนึ่งครั้ง พวกเขาฝึกฝนต่อจนกระทั่งอีควิน็อกซ์สามารถป้องกันการโจมตีได้สามในห้าครั้ง

หลังจากบทเรียนการป้องกัน อีควิน็อกซ์ได้รับคำแนะนำให้พักผ่อนสำหรับขั้นตอนต่อไป ซึ่งก็คือการต่อสู้ และหากเขาสามารถชนะได้ พวกเขาจะดำเนินการกับขั้นตอนต่อไปของการฝึก

จากนั้น อีควิน็อกซ์จึงออกจากระบบเพื่อกินอาหาร และเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบใหม่และทำการประลอง

อีควิน็อกซ์ได้รับการต้อนรับจากผู้ฝึกฝนอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวเดียโบลอน ถึงตัวเขาจะไม่ใหญ่มาก แต่มีกล้ามเนื้อที่กระชับได้สัดส่วน เขาดูเหมือนบร็องซ์ทุกประการ แต่ใบหน้าดูเด็กกว่า

บร็องซ์แนะนำว่าเขาเป็นลูกชายของเขาชื่อ ออนิกซ์ บร็องซ์บอกว่าเขาอายุเท่ากับอีควิน็อกซ์ และเพิ่งเริ่มฝึกกับกองทหารรักษาเมืองเมื่อไม่นานนี้เอง

แม้ว่าจะเข้าร่วมกองทหารรักษาเมืองเมื่อไม่นานนี้ แต่อีควิน็อกซ์ก็รู้สึกถึงแรงกดดันจากออนิกซ์เช่นเดียวกับที่เขารู้สึกจากบร็องซ์ ดูเหมือนว่าการประลองจะไม่ง่ายอย่างที่เขาคาดไว้

ไม่นาน ทั้งคู่โค้งคำนับให้กัน และยืนในท่าต่อสู้

"เริ่มประลองได้!"

เสียงของบรองซ์ดังไปทั่วสนามฝึก ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกฝนที่กำลังพักอยู่

อีควิน็อกซ์สังเกตคู่ต่อสู้ก่อนเข้าต่อสู้ เนื่องจากเขาต้องการประเมินคู่ต่อสู้ก่อน และตัวเขาถนัดการโต้กลับมากกว่าการโจมตีแบบตรง ๆ

ราวกับว่าอีควิน็อกซ์อ่านความคิดของอีกฝ่ายได้ ออนิกซ์เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน อีควิน็อกซ์พยายามปัดป้อง แต่ต้องถอยกลับเพราะน้ำหนักดาบของออนิกซ์

ออนิกซ์ไม่รอให้อีควิน็อกซ์ตั้งหลักได้ และพุ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง คราวนี้โอนิกซ์เพิ่มแรงโจมตี และอีควิน็อกซ์ปัดป้องด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ สุดท้าย เขาก็ล้มไปกองบนพื้น เนื่องจากแรงปะทะจากอีกฝ่าย

อย่างก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้หยุดยั้งอีควิน็อกซ์จากการพยายามยืนขึ้น เขาแสดงเจตจำนงที่จะต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็โดนออนิกซ์เอาชนะในท้ายที่สุด และอีควิน็อกซ์ถูกตัดสินว่าไม่สามารถสู้ต่อได้ เพราะรอยฟกช้ำทั่วร่างกายของเขา

บร็องซ์บอกว่าเขาสามารถลองใหม่ได้ในภายหลัง และออนิกซ์ยังให้กำลังใจเขา

ขณะที่อีควิน็อกซ์นอนลงบนพื้น เหล่าสัตว์อัญเชิญก็มาหาเขา และมาปลอบโยนเขา ขณะที่ เขาลุกขึ้นนั่งและกอดพวกมัน เขาก็คิดภาพจำลองการต่อสู้ก่อนหน้านี้ โดยตั้งมั่นว่าเขาจะโจมตีออนิกซ์ให้ได้อย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง