ตอนที่ 109 ระฆังสะท้านฟ้า เขตแดนเทพย้อนกลับ(ฟรี)
แสงสองกลุ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
กลุ่มแรกดูเหมือนเนบิวลาย่อส่วน เปล่งประกายลึกลับ แม้แต่พลังจิตระดับเจ็ดของเขาก็ยังรู้สึกวิงเวียน
กลุ่มที่สองเป็นระฆังทองสัมฤทธิ์ขนาดเล็กที่มีอักขระหนาแน่น ดูเรียบง่าย
หลี่หยวนเอื้อมมือไปแตะกลุ่มแรก
เขารู้สึกเย็นๆ และก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร แสงก็ส่องเข้าไปในผิวหนังของเขา
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลก็ปรากฏขึ้นในใจ
“...เขตแดนเทพย้อนกลับ”
หลี่หยวนพึมพำ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขตแดนเทพย้อนกลับ
มันคือเขตแดนชนิดหนึ่ง
แต่มันไม่ใช่เขตแดนธรรมดา มันเกี่ยวข้องกับ ‘เวลา’
เขาสามารถย้อนเวลาภายในเขตแดนได้โดยใช้พลังปฐมภูมิ
เช่น ถ้าหลี่หยวนถูกดาบแทงทะลุหัวใจ
ตราบใดที่เขายังมีสติ
หลี่หยวนก็สามารถเปิดใช้งานเขตแดนย้อนกลับ ย้อนเวลากลับไปก่อนจะถูกแทง และหลบดาบ
“นี่มันวิชาเทพชัดๆ ไม่รู้ว่าพลังจิตระดับเจ็ดของฉันจะย้อนเวลากลับไปได้นานแค่ไหน...”
หลี่หยวนรู้สึกถึงร่างกายที่เหนื่อยล้า เขาจึงระงับความคิดที่จะทดลอง
เขากำลังจะแตะกลุ่มแสงที่สอง
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงสายตานับไม่ถ้วนที่มองมา ราวกับว่าพวกเขาอยากจะมองทะลุเขา
"มหาปราชญ์ยุทธ์ของทุกเผ่าพันธุ์...”
หลี่หยวนยืดตัวขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาสงบนิ่ง เขาเผชิญหน้ากับสายตาเหล่านั้นโดยไม่กลัว
ครู่หนึ่ง สายตาเหล่านั้นก็หายไป
แต่ชื่อของหลี่หยวนจะถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกเผ่าพันธุ์
“...กลับไปก่อน ค่อยว่ากัน”
หลี่หยวนรู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่ไหวแล้ว เขาต้องการนอนหลับพักฟื้น
แสงที่ห่อหุ้มระฆังทองสัมฤทธิ์จมลงในร่างกายของเขา
รวมถึงมังกรแดงเก้าสิบเก้าตัวที่ชายที่สวมชุดจักรพรรดิมอบให้ เขาจะตรวจสอบพวกมันตอนกลับไป
ตอนที่เขากำลังจะจากไป
บนบันไดขั้นที่ 8,000 กว่าๆ
นักบุญเผ่าวิญญาณก้าวไปข้างหน้า "เดี๋ยวก่อน”
หลี่หยวนมองดูนักบุญ
เขาพูดอย่างใจเย็น "มีอะไรรึเปล่าครับ?”
ดวงตาสีเงินของนักบุญจ้องมองเขา "นายเจออะไรที่ด่านสุดท้าย? เป็นบรรพบุรุษของฉันรึเปล่า?”
มีข่าวลือว่าผู้เฝ้าประตูบนเส้นทางหมื่นดวงดาวคืออัจฉริยะของทุกเผ่าพันธุ์
ในยุคจักรพรรดิวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เผ่าวิญญาณเกิดความวุ่นวาย วัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของเผ่าวิญญาณสูญหายไป
พวกเขาตามหามันมานานกว่า 2,000 ปี ก็หาไม่เจอ
พวกเขาจึงหวังว่าจะได้เจอบรรพบุรุษระดับมหาปราชญ์ยุทธ์ของเผ่าวิญญาณบนเส้นทางหมื่นดวงดาว และได้เบาะแส
หลี่หยวนส่ายหน้า "ไม่ใช่ครับ”
จากนั้นร่างกายของเขาก็กลายเป็นอุกกาบาตสีทอง พุ่งไปยังใจกลางดวงดาว
...
จัตุรัสใต้ดินของกองทัพที่เก้า...
หลี่หยวนลืมตาขึ้น เขานั่งสมาธิมาห้าวัน พลังปราณและพลังจิตถูกใช้ไปจนหมด พอลุกขึ้น เขาก็หน้ามืด เกือบจะเป็นลม
เพียะ——!
ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขา ตบไหล่เขาอย่างมีความสุข "ยินดีด้วย นายได้ที่หนึ่งแล้ว และถูกขึ้นบัญชีดำของเผ่าพันธุ์ต่างดาว”
ใบหน้าของหลัวซวงเต็มไปด้วยความดีใจและชื่นชม
จากนั้นเธอก็เห็นว่าหลี่หยวนที่ถูกเธอตบไหล่เซล้มลงกับพื้น
เธอตกใจ
หลัวซวงรีบกระโดดถอยหลัง "ฉันแค่แตะเบาๆ นะ อย่ามาแบล็คเมล์ฉันนะ~”
หลี่หยวนถอนหายใจ ปอดของเขารู้สึกเจ็บ
เขายื่นมือออกไปหามู่ฉิว
มู่ฉิวพยุงเขาขึ้น โดยไม่พูดอะไร เธอใช้ดาวบินพาหลี่หยวนออกจากจัตุรัสใต้ดิน
หลัวซวงลังเล
เธอก้มหน้าและเดินตามไป
...
ชายฝั่งตะวันออกของจีน...
เหนือเกาะ...
ในประตูแสง...
ชายชราผมขาวขว้างหอกกับผลึกหลากสีออกไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
ตัวหอกสีดำสนิท บนตัวหอกมีสลักลายกิเลนหินแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า ทำให้มิติสั่นสะเทือนเล็กน้อยภายใต้แรงกดดันของมัน
แสงลึกลับลอยอยู่บนพื้นผิวของผลึกหลากสี มองเห็นเงาของเทพเลือนราง
"ไม่คิดเลยว่าคุณไป๋จะรักษาสัญญา”
จั่วเฟิงเก็บธนูยาว เอาหอกกับทารกเทพไป
เขาไม่รอช้า
หันหลังกลับและจากไป
ชายชราผมขาวจ้องมองไปในทิศทางที่จั่วเฟิงหายไป
ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจได้
"แจ้งให้คนตระกูลไป๋ทุกคนที่อยู่ข้างนอกกลับไปที่ไป๋โจวตงเทียน อีกสามวัน ไป๋โจวตงเทียนจะปิดผนึกเป็นเวลาพันปี”
"อะไรนะ?"
เสียงตกใจดังขึ้น "แต่ท่านบรรพบุรุษ แล้วเหมืองกับภูเขายาที่เราบริหารอยู่ข้างนอกล่ะ?”
"ทิ้งมันไปซะ!”
ชายชราผมขาวพูดอย่างเด็ดขาด "ใครที่ไม่กลับมาหลังจากสามวัน คนคนนั้นจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไป๋โจวตงเทียนอีกต่อไป”
"...... ครับ”
...
สองวันต่อมา...
ในหอพักของมู่ฉิว...
หลี่หยวนลืมตาขึ้น เขารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรง
เขามองไปรอบๆ ห้องนอน
ไม่เห็นมู่ฉิว
เขานอนอยู่บนเตียงและหยิบรางวัลที่สองออกมา
ระฆังทองสัมฤทธิ์ – ระฆังสะท้านฟ้า
ปล.เอาแล้วเริ่มเดือดดด พระเอกเราโดนหมายหัวแล้ว