บทที่ 972: พันธมิตรที่ดีที่สุดของประเภทแปรี่และมังกรก็คือประเภทน้ำแข็ง
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 972: พันธมิตรที่ดีที่สุดของประเภทแปรี่และมังกรก็คือประเภทน้ำแข็ง
ย้อนกลับไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่ไคโดจะเดินทางมาถึงมารีนฟอร์ด ในตอนที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวกับกองทัพเรือเพิ่งเริ่มเปิดฉากปะทะกัน อาร์เซอุสก็ได้เดินทางมาถึงบริเวณสามเหลี่ยมกระแสน้ำวนแล้ว
นอกจากเกาะเอเนสล็อบบี้ มารีนฟอร์ด ที่มีประตูแห่งความยุติธรรมตั้งอยู่แล้ว สามเหลี่ยมกระแสน้ำวนของกองทัพเรือถือเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการป้องกันใดๆ เลย
มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสร้างรั้วหรือกำแพงล้อมรอบทะเลทั้งหมด แม้แต่มังกรฟ้าก็ไม่ลงทุนทำอะไรแบบนั้น อีกทั้งยังไม่มีความจำเป็นใดๆ อีกด้วย
โดยปกติแล้วเหล่าโจรสลัดจะไม่เฉียดเข้าใกล้สามเหลี่ยมกระแสน้ำวนแห่งนี้ พลังอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติเป็นสิ่งที่ยากจะต้านทาน เรือใบธรรมดาๆ หรือเรือกลไฟ หากถูกดูดเข้าไปในวังวนก็ยากที่จะเอาตัวรอดได้
ผลลัพธ์ของการติดอยู่ในสามเหลี่ยมกระแสน้ำวนมีเพียงสองทาง คือล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย หรือไม่ก็ยอมจำนนต่อกองทัพเรือ ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการควบคุมตัวเป็นไปอย่างง่ายดาย
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครสามารถฝ่าสามเหลี่ยมกระแสน้ำวนนี้ไปได้ ยังมีคนบางกลุ่มที่มีพลังมากพอจะต้านทานกระแสน้ำวน แต่คนกลุ่มนั้นก็จะไม่เดินทางเข้าไปยังใจกลางของกองทัพเรือ
จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีโจรสลัดคนใดที่สามารถต่อกรกับกองทัพเรือได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโกล ดี โรเจอร์, ชิกิ หรือแม้แต่ร็อคส์ ดี เซเบ็ค สุดท้ายก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้
การปรากฏตัวของอาร์เซอุสในครั้งนี้ ถือเป็นการทำลายทุกกฎเกณฑ์ที่เคยมีมา
“ท่านอาร์เซอุส! ตอนนี้เราเข้าสู่สามเหลี่ยมกระแสน้ำวนของกองทัพเรือแล้ว ต่อไปจะให้มุ่งหน้าไปทางไหนดีครับ?”
ด้วยพลังของสามเหลี่ยมกระแสน้ำวน เรือรบของกองทัพเรือสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางได้ถึงครึ่งหนึ่ง ความเร็วของกระแสน้ำวนนั้น แม้แต่เรือปฐมกาลก็ยากที่จะหลุดพ้น เมื่อถูกดูดเข้าไปแล้ว ก็ตกอยู่ในสภาวะที่ต้องล่องลอยไปตามกระแสน้ำ
“หักพังงาไปจนสุด มุ่งหน้าตรงไปยังใจกลาง”
“แต่แบบนั้นเรืออาจจะพลิกคว่ำนะครับ…”
“ท่านบอกให้ทำก็ทำไป! เรื่องอื่นไม่ต้องคิดมาก ท่านอาร์เซอุส เขาเพิ่งเข้าร่วมกับเรือปฐมกาลได้ไม่นานครัย ยังไม่คุ้นเคยกับอะไรหลายๆ อย่าง ขอท่านอย่าถือสาเลยนะครับ”
สามัญสำนึกใช้ไม่ได้กับเรือลำนี้ เมื่อมองไปทั่วท้องทะเล เรือปฐมกาลถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบนท้องฟ้า หรือแม้แต่ขุมนรก ก็ไม่มีที่ใดที่เรือลำนี้ไปไม่ถึง
ด้วยพลังของอาร์เซอุส เรือลำนี้ไม่ใช่เรือโจรสลัดธรรมดาอีกต่อไป เหตุผลที่อาร์เซอุสยังคงเลือกใช้เรือในการเดินทาง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธรรมเนียมของการเดินเรือ อีกส่วนหนึ่งคือ หากไม่มีพาหนะที่เหมาะสม ก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป
เรือปฐมกาลอาจไม่ใช่เรือที่ดีที่สุด แต่มันเป็นเรือที่เขาใช้ถนัดมือที่สุด
“ไม่เป็นไร หักพังงาเข้าไปเถอะ”
“รับทราบ!”
ต้นหนหันไปพับแขนเสื้อของตัวเอง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การหักพังงาในวังวนแบบนี้ต้องใช้แรงมาก เขาคนเดียวอาจจะทำไม่สำเร็จ
แต่เมื่อเขาเริ่มหมุนพังงา กลับพบว่ามันเบาอย่างน่าประหลาด เรือปฐมกาลในตอนนี้ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีฟ้าอ่อนๆ จะเรียกว่าเป็นเรือก็ไม่เชิง เหมือนกับว่ามันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับมหาสมุทร
กระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลวน พอเจอกับเรือปฐมกาลก็เลี้ยวหลบไปเอง ทำให้เรือปฐมกาลสามารถมุ่งหน้าไปยังใจกลางได้อย่างราบรื่น
ราวๆ ช่วงเวลาที่ไคโดเดินทางมาถึงมารีนฟอร์ด เรือปฐมกาลก็ค่อยๆ เข้าใกล้ใจกลางของวังวน ใต้ผืนน้ำทะเลอันมืดมิด อาร์เซอุสก็สัมผัสได้ถึงพลังจากศิลาแห่งชีวิตของตัวเอง
“อยู่ที่แบบนี้จริงๆ ด้วย น่าแปลกใจจริงๆ”
โลกใบนี้กว้างใหญ่มาก ยังมีดินแดนภายนอกอีกมากมายที่ยังไม่ได้สำรวจ แน่นอนว่าคงไม่มีใครมาสำรวจใจกลางของกองทัพเรือแบบนี้ ที่อาร์เซอุสมาที่นี่ ก็เพราะได้รับข้อมูลมาจากเผ่าพันธุ์มังกรพันปี
ดวงตาของอาร์เซอุสเปล่งประกายสีฟ้า แสงสีฟ้าที่ห่อหุ้มเรือปฐมกาลแผ่ขยายไปทั่วมหาสมุทร กระแสน้ำเชี่ยวกรากหยุดนิ่งลงทันที บนผิวน้ำดังกึกก้องไปทั่ว
กระแสน้ำวนสามเหลี่ยมดุจดั่งรถไฟด่วนที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดเส้นทาง แต่ทว่าวันนี้ กลับมี "มือ" ปริศนาจากฟากฟ้า ยื่นลงมาควบคุม "หัวรถจักร" บังคับให้หยุดลงกะทันหัน
เมื่อหัวรถจักรถูกหยุดโดยแรงภายนอก ตู้โดยสารด้านหลังย่อมไม่อาจรอดพ้น เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ตามมาเป็นทอดๆ กระแสน้ำวนสามเหลี่ยมก็เช่นกัน ใจกลางของมันยังคงสงบ มีเพียงคลื่นลมปั่นป่วนเล็กน้อย แต่ยิ่งห่างออกไป อาร์เซอุสยิ่งแสดงพลัง หยุดกระแสน้ำ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สูงกว่าร้อยเมตร ซัดสาดออกไปทุกทิศทาง
แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเรือปฐมกาล ผู้คนบนเรือ นอกจากอาร์เซอุสแล้ว ต่างรู้สึกเพียงอย่างเดียว... หนาว
"ทำไม... ทำไมถึงหนาวขนาดนี้ เพจวันขอเสื้อหน่อย!"
"อย่าขยับสิพี่ มือผมแข็งไปหมดแล้ว"
สองพี่น้อง มีพลังมากที่สุดบนเรือรองจากอาร์เซอุส หากแม้แต่พวกเขายังทนหนาวไม่ไหว คนอื่นๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
นี่เป็นผลจากการเพิ่มจำนวนของศิลาแห่งชีวิต พลังที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นแบบบวกเลขธรรมดา แต่ทวีคูณขึ้นอย่างน่ากลัว ก่อนหน้านี้ เมื่อศิลากลับคืน มีเพียงออร่าที่เปลี่ยนไป แต่เมื่อแผ่นที่สิบห้ากลับมา พลังของอาร์เซอุสก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
เพียงออร่าที่แผ่ออกมาจากศิลาแห่งชีวิต ก็ทำให้เหล่าโจรสลัดรอบข้าง รู้สึกไม่สบายอย่างมาก
สาเหตุของความหนาวเหน็บนี้ คือศิลาแห่งน้ำแข็ง หลังจากแฟรี่และมังกร แผ่น "น้ำแข็ง" หนึ่งในสามเทพ ก็กลับคืนมาแล้ว
"ท่านอาร์เซอุส ช่วยเก็บพลังหน่อยเถอะครับ พวกเราทนไม่ไหวแล้ว"
"เจ้าตัวน้อย มันหลับใหลในทะเลมานาน ตอนนี้คงตื่นเต้นน่ะ"
อาร์เซอุสควบคุมพลัง ดึงความหนาวเย็นกลับสู่ศิลาแห่งชีวิต เหล่าโจรสลัดบนเรือ ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้น เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น น้ำทะเลกระจาย โจรสลัดบนเรือปฐมกาลเงยหน้าขึ้นมอง พบเรือรบจากเอนิเอสล็อบบี้
จากข้อมูลของกองทัพเรือ อิมเพลดาวน์เกิดเหตุแหกคุกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กำลังพลกำลังจัดการกับเหตุการณ์ ส่วนทหารเรือจากมารีนฟอร์ด กำลังต่อสู้กับหนวดขาว
มีเพียงทหารเรือจากเอนิเอสล็อบบี้ที่ยังว่าง จึงเข้ามาในสามเหลี่ยม ตามหาเหล่าโจรสลัดที่แหกคุก
เรือปฐมกาลทำให้พวกเขาเข้าใจผิด จึงยิงปืนใหญ่โจมตี
"ท่านอาร์เซอุส ให้ผมจัดการเองเถอะ ถือโอกาสขยับร่างกายหน่อย"
โจรสลัดกับทหารเรือเป็นศัตรูกัน การยิงปืนใหญ่คือสัญญาณประกาศสงคราม เพจวันจึงขออาสาออกรบ
"ไม่จำเป็นต้องสนใจ พวกเราเปลี่ยนเส้นทางไปดูไคโดที่มารีนฟอร์ดกันดีกว่า ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"
"เอ๋? ท่านอาร์เซอุส ไม่สนใจพวกทหารเรือแล้วเหรอคะ? พวกนั้นยิงปืนใหญ่ใส่พวกเราเลยนะคะ"
อุลติเกาหัวอย่างสงสัย ปกติถ้าโดนยิงใส่แบบนี้ ใครจะอยู่เฉยได้กัน?
"แค่พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องไปยุ่งก็เท่านั้น ข้าแค่จะลองของเล่นใหม่อีกหน่อย ว่าไหม เรจิไอซ์?"
ศิลาที่กลับเข้าไปในร่างของอาร์เซอุสก่อนหน้านี้ ถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับไม่มีไอเย็นแผ่ออกมาเลยแม้แต่น้อย
ต่างจากตอนที่ใช้พลังกับดาร์คไร พลังของศิลาแห่งน้ำแข็งไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมา แต่กลับถูกใช้เป็นแกนกลาง
โดยมีศิลาเป็นศูนย์กลาง ไอเย็นค่อยๆ ก่อตัวเป็นน้ำแข็งจนกลายเป็นยักษ์น้ำแข็งรูปร่างเหลี่ยมคม ปรากฏขึ้นบนดาดฟ้าเรือของอาร์เซอุส
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_