บทที่ 41 บล็อกเกอร์เลียแข้งเลียขา, บริษัท MCN
สวัสดีครับผมขอเปลี่ยนชื่อสำนักเทียนเจี้ยนหรือสำนักดาบทะยาน เป็นสำนักกระบี่สวรรค์นะครับ(ไปไล่อ่านกับหาข้อมูลศัพท์ภาษาจีนมาครับ) ได้อรรถรสกว่าเย้อออ
ชอบไม่ชอบยังไงบอกผมน้าา อ่านให้สนุกค้าบผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน
.........
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น วิดีโอติ๊กต๊อกที่โพสต์โดยผู้ใช้ที่อ้างว่าเป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักกระบี่สวรรค์ก็ติดอันดับการค้นหายอดนิยม
เนื้อหาในวิดีโอเรียบง่ายมาก เป็นภาพถ่ายแบบฉากยาวๆโดยไม่มีการตัดหรือเปลี่ยนมุมกล้องของสำนักกระบี่สวรรค์อันกว้างใหญ่ที่ถูกทิ้งร้าง สิ่งก่อสร้างหลายหลังถูกทุบทำลาย เป็นครั้งคราวก็จะเห็นศิษย์สวมชุดของสำนักกระบี่สวรรค์กำลังถอดเสื้อผ้าออก และจากไปพร้อมกับดาบของเขา
ในตอนท้ายของวิดีโอ ศิษย์คนนี้พูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า:
"จบแล้ว จบสิ้นทุกอย่างแล้ว เมื่อคืนนี้เจ้าสำนักหลี่มู่ไป๋พาหลี่อ้าวบุตรชาย หนีไปพร้อมกับของมีค่าทั้งหมดของสำนัก และทรัพย์สินทั้งหมดในคลัง"
"ข้าไม่รู้ว่าพวกผู้อาวุโสของสำนักหายไปไหนกันหมด ตอนนี้เหลือแค่พวกเราศิษย์ชั้นนอก และศิษย์รับใช้ ทางสำนักยังค้างหินวิญญาณข้าอีกหลายร้อยก้อน"
"ข้าไม่คิดเลย ข้าอุตส่าห์ฝ่าฟันเข้าสำนักมาได้ สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นผู้บ่มเพาะอิสระ มีสำนักใจดีที่ไหนรับข้าเข้าไปบ้างไหม? ข้าเชี่ยวชาญด้านพืชวิญญาณและการเพาะปลูกสมุนไพร แล้วยังรู้วิชาเล่นแร่แปรธาตุอีกนิดหน่อยด้วย"
สรุปวิดีโอนี้ได้ในประโยคเดียวคือ สำนักกระบี่สวรรค์ล่มสลายแล้ว เจ้าสำนักหลี่มู่ไป๋หอบทรัพย์สินของสำนักทั้งหมดหนีไปกับลูกชาย
หลังจากวิดีโอนี้กลายเป็นไวรัล ก็เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้งบนติ๊กต๊อก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปเร็วขนาดนี้
เมื่อวานสำนักของหลี่มู่ไป๋พังทลาย วันนี้เขาก็หนีไปแล้ว
สำนักชั้นนำที่สืบทอดกันมานับพันปีหายไปในชั่วข้ามคืน
เมื่อหลินเย่ตื่นนอนตอนเช้าตรู่ และเห็นวิดีโอนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก
"หลี่มู่ไป๋นี่เด็ดขาดจริงๆ หนีไปภายในเวลาไม่ถึงวัน สมแล้วที่เป็นถึงผู้บ่มเพาะมาร"
จากนั้นเขาก็พูดกับประตู:
"ไปตามฟางโม่มา"
ไม่นานนัก ภูตผู้รับใช้ก็พาฟางโม่ที่ดูระแวงเข้ามาในห้องของหลินเย่
"ฟางโม่คารวะนายน้อย"
"ไม่ต้องมากพิธี เจ้าคงรู้เรื่องแล้วสินะ? ซูหยุนอัวตายอย่างน่าอนาถในป่า และสำนักกระบี่สวรรค์ก็ล่มสลายอย่างสิ้นเชิง เจ้าได้แก้แค้นแล้ว เจ้าพอใจกับผลลัพธ์นี้หรือไม่?"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเย่ ฟางโม่ก็คุกเข่าลงตรงหน้าหลินเย่ทันที
ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยเชื่อเลยว่าเขาจะสามารถแก้แค้นได้ด้วยวิดีโอติ๊กต๊อกเพียงวิดีโอเดียว จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เมื่อสำนักกระบี่สวรรค์ขับไล่ซูหยุนอัวออกจากสำนักอย่างเปิดเผย เขาก็ตระหนักได้ว่าวิดีโอที่หลินเย่ขอให้เขาโพสต์นั้นมีอิทธิพลมากเพียงใด
สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ภายในเวลาเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืน สำนักกระบี่สวรรค์ที่ครั้งหนึ่งเคยสูงส่งก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้วเพราะเหตุการณ์นี้ และหลี่มู่ไป๋ ผู้บ่มเพาะขั้นจุติแก่นเทวะผู้น่าเกรงขามก็กลายเป็นหนูข้างถนน
ทั้งหมดนี้เกินความคาดหมายของเขา
แต่เขาก็รู้ดีว่า ที่เขาแก้แค้นได้ไม่ใช่เพราะตัวเขาเอง แต่เป็นเพราะชายที่อยู่ตรงหน้าเขา
เขาเป็นคนที่ทำให้ชื่อเสียงของซูหยุนอัวพังทลาย และเป็นคนที่ทำให้สำนักกระบี่สวรรค์ล่มสลาย
"นายน้อยช่างมีน้ำใจ ฟางโม่จะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้!" ขณะที่พูด ฟางโม่ก็เอาศีรษะโขกพื้น
เมื่อเห็นดังนั้น หลินเย่ก็ยิ้ม
"ลุกขึ้นเถิด ข้าเองก็มีเรื่องแค้นกับสำนักกระบี่สวรรค์ การล้างแค้นให้เจ้าก็ถือเป็นเรื่องที่ข้าสมควรทำ"
"ว่าแต่ เจ้ามีแผนอะไรในอนาคตบ้าง?"
ฟางโม่ที่ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นเบิกตากว้างด้วยความสับสน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ส่ายหัว
"ข้าไม่รู้เหมือนกัน ข้าเป็นแค่ผู้บ่มเพาะอิสระ และพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฝึกฝนไปแล้ว คงไม่มีโอกาสได้สร้างรากฐานในชีวิตนี้หรอก"
"บางทีข้าอาจจะหาที่ที่ไม่มีใครอยู่ แล้วตายอย่างโดดเดี่ยว"
ทว่า เมื่อเขาพูดจบก็มีถุงเก็บของถูกโยนมาอยู่ตรงหน้าเขา
"ข้างในมีหินวิญญาณ 100,000 ก้อน ยาอายุวัฒนะ และยาก่อตั้งรากฐาน เพียงพอสำหรับให้เจ้าฝึกฝนจนถึงขั้นสร้างรากฐาน"
"ในเมื่อตอนนี้เจ้าไม่มีเป้าหมาย ข้าจะให้เป้าหมายใหม่กับเจ้าเอง"
"เจ้าเองก็เห็นศักยภาพของติ๊กต๊อกแล้ว"
"ข้าคิดว่าจากประสบการณ์เลียแข้งเลียขาของเจ้าในอดีต เจ้าต้องสามารถเป็นบล็อกเกอร์สายฮาได้แน่ๆ เอาประสบการณ์ทั้งหมดของเจ้ามาแต่งเป็นมุกตลกให้คนอื่นดูสิ"
"แบบนี้ดีกว่าเยอะ"
"เจ้าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ถึงจะกลายเป็นบล็อกเกอร์สายฮาที่มีแฟนๆ ติดตามเยอะๆ ได้?"
"เลียแข้ง? เลียขา? บล็อกเกอร์สายฮา?" ฟางโม่ทำหน้างงงวย เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่เข้าใจความหมายของคำสองคำนี้
หลินเย่จึงอธิบายให้เขาฟังอย่างจริงจัง พร้อมกับเล่าความลับในการแต่งมุกตลกเกี่ยวกับการเลียแข้งเลียขาในชาติที่แล้วให้ฟางโม่ฟัง
หลังจากฟังคำอธิบายจบ ฟางโม่ก็เข้าใจขึ้นมาทันที
"ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงให้ข้าใช้พฤติกรรมของตัวเองทำให้คนอื่นหัวเราะสินะ?"
"ใช่แล้ว! ไม่ใช่แค่ทำให้คนอื่นขำเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องกระตุ้นให้คนอื่นรู้สึกอินไปด้วย"
"ตัวอย่างเช่น ทำไมเรื่องราวของเจ้าในครั้งนี้ถึงได้ก่อให้เกิดกระแสตอบรับมากมายขนาดนี้? เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกระทำของเจ้าได้กระตุ้นความรู้สึกของผู้บ่มเพาะจำนวนมาก ทำให้พวกเขาอินไปกับเรื่องราวของเจ้า"
"ดังนั้น การกระตุ้นให้คนดูอินไปกับเจ้าจึงเป็นหัวใจสำคัญของมุกตลก ตอนนี้เจ้าได้รับการยอมรับว่าเป็นจอมเลียแข้งเลียขาอันดับหนึ่งในทวีปเทียนหยวนแล้ว ดังนั้นเจ้าควรใช้ประโยชน์จากลักษณะนิสัยเลียแข้งเลียขาของตัวเองให้เต็มที่"
"เมื่อใดที่เจ้าประสบความสำเร็จ มีแฟนๆ หลายแสนคน อิทธิพลของเจ้าจะไม่ด้อยไปกว่าเหล่าปิศาจเฒ่า ในขั้นเปลี่ยนถ่ายแก่นเทวะ แม้แต่สำนักที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายธรรมะเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้า ก็ยังต้องเกรงใจเจ้า"
"เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าสามารถใช้อิทธิพลของตัวเองรวบรวมบล็อกเกอร์หน้าใหม่ที่มีศักยภาพ ก่อตั้งบริษัท MCN ของตัวเองได้ ส่วน MCN คืออะไร เจ้าคิดว่ามันเป็นสำนักรูปแบบพิเศษก็ได้"
เมื่อได้ฟังแผนการอันสวยหรืองดงามที่หลินเย่วาดฝันไว้ สีหน้าของฟางโม่ก็ดูสดใสขึ้นเรื่อยๆ
"ข้าเข้าใจแล้ว นายน้อย! ข้ารู้แล้วว่าข้าต้องทำอย่างไรต่อไป!"
"ตอนนี้ข้าจะไปเช่าสถานที่ในเมืองดาบยักษ์ จากนั้นจะเชิญผู้บ่มเพาะอิสระมาเป็นตัวประกอบให้ข้า"
"ไปเถอะ ข้ารอฟังข่าวดีอยู่"
ครู่ต่อมา ฟางโม่ก็หันหลังกลับและจากไป
"หวังว่าเจ้าหนูนี่จะทำสำเร็จนะ แต่ดูเหมือนว่าการแต่งมุกตลกในโลกแห่งการบ่มเพาะคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมุกตลกมันน้อยเกินไป"
หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไป และไม่ได้คาดหวังว่าฟางโม่จะสร้างความฮือฮาได้
"ภูตผู้รับใช้ เมื่อวานข้าให้เจ้าไปสืบหาของอร่อยๆ ในเมืองดาบยักษ์ เจอหรือยัง?"
"เรียนนายน้อย ข้าสืบมาแล้ว ได้ยินมาว่ามีร้านอาหารที่ขายเนื้อย่างอยู่ทางใต้ของเมือง ซึ่งอร่อยมาก"
"อย่ามาโกหกข้าอีกล่ะ ร้านที่เจ้าพาข้าไปเมื่อวาน หมูยังกินไม่ลงเลย"
"ไม่ต้องกังวลไป นายน้อย พวกเราก็กินที่นั่นมาแล้ว"
"เอาล่ะ ไปกันเถอะ หวังว่าครั้งนี้เจ้าคงไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ"
หลังจากพูดจบ หลินเย่ก็ลุกขึ้นและเดินออกจากโรงเตี๊ยมไปพร้อมกับภูตรับใช้ทั้งสอง
ในขณะเดียวกัน ข่าวการล่มสลายของสำนักกระบี่สวรรค์ก็แพร่สะพัดไปถึงภายในสำนักมารผ่านทางติ๊กต๊อก
เมื่อประมุขของ 8 สำนักใหญ่แห่งสำนักมารเห็นข่าวการล่มสลายของสำนักกระบี่สวรรค์ พวกเขาก็รีบมารวมตัวกันด้วยความไม่เชื่อสายตาของตนเอง
………
MCN (Multi-Channel Network) คือบริษัทที่ช่วยสนับสนุนผู้สร้างเนื้อหาออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มเช่น YouTube, TikTok และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ บริษัทเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้สร้างเนื้อหาและแพลตฟอร์ม โดยให้บริการต่าง ๆ เช่น: