ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 37 งานชุมนุมล่าสัตว์ เริ่มต้นขึ้น
ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 37 งานชุมนุมล่าสัตว์ เริ่มต้นขึ้น
กู้ฉางเซิงมิได้ล่วงรู้ว่า ณ เบื้องหลัง มีสตรีกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้น
เรื่องกายาสุญตา เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก
มหาสงครามแห่งยุคสมัย อัจฉริยะฟ้าประทานมากมาย การปรากฏตัวของกายาสุญตา มิใช่เรื่องน่าประหลาดใจ
รุ่งอรุณวันถัดมา แรงกดดันอันน่ากลัวยิ่งนักปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าเมืองเป่ยหวง เห็นเพียงเงาร่างลาง ๆ หลายร่างปรากฏขึ้น ทุกคนต่างมีกลิ่นอายแข็งแกร่ง ระดับตบะเหนือกว่าระดับหวนเอกา
ชายชุดเขียวผู้มีรูปร่างสูงสง่าผู้นั้น ก็คือเจ้าเมืองเป่ยหวง
ข้างกายของเขามีชายชุดคลุมลายภูเขาท้องทะเล สุริยัน จันทรา ปลดปล่อยกลิ่นอายน่าเกรงขาม
ชายผู้นั้นสวมมงกุฎทองคำ ราวกับจอมราชาชรา มีชายชราชุดเต๋าถือไม้ปัดฝุ่น และสตรีนางหนึ่งสวมชุดคลุมลายเมฆา
พวกเขาคือผู้ที่ปรากฏตัวขึ้น ณ ชายแดนสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงเมื่อไม่กี่วันก่อน
ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ดึงดูดความสนใจของผู้บำเพ็ญส่วนใหญ่ในเมืองเป่ยหวง
คนรุ่นใหม่มากมายต่างก็คาดเดา พวกเขามองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น “ในที่สุดงานชุมนุมล่าสัตว์ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้วหรือ? หากข้าสามารถบรรลุลำดับที่ดี ข้าจะได้รับมรดกวิชาเวทที่แข็งแกร่ง!”
“เมื่อพันปีก่อน ผู้อาวุโสคนหนึ่งในสำนักของข้าเคยเข้าร่วมงานชุมนุมล่าสัตว์ และได้รับวิชาพลังอิทธิฤทธิ์เป็นรางวัล ตอนนี้ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว!”
นี่คือโอกาส โอกาสในการพลิกชะตา
สิ่งของที่นิกายอมตะขนาดใหญ่มอบให้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ย่อมเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา
เจ้าเมืองเป่ยหวงมองดูเบื้องล่าง ภายในใจรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดัง “ดั่งที่ทุกท่านคาดเดางานชุมนุมล่าสัตว์ที่จัดขึ้นทุกพันปีจะเริ่มต้นขึ้น ณ เมืองเป่ยหวง สุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเป็นระยะทางสามหมื่นลี้เกิดการเปลี่ยนแปลง สิ่งของมิแตกดับตกลงมา ทำให้สัตว์อสูรในรัศมีหลายพันลี้สูญเสียจิตวิญญาณ ตกอยู่ในความมืด เมื่อสามวันก่อน คลื่นสัตว์ทมิฬได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว กำลังมุ่งหน้ามายังเมืองเป่ยหวง!”
ในสายตาของเขา เมื่อคลื่นสัตว์ทมิฬมาถึง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ทุกที่ที่พวกมันผ่านไป ล้วนต้องพบเจอกับหายนะ
นี่คือสิ่งที่เขาไม่อยากเห็น
แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าเมืองเป่ยหวงไม่คาดคิดมาก่อนก็คือ เสียงของเขาดังก้องไปทั่วเมืองเป่ยหวง ผู้คนมากมายต่างก็ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นและดีใจ
ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น ราวกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“วิเศษยิ่งนัก! ข้ารู้ดีว่าต้องเป็นงานชุมนุมล่าสัตว์!”
“ถูกต้อง สามตระกูลอมตะต่างก็ปรากฏตัว นิกายอมตะขนาดใหญ่มากมายก็มุ่งหน้ามายังที่แห่งนี้ นี่ต้องเป็นงานชุมนุมล่าสัตว์ที่จัดขึ้นทุกพันปี ข้าจะต้องบรรลุลำดับที่ดี ได้รับวิชาพลังอิทธิฤทธิ์ล้ำค่า พลิกชะตา ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด!”
“คลื่นสัตว์ทมิฬแล้วอย่างไร? ยังคงมีตระกูลอมตะและนิกายอมตะขนาดใหญ่อยู่ พวกมันจะสามารถทำอันใดได้? นี่เป็นเพียงการฝึกฝนศิษย์รุ่นเยาว์เท่านั้น”
ผู้บำเพ็ญมากมายต่างก็กล่าววิพากษ์วิจารณ์
เจ้าเมืองเป่ยหวงเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มอย่างขมขื่น ผู้คนเหล่านี้ไม่เคยพบเจอกับคลื่นสัตว์ทมิฬ พวกเขาไม่รู้ว่ามันน่ากลัวเพียงใด กลับรู้สึกดีใจ
แต่เขาก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด เพราะยังคงมีนิกายอมตะขนาดใหญ่มองดูเหตุการณ์อยู่
“ลำดับของงานชุมนุมล่าสัตว์นั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งใด?”
ทันใดนั้น ก็มีคนรุ่นใหม่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“เมื่องานชุมนุมล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น บนท้องฟ้าจะมีสมบัติลับของนิกายอมตะขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น นั่นคือคันฉ่องเบิกฟ้าดิน มันถูกหลอมสร้างขึ้นจากเหล็กดาวตกเย็นที่หนักกว่าสิบล้านจินจากต่างแดน ผสมผสานกับดวงดาวไร้ผู้คน และวัสดุล้ำค่ามากมาย”
“คันฉ่องเบิกฟ้าดินสามารถบันทึกตัวตนและจำนวนสัตว์อสูรที่ทุกคนสังหารได้อย่างแม่นยำ”
ชายชรากล่าวอย่างนอบน้อม
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
คันฉ่องเบิกฟ้าดิน เป็นสมบัติลับที่ต้องใช้ผู้แข็งแกร่งมากมายร่วมมือกันจึงจะสามารถกระตุ้นได้ พวกเขาเคยมีโอกาสได้พบเจอ ขนาดใหญ่โตเทียบเท่าภูเขา ปลดปล่อยแสงสว่างราวกับดวงดาว
ในเวลานั้น เสียงคำรามดังกึกก้องมาจากส่วนลึกของเมืองเป่ยหวง ราวกับดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนที่
แสงสว่างเจิดจรัส ปกคลุมสี่ทิศแปดทาง
ยันต์วิเศษมากมาย แปรเปลี่ยนเป็นมหาสมุทร เชื่อมต่อกัน ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน
นั่นคือดวงดาวดวงหนึ่ง แต่มันถูกนำลงมาจากต่างแดน และถูกหลอมรวม ทำให้มีขนาดเล็กลงนับไม่ถ้วน
“คันฉ่องเบิกฟ้าดินถูกกระตุ้นแล้วหรือ?”
ภายในเขตที่พักของตระกูลกู้ กู้ฉางเซิงลุกขึ้นยืน ภายในดวงตามีรูปอักขระสั่นไหว มองไปยังทิศทางนั้น คันฉ่องเบิกฟ้าดินนี้ เขาย่อมรู้จัก
ตอนนี้ถูกตระกูลอมตะหยิงเก็บรักษาไว้ เพราะเมื่อพันปีก่อน พวกเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
กล่าวขานว่าหากใช้พลังทั้งหมด สามารถทำลายนิกายใหญ่ที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้
เมื่อคันฉ่องเบิกฟ้าดินลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า บนท้องฟ้าก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ราวกับภูเขาท้องทะเล
บนนั้นเริ่มต้นแสดงรายชื่อของขุมอำนาจและศิษย์
ตระกูลอมตะกู้: กู้ฉางเซิง กู้หมิงหวง กู้กวงหมิง......
ตระกูลอมตะหยิง: หยิงเอ๋อร์ หยิงเนี่ย......
ตระกูลอมตะฉิน: ฉินชิงชิง ฉินห่าวเยวี่ย......
ทะเลสาบผู้วายชนม์ โถงมรรคาสวรรค์ นิกายสวรรค์ธยานะ......
แม้แต่ชื่อของผู้บำเพ็ญอิสระก็ปรากฏขึ้น
ผู้บำเพ็ญในเมืองเป่ยหวงที่มีระดับตบะเหนือกว่าระดับแยกปฐพี แต่อายุไม่เกินห้าสิบปี ล้วนปรากฏชื่ออยู่บนนั้น
“ข้าเห็นชื่อของข้าแล้ว!”
“ข้าก็เห็นเช่นกัน!”
ผู้บำเพ็ญมากมายต่างก็ตกตะลึงกับวิธีการที่น่ากลัวยิ่งนักนี้
“ข้าเห็นชื่อสำนักและชื่อของข้าแล้ว! สมบัติลับชิ้นนี้ช่างน่าประหลาด มันรู้จักตัวตนของพวกเราได้อย่างไร?”
“ข้าไม่รู้ แต่นี่คือวิธีการของนิกายอมตะขนาดใหญ่!”
ขณะที่ผู้คนกำลังตกตะลึง บนท้องฟ้าก็เกิดการบิดเบี้ยว เห็นเพียงชายชรากลิ่นอายแข็งแกร่งหลายคนปรากฏขึ้น ปราณโลหิตพุ่งทะลักราวกับมังกร ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ยืนยง!
“งานชุมนุมล่าสัตว์ เริ่มต้นขึ้น!”
ชายชราชุดทองคนหนึ่งกล่าวประกาศ
