บทที่ 58 เริ่มต้นปฎิบัติภารกิจ
บทที่ 58 เริ่มต้นปฎิบัติภารกิจ
หลังจากที่พวกเขาวางแผนเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาก็ออกจากสำนักตรวจการและแยกย้ายกันกลับบ้าน
เมื่อเทียบกับอีกสามกลุ่ม งานของพวกเขาดูจะสบายกว่า แต่ก็มีความท้าทายไม่น้อย
ลู่หยางเฉิงกับอี้ซิวจู่ต่างก็กลับไปเตรียมตัว ส่วนหลี่จิ้งเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยเช่นกัน
เขาขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาศึกษาข้อมูลของผู้ต้องสงสัยทั้งสิบเจ็ดคนอย่างละเอียด โดยใช้ฐานข้อมูลของสำนักตรวจการเพื่อลงลึกถึงประวัติทางสังคมของแต่ละคน
หากต้องการเข้าถึงเป้าหมาย การรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขามากเท่าไรก็ยิ่งเป็นประโยชน์
...
ค่ำคืนได้ผ่านไปอย่างเงียบงัน
หลังจากที่ศึกษาอย่างละเอียดมาตลอดทั้งคืน หลี่จิ้งก็ได้ข้อมูลที่พอมีค่าอยู่บ้าง
เช่นอาชีพของผู้ต้องสงสัยกำลังทำอยู่หรือเคยทำ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเข้าติดต่อกับพวกเขาได้
เช้าวันต่อมา
หลี่จิ้งบินไปยังย่านวิลล่าหรูหราที่ลู่หยางเฉิงได้ให้ที่อยู่ไว้
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าครอบครัวของลู่หยางเฉิงมีฐานะดี แต่พอได้เห็นกับตาก็อดไม่ได้ที่จะทึ่ง
รวยจริง ๆ
บ้านแต่ละหลังล้วนมีสระว่ายน้ำและออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์
มีพื้นที่กว้างกว่าบ้านของเฉินอวี่หรานถึงสามเท่า
แถมยังอยู่ในย่านที่ดีกว่าด้วย
เรียกได้ว่าวิลล่าของเฉินอวี่หรานคงเทียบไม่ได้เลย
แน่นอน
ถ้าจะเทียบ ก็ไม่มีความหมายอะไร
วิลล่าของเฉินอวี่หรานซื้อด้วยตัวเอง ส่วนลู่หยางเฉิงที่ยังไม่แต่งงาน ก็คาดว่าน่าจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่
ครอบครัวของเขาทำธุรกิจเครื่องมือตรวจวัด และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ถึงขนาดที่สำนักตรวจการยังต้องสั่งซื้อจากบริษัทของพวกเขา นับได้ว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ของเป่ยเฉิง
หลี่จิ้งตามหาบ้านของลู่หยางเฉิงด้วยเลขที่บ้าน
เมื่อมาถึง เขามองเข้าไปในลานบ้าน แล้วส่งข้อความทางเซียนซินว่าตนมาถึงแล้ว
ผ่านไปไม่นาน ลู่หยางเฉิงก็เดินออกมาจากบ้าน
เมื่อถึงประตู ลู่หยางเฉิงยิ้มพลางกล่าว
"ฉันเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว นายเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วนั่งพักหน่อย พวกเราจะแต่งตัวธรรมดา การเหาะไปมาคงไม่เหมาะ ฉันได้ให้คนส่งรถตู้หรูมาที่นี่ตอนเช้า แต่ต้องรออีกสักครู่กว่ารถจะถึง"
เมื่อได้ยินว่าลู่หยางเฉิงเตรียมรถไว้ให้ด้วย หลี่จิ้งพยักหน้าแต่ก็ลังเลว่า
"พ่อแม่นายคงอยู่บ้านสินะ? ฉันเข้าไปแบบนี้จะเหมาะไหม?"
"ไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่ฉันออกไปบริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว อยากเจอก็เจอไม่ได้หรอก"
ลู่หยางเฉิงพูดออกมาอย่างสบาย ๆ ว่า
"อีกอย่าง นายก็เป็นเพื่อนฉัน ไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่มาสู่ขอ ถึงจะเจอก็ไม่เป็นไรหรอก"
"..."
หลี่จิ้งนิ่งเงียบ
ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร
...
หลังจากเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุดสูทที่สั่งตัดพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่เยี่ยมลูกค้าของบริษัท หลี่จิ้งนั่งคุยกับลู่หยางเฉิงได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงแตรรถดัง "ปี๊บๆ" สองครั้งจากนอกบ้าน
เมื่อได้ยินเสียง ลู่หยางเฉิงก็ลุกขึ้น
"รถมาแล้ว ฉันจะแนะนำสาวน้อยให้รู้จัก"
หลี่จิ้งกำลังจะลุกตาม พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว
อยู่ดีๆ ทำไมถึงโยงไปหาสาวน้อยได้ล่ะ?
เห็นลู่หยางเฉิงเดินออกไปข้างนอกแล้ว เขาก็เดินตามไป
พอออกมาถึงลานบ้าน หลี่จิ้งเงยหน้ามองก็เห็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนอยู่นอกประตู ด้านหลังเธอมีรถตู้หรูคันหนึ่งจอดอยู่
หญิงสาวคนนั้นหน้าตาดีจริงๆ และก็เป็นสาวที่ตัวเล็กจริงๆ
ดูจากหน้าตา คาดว่าน่าจะอายุราว 18 ปีเท่านั้น
เมื่อหญิงสาวที่อยู่นอกประตูเห็นว่าคนที่เดินออกมาจากบ้านไม่ได้มีแค่ลู่หยางเฉิง แต่ยังมีหลี่จิ้งอีกคน ทั้งคู่สวมชุดสูทตัดพิเศษที่มีป้ายชื่อ เธอก็ขมวดคิ้วเรียวบาง
เดินเข้ามาหาทั้งสอง หญิงสาวถาม
"ลู่หยางเฉิง นายจะทำอะไรอีก?"
"เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กน้อย ไม่ต้องถามมาก"
ลู่หยางเฉิงพูดอย่างขึงขัง พลางชี้ไปที่หลี่จิ้ง
"นี่หลี่จิ้ง เพื่อนฉัน รู้จักไว้หน่อย"
พูดจบ เขาก็หันไปบอกหลี่จิ้ง
"เด็กคนนี้ชื่อสวี่เจียอี้ เป็นลูกสาวของลุง ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่สถาบันเซียนศึกษาเขตเป่ยเฉิง"
พูดยังไม่ทันจบ สวี่เจียอี้ก็ทำเสียง "จุ๊"
"นายก็แค่โตกว่าฉันสามปีเองนะ จะต้องเรียกฉันว่าเด็กน้อยตลอดเวลาเลยเหรอ?"
พูดพลางมองไปที่หลี่จิ้ง พยักหน้าทักทายอย่างสุภาพ
"สวัสดีค่ะ"
ยังไม่ทันที่หลี่จิ้งจะได้พูด เธอก็หันไปมองลู่หยางเฉิงด้วยสายตาดุ
"ถึงจะไม่รู้ว่านายจะไปทำอะไรอีก แต่ฉันขอเตือนว่าอย่าไปก่อเรื่องนะ นายดื้อไปสมัครเป็นผู้ช่วยตรวจการ ลุงกับป้าก็คัดค้านสุดๆ แล้ว ถ้าไปก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ระวังพวกท่านจะเอาเรื่องนายนะ!"
พูดจบ เธอก็แค่นเสียง สะบัดผมแล้วเดินจากไป
หลี่จิ้งเห็นดังนั้นก็กะพริบตา หันไปถาม
"คนนี้... ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนายเท่าไหร่?"
"ไม่มีหรอก"
ลู่หยางเฉิงโบกมือ มองตามหลังของสวี่เจียอี้ที่เดินห่างออกไป แล้วพูดว่า
"เด็กคนนี้ตั้งแต่เด็กก็ตามติดฉันมาตลอด สนิทกันมาก ที่พูดแบบนั้นก็แค่ปากร้าย แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วงฉันน่ะ"
"..."
หลี่จิ้งอึ้งไป
สวี่เจียอี้กับลู่หยางเฉิงสนิทกันหรือไม่ เขาเป็นคนนอกคงตัดสินไม่ได้
แต่ถ้าจะบอกว่าเป็นห่วง เขากลับมองไม่ออกเลย
คิดว่าเรื่องของคนอื่นก็ไม่เกี่ยวกับตัวเอง หลี่จิ้งจึงไม่พูดเรื่องนี้ต่อ
"ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องสำคัญก่อน"
"อืม"
ลู่หยางเฉิงพยักหน้า เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งที่คนขับ
หลี่จิ้งขึ้นรถตามมา หยิบแท็บเล็ตออกมาเปิดดูข้อมูลที่ตนรวบรวมไว้ แล้วพูดว่า
"สิบคนที่มีในคำสั่งซื้อ นั้นมีสามคนที่มีงานประจำ ตอนกลางวันอาจจะไม่อยู่บ้าน ที่เหลือเจ็ดคน มีสองคนที่เพิ่งตกงาน อีกห้าคนว่างงานมาเกินปีแล้ว ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เราเริ่มจากเจ็ดคนนี้ก่อน พอเย็นค่อยไปหาสามคนที่ทำงานประจำ"
พูดจบ หลี่จิ้งก็บอกที่อยู่ของเป้าหมายคนแรกที่จะไปติดต่อ
เมื่อเห็นว่าเขาได้จัดข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว ลู่หยางเฉิงก็พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เปิดระบบนำทางแล้วขับรถออกไป
...
เป้าหมายคนแรกชื่อเฉาอี้เซวียน เพศชาย อายุยี่สิบเจ็ดปี
ที่อยู่ของเขาไม่ไกลจากบ้านลู่หยางเฉิงเท่าไหร่ ห่างกันแค่สามย่าน
ไม่ถึงสิบนาที ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย
ที่อยู่ของเป้าหมายไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ แต่เป็นเพียงอพาร์ตเมนต์ธรรมดาๆ
หลังจากจอดรถใต้ตึก ลู่หยางเฉิงลงจากรถหยิบอาหารเสริมสองกล่องยื่นมาให้
"นายไม่รู้จักธุรกิจของบ้านฉัน เดี๋ยวขึ้นไปนายอย่าเพิ่งพูดอะไร ให้ฉันเป็นคนคุยกับเป้าหมายเอง ถ้าเข้าห้องได้ นายหาโอกาสดูว่ามีอะไรน่าสงสัยไหม แล้วก็เก็บของที่แผนกนิติเวชต้องการด้วย"
"ได้"
หลี่จิ้งพยักหน้า รับอาหารเสริมมาถือไว้
เขาจะเป็นคนไม่ต้องพูดอะไร ดังนั้นให้เขาถือของก็สมเหตุสมผลกว่า
ไม่นาน ทั้งสองก็ขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่เป้าหมายอยู่
เมื่อมาถึงหน้าห้อง ลู่หยางเฉิงดึงบัตรพนักงานที่เตรียมไว้ออกมาคล้องคอ กดกริ่ง
หลี่จิ้งเห็นดังนั้นก็ดึงบัตรของตนออกมาด้วย พร้อมกับแสร้งยิ้มแบบมืออาชีพ
แม้ไม่เคยกินเนื้อหมู แต่ก็เคยเห็นหมูวิ่ง
ก่อนข้ามโลกนี้ เขาก็เคยเจอคนมาเยี่ยมลูกค้าหรือขายของถึงบ้านมาไม่น้อย ก็พอรู้วิธียิ้มแบบนี้ดี
พอหลี่จิ้งเพิ่งจะยิ้มได้ ประตูอพาร์ตเมนต์ก็เปิดออก
เฉาอี้เซวียนเห็นคนทั้งสองก็ขมวดคิ้ว
"พวกคุณมาทำอะไร?"
"อ๋อ สวัสดีครับคุณเฉา"
ลู่หยางเฉิงยิ้มและเริ่มพูด เขาหันไปส่งกล่องอาหารเสริมสองกล่องจากมือของหลี่จิงไปยังเฉาอี้เซวียน
"พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่เยี่ยมลูกค้าจากบริษัทเทียนอวี่เครื่องมือตรวจวัด คุณเฉาได้ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทเราไว้ พวกเรามาสอบถามประสบการณ์การใช้งาน นี่เป็นของขวัญสำหรับการเยี่ยม ไม่ทราบว่าคุณเฉาจะสะดวกให้พวกเราสอบถามสักเล็กน้อยไหม?"
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฉาอี้เซวียนแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
แต่พอเห็นอาหารเสริมที่ลู่หยางเฉิงยื่นให้ สีหน้าของเขาก็อ่อนลง
อาหารเสริมที่ลู่หยางเฉิงเตรียมมาไม่ใช่ของถูก ดูจากบรรจุภัณฑ์ก็รู้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ระดับสูง
ในโลกนี้ สิ่งที่เรียกว่าอาหารเสริมล้วนเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบบำรุงร่างกายจริงๆ ไม่ใช่เป็นของที่ไว้หลอกคนโง่
ตราบใดที่เป็นอาหารเสริม ย่อมเกี่ยวข้องกับการบำรุงพลังหรือวิญญาณ
สำหรับผู้ฝึกตนระดับสูง มันไม่มีประโยชน์อะไร
แต่สำหรับผู้ฝึกตนระดับต่ำ โดยเฉพาะคนที่ติดอยู่ในระดับเดิมนานและหาเงินไม่ได้ นี่ถือเป็นของฟุ่มเฟือย
ยื่นมือรับอาหารเสริมมาดู เฉาอี้เซวียนพยักหน้า
"เข้ามาคุยข้างในเถอะ บ้านผมรกหน่อย อย่าถือสานะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ"
ลู่หยางเฉิงยิ้ม ก้าวเข้าประตูไป
หลี่จิ้งค่อยๆ เดินตาม อาศัยร่างของลู่หยางเฉิงที่บังอยู่ด้านหน้า กวาดตามองรอบห้องอย่างรวดเร็ว จู่ๆ ก็สะดุ้งทั้งตัว
ในห้องนั่งเล่นมีกรงขังอยู่หนึ่งอัน
ข้างใน มีหนูขาวตัวหนึ่งที่มีแถบพลังชีวิตลอยอยู่เหนือหัว