บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 373 บุตรหลานพากันขึ้นสวรรค์

บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 373 บุตรหลานพากันขึ้นสวรรค์

“ท่านพ่อ!”

ภายในถ้ำพำนัก บุตรสาวคนหนึ่งพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของหลี่ซู

บุตรสาวคนนี้มีรากวิญญาณระดับสอง รากวิญญาณของนางมิได้โดดเด่น จึงทำให้นางใช้เวลาถึงหนึ่งหมื่นกว่าปีกว่าจะบรรลุเป็นเซียน

แน่นอนว่า สำหรับรากวิญญาณระดับสองแล้ว การที่สามารถบรรลุเป็นเซียนได้ ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

บุตรสาวบรรลุเป็นเซียนแล้ว ยังคงติดหลี่ซู

ฉากนี้ ดูอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง

ครั้งนี้ เพียงแค่ผ่านไปไม่กี่เดือน ก็มีทายาทของหลี่ซูขึ้นสู่โลกเซียนอีกคนแล้ว

ภายในเวลาหนึ่งปี มีสองคนขึ้นสู่โลกเซียน

ต่อมา ก็เหมือนกับหยุดไม่อยู่ ความถี่ในการขึ้นสู่โลกเซียนก็ยิ่งบ่อยมากขึ้น

ในเวลาเพียงสิบปี ทายาทของหลี่ซู ก็ขึ้นสู่โลกเซียนแล้วสิบกว่าคน

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ร้อยปีสิบกว่าปี ก็ยิ่งบ่อยมากขึ้น

ยิ่งกว่านั้น ความถี่นี้ ก็ยังคงดำเนินต่อไป

บางครั้ง แม้แต่หนึ่งเดือนก็มีสองคนขึ้นสู่โลกเซียน

ต้องรู้ว่า ทายาทของหลี่ซูที่มีรากวิญญาณระดับหนึ่ง มีหลายพันคน

หนึ่งปีขึ้นสู่โลกเซียนหนึ่งคน ก็ต้องขึ้นสู่โลกเซียนหลายพันปี

เนื่องจากทายาทเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นมาในเวลาที่แตกต่างกัน การขึ้นสู่โลกเซียนก็เป็นแบบขั้นบันได

ส่วนทายาทที่มีรากวิญญาณสวรรค์ ก็ยิ่งมากขึ้น

รากวิญญาณสวรรค์ ในทางทฤษฎีแล้ว ล้วนมีโอกาสบรรลุเป็นเซียน

นี่เป็นโอกาส

หากเป็นรากวิญญาณระดับสาม นำผู้บำเพ็ญในอาณาจักรวิญญาณทั้งหมดมารวมกัน อาจจะสิบหมื่นปี ถึงจะมีไม่กี่คนที่ถือกำเนิดขึ้นมา

ไม่กี่คนนี้ มักจะมีเพียงสองสามคน ไม่ใช่เจ็ดแปดคน

การที่รากวิญญาณระดับสามอยากจะขึ้นสู่โลกเซียน ต้องการสติปัญญา โอกาส เวลา สถานที่ และปัจจัยอีกมากมาย

อาณาจักรวิญญาณที่ใหญ่โต ก็ยังคงมีไม่น้อย ดังนั้นจึงยังคงมีผู้โชคดีบางคน

โอกาสที่รากวิญญาณระดับสองจะถือกำเนิดขึ้นมานั้น มากกว่าเล็กน้อย

เช่นครั้งก่อนที่เกาะหมื่นเซียน หนึ่งแสนปีมานี้ อาณาจักรวิญญาณทั้งหมดถือกำเนิดเซียนเกือบหนึ่งหมื่นคน ภายในนั้นมีรากวิญญาณระดับสองอยู่สองหลัก

แต่แน่นอนว่าจะไม่เกินสามหลัก ยิ่งกว่านั้นสองหลักนี้ ยังต้องน้อยลงอีก

สรุปแล้ว ยากมาก ๆ

แต่ในตระกูลหลี่ มีการเสริมพลังจากระบบ แม้แต่ทายาทที่มีรากวิญญาณระดับสาม ตราบใดที่ขยันเพียงพอ ก็ยังคงมีโอกาสขึ้นสู่โลกเซียน

เพียงแค่ต้องการเวลาที่นานกว่าเล็กน้อยเท่านั้น

หลี่ซูไม่ได้เดิมพัน ดังนั้นเขานำทายาทที่มีรากวิญญาณระดับสามทั้งหมด มายังโลกเซียนแล้ว

รากวิญญาณระดับสาม ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับข้อจำกัด หลี่ซูไม่ได้คาดหวังว่าทายาทเหล่านี้จะเติบโตได้สูงเพียงใด การที่สามารถบรรลุเป็นเซียนได้ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ส่วนทายาทที่มีรากวิญญาณระดับสอง ตราบใดที่สติปัญญาไม่แย่เกินไป หลี่ซูก็ปล่อยให้พวกเขาอยู่ในอาณาจักรฟ้าคราม

.

ตอนนี้ ทายาทเหล่านี้ เริ่มขึ้นสู่โลกเซียนอย่างต่อเนื่องแล้ว

บริเวณรอบ ๆ บ่อขึ้นสวรรค์ของเมืองเซียนเสวียนหยวน ก็คึกคักขึ้นอีกครั้ง

ผู้บำเพ็ญที่มามุงดูที่นี่ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นกลุ่มเดิมกับตอนที่หลี่ซูขึ้นสวรรค์เมื่อหลายพันปีก่อน

การฝึกฝนในโลกเซียนนั้นง่ายกว่า ตราบใดที่รากวิญญาณไม่แย่เกินไป การไปถึงระดับเทพจำแลงก็ค่อนข้างง่าย

คอขวดของผู้บำเพ็ญในโลกเซียน มักจะปรากฏขึ้นในตอนที่ไปถึงระดับหลอมสุญตา ระดับผสานกายา

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีจิตใจและประสบการณ์เหมือนผู้บำเพ็ญในโลกเบื้องล่าง แต่คอขวดบางอย่าง พวกเขาสามารถใช้ของวิเศษฟ้าดินของโลกเซียนฝ่าฟันไปได้

หลังจากไปถึงระดับหลอมสุญตา ระดับผสานกายาแล้ว ก็ไม่ง่ายที่จะฝ่าฟัน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับฝ่าเคราะห์ ที่ผู้บำเพ็ญในโลกเซียนหวาดกลัว

อายุขัยของพวกเขา แม้แต่ระดับเดียวกัน เมื่อเทียบกับโลกเบื้องล่างแล้ว ก็ยังคงยืนยาวกว่าเล็กน้อย

เช่นระดับทารกก่อกำเนิดของโลกเซียน แม้แต่ระดับเดียวกันจะไม่แข็งแกร่งเท่าระดับทารกก่อกำเนิดของโลกเบื้องล่าง แต่พวกเขากลับมีอายุขัยสี่ห้าพันปี

ไม่มีทาง นี่คือโลกเซียน

ที่นี่ แม้แต่ปุถุชนที่ไม่มีตบะใด ๆ ก็ยังคงมีอายุขัยหลายร้อยปี!

ดังนั้น ผู้บำเพ็ญในโลกเซียนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นกลุ่มเดิมกับหลายพันปีก่อน

.

“มาอีกแล้ว มาอีกแล้ว”

“ปีนี้มีสามคนแล้ว”

“มาจากอาณาจักรฟ้าครามทั้งหมดหรือ”

“อืม มาจากอาณาจักรฟ้าครามทั้งหมด พันปีมานี้ มีเซียนเพียงคนเดียวที่ขึ้นสู่โลกเซียน มาจากอาณาจักรวิญญาณอื่น”

“…”

ข้าง ๆ บ่อขึ้นสวรรค์ เมื่อทายาทของหลี่ซูขึ้นสู่โลกเซียนอีกคน ผู้บำเพ็ญในโลกเซียนหลายคนก็เริ่มพูดคุยกัน

ผู้บำเพ็ญที่มามุงดูที่นี่ ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

เดิมที หลังจากที่หลี่ซูขึ้นสวรรค์แล้ว ผู้บำเพ็ญที่นี่ก็ไม่ได้มีมากมายแล้ว

แต่หลายร้อยปีมานี้ ทายาทของหลี่ซู ขึ้นสู่โลกเซียนอย่างต่อเนื่อง

จึงทำให้มีผู้บำเพ็ญจำนวนมากมามุงดู

ผู้บำเพ็ญบางคนถูกคอขวดกักเอาไว้ ก็เลยรออยู่ที่นี่

การที่ทายาทของหลี่ซูขึ้นสู่โลกเซียนบ่อยครั้ง กลับทำให้ผู้บำเพ็ญที่นี่ได้รับผลประโยชน์มากมาย

ผู้บำเพ็ญหลายคน ต่างก็ทะลวงระดับได้สำเร็จ ตบะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น บ่อขึ้นสวรรค์แห่งนี้ จึงดึงดูดผู้บำเพ็ญในโลกเซียนจำนวนมาก

แม้แต่มีผู้บำเพ็ญบางคนมาจากเมืองเซียนอื่น

โลกเซียนมีมากมาย ระยะทางระหว่างเมืองเซียนขนาดใหญ่แต่ละแห่งก็ไกลมาก

แม้แต่ระดับมหายาน หากไม่ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย แม้แต่เมืองเซียนขนาดใหญ่สองแห่งที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปี

หากอยู่ไกล เวลาที่ต้องใช้ก็ยิ่งนานขึ้น

แต่นอกจากเมืองเซียนขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังคงมีเมืองเซียนขนาดเล็กบางแห่ง

หลายร้อยปีมานี้ เนื่องจากการที่ทายาทของตระกูลหลี่ขึ้นสู่โลกเซียนบ่อยครั้ง เมืองเซียนเสวียนหยวน จึงดึงดูดผู้บำเพ็ญในโลกเซียนจำนวนมากที่มาจากเมืองเซียนขนาดเล็ก

“ที่นี่ทำไมถึงได้คึกคักขนาดนี้”

วันนี้ เซียนแท้คนหนึ่งที่ขึ้นสวรรค์มาหลายหมื่นปีแล้ว ออกมาเดินเล่น

เขาปิดด่านบำเพ็ญมาหนึ่งหมื่นกว่าปี ก็ไปถึงจุดสูงสุดระดับเซียนแท้แล้ว

แต่ช่วงนี้เขาพบเจอกับปัญหาเล็กน้อย จึงออกมาเดินเล่น

ก็เห็นฉากที่คึกคักเช่นนี้

เซียนแท้คนนี้ปกปิดกลิ่นอาย เบียดเสียดอยู่ท่ามกลางผู้บำเพ็ญ

“ที่นี่ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ พวกเจ้าอยู่ที่นี่ทำอะไร”

เขาถามระดับหลอมสุญตาคนหนึ่ง

ถึงแม้ว่าเขาจะปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ ระดับหลอมสุญตาคนนั้น ก็ยังคงรับรู้ได้ถึงความไม่ธรรมดาของเขา

หากเป็นระดับหลอมสุญตาของโลกเบื้องล่าง อาจจะรับรู้ไม่ได้

แต่ระดับหลอมสุญตาในโลกเซียน ยังอยู่ในเมืองเซียนขนาดใหญ่ ยิ่งกว่านั้นหลี่ซูกับตระกูลหลี่หลายปีมานี้ ทำให้เซียนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอยากรู้อยากเห็น พวกเขามีโอกาสพบเจอกับเซียนไม่น้อย

เขาแน่นอนว่ารับรู้ได้ คนที่ไม่สามารถมองเห็นระดับตบะ กลิ่นอายกลับพิเศษเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็คือเซียน

ยังคงมีเซียนจำนวนมาก ไม่ต้องการโอ้อวดมากเกินไป ไม่มีจิตใจที่จะโอ้อวดต่อหน้าผู้บำเพ็ญทั่วไป

ยิ่งเป็นระดับหลอมสุญตาของโลกเซียน โอกาสที่พวกเขาจะได้พูดคุยกับเซียน ก็ไม่ได้มีมากนัก

ดังนั้น ระดับหลอมสุญตาคนนั้นจึงรีบกล่าวด้วยความเคารพ “ผู้อาวุโส อีกไม่นานก็จะมีคนขึ้นสวรรค์แล้วขอรับ”

“แม้แต่ราชันเซียนยังคำนวณไม่ได้ เจ้ารู้ได้อย่างไร”

เซียนแท้คนนั้นกล่าว

“ผู้อาวุโส เรื่องนี้เป็นแบบนี้ขอรับ หลายปีมานี้…”

ระดับหลอมสุญตาคนนั้น นำเรื่องที่หลายร้อยปีมานี้ ทายาทของตระกูลหลี่ขึ้นสู่โลกเซียนมาหลายร้อยปี เล่าออกมา

“นี่… นี่เป็นไปได้อย่างไร นี่เรียกว่าขึ้นสวรรค์หรือ นี่มันตลาดนัดชัด ๆ!”