บทที่ 71 โรงแรมรุ่ยลี่ ตอนที่ 8
บทที่ 71 โรงแรมรุ่ยลี่ ตอนที่ 8
เสิ่นชงหรานนั่งอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ มองดูเพื่อนร่วมงานสองคนเดินจากไป เธอได้แต่คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในฝัน รู้ดีว่าคงห้ามอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงพึ่งดวง
คืนนี้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เข้าเวรในล็อบบี้ยังคงเป็นสองคนเดิมจากเมื่อคืน ลุงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเห็นว่าเธออยู่คนเดียว จึงยื่นส้มสองลูกให้เธอ
“ดึก ๆ แบบนี้ คนไม่เยอะก็หาอะไรทานบ้าง จะได้มีแรง”
พวกพนักงานเข้าเวรกลางคืนจะอู้งานไม่ได้ เพราะเจ้านายคอยตรวจผ่านกล้องวงจรปิด ถ้าเห็นก็จะโดนปรับเงิน
พนักงานรักษาความปลอดภัยยังพอพักในห้องเล็กได้ แต่เคาน์เตอร์หน้าโรงแรมถูกจับตามองด้วยกล้องแบบเต็ม ๆ
“ขอบคุณค่ะลุง ช่วงนี้ส้มลูกใหญ่ดีนะคะ”
ส้มสองลูกใหญ่พอดีฝ่ามือของเธอทั้งลูก ดูสดฉ่ำมาก
ลุงเจ้าหน้าที่หัวเราะเบา ๆ “นี่เป็นส้มจากบ้านลุงเอง ญาติลุงส่งมา เห็นว่าหวานดี เลยเอามาแบ่งให้พวกเธอลองชิมกัน”
เสิ่นชงหรานวางส้มทั้งสองลูกไว้ข้าง ๆ ยังไม่หยิบมาทาน คิดไว้ว่าถ้าอยากทานผลไม้ระหว่างทำงานก็คงจะหยิบมาทานได้ง่าย ๆ
ขณะทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ประตูห้องพักเล็ก ๆ ตรงสุดขอบล็อบบี้เปิดออก มีชายร่างผอมสูงวัยราว ๆ สี่สิบปีเดินออกมา
“เฮ้ พี่จาง ทำไมถึงต้องลางานแบบนี้ล่ะ? ฉันเองก็อยากจะสลับวันพักเหมือนกัน”
ชายร่างผอมสูงดูผ่ายผอม แก้มตอบจนเห็นโหนกแก้มเด่นชัด ใบหน้าดูเคร่งขรึมชวนให้รู้สึกว่าไม่น่าคุยด้วย
ลุงจางผู้ใจดีเพียงแค่หัวเราะ “ขอโทษนะพี่ชาย พอดีที่บ้านลุงมีข่าวว่าแม่ไม่ค่อยสบาย เลยกลับไปดู ท่านอายุมากแล้ว ต้องไปดูแลให้มากขึ้นหน่อย”
ชายผอมสูงถึงแม้จะไม่พอใจ แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายต้องกลับไปดูแม่แก่ ๆ เขาก็ไม่อาจพูดอะไรไม่ดีออกมาได้
เมื่ออีกฝ่ายออกไป ลุงจางก็หันมาพูดกับเสิ่นชงหราน “เมื่อคืนกลับบ้านกะจะบอกที่บ้านว่าลุงได้ส้มมา แต่ดันได้รับข่าวว่าแม่ไม่ค่อยสบายพอดี เลยได้ลางานไปดูแล”
เสิ่นชงหราน “ดูแลครอบครัวให้มาก ๆ เถอะค่ะ ยิ่งอายุมากแล้วไม่ควรปล่อยให้เจ็บป่วยนาน”
ลุงจางพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ใช่แล้ว งั้นลุงไปตรวจตราแถวนี้หน่อย เดี๋ยวเธอคงต้องยุ่งขึ้นอีกแหละ”
เมื่อเขาไปแล้ว เสิ่นชงหรานได้แต่หวังว่า หากคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลุงจางก็คงจะไม่โดนผลกระทบจากภารกิจครั้งนี้
หลังเที่ยงคืน ราว ๆ หนึ่งถึงสองโมงเช้า เริ่มมีคนเมาแวะเวียนเข้ามา
ครั้งนี้เสิ่นชงหรานเห็นผู้ชายและผู้หญิงรุ่นใหม่หลากหลายที่มักจะมีเพื่อนสองสามคนคอยพยุงกันมา
เธอมองดูราคาห้องชุดในโรงแรม แล้วอดไม่ได้ที่จะนึกทึ่งในความร่ำรวยของพวกเขา ไม่เพียงแต่ไปบาร์หรูได้ ยังเช่าห้องชุดสุดหรูอีกด้วย
โชคดีที่ยังไม่มีเหตุการณ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับซินเหอ
เมื่อเห็นว่าช่วงนี้ยังไม่มีใคร เสิ่นชงหรานจึงไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่ยุ่งจนไม่ได้ออกจากเคาน์เตอร์
ขณะเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอสังเกตเห็นห้องเก็บของที่อยู่ไม่ไกล
เพียงแค่จ้องมองก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง เสิ่นชงหรานไม่อยากหาเรื่อง เพราะภารกิจครั้งนี้คือการหาข้อมูลเบาะแส ไม่จำเป็นต้องไปยั่วผี ยิ่งเป็นภารกิจระดับกลางด้วยแล้ว ยันต์แดงที่เธอมีก็ไม่มากนัก
หลังจากที่เสิ่นชงหรานเดินจากไป ประตูห้องเก็บของก็เปิดออกเอง ในช่องประตูเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองออกมา จากนั้นประตูก็ปิดลงดัง “ปัง”
แสงอรุณสาดส่องต้อนรับเช้าวันที่สามของภารกิจ เสิ่นชงหรานลูบหน้าตัวเองเล็กน้อยเพื่อให้รู้สึกสดชื่นก่อนส่งเวร
หยวนซินดูอารมณ์ดี แต่โจวเมิ่งเยว่ดูยังคงโกรธ อาการนี้ยังปรากฏบนใบหน้าเมื่อตอนที่เธอมาทำงานตอนเช้า
หลังจากส่งเวรเสร็จ หยวนซินก็กระตุ้นให้เสิ่นชงหรานรีบกลับไปนอน เพราะตอนกลางคืนต้องมาทำงานอีก
เสิ่นชงหรานกำลังจะกลับหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่หยวนซินก็เรียกเธอไว้ “ลืมบอกไป พรุ่งนี้ช่วงสองทุ่มตอนเปลี่ยนเวร เจ้านายจะเข้ามา บอกว่าจะมีประชุมตอนนั้น เธอมาก่อนสักสิบห้านาทีก็แล้วกัน”
เสิ่นชงหรานพยักหน้า “ได้ค่ะ แต่ปกติประชุมกันตอนเช้าไม่ใช่หรือคะ?”
หยวนซินก็ไม่ทราบ “ไม่รู้สิ แต่ช่วงนี้เจ้านายจัดอะไรแปลก ๆ คงมีธุระอะไรช่วงกลางวันแหละ แต่ยังไงการประชุมก็ไม่ใช้เวลานาน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวเมิ่งเยว่ถึงกับกลอกตา สำหรับเธอการประชุมไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย กิจวัตรที่ต้องทำก็รู้อยู่แล้ว
เสิ่นชงหรานแค่จำเวลาไว้ ตั้งใจจะตั้งนาฬิกาปลุกกันพลาด เผื่อเธอฝันอีกจะได้ไม่พลาดเวลาประชุม
...
เมื่อเสิ่นชงหรานตื่นขึ้นอีกครั้ง พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า เธอมองเวลาแล้วพบว่าราว ๆ หกโมงครึ่ง
หลังจากล้างหน้าล้างตาและหาอะไรรองท้อง เธอก็มุ่งหน้าไปโรงแรมทันที เมื่อไปถึงก็พบว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เคยสบาย ๆ ตอนนี้ยืนตัวตรงอยู่ ส่วนเพื่อนร่วมงานที่หน้าเคาน์เตอร์ก็ยืนอยู่ด้วย ไม่มีใครนั่งเหมือนก่อน
เมื่อเห็นหยวนซินและโจวเมิ่งเยว่ หยวนซินส่งสายตามองไปที่กล้องวงจรปิด เสิ่นชงหรานก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่หมายถึงเจ้านายอยู่ในห้องทำงานแล้ว
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก่อนถึงหนึ่งทุ่มครึ่ง โจวเมิ่งเยว่ได้รับมอบหมายให้ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ขึ้นไปประชุมกันบนชั้นบน
หยวนซินรอเสิ่นชงหรานที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อขึ้นไปด้วยกัน เมื่อเห็นเธอออกมาก็รีบโบกมือเรียก “คนอื่นขึ้นไปกันหมดแล้ว เรารีบไปกันเถอะ”
เสิ่นชงหรานวิ่งเหยาะ ๆ ไปหา ส่วนโจวเมิ่งเยว่ก็ยังคงบ่นว่า “หวังว่าประชุมคงไม่ยาวนะ ฉันอยากกลับเร็ว ๆ”
หยวนซินหัวเราะ “เรื่องนี้ไม่ใช่เราจะกำหนดได้ สู้ ๆ ล่ะ”
โจวเมิ่งเยว่ได้แต่กลอกตา
เสิ่นชงหรานขึ้นลิฟต์ไปกับหยวนซิน ขณะอยู่ในลิฟต์หยวนซินก็จ้องมองที่ใบหน้าของเธอจนเธอรู้สึกแปลกใจ จึงถามว่า “มีอะไรติดอยู่บนหน้าฉันหรือเปล่า?”
หยวนซินถอนหายใจเบา ๆ “วันนี้ไม่ใช่แค่เจ้านายที่มา แต่ภรรยาเจ้านายก็มาด้วย เธอเป็นคนที่ไม่ชอบคนสวย”
เสิ่นชงหรานก็พอจะเข้าใจ ว่าหยวนซินกังวลว่าเจ้านายจะหวั่นไหว ด้วยธุรกิจที่ใหญ่โตแบบนี้ หากมีคนสวย ๆ เข้ามาติดพันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“ฉันเข้าใจ เดี๋ยวจะพยายามทำตัวเงียบ ๆ ไว้”
หยวนซินยิ้มออกมา “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจะนั่งบังให้ แค่ก้มหน้าตลอดเวลาก็พอ ไม่จำเป็นก็อย่าทำให้เป็นเรื่อง”
เสิ่นชงหรานยังไม่เคยเจอภรรยาเจ้านายมาก่อน แต่ก็ได้ยินกิตติศัพท์มาบ้าง
เมื่อมาถึงชั้นบนสุด ซึ่งมีทั้งห้องทำงานและห้องประชุม หยวนซินใช้บัตรพนักงานของเธอรูดเปิดประตูแก้วเข้าไป เสิ่นชงหรานเดินตามติด ๆ โดยย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้สะดุดตา
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงห้องประชุม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเจ้านายยังไม่มา หยวนซินจึงรีบจูงมือเสิ่นชงหรานไปนั่งตรงมุม
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่นั่งลง ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เจ้านายกับภรรยาเดินเข้ามา
เจ้านายเป็นชายวัยกลางคนศีรษะล้าน ร่างกายอ้วนท้วมจนเสื้อผ้าตึงแน่น ส่วนภรรยาเจ้านายม้วนผมเป็นลอน ดวงตาคมกริบกวาดมองพนักงานอย่างทั่วถึงก่อนจะละสายตากลับมา
ทั้งสองนั่งลงบนที่นั่งหัวโต๊ะ เจ้านายไอเบา ๆ ก่อนจะเริ่มพูดว่า “วันนี้ที่เรียกทุกคนมาก็เพื่อแจ้งเนื้อหาในการประชุมตามปกติ แต่ก็มีเรื่องที่จะประกาศเพิ่มเติม ปกติวันที่ 16 เป็นวันหยุดของทุกคนใช่ไหม แต่คราวนี้ถึงแม้โรงแรมจะไม่เปิดบริการ แต่เราต้องมีคนเฝ้าเวร ซึ่งทางห้องรักษาความปลอดภัยได้กำหนดตัวคนเฝ้าไว้แล้ว ส่วนครัวหลังจะต้องมีพนักงานสองคนที่คอยทำอาหารให้ผู้เฝ้าเวร นอกจากนี้ ฝ่ายทำความสะอาดจะต้องมีคนเฝ้าเพื่อทำความสะอาดตามปกติ แน่นอนว่าทุกคนจะได้รับค่าแรงห้าเท่าของอัตราปกติ หากใครสนใจอาสาทำงานในวันนั้นก็ยกมือขึ้นได้”
..........