บทที่ 27 ดาชุนถูกทำร้าย
บทที่ 27 ดาชุนถูกทำร้าย
“คนโง่เอ๊ย”
เลอวั่นอี้มองเย่เหรินที่กำลังเตรียมตัวประเมินผล
เธอทำหน้าบูดบึ้ง นั่งอยู่ด้านข้างและไม่สนใจเขา
ห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
ส่วนในห้องข้างๆ
เลอเอินจิงเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด เธอรู้สึกกระวนกระวาย
ฉันอุตส่าห์สร้างโอกาสให้พวกเธอ แต่พวกเธอกลับทำแบบนี้กันเหรอ?
นี่มันเป็นสถานที่สำหรับการประชุมงานรึไงกัน?
“ไอ้ทึ่มเอ๊ย!!!” เลอเอินจิงด่าออกมาอย่างโมโห “หล่อเหลาขนาดนี้ ทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้กันนะ?!”
ยิ่งพูดเลอเอินจิงก็ยิ่งโกรธ เธอไม่ได้สนใจที่จะเก็บงำออร่าของเธอเอาไว้เลย
ออร่าอันทรงพลังนั้น ทำให้จางเจ๋อและหวังเสี่ยวหม่านต้องถอยไปหลบอยู่ที่มุมห้อง
โดยเฉพาะหวังเสี่ยวหม่าน ระดับพลังของเธอกับเลอเอินจิงนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ตอนนี้เธอกำลังตัวสั่น
จางเจ๋อรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาช่วยหวังเสี่ยวหม่านต้านทานแรงกดดัน มุมปากของเขายิ้มอย่างขมขื่น
ในโลกใบนี้มีเพียงแค่ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำเท่านั้นแหละ ที่จะทำตัววุ่นวายแบบนี้ก็เพราะเรื่องความรักของคนอื่น...
พูดตามตรง มันน่าอายมาก...
“จางเจ๋อ!!! ออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าแอบอยู่แบบนั้นสิ!”
เลอเอินจิงเรียกจางเจ๋อ
ฉันอยากจะแอบอยู่ตรงนี้จริงๆ เหรอ? จางเจ๋อบ่นในใจ
เขาฝืนยิ้มออกมา
“พี่สาว...เรียกผมมีอะไรเหรอครับ...”
“เอาของในไนต์คลับออกมา!!!” เลอเอินจิงมองหน้าจอ เธอพูดอย่างโมโห
“พี่สาว พี่พูดถึงอะไร...” จางเจ๋อรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
“ก็...พวกเธอมันโง่ขนาดนี้ ฉันคงต้องช่วยหน่อยแล้วล่ะ!!”
จางเจ๋อได้ยินคำพูดของเลอเอินจิง เขาก็ร้องไห้ออกมา “พี่สาว ไม่ได้นะครับ...นั่นมันหลานสาวของท่าน...”
ตอนนี้เองจางเจ๋อถึงได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเลอวั่นอี้และเลอเอินจิง
แต่เมื่อเขารู้ถึงความสัมพันธ์นี้ เขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก
“อะไรล่ะ? ฝ่ายชายก็มีใจ ฝ่ายหญิงก็มีใจ ฉันก็แค่ช่วยพวกเขาหน่อย มันผิดตรงไหนกัน?!”
นี่มันคำพูดอะไรกันเนี่ย...
หวังเสี่ยวหม่านมองไปที่เลอเอินจิงด้วยความหวาดกลัว เธอหันไปมองจางเจ๋อ
สายตาของเธอกำลังถามจางเจ๋อว่า เธอคือท่านอาของเลอวั่นอี้จริงๆ เหรอ? เธอเป็นญาติจริงๆ งั้นเหรอ?...
จางเจ๋อที่ถูกจ้องมอง เขาก้มหน้าลง
น่าอาย น่าอายจริงๆ
ปรมาจารย์ผู้เลิศล้ำกลับมายุ่งกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคนหนุ่มสาว
แถมยังคิดจะใช้ไนต์คลับเพื่อ...
โรงเตี๊ยมอิสระเป็นถึงหนึ่งในมหาอำนาจ
แต่ตอนนี้กลับทำตัวเหมือนอันธพาล
เดิมทีราชอาณาจักรมังกรก็มีอคติกับโรงเตี๊ยมอิสระอยู่แล้ว
และตอนนี้ผู้นำของพวกเขาก็ยังทำตัวเหมือนคนเลวอีก มันยิ่งเป็นการตอกย้ำอคติที่พวกเขามี
“พี่สาว แบบนี้ไม่ได้จริงๆ นะครับ...” จางเจ๋อปฏิเสธเลอเอินจิง
“ฉันบอกให้นายรีบๆ เอาออกมาไงล่ะ!!”
“พี่สาว ผมทำไม่ได้จริงๆ เรื่องความรักของคนหนุ่มสาว พวกเราน่ะไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง ถ้าหากพี่สาวยังดื้อดึง แบบนี้มันจะยิ่งวุ่นวายนะครับ!!”
“นี่นายกำลังสอนฉันอยู่เหรอ?”
“พี่สาว ผมไม่ได้สอนครับ แต่แบบนี้มันไม่ได้จริงๆ!!”
“ก็ได้ งั้นนายจะเป็นคนจัดการจับคู่เด็กทั้งสองคนนั่นให้ฉันเอง”
“ได้ครับ! ได้ครับ!”
จางเจ๋อพยายามจะต่อต้านเลอเอินจิง ในเวลานี้ เขารู้สึกว่าเขาคือคนสุดท้ายที่สามารถรักษาศักดิ์ศรีของโรงเตี๊ยมอิสระเอาไว้ได้
เขาดูเหมือนกับเป็นคนที่รักความยุติธรรม
ฉันจะต้องปกป้องศักดิ์ศรีของโรงเตี๊ยมอิสระ!!
จะต้องไม่ปล่อยให้เลอเอินจิงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนหนุ่มสาวเด็ดขาด!!!
จางเจ๋อที่ทำหน้าตาจริงจัง เลอเอินจิงที่เห็นแบบนั้นก็หันกลับมามองเขา
ทันใดนั้นรอยยิ้มสดใสก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“ตกลงตามนี้แหละ!”
เลอเอินจิงสงบลง ออร่าของเธอหายไป เธอดูเหมือนกับคนที่สงบสุขมานาน แตกต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง...
จางเจ๋อ???
หัวใจของเขากำลังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ดวงตาที่สับสนของเขาแสดงให้เห็นถึงความงุนงง
เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทำไมเรื่องนี้ถึงกลายมาเป็นหน้าที่ของฉันได้ล่ะเนี่ย?
เมื่อกี้ยังทำตัวกร่างอยู่เลยแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงได้หยุดซะล่ะ?
ฉันจงรักภักดีต่อองค์กร พี่สาวทำไมถึงต้องทำแบบนี้กับฉัน??
“พี่สาว ผม...”
“ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ฉันสนแค่ผลลัพธ์”
พูดจบ เลอเอินจิงก็กลายร่างเป็นหมอกสีเทา เธอพาเจียงเสี่ยวหรูออกจากห้องไป
จางเจ๋อและหวังเสี่ยวหม่านมองหน้ากัน
“เธอคือศิษย์สายตรงของเลอวั่นอี้ใช่มั้ย?”
หวังเสี่ยวหม่านพยักหน้า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะเป็นคนรายงานความคืบหน้าของทั้งสองคนให้กับฉัน เข้าใจแล้วรึเปล่า?”
“ค่ะ แต่ฉัน...”
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับเลอวั่นอี้เด็ดขาด”
จางเจ๋อขัดจังหวะหวังเสี่ยวหม่าน
หวังเสี่ยวหม่านมองไปที่จางเจ๋อที่สูงกว่าเธอสามเท่า เธอไม่กล้าปฏิเสธ เธอได้แต่พูดตะกุกตะกัก
“ค่ะ...ค่ะ”
สุดท้ายแล้วจางเจ๋อก็คือปรมาจารย์ผู้มีพลังระดับเพชร
เลอเอินจิงอาจจะกล้าดุจางเจ๋อ แต่หวังเสี่ยวหม่านไม่กล้า
จางเจ๋อยิ้มออกมา “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกนะ เธอก็แค่ช่วยอาจารย์ของเธอให้ได้แต่งงานก็เท่านั้นเอง!!”
หวังเสี่ยวหม่านพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
เรื่องราวในโรงเตี๊ยมอิสระก็จบลง
ชีวิตในโรงเรียนของเย่เหรินก็กลับมาเป็นปกติ
แต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เจียงเสี่ยวหรูก็หยุดเรียน
...และเลอวั่นอี้ก็เย็นชาใส่เขามากกว่าเดิม
โดยเฉพาะในคืนที่ออกจากไนต์คลับ
ตอนนั้นเย่เหรินเมา จางเจ๋อไม่ต้องการให้เย่เหรินกลับไปที่โรงเรียน เขาเลยให้คนไปส่งเย่เหรินที่โรงเรียน
นี่เธอกำลังโกรธเรื่องที่ฉันต้องเข้าร่วมการประเมินผลงั้นเหรอ?
เย่เหรินที่ยืนอยู่บนแท่นบรรยาย เขาคิดถึงการกระทำของเลอวั่นอี้ เขาพูดไม่ออก
เมื่อกี้ยังขอโทษฉันอยู่เลย แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้หญิงนี่มันเข้าใจยากจริงๆ
“ทำไมช่วงนี้ครูเย่ถึงได้ใจลอยแบบนี้ล่ะ?”
“ใช่ ช่วงนี้ครูเย่ชอบเหม่อลอยในชั้นเรียน...”
“หรือว่าครูเย่หมดไฟแล้ว? เขาเลยจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม?”
“ใครจะไปรู้ แต่ช่วงที่ครูเย่ฝึกฝนให้พวกเรา ความแข็งแกร่งของฉันก็พัฒนาขึ้น มันพัฒนาขึ้นจนเห็นได้ชัดเลยล่ะ!!”
“ฉันผ่านระดับเงินกลางไปถึงระดับเงินปลายได้ ที่เป็ฯแบบนี้ก็เพราะครูเย่ช่วยปรับเส้นทางการไหลเวียนพลังงานให้กับฉัน”
“จริงด้วย ตั้งแต่ที่ครูเย่ช่วยฉันเปิดเส้นพลัง ฉันก็ใช้ท่าเสือดำตะปบลูกท้อได้ ตอนนี้ฉันชนะการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 มาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะพวกผู้หญิง พวกเธอมักจะยอมแพ้เมื่อเจอกับฉัน”
“...นายไม่จำเป็นต้องพูดประโยคสุดท้ายก็ได้”
“พูดตามตรง ฉันไม่อยากให้ครูเย่กลับไปเป็นเหมือนเดิมเลย...”
“ใช่ ฉันติดการฝึกฝนไปแล้ว ถ้าหากครูเย่กลับไปเป็นเหมือนเดิม พวกเราจะทำยังไงกันดี...”
“ช่วยด้วย ฉันอยากจะเรียน!!!”
นักเรียนในห้องต่างก็พูดคุยกัน
นับตั้งแต่ที่เย่เหรินวิจารณ์นักเรียนผ่านเจียงเสี่ยวหรู
บรรยากาศของห้อง 1/2 ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ตูม....”
ในตอนนั้นเอง
ประตูห้องเรียนก็ถูกกระแทกจนเปิดออก
“ครูเย่ แย่แล้ว ดาชุนถูกทำร้ายที่โรงอาหาร!!!”