บทที่ 964: ความตายเท่านั้นที่เท่าเทียม
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 964: ความตายเท่านั้นที่เท่าเทียม
"ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วใช่มั้ยว่า สิ่งนี้เรียกว่าการคืนชีพ แต่จริงๆ แล้วมันคือการรักษาและฟื้นฟูพลัง ถ้าตายไปแล้ว มันก็ไร้ประโยชน์"
"จำได้สิ นายยังบอกอีกว่า ถ้าไม่ดัดแปลง ไอ้นี่ก็ใช้ได้แค่กับโปเกมอนที่นายสร้างขึ้นมา หรือพวกที่มีพลังโปเกมอนเท่านั้น"
"ในเมื่อดัดแปลงได้ นายก็ทำให้มันสุดๆ ไปเลยสิ อย่างเช่น ทำให้ไอ้เฒ่านั่นกลับเป็นหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวได้ชั่วคราว?"
ในการต่อสู้ ความสามารถที่ยากจะรับมือที่สุดของอาร์เซอุสคือการต้านทาน แต่พลังที่แท้จริงของเขาคือการสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ นั่นแหละแก่นแท้ของมัน
"จะให้ทำก็ทำได้ แต่เจ้าจะทำไปทำไม?"
"ทำไมเหรอ? บอกไม่ถูกเหมือนกัน ฉันไม่ชอบนิสัยของตาแก่นั่น แต่มันก็เป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ไม่กี่คนที่ฉันยอมรับ คนแบบนี้ถ้าต้องมาตายด้วยน้ำมือคนอื่นมันน่าเสียดาย"
"ถึงมันจะแก่กว่าฉันแค่สิบห้าปี แต่ก็พลาดช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดไป ถ้าไม่ได้สัมผัสมันอีกครั้ง ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน"
ช่วงเวลาบนเรือของร็อคส์ ดี ซีเบ็ค ไคโดแทบไม่เคยปริปากเล่าให้ใครฟัง ชีวิตในช่วงนั้นสำหรับคนอย่างเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ใช้ชีวิตอยู่กับการต่อสู้ สนุกสนานกับความสุขของตัวเอง ตอนนั้นยังมีสาวสวยหุ่นเช้งเป็นเพื่อนคุยอีกต่างหาก
สำหรับไคโด นั่นเป็นความทรงจำที่ดีช่วงหนึ่ง
"แล้วพอสงครามครั้งนี้จบลง รูปแบบของโลกก็จะเปลี่ยนไปอีก พอหนวดขาวตาย พวกเราคงกลายเป็นหนามยอกอกของรัฐบาลโลกแน่ๆ"
"เตโซโรคงปวดหัวน่าดู ช่วงเวลาแบบนี้ต้องหาทางช่วยเขาผ่อนคลายหน่อยแล้ว"
"เจ้าจะใช้หนวดขาวล่อพวกนั้นเหรอ?"
"ใช่แล้ว คนเราเกิดมาไม่เท่าเทียมกัน ทั้งทรัพย์สมบัติ ฐานะ อำนาจ สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเศษสวะได้ขึ้นครองบัลลังก์ตั้งแต่เกิด"
"แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ความตายก็ยุติธรรมกับทุกคน"
"พวกขี้ขลาดพวกนั้นมีอำนาจอยู่ในมือ แต่กลับไม่มีความสามารถที่คู่ควร พวกที่เสพสุขจนเคยตัวมักจะกลัวตายยิ่งกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะพวกแก่ๆ ใกล้ฝั่ง พวกนั้นไม่มีทางปล่อยโอกาสใดๆ หลุดมือไปแน่"
ดูได้จากรายงานทางการเงินที่เตโซโรส่งมา ยาบำรุงส่วนใหญ่ส่งไปให้พวกมังกรฟ้า กับกษัตริย์ของประเทศที่เข้าร่วม รวมถึงพวกพ่อค้าเศรษฐีทั่วโลก
พวกนั้นยอมทุ่มเงินมหาศาล เพื่อที่จะยืดชีวิตของตัวเองออกไป
"ผลปีศาจผ่าตัดถึงขายได้ในราคาห้าพันล้าน ก็เพราะข่าวลือเรื่องการผ่าตัดให้อายุยืนยาวไม่ใช่เหรอไง?"
"สงครามครั้งนี้ไม่มีทางปิดบังคนทั้งโลกได้หรอก ลองคิดดูสิ ถ้าพวกนั้นเห็นหนทางที่จะกลับไปเป็นหนุ่มสาว หรือแม้แต่อมตะ พวกมันจะทำยังไง?"
การใช้อาร์เซอุสทำให้หนวดขาวกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง นอกจากจะเติมเต็มความปรารถนาในการต่อสู้ของตัวเองแล้ว ยังเป็นการปูทางไปสู่อนาคต
เมื่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งค้นพบวิธีที่จะทำให้คนเป็นอมตะ ถึงแม้เบื้องหลังของบริษัทนั้นจะมีปัญหา แต่เป้าหมายของพวกเบื้องบนก็จะเปลี่ยนจากการกวาดล้าง กลายเป็นการช่วงชิงผลประโยชน์นั้นมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม พวกนั้นต้องการสิ่งนี้
ไคโดไม่ได้ไปมารีนฟอร์ดเพื่อท่องเที่ยว การไปครั้งนี้หมายถึงการประกาศศึกกับรัฐบาลโลกอย่างชัดเจน สมาชิกหลักของกลุ่มผลไม้ร้อยอสูรก็อพยพไปกับเรือเร็วแล้ว เพื่อป้องกันสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น
ด้วยพลังของหญ้าคืนชีพ ในกรณีที่ดีที่สุด พวกเขาอาจเจรจาข้อตกลงใหม่ได้
ถึงสถานการณ์จะเลวร้าย ผลลัพธ์ก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว อย่างมากก็คงต้องกลายเป็นองค์กรพิเศษที่คอยหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนสำนักข่าวเศรษฐกิจโลกของมอร์แกนส์
ไคโดรู้สึกว่าแผนการนี้ก็ฟังดูเข้าท่าดี ถ้าโชคร้ายที่สุด ควีนก็แค่ซวยหนักกว่าเดิมเท่านั้นเอง
"ดูสิ เตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์ให้หนวดขาวแบบนี้ ยังไงเราก็ไม่มีทางขาดทุน ทำไมจะไม่ทำล่ะ?"
"เจ้าไปเตรียมตัวเลย ถึงเวลาเดี๋ยวข้าเอาไปให้เอง แต่ระวังหน่อยล่ะ อย่าเผลอเอาเชย์น่ากับคนอื่นๆ ไปเสี่ยงด้วย"
"โว่ะโรโรโร่ะ วางใจเถอะ ไม่ตายหรอก ฉันไม่ได้จะไปตายซะหน่อย อีกอย่างยามาโตะก็ต้องเจออะไรโหดร้ายบ้าง ผ่านมาตั้งนานแล้ว เธอยังไร้เดียงสาอยู่เลย สงครามครั้งนี้คงจะทำให้เธอตาสว่างขึ้นเยอะ"
ใกล้วันสงครามมารีนฟอร์ดเข้ามาทุกที สุนิชาเดินทางไปถึงจุดหมายที่กำหนดไว้แล้ว กำลังพลในอาณาเขตของร้อยอสูรก็รวมตัวกันเสร็จ เริ่มเคลื่อนพลไปยังจุดที่นัดหมาย
ไคโดนำลูกน้องทะยานขึ้นฟ้า กองกำลังต่างๆ ของร้อยอสูรก็เริ่มปฏิบัติการตามแผน
การเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ แน่นอนว่าปิดไม่มิด กองทัพเรือและรัฐบาลโลกแสดงท่าทีระมัดระวัง แต่กลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมกลับเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน ไม่คิดจะปล่อยโอกาสที่หนวดขาวไม่อยู่ไป หมายจะฉวยโอกาสนี้แบ่งเค้กชิ้นโต
เวลาผ่านไป ใกล้วันสงครามมารีนฟอร์ดเข้ามาทุกที ทั่วโลกต่างจับจ้องข่าวสารเกี่ยวกับสงครามครั้งใหญ่
ทะเลใต้ ผู้คนบนท้องถนนต่างหวาดผวา
"อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว หนวดขาวจะมาจริงๆ เหรอ?"
"ใครจะไปรู้ แต่จะมาจริงๆ น่ะเหรอ? ถึงจะเป็นหนวดขาว ก็อายุมากแล้วไม่ใช่เหรอไง?"
"จริงเหรอ?"
"เขาก็เป็นผู้รอดชีวิตจากยุคสมัยก่อนยุคทองของโจรสลัด หลายปีแล้วนะที่ไม่ได้เห็นชื่อเขาในข่าวใหญ่ๆ"
"พวกแกพูดอะไรกัน? เพราะเป็นศัตรูที่มองข้ามไม่ได้ กองทัพเรือถึงเรียกระดมพลไง ฉันว่าเขามาแน่ๆ"
ชายชราคนหนึ่งที่อายุมากกว่าเอ่ยแสดงความเห็น ถ้าเทียบอายุแล้ว เขาก็นับเป็นคนรุ่นเดียวกับหนวดขาว ย่อมรู้จักหนวดขาวมากกว่า
"ถ้างั้นถ้าเขามาจริงๆ จะเป็นยังไงล่ะครับ?"
"ใครจะไปรู้"
ทะเลตะวันออก ฝูงแกะกำลังแทะเล็มหญ้าภายใต้การดูแลของคนเลี้ยงแกะ ผู้คนแถบนี้ดูผ่อนคลายกว่า
"เขาก็เป็นโจรสลัดยุคก่อนๆ แล้วไม่ใช่เหรอ กองทัพเรือจะแพ้ได้ยังไง?"
"ใช่ โจรสลัดแบบไหนก็ไม่มีทางบุกมารีนฟอร์ดได้หรอก"
"นั้นสินะ ยี่สิบกว่าปีก่อน โจรสลัดที่ชื่อชิกิเคยบุกมารีนฟอร์ด ครั้งนั้นทำลายกองทัพเรือไปครึ่งหนึ่งเลยนะ ครั้งนี้กลัวว่าจะหนักกว่าเดิม ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ ก็ต้องมีคนล้มตายมหาศาล
ถ้าหนวดขาวไม่มาจะดีที่สุด หวังว่าการประหารจะผ่านไปด้วยดี"
เช่นเดียวกัน คนที่พูดเป็นชายชรา เขามองผลลัพธ์ของสงครามในแง่ร้าย
ทะเลเหนือ หิมะโปรยปราย มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังโต้เถียงกันหน้าร้านค้า
"เถ้าแก่! เอาเหล้ามาเร็วๆ !"
"ไปๆ ๆ ! วันแบบนี้ใครจะมีอารมณ์ค้าขาย ถ้าพรุ่งนี้โลกยังอยู่ ฉันถึงเปิดร้าน!"
"งั้นก็ขายเหล้าให้พวกเราหน่อย! อากาศหนาวแบบนี้ ไม่มีเหล้า รู้สึกเหมือนตัวเองถูกจับขึ้นแท่นประหารเลย"
ทะเลตะวันตก ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียง
"อย่ามองเขาเป็นแค่ตาแก่ธรรมดา! ประมาณปีก่อน พวกเราแค่เห็นเขานั่งอยู่ตรงนั้น ก็แทบจะหมดหวังที่จะมีชีวิตรอดแล้ว"
โจรสลัดขาเดียวเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ยังคงหวาดกลัวหนวดขาว มือที่ถือแก้วเหล้าสั่นไม่หยุด
"ถึงจะเป็นกองทัพเรือทั้งกอง ตาแก่นั่นก็ไม่กลัวหรอก!"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_