ตอนที่แล้วตอนที่ 584 วิธีนี้ใช้ได้ผลเสมอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 586 ภาพถ่ายชุดแต่งงานของ ซู หนิงซวง

ตอนที่ 585 รูปถ่ายจาก ซู หนิงซวง


นี่คือกุญแจรถ เป็นของรถ Bentley Flying Spur มูลค่ากว่าหกล้านหยวน

เนื่องจากเขามาอย่างเร่งรีบจึงไม่ได้เตรียมเช็ค หรือสิ่งของอื่นๆ มาด้วย มีเพียงแค่รถคันนี้เท่านั้น

“นี่เป็นเพียงความตั้งใจเล็กๆ น้อยๆ หลังจากนี้ผมจะเตรียมของแสดงความขอบคุณมากกว่านี้ครับ”

เฟิง อันเจิ้ง ให้คำมั่นยืนยัน

“ใช่แล้ว วันนี้ คุณเย่ ลำบากมากแล้ว หลังจากนี้ผมจะไม่ทำให้ คุณเย่ ต้องผิดหวังแน่นอน”

หลังจากนั้น เฟิง อันเจิ้ง ก็กล่าวเสริมอีกประโยค

“ต่อไป อย่าให้ผมกับพี่ชายได้เจอ เฟิง กวางจี้ อีก เข้าใจไหม?”

เย่เฉิน พูดขึ้น

ค่าชดเชยแค่นี้ เย่เฉิน ไม่สนใจอยู่แล้ว แต่หลักๆ คือปัญหาที่ เฟิง กวางจี้..

“ผมรับรองว่า ต่อไปนี้จะไม่ให้ เฟิง กวางจี้ เหยียบเข้ามาในเซี่ยงไฮ้อีกแม้แต่ก้าวเดียว”

เฟิง อันเจิ้ง รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“ทำไมแกถึงยังไม่รีบขอบคุณ คุณเย่ อีก”

เฟิง อันเจิ้ง เตะลูกชายของเขาอีกครั้ง

“ขะ...ขอบ...คุณ...คุณ...เย่...”

เฟิง กวางจี้ ที่ถูกทุบตีอย่างหนักจนพูดแทบไม่เป็นคำพูด ต้องพูดออกมาด้วยความยากลำบาก

เย่เฉิน โบกมือ ส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนออกไปได้

“ขอบคุณ คุณเย่ ขอบคุณ คุณเย่ ที่ใจกว้าง”

เฟิง อันเจิ้ง รีบช่วยประคองลูกชายของเขาออกไป ในที่สุดเรื่องก็กระจ่าง และจัดการได้อย่างสมบูรณ์ โดยใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ..แค่พ่อสั่งสอนลูกชายตัวเองก็จบเรื่องได้ง่ายๆ

“น้องชาย ขอบคุณมากนะ”

เย่ ซิงเหยียน กล่าวด้วยความจริงใจ

ถ้าไม่ใช่เพราะ เย่เฉิน เรื่องของ เฟิง กวางจี้ ก็คงไม่จบง่ายขนาดนี้ ถ้าไม่มีน้องชายคอยช่วย เฟิง อันเจิ้ง คงไม่แม้แต่จะชายตามองเขาด้วยซ้ำ

“เกรงใจกันไปได้ พี่ชาย”

เย่เฉิน ก็ไม่ได้ลงแรงอะไรมากมาย และถึงอย่างไรเราก็คนในครอบครัวกันเอง

“รถคันนี้น้องเก็บไว้เถอะ”

เย่ ซิงเหยียน เลื่อนกุญแจรถ Bentley Flying Spur ที่ เฟิง อันเจิ้ง ทิ้งไว้ไปตรงหน้า เย่เฉิน

“พี่ชาย กับพี่สะใภ้กำลังจะแต่งงานอยู่พอดี ยังไงก็ต้องมีรถไว้ใช้งาน”

“รถของผมมีเยอะแล้ว ไม่จำเป็นหรอก คันที่ผมเพิ่งขับมาก็มีมูลค่าพอๆ กับ Bentley สิบ หรือยี่สิบคันรวมกันได้มั้ง”

เย่เฉิน ปฏิเสธ และยื่นกุญแจรถคืนให้ เย่ ซิงเหยียน

“สิบ หรือยี่สิบคัน?”

เย่ ซิงเหยียน ตกใจมาก

จากเท่าที่เขารู้ รถ Bentley หนึ่งคันก็ตกราวๆ ห้าล้านหยวน หรือบางคันอาจจะแพงกว่านั้นด้วยซ้ำ

รถที่น้องชายเขาขับมาจะแพงขนาดนั้นจริงหรือ?

นั่นคงเป็นรถที่แพงที่สุดในชีวิตที่เขาเคยนั่งแล้วละ

เขาช่างโชคดีเหลือเกินที่มีน้องชายคนนี้ ที่คอยช่วยแก้ปัญหา เฟิง กรุ๊ป ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น

น้องชายเคยบอกไว้ว่าหนึ่งวันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการเรื่องของ เฟิง กรุ๊ป ได้สบายๆ ตอนนี้เห็นชัดเลยว่าจริงมาก

และนี่ยังดูเป็นการประมาณแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดเลยด้วยซ้ำ

“ว่าแต่พี่ พี่มีบ้านสำหรับใช้เป็นเรือนหอแล้วหรือยัง?”

เย่เฉิน ถามขึ้นมา

เมื่อถูกถาม เย่ ซิงเหยียน พลันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ก่อนจะส่ายหน้าด้วยความเขินอาย

ราคาบ้านในเซี่ยงไฮ้แพงมาก ตอนแรกเขาวางแผนแต่งงานกับแฟนสาวโดยไม่คิดซื้อบ้านในเซี่ยงไฮ้

“งั้นดีเลย ผมจะยกบ้านที่ทอมสัน ริเวียร่า ให้เป็นเรือนหอของพี่ชายเอง ถือเป็นของขวัญแต่งงานจากน้องชายคนนี้”

เย่เฉิน ยังมีบ้านที่ทอมสัน ริเวียร่าว่างอยู่พอดี ยกให้เป็นบ้านของพี่ชายไปเลย

ตอนนี้พี่ชายมีรถแล้ว ขาดก็แค่บ้าน ซึ่งก็จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว เขาที่ซึ่งเป็นน้องชายส่งบ้านที่ทอมสัน ริเวียร่า ให้ไปได้ก็เหมาะเจาะพอดี

บ้านที่ทอมสัน ริเวียร่า สำหรับ เย่เฉิน นั้นไม่ใช่อะไรเลย แต่สำหรับพี่ชายแล้ว มันสำคัญมาก

ถือเป็นการขอบคุณพี่ชาย และพี่สะใภ้ที่เคยดูแลเขามาก่อนหน้านี้

“อะไรนะ ทอมสัน ริเวียร่า?”

เย่ ซิงเหยียน ถึงกับอึ้ง บ้านที่นั่นถือว่าเป็นที่พักอาศัยสุดหรู และมีชื่อเสียงมากในประเทศ

“ไม่ได้หรอกน้องชาย มันมากเกินไป”

เย่ ซิงเหยียน รีบปฏิเสธ บ้านที่นั่นมูลค่าหลายสิบล้าน บางหลังก็หลายร้อยล้าน มันแพงเกินไป

“พี่ชาย บ้านนี้ไม่ใช่แค่ให้พี่ แต่ให้พี่สะใภ้ด้วยนะ”

เย่เฉิน ยิ้มไปพลางส่ายศีรษะ เขาจำได้ดีว่าพี่สะใภ้ก็ดีกับเขามาก และเคยให้อั่งเปาซองใหญ่แก่เขาด้วย

ในท้ายที่สุด เย่ ซิงเหยียน ก็ยอมรับมันด้วยความยินดี เมื่อ เย่เฉิน ยังคงยืนกราน

“เรื่องครอบครัวของพี่สะใภ้ไม่ต้องกังวลไป พอถึงวันแต่งงาน ก็เชิญพวกเขามา พอเห็นทั้งหมดนี้แล้ว พวกเขาจะไม่คัดค้านแน่นอน”

เย่เฉิน พูดขึ้น

งานแต่งงานที่โรงแรมบุลการี ซึ่งเป็นโรงแรมหรูในเซี่ยงไฮ้ บวกกับบ้านหรูที่ทอมสัน ริเวียร่า และรถ Bentley Flying Spur ก็เพียงพอจะทำให้ครอบครัวพี่สะใภ้ยอมรับแล้ว

หลังจากแก้ปัญหา เฟิง กรุ๊ป เย่เฉิน ก็แยกย้ายกับ เย่ ซิงเหยียน

ขณะที่ เย่เฉิน กำลังติดไฟแดงอยู่ก็มีข้อความแจ้งเตือนจากเกมเด้งขึ้นมา

[ติ๊ง!]

[ภารกิจท้าทาย : ช่วย เย่ ซิงเหยียน และเติ้ง มินมิน จัดงานแต่งงานให้สำเร็จ พร้อมกับอวยพรคู่บ่าวสาว]

[รางวัลภารกิจ : หุ้น 5% ของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป]

[รางวัลภารกิจ : 60 คะแนนค่าประสบการณ์]

[รางวัลภารกิจ : 29 คะแนนสะสม(ร้านค้า)]

เมื่อเห็นภารกิจจากเกม เย่เฉิน ก็ยกยิ้มขึ้นมา

เกมช่างรู้จังหวะเหมาะเจาะดีจริงๆ เขาตัดสินใจจะช่วยพี่ชายตั้งแต่ตอนที่เจอกันเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว และวางแผนจะช่วยให้พี่ชาย กับพี่สะใภ้แต่งงานกันได้อย่างราบรื่นอยู่แล้ว

ตอนนี้ก็จัดการเรื่องสำคัญหลักๆ ไปได้หนึ่ง ที่เหลือก็แค่เรื่องง่ายๆ

ไม่คิดเลยว่าเกมจะปล่อยภารกิจแบบนี้ออกมา มันก็เหมือนกับการให้หุ้น 5% ของเครือโรงแรมฮิลตัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป แก่เขาไปแบบฟรีๆ

ซึ่งถือว่าเป็นเงินก้อนโตเลยทีเดียว..

อีกทั้งเมื่อเขาได้หุ้น 5% นี้ จะทำให้เขาถือหุ้นถึง 10% ทำให้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้นในเครือโรงแรมฮิลตัน

และบางทีอาจได้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพล – ‘แบล็กสโตน กรุ๊ป’ ด้วย

ไม่เลว ไม่เลว..

วันรุ่งขึ้น ขณะที่ เย่เฉิน กำลังเรียนอยู่ช่วงพักอาจารย์ที่ปรึกษาก็เข้ามาหาเขา

“ผลงานการแข่งขันเขียนพู่กันในรอบแรกส่งมาหมดแล้ว กำลังเตรียมคัดเลือก เธอซึ่งเป็นกรรมการหลักต้องไปดูด้วยนะ”

“ได้ครับ”

เย่เฉิน จึงเดินออกจากห้องเรียนไปพร้อมกับอาจารย์ที่ปรึกษา

หลังจากเดินไปมาจนมาถึงห้องประชุมใหญ่ห้องหนึ่ง ในขณะนั้นมีผู้บริหารของคณะที่เป็นกรรมการกำลังอยู่ในห้องประชุมด้วย

“คณบดีฉิน คนนี้คือ เย่เฉิน เพื่อนนักเรียน เย่ คะ”

เมื่อพา เย่เฉิน เข้ามาในห้อง อาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำตัวเขา

คณบดีฉิน คือคณบดีของคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เป็นกรรมการหลักร่วมกับ เย่เฉิน

“สวัสดี เพื่อนนักเรียน เย่เฉิน”

คณบดีฉินทักทาย เย่เฉิน อย่างอบอุ่น โดยไม่มีท่าทีเหมือนผู้บริหารระดับสูง แต่เหมือนทักทายคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน

เย่เฉิน เข้าใจดีว่า คณบดีฉิน ที่ให้เกียรติเขาแบบนี้เพราะเขามีตำแหน่งเป็นรองประธานสมาคมอักษรศาสตร์แห่งชาติ

หากไม่ใช่เพราะสถานะนี้ คณบดีก็คงไม่พูดกับนักศึกษาเช่นนี้

ครั้งหนึ่ง เย่เฉิน เคยเห็น คณบดีฉิน พูดในงานประชุมมาก่อน ตอนนั้นดูเคร่งขรึมมากจนไม่น่าเข้าใกล้เลย

นี่ถือเป็นข้อดีของการมีสถานะสูงจริงๆ

“คณบดีฉิน”

เย่เฉิน ก็ทักทาย คณบดีฉิน ด้วยความสุภาพเช่นกัน

หลังจากนั้น ผู้บริหารท่านอื่นๆ ในคณะต่างก็เข้ามาทักทาย เย่เฉิน เช่นกัน ท่าทางของพวกเขาคล้ายคลึงกับ คณบดีฉิน

ด้วยเพราะตำแหน่งของ เย่เฉิน ทุกคนจึงดูให้ความสุภาพกันเป็นพิเศษ

มีเพียงศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนพู่กันไม่กี่คนที่เข้ามาทักทายด้วยความนับถือความสามารถทางด้านการเขียนพู่กันของ เย่เฉิน จริงๆ

หลังจากที่คัดเลือกผลงานจนได้รายชื่อผู้เข้าแข่งขันในรอบชิง

การประชุมหารือกันก็ดำเนินไปได้ครึ่งทาง คณบดีฉิน ยังมีธุระต้องทำจึงจากไปก่อน

แต่ก่อนจะออกไปก็ได้ขอแลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อกับ เย่เฉิน เป็นพิเศษ เขาดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับ เย่เฉิน มาก หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือเขาเห็นอนาคตที่สดใสของ เย่เฉิน

“เพื่อนนักเรียน เย่เฉิน ถ้ามีปัญหาอะไร มาหาฉันได้เลยนะ”

คณบดีฉิน กล่าวอย่างใจดี ก่อนจะเดินจากไป

หลังออกจากห้องประชุม เย่เฉิน ก็ได้รับรูปถ่ายจาก ซู หนิงซวง

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด