บทที่ 30 กินเกี๊ยว
บทที่ 30 กินเกี๊ยว
"มีอะไรหรือ?" เจียงอันจิบชานมคำสุดท้ายจนหมด
ครั้งนี้ น้ำเสียงของเจียงเสวียอ่อนโยนลง
"อีกไม่ถึงสองเดือนก็จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ช่วงนี้นายไม่ควรไปผสมยีนส์ของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นนะ"
เจียงเสวียเป็นห่วงว่าหากเจียงอันผสมยีนส์ของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นไม่สำเร็จ อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจและมีผลต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
เจียงอันตอบทันที "เมื่อเช้านี้เองผมยังผสมยีนส์ของฉลามขาวใหญ่เลยนะ"
หัวใจของเจียงเสวียกระตุกวูบ
เธอถามทั้งๆ ที่รู้คำตอบ "แล้วสำเร็จไหมล่ะ?"
เจียงอันส่ายหน้า "ล้มเหลวครับ"
เจียงเสวียถอนหายใจเบาๆ ในใจ เป็นไปตามที่คาดไว้
เจียงเสวียปลอบใจ "ถึงล้มเหลวก็ไม่ต้องท้อนะ อย่างไรเสียตอนนี้นายก็เรียนรู้วิชาขั้นสูงแล้ว แม้ไม่ต้องผสมยีนส์ของสิ่งมีชีวิตอื่น ก็ยังสามารถพัฒนาพลังได้"
เจียงอันมองเจียงเสวีย "พี่สาวครับ พี่รู้อะไรบางอย่างใช่ไหม?"
ดวงตางามของเจียงเสวียกระตุก "อะไรกัน?"
เธอไม่อยากให้เจียงอันรู้สึกแย่ ไม่อยากให้จิตใจของเขาได้รับผลกระทบก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะยังไม่บอก
แต่เจียงอันกลับพูดออกมาเอง
เจียงอันมองเจียงเสวีย "พี่สาวครับ จริงๆ แล้วผมรู้แล้ว"
หัวใจของเจียงเสวียกระตุก "รู้อะไร อย่าคิดไปเองสิ"
เจียงอันพูดเรียบๆ "จริงๆ แล้ววันนี้ผมได้ทำการตรวจสอบในระดับยีนส์อย่างละเอียด ผมเป็นร่างกายที่ต่อต้านยีนส์ ไม่สามารถผสมยีนส์ของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นได้เลย"
ดวงตาสวยของเจียงเสวียเบิกกว้าง "นายรู้จริงๆ เหรอ!"
เจียงอันพยักหน้า "พี่สาวครับ พี่รู้มานานแล้วใช่ไหม?"
เจียงเสวียส่ายหน้าเบาๆ "ไม่ใช่หรอก พี่เพิ่งรู้จากพ่อแม่เมื่อไม่นานมานี้เอง นายไม่โกรธพ่อแม่ใช่ไหม? จริงๆ แล้วพวกท่านก็หวังดีกับนาย ไม่อยากให้นายรู้สึกแย่ อยากให้นายเติบโตอย่างสุขภาพดีและไร้กังวลเหมือนคนอื่นๆ"
สีหน้าของเจียงอันดูสงบนิ่ง เขาไม่รู้ว่าตัวตนในอดีตจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากรู้เรื่องนี้
แต่ตอนนี้เจียงอันไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ไม่ว่าจะมีร่างกายแบบไหน เขาก็เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษอยู่แล้ว!
"ผมจะไปโกรธพ่อแม่ทำไมล่ะครับ ถึงผมจะเป็นร่างกายที่ต่อต้านยีนส์แล้วยังไง ผมก็ยังสามารถฝึกฝนวิชาเพื่อเพิ่มพูนพลังได้ และไม่จำเป็นต้องช้ากว่าคนอื่นด้วย"
เจียงเสวียรู้สึกสงสัย "เจียงอัน นายไม่รู้สึกท้อแท้หรือเสียใจจริงๆ เหรอ?"
เจียงอันยิ้มกว้าง
"จริงๆ แล้วตอนแรกที่รู้ก็เสียใจนะครับ แต่ตอนนี้คิดได้แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกอะไร!"
เมื่อเห็นท่าทางสงบของเจียงอัน เจียงเสวียก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
"ดีแล้วล่ะ พี่ยังกังวลว่าถ้านายรู้แล้ว จะคิดมากจนไปกระโดดน้ำที่ชายทะเลซะอีก!"
กระโดดน้ำ!
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของเจียงอันก็กระตุก!
"พี่สาวครับ พี่คิดมากไปแล้ว! จิตใจผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ! แล้วอีกอย่าง ถึงผมจะกระโดดน้ำก็ไม่มีทางจมน้ำตายหรอก!"
หลังจากยืนยันได้ว่าเจียงอันไม่ได้คิดมาก เจียงเสวียก็รู้สึกสบายใจขึ้น
"เมื่อนายคิดได้แล้ว พี่ก็สบายใจแล้วล่ะ พ่อกับแม่รู้เรื่องนี้แล้วก็คงจะดีใจแทนนายด้วย"
เจียงเสวียดูเวลา
"ถึงเวลาอาหารแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ"
"พี่สาวครับ ผมนัดเพื่อนไว้แล้ว ตั้งใจจะไปกินเกี๊ยวด้วยกัน งั้นผมบอกพวกเขาก่อนนะครับว่าผมไม่ไปแล้ว ให้พวกเขาไปกันเองแล้วกัน"
ดวงตาของเจียงเสวียเป็นประกาย
"เพื่อนผู้หญิงเหรอ?"
เจียงอันส่ายหน้าอย่างจนใจ
"ไม่ใช่ครับ เป็นหัวตงหยางกับฉีเฟิง คราวก่อนพี่ก็เจอพวกเขาที่ชายหาดแล้วนี่"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงเสวียดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย
"พี่นึกว่านายนัดกินข้าวกับเพื่อนผู้หญิงคนที่เจอคราวก่อนซะอีก ที่แท้ก็ไม่ใช่นี่เอง"
"เพื่อนผู้หญิงคนไหนเหรอครับ?"
"ไม่มีอะไรหรอก! ในเมื่อนายนัดกับพวกเขาไว้แล้ว ก็ไปเถอะ พี่จะกลับไปกินกับหลินอี้เอง"
หลังจากเจียงเสวียพูดจบ เธอก็จากไป
เจียงอันก็ออกจากร้านเครื่องดื่มเล็กๆ เช่นกัน
"เฮ้ เจียงอัน นายอยู่ไหนน่ะ? เราตกลงกันแล้วนะว่าจะไปกินเกี๊ยวด้วยกัน" เสียงของหัวตงหยางดังมาจากเครื่องสื่อสาร
"ฉันออกมาแล้ว กำลังรอพวกนายอยู่ที่ประตูโรงเรียน"
ไม่นานนัก เจียงอันก็เห็นหัวตงหยางและฉีเฟิงทั้งสองคน
ความคิดที่จะไปกินเกี๊ยวเป็นของหัวตงหยาง
พี่ชายและพี่สะใภ้ของหัวตงหยางเพิ่งเปิดร้านเกี๊ยวใหม่
ดังนั้น หัวตงหยางจึงอยากพาเจียงอันและฉีเฟิงไปอุดหนุน
ฉีเฟิงมองหัวตงหยาง
"แน่ใจนะว่าเกี๊ยวที่ร้านของพี่ชายนายอร่อย?"
หัวตงหยางตบอกตัวเอง
"แน่นอนว่าอร่อยสิ นั่นเป็นฝีมือของพี่สะใภ้ฉันเองนะ ฉันเคยกินมาแล้วถึงได้พาพวกนายไป เจียงอัน นายว่าไง เกี๊ยวฝีมือพี่สะใภ้จะไม่อร่อยได้ยังไง?"
สีหน้าของเจียงอันกระตุกเล็กน้อย "ฉันยังไม่เคยกินเลย จะรู้ได้ยังไงล่ะ"
หัวตงหยางพูด "ร้านเกี๊ยวของพวกเขาเพิ่งเปิดใหม่ ฉันเป็นน้องชายก็ต้องไปสนับสนุนหน่อย อีกอย่างมันก็ไม่ได้ไกลอะไร"
ฉีเฟิงเหลือบมองหัวตงหยาง "แน่ใจนะว่าแค่ไปกินเกี๊ยว ไม่ใช่ไปดูพี่สะใภ้น่ะ?"
ปัง!
หัวตงหยางต่อยฉีเฟิงหนึ่งหมัด "ไปให้พ้น! ทำไมนายถึงคิดสกปรกขนาดนั้น! จะเป็นเพื่อนกันดีๆ ได้มั้ยเนี่ย!"
ฉีเฟิงพูดเย็นชา "นายสิสกปรก! ถ้าไม่มีอะไรซ่อนอยู่ในใจ ทำไมต้องร้อนใจด้วย!"
หัวตงหยางหันหลังให้ ไม่สนใจฉีเฟิงอีกต่อไป
ศูนย์อาหารหลงหยวน ชั้นสอง
ร้านเกี๊ยวไหช่วนโถว!
หัวตงหยางแนะนำ "ที่นี่แหละ"
แม้ร้านจะไม่ใหญ่มาก แต่ทำเลก็ไม่เลวทีเดียว
หัวตงหยางพูดพลางก้าวเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว
"พี่ครับ พวกเรามากินเกี๊ยวแล้วนะ!"
แต่ในวินาถัดมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ร่างกายพลันหดกลับมาอย่างรวดเร็ว!
เห็นภาพนั้น เจียงอันรู้สึกงงงวย ดูคุ้นๆ ยังไงชอบกล
ในวินาถัดมา มีคนเดินออกมาจากร้านเกี๊ยว
หวังยาหนาน!
เจียงอันนึกขึ้นได้
ไม่แปลกละที่ไอ้หัวตงหยางจะตกใจขนาดนั้น!
ที่แท้ก็เจอกับ "คนดุ" ที่เคยทำให้โกรธนี่เอง
หวังยาหนานเพิ่งกินเกี๊ยวเสร็จ แล้วกำลังจะออกไป
ทั้งสองคนเจอกันพอดี!
หัวตงหยางหดตัวไปอยู่ข้างหลังฉีเฟิง สีหน้าขมขื่น
"ซวยแท้ ทำไมแม่ไดโนเสาร์นั่นถึงมากินเกี๊ยวที่นี่ด้วยล่ะ!"
หวังยาหนานไว้ผมสั้นประบ่า ร่างกายเต็มไปด้วยความองอาจ
เกี๊ยวอร่อยมาก เธอจึงกินเยอะกว่าปกติ
กำลังคิดว่าจะไปออกกำลังกายที่ไหนดี
เธอก็เห็นไอ้หมอนั่นที่กล้าเรียกเธอว่าแม่ไดโนเสาร์
ในตอนนั้น มุมปากของเธอกระตุก
เจอครั้งไหน ก็ต้องต่อยครั้งนั้น!
หวังยาหนานมองข้ามเจียงอันและฉีเฟิงไป สายตาจับจ้องไปที่หัวตงหยางโดยตรง!
"นายจะออกมาเอง หรือให้ฉันลากนายออกมา?"
หัวตงหยางมองขอความช่วยเหลือไปที่เจียงอันและฉีเฟิง
พวก มาช่วยกันหน่อย
เจียงอันและฉีเฟิงมองหน้ากัน แล้วเดินหลบไปอีกด้านอย่างรู้กาลเทศะ
เรื่องแบบนี้ พวกเขาจะไปยุ่งได้ยังไง!
เมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของหัวตงหยางก็ดำทะมึน
"พวกนายสองคน นี่มันเพื่อนแบบไหนกัน? ฉันอุตส่าห์พาพวกนายมากินเกี๊ยว นี่มันคบเพื่อนผิดจริงๆ!"
พูดยังไม่ทันจบ
หวังยาหนานก็ก้าวมาอยู่ตรงหน้าหัวตงหยางแล้ว
หัวตงหยางอยากวิ่งหนีแต่ก็ไม่ทัน
"ขอร้องละ อย่าต่อยหน้านะ"
ปัง!
"โอ๊ย ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนี้ เบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ทุกครั้งก็ลงมือหนักขนาดนี้ โอ๊ย หน้าฉัน!"
หัวตงหยางถูกต่อย ทำให้เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย
ไม่นาน มีคนเดินออกมาจากร้านเกี๊ยวหลายคน มาดูเหตุการณ์
"ตงหยาง!"
หนึ่งในนั้นเป็นชายหนุ่ม เมื่อเห็นเหตุการณ์ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
น้องชายของเขาถูกลูกค้าต่อย เกิดอะไรขึ้น?
เขาจะเข้าไปห้าม
แต่ถูกฉีเฟิงห้ามไว้
"ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเขาคนหนึ่งเต็มใจต่อย อีกคนก็เต็มใจโดน กำลังสร้างความสัมพันธ์กันอยู่น่ะ!"
......