ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 43 ประตูสัมฤทธิ์เปิดออก
ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 43 ประตูสัมฤทธิ์เปิดออก
หยิงเนี่ยทนสายตา "เปี่ยมล้นด้วยความรัก" ที่ฉินชิงชิงมองกู้ฉางเซิงไม่ไหว จึงกัดฟันกล่าวว่า "พวกเจ้าทั้งสองรู้จักกันมาก่อนหรือ?"
กู้ฉางเซิงส่ายหน้า "ไม่รู้จัก"
"ไม่รู้จัก"
ฉินชิงชิงกล่าวเช่นกัน
ทั้งสองกล่าวความจริง แต่หยิงเนี่ยกลับไม่เชื่อ
ในสายตาของเขา กู้ฉางเซิงรูปงามราวกับเซียนที่จุติลงมา ฉินชิงชิงงดงามราวกับเทพธิดา เหมาะสมกันอย่างยิ่ง
ส่วนภูมิหลัง คงไม่มีผู้ใดในดินแดนมรรคาสามพันดินแดนที่เหมาะสมกันยิ่งกว่านี้อีกแล้ว
เป็นไปได้สูงว่าทั้งสองอาจจะกำลังทะเลาะกัน
ดังนั้น ภายในใจของเขาจึงยิ่งหวาดกลัว กู้ฉางเซิงผู้นี้ลึกลับยากหยั่งถึง ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีธิดาเทพตระกูลฉินผู้นี้อีก
หากถูกทั้งสองเข้าล้อม เขาคงต้องหลบหนีอย่างแน่นอน ไม่มีทางเลือกอื่น
กู้ฉางเซิงไม่รู้เลยว่าหยิงเนี่ยคิดว่าเขาและฉินชิงชิงเป็นพวกเดียวกันแล้ว
ในเวลานี้ ภายในใจของเขามีเพียงความคิดที่จะสำรวจความผิดปกติของสถานที่แห่งนี้
"เกี่ยวกับประตูสัมฤทธิ์นี้ พวกเจ้ารู้เรื่องราวอันใดบ้าง?" เขาเอ่ยถามขึ้นตรง ๆ ต้องการดูท่าทีของทั้งสอง
ฉินชิงชิงแค่นเสียง ไม่ตอบ เห็นได้ชัดว่านางไม่รู้เรื่องราวอันใดเช่นกัน
หยิงเนี่ยส่ายหน้า กล่าวว่า "เกี่ยวกับสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง ข้าก็ไม่รู้เรื่องราวอันใดมากนัก แต่ประตูสัมฤทธิ์นี้ ข้าพอจะรู้เรื่องราวอยู่บ้าง มันคือเส้นทางที่ต้องผ่านเพื่อไปยังตำหนักน้ำแข็งโบราณแห่งนั้น แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยโลหิตของอริยะบุคคล หากเข้าใกล้โดยพลการ ร่างกายจะแตกสลาย"
"เช่นนั้นหรือ" กู้ฉางเซิงเลิกคิ้วเล็กน้อย ภายในใจกำลังคาดเดาว่าคำพูดของหยิงเนี่ยมีกี่ส่วนที่เป็นความจริง
ชายผู้นี้แอบติดตามเขา เดินทางมาตามเส้นทางที่เขามาอย่างแน่นอน ภายในใจคงไม่มีเรื่องดี
"ข้าเคยเห็นเรื่องราวนี้ในเศษหน้ากระดาษเล่มหนึ่ง บันทึกเอาไว้เช่นนั้น แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่" หยิงเนี่ยกล่าวอย่างคลุมเครือ
"เช่นนั้นเจ้าจงเปิดเส้นทางให้พวกเราดูหน่อย" กู้ฉางเซิงกล่าวอย่างแผ่วเบา
"กระไรนะ!?"
ให้เขาเปิดเส้นทาง?
หยิงเนี่ยเบิกตากว้าง เกือบคิดว่าตนเองคงจะหูฝาด แต่เมื่อเห็นกู้ฉางเซิงยังคงมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนกำลังล้อเล่น
เขาจึงกดข่มความโกรธเอาไว้ กล่าวอย่างเย็นชาว่า "บุตรเทพ เจ้าทำเช่นนี้มิเกินไปหน่อยหรือ?"
กระทั่งฉินชิงชิงก็ยังมองมาด้วยความประหลาดใจ
"เกินไปอันใด? ในเมื่อเจ้ากล้ามาที่นี่ แสดงว่าเจ้าเตรียมตัวมาอย่างดี อันตรายเพียงเล็กน้อยคงไม่เป็นปัญหาสำหรับเจ้า" กู้ฉางเซิงกล่าวอธิบายพร้อมกับรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าเขาจะมั่นใจในหยิงเนี่ย
ดูเหมือนจะมีเหตุผล
ฉินชิงชิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้
นางเพียงแค่รู้สึกว่ากู้ฉางเซิงผู้นี้ร้ายกาจยิ่งนัก ไม่เหมือนกับท่าทางภายนอกที่ดูสง่างามและบริสุทธิ์
"เช่นนั้นหากข้าไม่ยินยอมเล่า?" หยิงเนี่ยมีสีหน้าที่ไม่ดีนัก กล่าวขึ้น
บุตรเทพตระกูลกู้ผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะโอหังและแข็งกร้าว ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
"เจ้าก็สามารถลองดูได้" กู้ฉางเซิงยังคงมีรอยยิ้ม
แม้ว่าน้ำเสียงจะไม่มีท่าทีคุกคาม แต่กลับทำให้หยิงเนี่ยรู้สึกสิ้นหวัง
ท้ายที่สุดแล้ว ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่า
"ตกลง"
เมื่อหยิงเนี่ยกล่าวจบ เขาก็สะบัดไม้ปัดฝุ่น ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างเจิดจรัสมากมายระเบิดออกมา ราวกับดวงดาวมากมายกำลังหมุนวน
จากนั้น เขาก็หยิบแผนที่ดวงดาวออกมาจากอกเสื้อ บนนั้นมีรูปอักขระมากมายเชื่อมต่อกัน ลวดลายสำเนียงมรรคดุจดั่งเมฆา
แสงเทพห้าสีพุ่งทะยานออกไป มุ่งหน้าไปยังประตูสัมฤทธิ์ แยกออกเป็นหลายส่วน ตกลงมายังมุมต่าง ๆ
ไม่นานนัก
ตู้ม!
ประตูสัมฤทธิ์เปิดออก!
กลิ่นอายอันน่าสะอิดสะเอียนและปราณอาฆาตพุ่งเข้ามา ราวกับว่าแฝงไว้ด้วยความแค้นและความอาฆาตพยาบาทมากมาย
"เปิดแล้ว" กู้ฉางเซิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
หยิงเนี่ยเตรียมตัวมาอย่างดี สามารถทำลายลวดลายค่ายกลและอาคมต้องห้ามได้อย่างง่ายดาย
เมื่อครู่นี้ เขาสังเกตเห็นแล้วว่ามีลวดลายค่ายกลและอาคมต้องห้ามปกคลุมอยู่รอบ ๆ หากเข้าไปโดยพลการ ก็จะถูกกระตุ้น
แน่นอนว่าเขามีวิธีการทำลาย แต่นี่มีบุรุษผู้ไร้ค่าอยู่ เหตุใดจึงไม่ใช้ประโยชน์
"เช่นนี้แล้ว เจ้าพอใจหรือยัง?" หยิงเนี่ยกล่าวอย่างไม่พอใจ ภายในใจรู้สึกอึดอัด การเตรียมการทั้งหมดของเขากลับถูกผู้อื่นใช้ประโยชน์
"สหายเนี่ยจงเข้าไปก่อนเถิด" กู้ฉางเซิงกล่าวต่อ
มิใช่ว่าเขาต้องการให้หยิงเนี่ยไปสำรวจเส้นทาง แต่เขาต้องการดูว่าหยิงเนี่ยมีเป้าหมายอันใด
แตกต่างจากการสำรวจของเขา
ชายผู้นี้ดูเหมือนว่าจะมีแผนการและเป้าหมายที่ชัดเจน
หยิงเนี่ยรู้สึกโกรธอีกครั้ง แต่จิตใจที่บำเพ็ญเพียรมานานหลายปีทำให้เขารู้สึกสงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว ตบวัวเขียวเบา ๆ เดินทางไปยังเส้นทางเบื้องหน้า
จากนั้น สำเนียงมรรคก็ล้อมรอบกายของเขา ทำให้จิตใจกลับมาสงบนิ่ง ไม่ถูกกู้ฉางเซิงรบกวน
"กายาของชายผู้นี้ดูแปลกประหลาด" กู้ฉางเซิงมองหยิงเนี่ย ภายในดวงตาปรากฏแสงสว่างแวบหนึ่ง
จากนั้นจึงเริ่มต้นครุ่นคิดว่า นี่คือกายาใดกันแน่ ที่เคยบันทึกไว้ในตำราโบราณ
"เจ้าไม่กลัวว่าชายผู้นี้พาพวกเราไปตายหรือ?" ฉินชิงชิงกล่าวถามด้วยความสงสัย
เหตุใดกู้ฉางเซิงเชื่อใจหยิงเนี่ยถึงเพียงนี้?
นางไม่เข้าใจ
ตระกูลอมตะหยิงและตระกูลอมตะกู้มักจะต่อสู้กันมาตลอด เป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
"ไม่กลัว ข้ากลัวเจ้าจะแอบโจมตีข้ามากกว่า" กู้ฉางเซิงมองฉินชิงชิงพลันกล่าวขึ้น แม้ว่าฉินชิงชิงและหยิงเนี่ยจะร่วมมือกัน เขาก็ไม่กลัว
หยิงเนี่ยเพียงคนเดียวจะสามารถทำอันใดได้
"เจ้า……" ฉินชิงชิงโกรธจนพูดไม่ออก เผยให้เห็นเขี้ยวเล็ก ๆ ของนาง นางอยากจะกัดใบหน้าอันหล่อเหลาของกู้ฉางเซิงยิ่งนัก
ชายผู้นี้กำลังเยาะเย้ยนางที่แอบไปสำรวจเขาในค่ำคืนนั้นอย่างแน่นอน
นางไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองจึงไม่สามารถสงบนิ่งได้เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้ฉางเซิง แตกต่างจากท่าทางที่ดูเย็นชาและสงบนิ่งในยามปกติ