บทที่ 44 ร่างศักดิ์สิทธิ์ ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกร่าง
ด้วยความที่โจวกังมีความสามารถในการเข้าใจสูงมาก หลินเย่จึงไม่มีอะไรจะสอนเขาแล้ว ในเวลาไม่ถึงวัน
ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการทำอาหารแบบไหน โจวกังก็ทำได้หมดแล้ว แถมยังปรุงรสชาติที่เคยมีในชาติที่แล้วของหลินเย่ออกมาได้ด้วย
ทั้งต้นหอม ขิง กระเทียม พริก ล้วนมีวัตถุดิบที่ใช้แทนกันได้
ในคืนนั้น หลินเย่ได้กินปลาต้มเผ็ดที่โจวกังเป็นคนทำเองกับมือ
เมื่อได้ลิ้มรสชาติที่คุ้นเคยจากชาติที่แล้วอีกครั้ง หลินเย่ก็เกือบจะร้องไห้ออกมา
"ฮือๆๆๆๆ ในที่สุดข้าก็ได้กินสักที ช่วงหลายวันมานี้ชีวิตข้าวนเวียนอยู่กับอะไรก็ไม่รู้"
"ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารของดาวเคราะห์สีฟ้าในทวีปเทียนหยวนให้ทั่วถึง ข้ากินอาหารของโลกนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว"
เมื่อนึกถึงอาหารที่เขากินทุกวันตั้งแต่เดินทางข้ามเวลามา เขาก็ยิ่งตั้งใจที่จะโปรโมทอาหารผ่านติ๊กต๊อกมากขึ้น
และเขาเชื่อว่า อาหารไม่ใช่สิ่งล่อตาล่อใจสำหรับเขาเท่านั้น แต่สำหรับผู้บ่มเพาะด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้บ่มเพาะเซียนก็ไม่ได้ละทิ้งความปรารถนาทั้งหมด ความอยากอาหารก็เป็นสัญชาตญาณของร่างกายเช่นเดียวกับความต้องการทางเพศ
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เขาก็กินปลาต้มเผ็ดไปอีกสองสามชิ้น
หลังจากกินปลาต้มเผ็ดหมดจานแล้ว เขาก็มองไปที่โจวกังที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
"นายน้อย ข้าเกรงว่าข้าจะทำอาหารจานนี้ไม่เป็น ข้าเกรงว่าข้าจะควบคุมไฟได้ไม่ดีหากเป็นการทำครั้งแรก"
"ปรมาจารย์โจว รสชาติแบบนี้แหละใช้ได้แล้ว ส่วนเรื่องความร้อนแรง ก็แค่ฝึกฝนบ่อยๆ ในอนาคตก็พอ"
"เอาล่ะ ในเมื่ออย่างนั้น ลองทำมันฝรั่งตุ๋นเนื้อดูไหม ข้าอยากกินพอดี ถือโอกาสดูด้วยว่าท่านเข้าใจที่ข้าพูดไปทั้งหมดหรือไม่?"
"ได้เลย ขอรับ"
หลังจากนั้นไม่นาน มันฝรั่งตุ๋นเนื้อหอมกรุ่นก็ถูกยกมาเสิร์ฟให้หลินเย่
เมื่อมองดูหม้อมันฝรั่งตุ๋นเนื้อตรงหน้า หลินเย่ก็รู้สึกน้ำลายสอด้วยความอยากกิน เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินทันที
รสชาติที่คุ้นเคยจากชาติที่แล้วกลับมาอีกครั้ง เนื้อเปื่อยนุ่มแต่ไม่เละ มันฝรั่งก็นิ่มละลายในปาก
"ใช้ได้เลยทีเดียว ปรมาจารย์โจวท่านเริ่มถ่ายทำได้เลย"
"จริงหรือขอรับ? ท่านนายน้อย!" โจวกังถามด้วยสีหน้าดีใจ
"ต่อไปจะเป็นขั้นตอนการถ่ายทำวิดีโอ ข้าให้โทรศัพท์เครื่องนี้กับท่าน ลองทำความคุ้นเคยดูก่อน"
ระหว่างที่พูด หลินเย่ก็หยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ออกมาจากถุงเก็บของ จากนั้นก็สอนวิธีใช้ และถ่ายวิดีโอติ๊กต๊อกให้โจวกังฟัง รวมถึงขั้นตอนทั่วไปของวิดีโออาหารด้วย
"เอาอย่างนี้ ท่านลองถ่ายวิดีโอตัวเองทำอาหารแล้วโพสต์ลงไปก่อน เดี๋ยวข้ากินข้าวเสร็จแล้วจะมาช่วยวิเคราะห์วิดีโอให้"
"ขอรับนายน้อย"
หลังจากได้รับโทรศัพท์มือถือ โจวกังก็ดูตื่นเต้นมากในตอนแรก จากนั้นเขาก็เดินไปด้านข้างและเริ่มเล่น จากนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปสิ่งรอบข้างเป็นระยะๆ ดูเพลิดเพลินมาก
หลังจากเล่นจนพอใจแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในครัวพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ และเริ่มถ่ายทำตัวเอง
หลินเย่ที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้า ไม่ได้สนใจเขาอีก จนกระทั่งเขากินมันฝรั่งตุ๋นเนื้อหมดหม้อ เขาก็ลูบท้องตัวเองด้วยความพึงพอใจ
"อิ่มสบายจริงๆ อย่างไรก็ตาม การบ่มเพาะเซียนก็มีข้อดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะกินเยอะแค่ไหนก็ไม่อ้วน แถมยังไม่รู้สึกหนักท้องเลยสักนิด"
หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ภูตรับใช้ทั้งสองที่อยู่ด้านข้าง
"พวกเจ้าสองคนเรียนรู้ไปถึงไหนแล้ว รู้วิธีทำอาหารให้ข้ากินหรือยัง"
"เอ่อ..."
เมื่อเห็นท่าทางอ้ำๆ อึ้งๆ ของภูตผู้รับทั้งสอง หลินเย่ก็รู้ว่าคงไม่มีหวัง
"ช่างเถอะ รอให้ปรมาจารย์โจวทำวิดีโออาหารมากกว่านี้ก่อน แล้วค่อยดูแบบอย่างเอาละกัน"
"ตอนนี้ไปดูวิดีโอของปรมาจารย์โจวกันดีกว่า"
หลังจากเช็ดปากแล้ว หลินเย่ก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ครัวของปรมาจารย์โจว
เมื่อเขาเดินเข้าไปในครัว ปรมาจารย์โจวก็เพิ่งทำอาหารเสร็จ และกำลังเก็บโต๊ะอยู่พอดี
"ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการผัดเนื้อกับต้นหอม ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็สามารถดูซ้ำได้นะขอรับ นอกจากนี้ ข้าจะสรุปเทคนิคต่างๆ ไว้ในช่องคอมเมนต์ด้วย รวมถึงวิธีการหาซื้อเครื่องปรุง วิธีการตีเหล็กทำเครื่องครัวต่างๆ เป็นต้น รอติดตามชมกันด้วยนะขอรับ"
"ขอบคุณที่รับชมขอรับ"
หลินเย่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในครัวถึงกับตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดทิ้งท้ายของปรมาจารย์โจว
"ไม่จริง! นี่มันร่างศักดิ์สิทธิ์อีกแล้วหรือ?"
ในตอนนั้น ปรมาจารย์โจวก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน จึงรีบเดินเข้ามาหาหลินเย่พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ
"นายน้อย นี่คือวิดีโอที่ข้าถ่ายตามที่ท่านขอ รบกวนช่วยดูหน่อยว่าผลงานออกมาเป็นอย่างไรบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าถ่าย ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า"
ระหว่างที่พูด สีหน้าของปรมาจารย์โจวก็เต็มไปด้วยความกังวล ไม่เหมือนกับผู้บ่มเพาะขั้นแก่นเทวะเลยสักนิด
หลังจากตั้งสติได้แล้ว หลินเย่ก็รับโทรศัพท์มาอย่างลืมตัว จากนั้นก็ดูวิดีโอที่โจวกังถ่ายด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ยิ่งดูสีหน้าของเขาก็ยิ่งเปลี่ยนไป
ไม่ใช่ว่าถ่ายออกมาไม่ดี แต่ถ่ายออกมาดีมาก ตั่งแต่มุมกล้อง กระบวนการถ่ายทำ ไปจนถึงการตัดต่อ ทุกอย่างลงตัวไปหมด
ถ้าคะแนนเต็ม 100 คะแนน วิดีโอนี้ให้คะแนนอย่างน้อย 80 คะแนน
นี่ไม่เหมือนกับผลงานที่คนเพิ่งเคยสัมผัสกับการถ่ายวิดีโอสั้นจะทำได้เลย
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินเย่ก็คิดคำอธิบายได้เพียงสองคำ นั่นก็คือ พรสวรรค์
โจวกังได้ปลุกร่างศักดิ์สิทธิ์บล็อกเกอร์สายอาหารด้วยตัวของเขาเอง เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่เขาเคยพบมาก่อนหน้านี้
ส่วนที่ว่าทำไมทวีปเทียนหยวนถึงอุดมไปด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนี้ หลินเย่พอจะเดาออกอยู่บ้าง
อย่างแรก เป็นเพราะผู้บ่มเพาะเหล่านี้ได้พัฒนาทั้งร่างกาย และสมองอย่างเต็มที่ในระหว่างการบ่มเพาะ ระดับสติปัญญาของพวกเขาจึงสูงกว่าคนในชาติที่แล้วของเขามาก
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน พวกเขาก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างที่สอง เป็นเพราะคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีประสบการณ์สะสมมาหลายสิบปีหรือแม้แต่หลายร้อยปี สิ่งที่พวกเขาขาดก็แค่แรงผลักดัน ตอนนี้หลินเย่ได้เปิดประตูบานนั้นให้พวกเขาแล้ว พวกเขาก็จะสามารถปลุกพลังที่แท้จริงออกมาได้
แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดแบบนี้ต่อหน้าโจวกัง
"อืม ถ่ายออกมาดีมาก แต่โดยรวมแล้ววิดีโอยังยาวไปหน่อย ตัดฉากที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างก็ได้"
"นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพิ่มคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการทำอาหารลงไปด้วย เพื่อบอกกล่าวผู้ชมว่าทำไมท่านถึงต้องทำขั้นตอนนี้"
เมื่อได้ฟังคำแนะนำของหลินเย่ โจวกังก็พยักหน้าทันที
"เข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ข้าจะแก้ไขตามที่ท่านบอก"
ทันทีที่พูดจบ โจวกังก็ลงมือทำทันที
แม้ว่าจะใช้เวลานานขึ้น แต่ผลงานที่ออกมาก็สมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากได้รับการอนุมัติจากหลินเย่แล้ว เขาก็โพสต์วิดีโอลงโซเชียลทันที
เพื่อที่จะทำความเข้าใจความคิดเห็นที่แท้จริงของผู้บ่มเพาะในทวีปเทียนหยวนเกี่ยวกับวิดีโออาหารประเภทนี้ หลินเย่จึงไม่ได้โปรโมทวิดีโอของโจวกังในครั้งนี้
แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ยังทำให้เขาประหลาดใจ
ในเวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ วิดีโอของโจวกังมียอดไลก์ทะลุหมื่นไปแล้ว และกำลังเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว