ตอนที่ 142 ทำตัวเหมือนกาฝาก (ฟรี)
ตอนที่ 142 ทำตัวเหมือนกาฝาก
ในเวลานี้ เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ในทีมก็ลงจากรถด้วย แม้ว่าฉู่เจียงเยว่จะเคยอารมณ์ไม่ดีหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่ค่อยลงไม้ลงมือกับคนอื่นเพราะเหตุนี้
การที่สองคนนี้สามารถให้ฉู่เจียงเยว่ฉุนขาดแล้วลงมือกับพวกเขาได้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องทำสิ่งต่างๆ มากมาย และในที่สุดก็มาถึงจุดที่ฉู่เจียงเยว่ไม่อาจทนรับได้อีกต่อไป
หรงจ้าวเหวินก็คิดไม่ถึงว่าฉู่เจียงเยว่จะโกรธถึงขนาดนี้ ในระหว่างทาง เขาได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนนี้พูดคุยกัน
แม้ว่าเขาจะพยายามห้ามปรามแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขายังไม่มีน้ำหนักพอ ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ได้คิดจะทำตาม
สำหรับผู้หญิงสามคนนั้น ไม่ต้องพูดถึง พวกเธอนั่งเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ
“เราไม่ผิด คุณเป็นคนบอกเองว่ามีหมาป่าอยู่ตรงหน้า แล้วจะผิดอะไรที่เราคิดไม่ควรไปเสี่ยงจะดีกว่า?”
“หรือว่าเราทุกคนต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อความเห็นแก่ตัวของตัวคุณเอง?”
พวกเขาทั้งสองไม่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดเลย และยังรู้สึกว่าสิ่งที่พวกตนกำลังทำก็เพื่อเห็นแก่ความปลอดภัยของทุกคน
“รถของเราได้รับการปกป้องอย่างดี หากพวกนายไม่ต้องการเสี่ยง ก็หดหัวอยู่ในรถไป แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ”
“เมื่อไปถึงโรงแรม ทุกคนต้องหาเงินเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง สามารถแลกเปลี่ยนเนื้อและหนังหมาป่าหรือแก่นคริสตัลที่ได้เป็นสกุลเงินเฉพาะของทางโรงแรมได้”
“หากพวกนายไม่พยายามลงมือลงแรง เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วคิดว่าจะให้ทางโรงแรมให้เครดิตก่อนหรือวิ่งยืมเงินจากคนอื่นงั้นรึ”
ฉู่เจียงเยว่รู้สึกปวดหัวกับความคิดของทั้งสองคนนี้จริงๆ
แน่นอนว่าเมื่อฉู่เจียงเยว่พูดเช่นนั้น ดวงตาของคนอื่นๆ ก็เริ่มหลบเลี่ยง
ในเวลานี้ แค่ดูแลตัวเองก็ยังยาก ใครมีเวลาไปช่วยเหลือคนอื่นๆ กัน
“หากพวกนายไม่อยากไปกับเราต่อ ก็เชิญกลับไปได้ ระยะทางจากที่นี่ไปยังหลุมหลบภัยยังไม่ไกลนัก ด้วยความช่วยเหลือจากใบปลิวน่าจะกลับไปได้อย่างปลอดภัย”
เมื่อนึกถึงใบปลิวสองใบที่เสียไปอย่างสูญเปล่า ฉู่เจียงเยว่ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจมากขึ้น
“คุณต้องการไล่เราไปเหรอ ทำแบบนั้นไม่ได้นะ เราไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย?”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองยังคงไม่รู้ว่าตนได้ทำผิดพลาดอะไรลงไป
หลินซวี่หยวน และคนอื่นๆ จึงมองพวกเขาราวกับว่ามองคนโง่เขลา
แม้แต่พวกเขา เมื่อเผชิญหน้ากับฉู่เจียงเยว่ พวกเขายังต้องรักษามารยาท ไม่ต้องพูดถึงสองคนนี้ที่ไม่ใช่ผู้ปลุกพลัง พวกเขาคิดว่าตนมีคุณสมบัติอะไรถึงจะมาท้าทายฉู่เจียงเยว่ได้
"ทำไมจะไม่ได้ รถเป็นของฉัน โรงแรมก็เป็นของฉัน! ใบปลิวที่พวกนายถืออยู่ก็เป็นของฉันด้วย!"
หรงจ้าวเหวินอ้าปาก และอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันทีที่เขาสบตากับฉู่เจียงเยว่ เขาก็พูดไม่ออก และไม่สามารถพูดอะไรได้
พูดตรงๆ ก็คือสองคนนี้ไม่ค่อยสบายใจเมื่ออยู่ในรถของคนอื่น แต่ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงโง่ขนาดนี้
“พวกนายควรกลับไปก่อนในขณะที่ฟ้ายังไม่มืด”
เนื่องจากฉู่เจียงเยว่ไม่เต็มใจที่จะพาสองคนนี้ไปด้วย หรงจ้าวเหวินจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
แม้ว่าเมื่อนับคนในทีม พวกเขาจะมีจำนวนมากกว่า แต่ในแง่ของความแข็งแกร่ง พวกเขาไม่สามารถเอาชนะฉู่เจียงเยว่และอีกห้าคนที่เหลือได้อย่างแน่นอน
ในบรรดา 36 คนที่พามี มีเพียง 3 คนที่ปลุกพลัง และพวกเขาก็เพิ่งปลุก หากพวกเขาเผชิญหน้ากับฉู่เจียงเยว่ คนในทีมของเธอจริงๆ การต่อสู้คงจะจบลงในเวลาสั้นๆ
สำหรับคนธรรมดาคนอื่นๆ พวกเขาอาจไม่สามารถเข้าใกล้อีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ และถูกเล่นงานด้วยพลังวิเศษอย่างรวดเร็ว
มีช่องว่างขนาดใหญ่ในการต่อสู้ระหว่างผู้ปลุก และคนธรรมดา
“หรงจ้าวเหวิน นายกำลังพูดบ้าอะไร? นี่นายกำลังเข้าขาคนนอกอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า?”
ทั้งสองคิดว่าหรงจ้าวเหวินควรอยู่เคียงข้างพวกเขา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเลือกทรยศในเวลานี้
“เธอได้บอกไปแล้วว่าถ้าไม่อยากเข้าร่วมการต่อสู้ก็ให้รออยู่ในรถ เป็นพวกนายเองที่พูดไม่เข้าเรื่อง และเป็นฝ่ายผิด”
“ในเมื่อพวกเขาไม่เปลี่ยนเส้นทางก็หมายความว่าพวกเขามั่นใจว่าจะรับมือกับฝูงหมาป่าได้ และไม่ได้ขอให้เราไปเสี่ยง พวกนายยังจะต้องการอะไรอีก”
ตอนนั้น ที่ฉู่เจียงเยว่พูดขึ้น ตัวเขาเองก็ต้องการลงจากรถ และออกไปฆ่าหมาป่าเหมือนกัน ท้ายที่สุดเขาไม่ได้มีแก่นคริสตัลมากมายอยู่ในมือ
จากคำพูดของฉู่เจียงเยว่ที่ได้ย้ำเตือนหลายๆ ครั้ง เห็นได้ชัดว่าเมื่อพวกเขาไปมาถึงโรงแรมเจียงหลิน หากต้องการอยู่สบายก็ต้องมีเงิน
เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ไม่คิดจะทำอะไรเลย เมื่อพวกเขาไปถึงโรงแรมเจียงหลิน พวกเขาอาจพยายามยืมเงินจากคนอื่นๆ และทำตัวเหมือนกาฝาก
"นาย……"
ทัศนคติของหรงจ้าวเหวินนั้นชัดเจน หากฉู่เจียงเยว่ไม่ผ่อนปรน เขาจะไม่ช่วยขัดขวาง
“ก็ได้ ในเมื่อที่นี่ไม่ต้อนรับเรา เราก็จะไป เฮอะ คิดว่าเราอยากมาด้วยมากหรือยังไงกัน!”
พวกเขาทั้งสองถือใบปลิวที่ฉู่เจียงเยว่มอบให้ไว้ในมือแล้วเดินเท้ากลับไป
หลินซวี่หยวนที่กำลังเฝ้าดูอยู่ก็ได้พูดขึ้นสั้นๆ “เดินช้าๆ หน่อย เดี๋ยวจะสะดุดล้มเอา”
หลินซวี่หยวนกล่าวกับทั้งสองคนด้วยสีหน้าหยอกล้อ และยังโบกมืออำลาอีกด้วย
ฉู่เจียงเยว่เพิกเฉยต่อสองคนนั่น และกลับไปที่รถ หลังจากที่หรงจ้าวเหวินขึ้นรถ เธอก็สตาร์ทเครื่องยนต์
เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ ก็กลับเข้าไปในรถ และขับไปข้างหน้าต่อไปตามทิศทางที่ลูกศรนำทางชี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ต้องหยุดรถอีกครั้งเมื่อได้พบกับฝูงหมาป่าที่อยู่ห่างออกไป 500 เมตร
รถทั้งห้าคันเกือบจะหยุดพร้อมกัน ฉู่เจียงเยว่ปลดเข็มขัดนิรภัย และลงจากรถโดยไม่ลังเล ตามมาด้วยหรงจ้าวเหวิน
ฉู่เจียงเยว่มองไปที่ผู้หญิงสามคนที่เป็นคนธรรมดาในรถ “อย่าลงจากรถ ถ้าพวกเธอต้องการแก่นคริสตัล เมื่อไปถึงโรงแรมแล้วมีซอมบี้มากมายที่ถูกแช่แข็งอยู่ การขุดแก่นคริสตัลจากพวกมันนั้นจะง่ายกว่ามาก”
ครั้งก่อนโรงแรมเจียงหลิน ถูกรายล้อมไปด้วยซอมบี้ฝูงใหญ่เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์ ตอนนี้อากาศหนาวจัดได้โหมกระหน่ำ ด้านนอกโรงแรมเจียงหลินจึงเต็มไปด้วยซอมบี้ที่ถูกแช่แข็ง
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถือเป็นเหมือนเทศกาลครั้งใหญ่สำหรับแขกของโรงแรม ทุกวันพวกเขาจะออกไปข้างนอก และขุดหาแก่นคริสตัล
อันตรายมาพร้อมกับโอกาส
โรงแรมเจียงหลินเคยถูกล้อมรอบด้วยซอมบี้มาก่อน และเหล่าแขกไม่สามารถออกไปไหนได้ ตอนนี้พวกเขาก็ได้รับผลตอบแทนจากความอดทนในช่วงสองสัปดาห์นั้นแล้ว
ผู้หญิงทั้งสามคนก็ตระหนักรู้ในตนเองดี หลังจากได้ยินคำแนะนำของฉู่เจียงเยว่ พวกเธอก็พยักหน้า และไม่คิดว่าเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ฉู่เจียงเยว่จึงให้คำแนะนำเป็นพิเศษ
แม้ว่าฉู่เจียงเยว่จะไม่พูดอะไร พวกเธอก็จะไม่ออกไปเสี่ยงชีวิตกับสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่กันเป็นฝูงใหญ่
เมื่อเห็นทั้งสามคนพยักหน้า ฉู่เจียงเยว่ก็ลงจากรถ และปิดประตูอย่างแน่นหนา ขณะที่หรงจ้าวเหวินเดินตามมาอย่างใกล้ชิด
เมื่อพวกเขาทั้งสองเข้าร่วมการต่อสู้ ศพหมาป่าจำนวนมากก็กองรวมกันอยู่รอบๆ ตัวเสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ แล้ว
ในรถคันอื่น มีเพียงอีกสามคนที่เป็นผู้ปลุกพลังเท่านั้นที่เลือกจะออกมา
สำหรับทั้งสามคนที่เพิ่งปลุกพลัง ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายเมื่อเห็นพลังของฉู่เจียงเยว่ และคนอื่นๆ ที่ใช้ในการต่อสู้กับฝูงหมาป่า
นี่เป็นพลังที่พวกเขาใฝ่ฝัน ในอนาคต พวกเขาก็อยากทำได้เหมือนกัน
“บรู๊ววว…”
ด้านหลังฝูงหมาป่า หมาป่าสีดำตัวใหญ่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า และหอนออกมา เสียงนั่นทำให้ฉู่เจียงเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“มันอาจจะกำลังเรียกพวก เราควรรีบจบการต่อสู้โดยเร็วที่สุด!”
เมื่อต้องเร่งมือ ฉู่เจียงเยว่จึงสั่งให้เสี่ยวเติ๋งที่พันอยู่บนข้อมือช่วยกันโจมตี
หลังจากได้รับคำสั่งจากฉู่เจียงเยว่ เสี่ยวเติ๋งก็เริ่มเคลื่อนไหว เถาวัลย์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และพันรอบหมาป่าทีละตัว ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของพวกมันถูกกำจัดลงอย่างมาก
พลังวิเศษของฉู่เจียงเยว่ก็แปลงหนามแหลมคม เจาะทะลุหัวหมาป่าพร้อมเสียงดังฟุ่บ
เช่นเดียวกับตอนที่เธอฆ่าซอมบี้ก่อนหน้านี้ เถาวัลย์จะพุ่งตามออกไปแล้วม้วนเอาแก่นคริสตัลกลับมา