บทที่ 957 แหล่งเช็คอินของเหล่าเน็ตไอดอล

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อน

หลังจากพิธีฝังศพหยูเย่าถิงเสร็จสิ้นที่เมืองหยาง ถังหยวนก็ออกจากเมืองหยางทันที โดยกลับไปยังเมืองจงไห่ และทำการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของเวินมู่เสวี่ยและซูฉู่ฉู่อย่างละเอียด จากนั้นก็พาคุณปู่คุณย่าที่พำนักอยู่ในเมืองจงไห่มานานสามเดือนกลับไปยังเมืองหังโจว

เมื่อกลับมาที่หังโจว ถังหยวนก็เริ่มใช้ชีวิตแบบสองจุด ได้แก่การเดินทางไปกลับระหว่างเทียนมู่เต๋ากงและใจกลางเมือง เพื่อทำการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของแต่ละโครงการก่อสร้างในเทียนมู่เต๋ากง ชีวิตของเขาเป็นไปอย่างเรียบง่ายและยุ่งเหยิง

อย่างไรก็ตาม ถังหยวนก็หาเวลาพักผ่อนบ้างในระหว่างช่วงว่าง

เมืองหังโจวเป็นเมืองแห่งเน็ตไอดอลหน้าใหม่ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีจากบริษัท Alibaba เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เมืองได้ดึงดูดเหล่าอีคอมเมิร์ซและนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาพัฒนา ส่งผลให้มีเน็ตไอดอลรุ่นบุกเบิกเกิดขึ้นหลายคน และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหล่าเน็ตไอดอลเหล่านั้นได้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Weibo, Douyin, Kuaishou และ Douyu ในการถ่ายทอดสด จนทำให้เกิดการหมุนเวียนของความนิยม ดึงดูดหญิงสาวรุ่นใหม่ที่สวยและมีความฝันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หวังจะโชคดีและก้าวสู่ความสำเร็จในชั่วพริบตา

ในสถานการณ์เช่นนี้ ถังหยวนที่ออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ บางครั้งก็ดึงดูดเน็ตไอดอลสาววัยรุ่นสวยๆ จำนวนมากเข้ามารุมล้อม และไม่นานข่าวลือเกี่ยวกับการที่ถังหยวนอาศัยอยู่ในหังโจวก็แพร่กระจายไปทั่วในวงการเน็ตไอดอลของเมือง

ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เตียงของถังหยวนก็เกือบจะกลายเป็นแหล่งเช็คอินของเหล่าเน็ตไอดอลไปแล้ว ในวงการเน็ตไอดอลหังโจวถึงกับมีคำพูดว่า “เน็ตไอดอลที่ได้ขึ้นเตียงของถังหยวนอาจจะไม่ได้ดังมากนัก แต่จะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยสุดๆ”

ผู้หญิงในวงการเน็ตไอดอลของหังโจวมีการแข่งกันสูงอยู่แล้ว และหลังจากคำพูดนี้แพร่กระจายออกไป ก็มีเน็ตไอดอลสาวๆ หลายคนยิ่งพยายามเข้าใกล้ถังหยวนมากขึ้น โดยเฉพาะเหล่าสาวสวยที่มีจำนวนผู้ติดตามพอๆ กัน และอยู่ในกลุ่มเดียวกัน พวกเธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เปรียบเหนือกว่าคนอื่น โดยพยายามล่อลวงถังหยวน

เมื่อเวลาผ่านไป แหล่งเช็คอินแห่งใหม่นี้ก็ถูกเน็ตไอดอลมาเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปจะมีข่าวลือเสียๆ หายๆ ออกมา แต่กลับกลายเป็นว่าเน็ตไอดอลเหล่านั้นกลับให้คำวิจารณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ ถ้าจะให้สรุปเป็นห้าคำ ก็คงต้องเป็นว่า “ใช้แล้วบอกต่อ”

แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งมากจนน่ากลัว!

บางคนหลังจากที่ได้สัมผัสแล้วก็ถึงกับรู้สึกว่างเปล่าทางกายไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ความรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ อิ่มเอมจนยากจะหยุดใจได้

แต่แหล่งเช็คอินแห่งนี้มีข้อจำกัด สามารถเช็คอินได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยกเว้นเพียงบางกรณีที่มีการเชิญให้กลับมาใหม่ ซึ่งผู้ที่ได้รับเชิญกลับมาส่วนใหญ่จะเป็นเน็ตไอดอลหน้าใหม่ที่พึ่งบรรลุนิติภาวะและยังคงความธรรมชาติเอาไว้

ในระหว่างนี้ ถังหยวนไม่เคยมีความคิดจะเกาะกินฟรีๆ ฝ่ายหญิงและเขาต่างก็พึงพอใจในสิ่งที่ได้รับ หลังจากนั้นถังหยวนจะพิจารณาตามสถานการณ์แล้วให้การสนับสนุนทางด้านการเงินหรือทรัพยากรแก่เน็ตไอดอลเหล่านั้น ซึ่งสำหรับเขาที่มีทั้งความมั่งคั่งและอำนาจ ทุกอย่างที่มอบให้ก็ทำให้พวกเธออิ่มหนำได้ง่ายๆ

แต่แน่นอนว่า…

โลกนี้ไม่เคยขาดคนที่ไม่รู้จักพอ

มีเน็ตไอดอลบางคนที่คิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อเรียกร้องมากขึ้น หรือแม้แต่ขู่ถังหยวนด้วยการใช้กระแสในโซเชียล หวังจะก้าวหน้าในวงการ

สำหรับกรณีนี้ ถังหยวนมีท่าทีเพียงอย่างเดียวคือ “อยากจะก่อเรื่องก็ก่อไป ฉันไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด!”

ถ้าเป็นเมื่อสองปีก่อน ถังหยวนที่ยังไม่มีฐานที่มั่นคงอาจจะรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว บรรดานายทุนที่อยู่เบื้องหลังโซเชียลมีเดียหลักๆ ล้วนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับถังหยวน และตั้งแต่เหตุการณ์บริจาคที่เมืองจินหลิงและเหตุการณ์รับมือการระบาดใหญ่ที่เมืองอู่ฮั่น ถังหยวนก็กลายเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่เป็นแบบอย่างที่ดีของจีน ข่าวเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับเขา รัฐบาลก็ไม่ยอมให้แพร่หลายไปในวงกว้าง

คิดจะใช้กระแสโซเชียลเพื่อกดดันให้เขายอมทำตามหรือ? คิดไปไกลแล้ว!

แม้แต่เน็ตไอดอลระดับแสนคนก็แค่ให้เขาพูดอะไรสักคำ เธอก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้แม้แต่น้อย

ลบกระแสในโซเชียล? สำหรับถังหยวน มันง่ายเกินไป

ในระดับของถังหยวน วิธีการคือ “คำที่ใช้ถูกลบหายไปทั้งหมด”

จะค้นหาข้อมูลนี้หรือ? ขออภัย ไม่สามารถแสดงผลได้ตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง!

นั่นคือสถานะของถังหยวนในปัจจุบัน อยู่เหนือความคิดของคนทั่วไปไปไกลแล้ว

ในช่วงเวลาที่เขายุ่งวุ่นวายนี้ ชีวิตที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสำราญนี้ ผ่านไปเกือบสามเดือน ในที่สุด โครงการก่อสร้างเทียนมู่เต๋ากงก็ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์

…

เย็นวันหนึ่ง

ถังหยวนเดินทางด้วย Mercedes-Benz Pullman S680 มาที่เขตท่องเที่ยวทะเลสาบซีหู เนื่องจากภัตตาคารอาหารส่วนตัวระดับไฮเอนด์หลายแห่งตั้งอยู่ในเขตนี้ ถังหยวนจึงแวะมาเกือบทุกวันมากกว่ากลับบ้าน

วันนี้ ภัตตาคารตั้งอยู่ในป่าไผ่ ธีมวัฒนธรรมพิเศษคือวิถีชา ผสมผสานระหว่างอาหารรสเลิศและชาอย่างลงตัว เมนูเน้นความเรียบง่าย บรรยากาศตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพบปะทางธุรกิจ

“ท่านถัง เราถึงแล้วครับ”

ถังหยวนที่กำลังหลับตาพักผ่อน ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเตือนจากหยวนเหมิง ขณะเดียวกันสยงไคก็เปิดประตูรถให้ เขาจัดปกเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะก้าวลงจากรถ

บริเวณรอบๆ ภัตตาคาร ทุกๆ ห้าเมตรจะมีหนุ่มวัยฉกรรจ์ใส่ชุดกีฬาแนบเนื้อสีดำ สวมวิทยุสื่อสารอยู่ พวกเขายืนเฝ้าในท่าทางที่ดูกระฉับกระเฉง สายตาคมกล้า บ่งบอกว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

สำหรับถังหยวนและสยงไค สถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใจ เพราะผู้ที่นัดเลี้ยงเขาวันนี้คือฟ่านฉงเจิ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของมณฑลเจ้อเจียง และเลขาธิการมณฑลเจ้อเจียง เซิ่นเหวินซวี่ ซึ่งหนุ่มฉกรรจ์รอบๆ ภัตตาคารล้วนเป็นกำลังสำคัญของหน่วยพิเศษของมณฑลเจ้อเจียง

ด้วยสถานะและฐานะของถังหยวนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การที่ได้พบปะกับผู้ทรงอิทธิพลเช่นนี้จึงเป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ที่ได้นั่งโต๊ะทานอาหารกับเขา นอกจากหญิงสาวที่เขาสนใจแล้ว ก็มีเพียงบุคคลระดับผู้นำสำคัญในประเทศเท่านั้น และพวกเขาเหล่านั้นก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับความปลอดภัยส่วนตัว

“ท่านถัง ผมเป็นเลขาของท่านฟ่าน หลี่เจิ้ง ยินดีต้อนรับครับ”

ทันทีที่ถังหยวนลงจากรถ ชายวัยกลางคนที่รออยู่หน้าภัตตาคารก็เข้ามาต้อนรับทันที เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยท่าทีเคารพนับถือ

“ไม่นึกเลยว่าท่านฟ่านและเลขาเซิ่นจะมาเร็วเช่นนี้ รบกวนเลขาหลี่ช่วยนำทางทีนะครับ”

ถังหยวนยิ้มอย่างเป็นมิตร แสดงออกด้วยความสุภาพ

“ท่านถัง เชิญทางนี้ครับ…”

เมื่อได้ยิน หลี่เจิ้งก็รีบเดินนำทางถังหยวนและสยงไคเข้าไปในภัตตาคารอย่างเรียบร้อย