บทที่ 16 แผนการยั่วยุและเอาชนะ
ค่ำคืนได้ล่วงเลยไปแล้ว ท้องฟ้ากลางคืนของเมืองหลินอันเต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ส่องแสงระยิบระยับ ขณะที่หมอกเวทมนตร์และลวดลายสีสันจากพลังวิญญาณที่ใช้ในงานฉลองค่อย ๆ จางหายไป ปล่อยให้แสงดาวส่องประกายท่ามกลางความสงบเงียบ
ในเมือง บรรดาผู้ฝึกตนที่มาเฉลิมฉลองต่างก็ทยอยกลับไปทีละคนสองคน งานเฉลิมฉลองของหลินอันกินเวลานานถึงเจ็ดวัน วันนี้จบไปแล้วเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้น
ตามท้องถนนยังคงมีพ่อค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ บางรายที่ยังไม่ได้เก็บแผงขายของ เรียกได้ว่าอยู่ในอารมณ์ขี้เกียจ จัดการกับของที่เหลืออยู่ในแผงอย่างไม่รีบร้อน
ในขณะเดียวกัน ก็มีหญิงสาว ที่แต่งตัวอย่างประณีตและงดงามบางคนเดินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ตามถนนสายต่าง ๆ ค้นหาผู้ที่เต็มใจจะใช้ค่ำคืนร่วมกับตน หวังว่าจะได้เงินค่าตอบแทนเป็นเศษหินวิญญาณสักเล็กน้อยเพื่อยังชีพ
กู้ฉางเซิงนั่งยอง ๆ อยู่ข้างถนน ดวงตาของเขามองลอดใต้กระโปรงของหญิงสาวเหล่านั้นเป็นครั้งคราว ใบหน้าแสดงความชื่นชมและหลงใหลอย่างเห็นได้ชัด
ห่างจากเขาประมาณสิบก้าว เฟิงจางก็นั่งยอง ๆ เหมือนกัน สายตาจ้องมองกู้ฉางเซิงอย่างดุดัน ขบฟันหลังแน่น กล้ามเนื้อในร่างกายตึงเครียด
สถานการณ์แบบนี้ดำเนินไปสองชั่วยามแล้ว!
ในใจของเฟิงจางเต็มไปด้วยความโกรธที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาเป็นถึงศิษย์เอกของสำนักหานไห่ ในระดับการฝึกตนขั้นที่เก้า ฝึกพลังลมปราณขั้นสูงสุด อีกไม่กี่ก้าวก็จะบรรลุเป็นผู้ฝึกตนขั้นบ่มเพาะรากฐาน แถมยังเป็นผู้ที่ถูกจับตามองว่าเป็นอัจฉริยะของเมืองหลินอัน !!
แต่เขากลับโดนเด็กหนุ่มที่มีระดับการฝึกตนเพียงกลาง ๆ เล่นงานจนหัวปั่น แล้วยังต้องเสียเวลานั่งเฝ้าอยู่แบบนี้เป็นเวลานาน!
"เด็กหนุ่มคนนี้คิดจะยื้อเวลากับข้าไปเรื่อย ๆ ในเมืองนี้หรือไง?"
ทันใดนั้นเอง
กู้ฉางเซิงก็ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน
เฟิงจางในใจเต็มไปด้วยความยินดี รีบลุกขึ้นตามอย่างรวดเร็ว
แต่แล้ว...
ก็เห็นกู้ฉางเซิงเดินยิ้มกรุ่มกริ่มไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังออดอ้อนแสดงเสน่ห์ ทั้งสองคนยิ้มให้กันและกัน อีกทั้งยังชูนิ้วมือเหมือนกำลังเจรจาราคา
เฟิงจางถึงกับเส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมาทันที
"เจ้าเด็กเวรนี่!"
เขายังมีอารมณ์ไปหาความสำราญแบบนี้ได้! เขาไม่รู้หรือไงว่าข้ากำลังไล่ฆ่าเขาอยู่? หรือว่าเขากล้าหาญขนาดนี้มาตลอด?
เมื่อกู้ฉางเซิงตกลงราคาเรียบร้อย เขาหันมายิ้มและพูดกับเฟิงจางว่า
“พี่เฟิง ข้าว่าพี่ก็คงเหนื่อยแล้วนะ? จะมาด้วยกันไหม? ข้ายอมให้พี่ก่อนก็ได้!”
เฟิงจางยิ้มเยาะเล็กน้อย มองเขาด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “เจ้ามันหาที่ตาย! ข้าสาบาน...”
“รู้แล้ว รู้แล้ว เฮ้” กู้ฉางเซิงหัวเราะเบา ๆ พลางโบกมือขัดจังหวะเฟิงจาง แล้วหันไปพูดกับหญิงสาวคนนั้นว่า “พี่ชายของข้าค่อนข้างขี้อาย เราก็ทำธุระของเรากันไป ปล่อยให้เขารออยู่ข้างล่างเถอะ”
หญิงสาวยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ฮิฮิ หนุ่มน้อย ทำแบบนี้จะไม่โดนพี่ชายของเจ้าว่าหรอกหรือ? เรียกเขามาด้วยกันก็ได้นะ ถ้าเขามาด้วยข้าจะลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง”
กู้ฉางเซิงหัวเราะพลางตอบกลับ “พี่ชายของข้าใจกว้าง เขาไม่ถือสาหรอก แต่เจ้าเองนั่นแหละ ดูเหมือนจะอยากให้มีสองคนมากกว่า!”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก “ไม่เลย ข้าแค่อยากให้มีแต่เจ้าเท่านั้น”
ขณะที่กู้ฉางเซิงพูดหยอกล้อ เขาก็โอบเอวของหญิงสาวแล้วเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมข้าง ๆ
เฟิงจางโกรธจนฟันแทบจะขบกันเสียงดัง รีบก้าวตามเข้าไป และเห็นกู้ฉางเซิงจ่ายค่าเช่าแล้วพาหญิงสาวคนนั้นเข้าไปในห้อง ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางอย่างนุ่มนวลของหญิงสาวลอดออกมา
"เจ้าเด็กเวร! เจ้าเลวนี่!"
เฟิงจางโกรธจนกระทืบเท้าอยู่หน้าประตู
นี่มันเกินไปแล้ว!
เฝิงจางผู้ไม่เคยพ่ายแพ้และไม่เคยเจอเรื่องอัปยศแบบนี้มาก่อน เขาอยากจะชักดาบบุกเข้าไปสังหารเจ้าเด็กนั่นให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็เกรงกลัวกับข้อห้ามในเมืองหลินอัน
ได้ยินมาว่าข้อห้ามในหลินอันฟู่เป็นสิ่งที่ผู้มีพลังระดับ "ฮว๋าเซิน" ทิ้งไว้ หากมีคนถูกฆ่าในขอบเขตของข้อห้ามนี้ จะสามารถตรวจจับพลังของทุกคนในบริเวณนั้นทันที และหน่วยลาดตระเวนจะมาถึงอย่างรวดเร็ว นอกจากผู้ฝึกตนระดับ "หยวนยิ่ง" ขึ้นไปแล้ว ก็แทบจะไม่มีใครหนีรอดได้!
เฟิงจางกัดฟันแน่น สุดท้ายก็นั่งพิงผนังข้างประตูรออยู่ข้างนอก
"ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทนได้นานนักหรอก!"
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสียงร้องครวญครางที่ดังบ้างเบาบ้างในห้องยังคงไม่หยุด เฟิงจางกำหมัดแน่นจนเล็บเกือบจะจิกเข้าที่เนื้อของตัวเอง
หนึ่งชั่วยามแล้ว!
เจ้าเด็กนั่นเล่นสนุกมาได้ถึงหนึ่งชั่วยาม!
บัดซบ! หญิงคนนั้นกระดูกเชิงกรานไม่แตกแล้วหรือไง?
ถึงแม้จะเป็นผู้ฝึกตน แต่ไม่น่าจะทนไหวขนาดนี้!
ทันใดนั้น เฟิงจางรู้สึกใจหายวาบ ร่างของเขาผุดลุกขึ้นทันที ความตกใจทำให้เหงื่อเย็นซึมไปทั้งหลัง
หรือว่าเจ้าเด็กนั่นหนีไปแล้ว?
เขากระโจนตัวขึ้นจากพื้น พุ่งเข้าไปกระแทกประตูห้องอย่างแรง
เพียงแต่เห็นหญิงสาวคนนั้นนอนตะแคงอยู่บนเตียงเพียงลำพัง เสื้อผ้ายังไม่ถูกถอดออก เธอส่งเสียงหอบหายใจเบา ๆ ขณะนั้นหน้าต่างข้างเตียงเปิดอยู่ เผยให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดด้านนอก
เมื่อเธอเห็นเฟิงจางเข้ามา ก็หัวเราะออกมาอย่างไม่แปลกใจ
"อุ๊ย! ศิษย์พี่นี่ช่างอดทนจริง ๆ ข้าเรียกตั้งนานกว่าครึ่งชั่วยาม เจ้าถึงได้เข้ามา!"
แต่เฟิงจางไม่อยู่ในอารมณ์จะหยอกล้อกับเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าและคว้าแขนเธอไว้แน่น พูดอย่างเกรี้ยวกราด
"กู้ฉางเซิงไปไหน!"
"โอ๊ย! ทำไมเจ้าถึงไม่อ่อนโยนเลยล่ะ? หนุ่มน้อยคนก่อนหน้านี้เขาไปแล้ว เขาบอกให้ข้ารอรับศิษย์พี่ต่อ เงินก็จ่ายแล้ว เจ้าจะทำไหมล่ะ? ถ้าไม่ทำ ข้าก็ไม่คืนหินวิญญาณให้หรอกนะ!"
"ข้าไม่เอาโว้ย!"
เฟิงจางกัดฟันแน่น ก่อนจะเหวี่ยงหญิงสาวลงบนเตียงด้วยความโกรธ
เขาโดนหลอกอีกแล้ว!
เขาอยากจะตบหน้าตัวเองด้วยซ้ำ!
"เจ้าเด็กเวรนั่นมันคิดว่าข้าจะไม่กล้าบุกเข้ามาตั้งแต่แรกได้ยังไง?"
ทันใดนั้นเอง หัวใจของเฝิงจางก็สั่นสะท้าน
หรือว่า...เขาเดาความคิดของข้าได้ตั้งแต่แรก?
หญิงสาวมองเฟิงจางที่ยืนเงียบ เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ายวนว่า “ถ้าเจ้าอยากได้ข้า ข้าก็ไม่ขัดหรอก แต่ต้องเพิ่มเงินนะ!”
“ไปให้พ้น!”
เฟิงจางกัดฟันแน่น ก่อนจะสะบัดมือเรียกยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง
“เจ้าจะหนีเหรอ”! มาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน!”
“ข้าสั่ง! พลังแห่งผืนดินตามรอยข้ามแดนพันลี้!”
นี่คือ "ยันต์ตามรอย" ยันต์ระดับหนึ่งชั้นต่ำ หากจุดมันขึ้น ในระยะพันลี้รอบตัวสามารถใช้ควันเพื่อสะกดรอยตามเป้าหมายได้ ยิ่งเป้าหมายอยู่ไกล ควันก็จะลอยไปอย่างรวดเร็ว
เขาเตรียมยันต์ตามรอยไว้สามแผ่นสำหรับไล่ล่ากู้ฉางเซิง และนี่คือแผ่นสุดท้าย!
ทันใดนั้น ยันต์ตามรอยในมือของเฟิงจางก็จุดขึ้น กลายเป็นควันบางเบาลอยออกจากหน้าต่าง มุ่งตรงสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน
จากความเร็วของควัน กู้ฉางเซิงหนีไปได้เพียงสิบกว่าลี้ในช่วงหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเท่านั้น!
เฟิงจางหัวเราะเยาะในใจ
เจ้าเด็กเวรนี่!
สุดท้ายมันก็ประมาทข้า!
เขาคงไม่เคยคิดว่าข้าจะเตรียมยันต์ตามรอยไว้ถึงสามแผ่นสำหรับไล่ล่า!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เฟิงจางก็กระโดดออกจากหน้าต่าง พุ่งทะยานออกจากเมืองตามควันไป
นอกเมืองเงียบสงัด ใต้ผืนฟ้ายามค่ำคืน มีเพียงควันบางเบาที่ชี้ทางให้เฟิงจางติดตาม
ยิ่งควันลอยช้าลงเท่าไร ก็ยิ่งหมายความว่าเขาใกล้กู้ฉางเซิงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้น เฟิงจางเห็นแสงไฟดวงเล็ก ๆ บนเนินเขาเบื้องหน้า มันหยุดนิ่งอยู่กับที่!
นั่นคือคบเพลิง! ห่างออกไปเพียงสามถึงสี่ร้อยเมตรเท่านั้น!
และควันจากยันต์ตามรอยก็กำลังลอยไปทางแสงไฟของคบเพลิงนั้นพอดี!
เจอเจ้าจนได้!
เฟิงจางดีใจจนแทบจะระเบิด
“เจ้าเด็กเวร! ข้าดูสิว่าเจ้าจะหนีไปไหนอีกได้!”
เขาสบถออกมาพลางเร่งฝีเท้าตามควันไปอย่างรวดเร็ว
สามร้อยเมตร... สองร้อยเมตร... ระยะทางใกล้เข้ามาทุกที หัวใจของเฟิงจางก็ยิ่งเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น!
"ข้าจะทรมานเจ้า ทำให้เจ้าตายทั้งเป็น ลอกหนังเจ้าออก หักกระดูกเจ้าเอาไปโยนให้สุนัขกิน แล้วข้าจะ..."
เมื่อคบเพลิงอยู่ตรงหน้า เฝิงจางก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คบเพลิงนั้นถูกปักลงกับพื้น ข้าง ๆ มีป้ายไม้ปักอยู่ บนป้ายมีตัวอักษรเล็ก ๆ เขียนเอาไว้
เฟิงจางขมวดคิ้ว เดินเข้าไปใกล้ ก้มลงมองดูตัวอักษรบนป้ายไม้
“มองลงไปข้างล่าง”
"มองลงไปข้างล่าง?"
เฟิงจางสงสัย ก้มหน้าลงไปดูทันที แล้วจู่ ๆ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างสุดขีด!