บทที่ 10: การสังหาร
ชาร์ลส์ ดอยล์ไม่สนใจเสียงตะโกนของเวส แต่รีบประเมินสภาพภายในโรงงานทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
โรงงานแห่งนี้ไม่เล็ก มีสามชั้น: สองชั้นอยู่เหนือพื้นดินและหนึ่งชั้นใต้ดิน ชั้นแรกมีรถจอดอยู่หลายคัน พร้อมโต๊ะและโซฟาตั้งอยู่หลายตัว
บนชั้นแรกมีคนอยู่สิบสองคน ทุกคนพกอาวุธปืน กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่ สี่คนยืนเฝ้าทางเข้าชั้นใต้ดิน
เห็นยามสี่คนที่ทางเข้าชั้นใต้ดิน ชาร์ลส์แอบเดาว่าห้องนิรภัยน่าจะอยู่ที่ชั้นนั้น
ในจังหวะนั้น เมื่อบ็อบไม่สนใจและไม่ยอมออกไป แต่กลับมองไปรอบๆ เวสก็โมโหทันที
เขาเดินเข้ามาหาชาร์ลส์แล้วตะโกน "บ็อบ แกหูหนวกรึไง? ไม่ได้ยินที่กูบอกให้ออกไปเฝ้ายามหรือไง?"
ขณะที่เวสพยายามผลักบ็อบออกไป ชาร์ลส์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานได้ครบแล้วก็โต้กลับทันที
ดาวกระจายพุ่งแหวกอากาศไปยังร่างกำยำของชายรัสเซียที่พยายามผลักเขา ทะลุเข้าหัวใจในพริบตา
เวสมองดาวกระจายที่ปักอยู่ที่หัวใจตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ชี้นิ้วไปที่ชาร์ลส์ ดอยล์ พลางพูดติดอ่าง "แก... แก..."
พยายามเค้นคำพูดออกมาแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายเวสก็ล้มลงกับพื้น สิ้นใจ
เอเดนที่คอยจับตาดูเวสอยู่ถึงกับตะลึง เขารีบตะโกนทันที "บ็อบทรยศพวกเรา ฆ่ามัน!"
เขาชักปืนและกำลังจะยิง สมาชิกคนอื่นๆ ก็ตอบสนองต่อเสียงตะโกนของเอเดนทันที
ในจังหวะนั้น ชาร์ลส์ ดอยล์ที่รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นได้ครบแล้ว รูดดาวกระจายแปดอันออกจากมือ
ราวกับดอกไม้ที่ร่วงโรยจากมือสาวงาม ดาวกระจายถูกขว้างพุ่งออกไปทุกทิศทาง
ดาวกระจายปักลงบนพื้นใต้เท้าของเหล่าแก๊งสเตอร์บางคนในทันที แรกเริ่มพวกเขาเยาะหยันที่เห็นว่าดาวกระจายไม่ได้ปักเข้าตัวพวกเขา แต่กลับปักลงพื้น
ทว่า กระดาษที่ติดอยู่กับดาวกระจายก็ลุกไหม้ขึ้น
"บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!"
เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง สังหารยามทั้งหมดทันที ยกเว้นคนที่อยู่ที่ทางเข้าชั้นใต้ดิน
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดจากชั้นล่าง พวกแก๊งสเตอร์บนชั้นสองก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาตะโกน "มีคนบุกโจมตี!"
พวกเขาคว้าอาวุธปืนแล้วรีบวิ่งลงมาเสริมกำลัง
หลังจากแจ้งเตือนสมาชิกบนชั้นสองผ่านวิทยุสื่อสารและบอกให้ระวังตัว เขาก็หมดสติไป
ควันจากการระเบิดยังคงลอยอ้อยอิ่งในอากาศ สมาชิกแก๊งสองคนแรกที่รีบวิ่งลงมาระวังตัวอย่างมาก ถือปืนค้นหาศัตรู
เห็นเงาร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากควัน สมาชิกแก๊งคนหนึ่งตะโกน "นั่นไง!"
ทันใดนั้น ทั้งสองคนก็เหนี่ยวไกปืน กระสุนพุ่งออกมาเป็นสายฝน พุ่งตรงไปยังร่างที่โผล่ออกมาจากควัน
กระสุนทะลุผ่านร่างในควันไป แต่กลับไม่มีเสียงกรีดร้องหรือความรู้สึกว่ายิงโดนเนื้อหนังแต่อย่างใด
ที่แท้ชาร์ลส์ ดอยล์ใช้จุตสึเงาสร้างภาพลวงตาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
ในวินาถัดมา คุไนหลายเล่มถูกขว้างพุ่งไปยังทิศทางที่มีเสียงปืน
"อ๊ากกก... โอ๊ยยย..." เสียงกรีดร้องดังขึ้นสองครั้ง และสมาชิกแก๊งสองคนที่เพิ่งยิงปืนก็ล้มลงตายคาที่
เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงกรีดร้องหยุดลง เหล่าสมาชิกแก๊งที่เพิ่งคว้าอาวุธและกำลังรีบวิ่งลงบันไดมาเสริมกำลังสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นทันที
ความรีบร้อนที่พวกเขาพุ่งลงบันไดมาแปรเปลี่ยนเป็นความระแวดระวัง ย่างก้าวช้าลง เตรียมยิงไปที่มุมอย่างไร้จุดหมาย
ในจังหวะนั้น ชาร์ลส์ ดอยล์วิ่งทะยานไปถึงบันไดทางเข้าชั้นสอง
เขาย่อตัวลง แล้วพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูง ทำให้พื้นปูนแตกร้าว ราวกับสายฟ้าฟาด เขาพุ่งตรงขึ้นชั้นสอง
สมาชิกแก๊งที่กำลังเตรียมตัวให้การสนับสนุนตามทางจู่ๆ ก็พบว่าดาวกระจายพุ่งตัดลำคอ จบชีวิตพวกเขา
ท่ามกลางห่ากระสุน ชาร์ลส์ ดอยล์ยังคงอาละวาด คร่าคนแล้วคนเล่าราวกับยมทูต
สมาชิกแก๊งบนชั้นสองตอนนี้อยู่ในสภาพโกลาหล ไม่สามารถรวมกำลังโต้กลับได้อย่างเต็มกำลังอีกต่อไป
สามคนถึงกับฉวยโอกาสทุบกระจกหน้าต่าง ตะโกนลั่นพลางกระโดดลงไป
นอกจากสามคนที่กระโดดออกหน้าต่าง สมาชิกแก๊งทั้งหมดบนชั้นสองถูกดาวกระจายของชาร์ลส์ ดอยล์ สังหารทั้งหมด
และเขาก็ผ่านความวุ่นวายนั้นมาได้โดยไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย!
มาถึงหน้าต่างที่แตกละเอียด ชาร์ลส์ ดอยล์ มองดูสมาชิกแก๊งสามคนที่กำลังเดินกะเผลกพยายามหนี เขาใช้คุไนสามเล่มในมือแล้วขว้างใส่พวกที่กำลังหนี
"ฟิ้ว... ฟิ้ว... ฟิ้ว..."
คุไนทั้งสามปักเข้าที่คอของสมาชิกแก๊งที่กำลังหนีในทันที วินาทีถัดมา ทั้งสามที่ยังไม่ทันถึงถนนก็ล้มลงกับพื้น
เลือดพุ่งกระฉูดจากลำคอ ย้อมพื้นใต้ร่างเป็นสีแดงฉาน
เห็นทั้งสามตายสนิท ชาร์ลส์ ดอยล์ พยักหน้าอย่างพอใจ
"ไม่มีใครหนีรอดไปได้สักคน!"
หลังจากสะบัดคราบเลือดออกจากดาวกระจาย ชาร์ลส์ ดอยล์ ลงมาจากชั้นสอง มาถึงทางเข้าชั้นใต้ดินที่เมื่อก่อนมียามสี่คนเฝ้าอยู่
พอเข้ามา เขาสังเกตเห็นว่ามีคนหนึ่งยังไม่ตายสนิท เขาเดินเข้าไปใกล้และลงมือสังหารให้จบ ส่งเขาไปสู่ความตาย
จากนั้นจึงเริ่มตรวจสอบทางเข้านี้อย่างละเอียด
เขาพบว่าทางเข้าชั้นใต้ดินถูกปิดกั้นด้วยประตูห้องนิรภัยขนาดใหญ่ ไม่ใช่ประตูไม้ธรรมดาหรือประตูนิรภัยที่ใช้ตามบ้าน
แต่เป็นประตูเหล็กกล้าหนาอย่างน้อยสิบเซนติเมตร
เขาเคยสงสัยว่าทำไมไม่มีกำลังเสริมมาจากชั้นใต้ดินในเวลาที่มีคนวิ่งลงมาจากชั้นสอง ที่แท้ประตูนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตัดขาดด้านในกับด้านนอก
แม้แต่คนด้านนอกก็ต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงจะเปิดได้
ขณะเดียวกัน ยามทั้งหกคนในชั้นใต้ดินก็กำลังตึงเครียด
หนึ่งในสมาชิกแก๊งที่ถือปืนกลสงครามเอ่ยขึ้น "ทาน่า ข้างนอกไม่มีเสียงเคลื่อนไหวแล้ว จะเป็นไปได้ไหมว่าจัดการศัตรูได้แล้ว?"
ทาน่า ชายที่ถูกเรียก ไม่ได้ตอบโดยตรง แต่กดปุ่มที่เข็มขัดแล้วพูดผ่านหูฟัง "แซม สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง? วิกฤตจบแล้วหรือยัง?"
นอกประตูห้องนิรภัย หูของชาร์ลส์ ดอยล์กระดิก เมื่อได้ยินเสียงดังผ่านหูฟังจากศพที่นอนอยู่บนพื้น
เขาเดินไปหยิบวิทยุสื่อสารและหูฟัง แล้วพูดกับคนข้างใน
"แซมตายแล้ว เดี๋ยวก็ถึงคิวพวกแกเหมือนกัน!"
วินาทีถัดมา เขาบีบวิทยุสื่อสารในมือจนแหลกละเอียด เศษซากร่วงหล่นจากนิ้วมือ
หลังประตูห้องนิรภัย-
ตอนนี้ทุกคนสบตากัน คำพูดที่ส่งผ่านวิทยุสื่อสารไม่ได้ถูกได้ยินแค่ชาร์ลส์ ยามทุกคนต่างได้ยินด้วยเช่นกัน
"มันเข้ามาไม่ได้หรอก ประตูห้องนิรภัยนี้วิโก้สั่งทำพิเศษ อ้างอิงจากประตูห้องนิรภัยของธนาคาร ถ้าไม่มีระเบิดแรงสูง เปิดไม่ออกแน่"
ได้ยินการวิเคราะห์ของทาน่า เส้นประสาทของอีกห้าคนก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ทาน่าพูดต่อ "ม็อด แกรีบโทรหาวิโก้บอกให้ส่งกำลังเสริมมาเร็ว บอกว่าฐานโดนโจมตี"
ชายที่ชื่อม็อดรีบตื่นตัวทันทีและรีบวิ่งไปด้านข้าง เขาหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะและเริ่มกดหมายเลข...