ตอนที่แล้วยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 44 ความลับแห่งสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 46 ปิดบังกลไกสวรรค์

ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 45 ตราประทับหงเหมิงเคลื่อนไหว


ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 45 ตราประทับหงเหมิงเคลื่อนไหว

กู้ฉางเซิง ตั้งแต่เกิดจิตสังหารจนถึงลงมือ แท้จริงแล้วเป็นเพียงชั่วพริบตา

แต่หยิงเนี่ยไม่เพียงแต่สามารถตอบสนองได้ แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวไปด้านข้าง และป้องกันได้

นี่นับว่าไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง แม้แต่ผู้บำเพ็ญระดับหวนเอกาโดยทั่วไป ก็ยังคงต้องร่างกายระเบิดออก

“คนผู้นี้ กล่าวว่าลงมือก็ลงมือ มิได้ให้เหตุผลใด ๆ”

ฉินชิงชิงรู้สึกตัว สีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย เงาร่างของนางหลอมรวมเข้ากับความว่างเปล่า ปรากฏตัวขึ้นห่างจากกู้ฉางเซิงหลายร้อยลี้

ตอนนี้ นางกลัวเล็กน้อยว่ากู้ฉางเซิงจะลงมือกับนางอย่างกะทันหัน

กายาปฐมโกลาหลในตำนาน ด้วยกายเนื้อของนางในตอนนี้ ย่อมมิอาจต้านทานหมัดเดียวของเขาได้!

“หยิงเนี่ยผู้นี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน” ฉินชิงชิงพบว่าในบรรดาพวกเขาทั้งสาม มีเพียงนางเท่านั้นที่ ‘ไร้เดียงสา’

“กู้ฉางเซิง เจ้าต้องการต่อสู้กับข้าอย่างนั้นหรือ?” หยิงเนี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและหวาดกลัว

วัวเขียวที่อยู่ใต้เท้าของเขาได้รับผลกระทบ เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวราวกับมนุษย์

หยิงเนี่ยหยิบโอสถเซียนออกมาจากอกเสื้อ กลืนลงไป บนผิวหนังปรากฏปราณม่วงปกคลุม ฟื้นฟูบาดแผลที่แขนขวา พร้อมกับระวังการโจมตีของกู้ฉางเซิง

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นกายาปฐมโกลาหลที่ไม่ปรากฏตัวมานานหลายหมื่นปี เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่จะกำราบยุคสมัย

แต่เขาก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน บนร่างกายของเขามีสิ่งลึกลับที่สุดในโลก!

“บนร่างกายของเจ้ามีสิ่งลึกลับมากมาย ข้าสนใจอย่างยิ่ง มอบมันมาให้ข้า ข้าสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้” กู้ฉางเซิงมองฉินชิงชิงที่หลบหนีไปไกลแวบหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวอย่างแผ่วเบา

น้ำเสียงไม่รีบร้อน แต่กลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกว่า ‘หากเจ้าไม่ยินยอม ข้าก็จะสังหารเจ้า’ มิอาจปฏิเสธได้

“ดียิ่ง บุตรเทพตระกูลกู้รุ่นนี้ช่างโอหังนัก แต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะข้าได้อย่างนั้นหรือ?”

หยิงเนี่ยกล่าวอย่างเย็นชา เขาสามารถสงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว และเข้าใจดีว่าการแสดงความโกรธแค้นในเวลานี้จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้พลังอำนาจลดลง

เมื่อครู่ เขามองออก ฉินชิงชิงไม่ได้ร่วมมือกับกู้ฉางเซิง ดังนั้น เขาก็ยังคงมีโอกาสที่จะเอาชนะ

ปราณม่วงมากมายปรากฏขึ้นเบื้องหลังของเขา

พร้อมกันนั้น เงาร่างของนักพรตผู้เลือนรางปรากฏขึ้น นั่งขัดสมาธิ ท่องบทสวด เสียงของมหามรรคมากมายดังก้องกังวาน

กลิ่นอายของหยิงเนี่ยตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่นี้นับไม่ถ้วน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขายืนอยู่ใต้เงาร่างที่น่ากลัวนี้ สำเนียงมรรคไหลเวียนไปทั่วร่างกาย

ราวกับว่ามีนักพรตโบราณกำลังนั่งขัดสมาธิ แสงเทพส่องประกายเจิดจรัส ปกคลุมสี่ทิศแปดทาง

แขนขวาของเขากำลังฟื้นฟู กระดูกที่แตกสลายเริ่มเติบโตขึ้นใหม่ ในชั่วพริบตาก็กลับมาสมบูรณ์

พร้อมกันนั้น พลังอันน่ากลัวก็เริ่มรวมตัวกันภายในร่างกายของเขา

ระดับแยกปฐพีเก้าวัฏระยะสูงสุด ทะลวงผ่านระดับเบิกฟ้าสามวัฏในทันที!

“คนผู้นี้ แท้จริงแล้วซ่อนพลังอำนาจเอาไว้” กู้ฉางเซิงกล่าวอย่างแผ่วเบา เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของเขา

จิตตระหนักรู้ของเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก ตั้งแต่แรกพบก็รู้สึกแล้วว่ากลิ่นอายและพลังอำนาจของหยิงเนี่ยไม่สอดคล้องกัน ไม่อาจปกปิดได้อย่างสมบูรณ์

“พระสูตรเซียนลิขิตของตระกูลหยิง!” ฉินชิงชิงตกใจเล็กน้อย นางจำวิชาสวรรค์โบราณที่แข็งแกร่งนี้ได้

กล่าวขานว่าวิชานี้สามารถ ‘กล่อมเกลา’ แม้แต่เซียนแท้ ตระกูลหยิงเคยมีสัตว์เทพที่ปกป้องตระกูลก็ถูกกล่อมเกลาด้วยพระสูตรนี้

นางระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่อาจเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ

แต่ไม่นานนัก รูม่านตาของฉินชิงชิงก็หดเล็กลงเล็กน้อย!

ใบหน้าของกู้ฉางเซิงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เบื้องหลังของเขามีแสงฝนโปรยปราย ราวกับว่ามีต้นโพธิ์กำลังสั่นไหว แสงสว่างบริสุทธิ์ปกคลุม ต้านทานพระสูตรเซียนลิขิต!

“คนผู้นี้มีวิธีการมากมายจริง ๆ”

“สังหาร!”

ในที่สุด หยิงเนี่ยก็สะบัดชุดนักพรต ปลดปล่อยพลังทั้งหมด สติปัญญา จิตวิญญาณ และกายเนื้อบรรลุถึงขีดสุด ต้องการล้างแค้นที่ถูกหักแขนเมื่อครู่ ลงมือโจมตีอย่างรุนแรง

เงาร่างนักพรตที่น่ากลัวเบื้องหลังของเขาเล็กลง แปรเปลี่ยนเป็นตราประทับที่น่าหวาดกลัว หลอมรวมเข้ากับหว่างคิ้วของเขา

พลังอำนาจของเขาเปลี่ยนแปลงราวฟ้ากับดิน

“พลังกายเนื้อเพิ่มขึ้นอีกขั้นอย่างนั้นหรือ?”

กู้ฉางเซิงประหลาดใจเล็กน้อย ยกมือขึ้นปะทะกับหยิงเนี่ย แต่กลับไม่สามารถทำลายล้างได้เช่นเดียวกับเมื่อครู่

ปัง!

หยิงเนี่ยกระเด็นออกไป วัวเขียวที่อยู่ใต้เท้าของเขาถูกกระแทกจนกลายเป็นเนื้อบด!

“กายเนื้อของคนผู้นี้ เป็นไปได้อย่างไร เหตุใดกายาปฐมโกลาหลจึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้......”

ภายในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่อยากจะเชื่อ

“หากเจ้ามีเพียงเท่านี้ ก็ตายได้แล้ว” กู้ฉางเซิงกล่าวอย่างแผ่วเบา สายตามองไปยังตำแหน่งตันเถียนของหยิงเนี่ย รู้สึกได้ว่าตราประทับหงเหมิงที่ไม่เคยเคลื่อนไหวมานาน เริ่มเคลื่อนไหว

“อย่าได้โอหังนัก อย่าดูถูกข้า!” หยิงเนี่ยกล่าวอย่างเย็นชา เขาไม่คิดที่จะต่อสู้กับกู้ฉางเซิงอีกต่อไป เพราะเขารู้ดีว่าวิธีการเช่นนี้ ไม่อาจได้ผล

กายเนื้อของอีกฝ่าย ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง แข็งแกร่งกว่าเหล็กเทพทองคำเซียน

เขาเริ่มต้นใช้กลเม็ดที่แข็งแกร่งที่สุด!

วิชามรรคระดับสูงสุดมากมายถูกปลดปล่อยออกมา แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างดาบ กระบี่ ขวาน และกระถาง พลังอำนาจน่ากลัวอย่างยิ่ง

เห็นเช่นนั้น สีหน้าของกู้ฉางเซิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเริ่มต้นแสดงกลเม็ดที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเอง เพื่อที่จะต่อกรกับอีกฝ่าย

วิชาระดับจอมสรรพสิ่ง หมื่นลักษณ์เทพจำแลงถูกปลดปล่อยออกมา คุนเผิงโจมตีท้องฟ้า ร่างทองคำมิดับสูญ หงส์แดงกางปีก มังกรแท้ตะปบกรงเล็บ......

ตู้ม!

ความว่างเปล่าระเบิดออก เสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง มังกรแท้และหงส์เซียนกำลังบินวน กิเลนคำรามลั่น

พลังอิทธิฤทธิ์กำลังระเบิดออกมา เป็นการแสดงพลังของวิชาสวรรค์โบราณมากมาย

ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง ราวกับว่าฟ้าดินกำลังแตกสลาย ดินแดนดารากำลังพังทลาย

สะเทือนเลือนลั่น ราวกับว่าความว่างเปล่าแห่งนี้กำลังสั่นสะเทือน

รอบกายกู้ฉางเซิง ปกคลุมไปด้วยปราณปฐมโกลาหล ราวกับจักรพรรดิเซียนแห่งยุคปฐมโกลาหลกำลังปรากฏตัวขึ้น ทุกย่างก้าวล้วนเต็มไปด้วยพลังอำนาจ

“คนผู้นี้ช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง ในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน ผู้ใดจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา?” ฉินชิงชิงซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่า สายตาจริงจัง

พร้อมกันนั้น เหนือเมืองเป่ยหวง ผู้อาวุโสของขุมอำนาจอมตะหลายคนร่วมมือกันปลดปล่อยพลังอำนาจ ขับไล่วิญญาณพยาบาทที่ปกคลุมสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงออกไป

ภายในคันฉ่องเบิกฟ้าดิน ภาพเหตุการณ์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ปราณปฐมโกลาหลปกคลุม แสงเทพของพลังอิทธิฤทธิ์มากมายส่องประกาย

“ตู้ม!”

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เหตุใดบุตรมรรคาแห่งตระกูลหยิงจึงต่อสู้กับบุตรเทพแห่งตระกูลกู้?”

“เหตุใดคนผู้นี้จึงน่ากลัวยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้น ระดับตบะของบุตรมรรคาแห่งตระกูลหยิง คือ ระดับเบิกฟ้าสามวัฏ เขาซ่อนพลังอำนาจเอาไว้หรือ?”

“แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ระดับทรงฤทธิ์เดินทางเข้าไป ก็ยังคงต้องร่างกายแตกสลาย นี่คือพลังอำนาจของคนรุ่นใหม่อย่างนั้นหรือ? ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก!”

เห็นภาพเหตุการณ์ภายในคันฉ่องเบิกฟ้าดิน เมืองเป่ยหวงก็เกิดความโกลาหล ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

โลหิตสาดกระจาย ปรากฏปราณม่วงอันลึกลับ

เงาร่างหนึ่งชนเข้ากับกำแพงโถงตำหนัก ลวดลายค่ายกลที่อริยะบุคคลเคยสร้างเอาไว้ถูกทำลายไปเกือบหมด ถูกชนจนแตกสลาย!

เป็นหยิงเนี่ย แม้ว่าเขาจะปลดปล่อยพลังทั้งหมด แต่ก็ยังคงพ่ายแพ้ ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยโลหิต สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด