บทที่ 34 นางดูเหมือนจะมีสมบัติมากมาย แต่จริงๆ นางจนมาก!
จินเป่าเอ๋อที่เพิ่งออกมาจากสุสานดาบนั้นยังไม่รู้เลยว่าตัวตนของนางได้ถูกเปิดเผยแล้ว แต่ถึงรู้นางก็ไม่สนใจ!
"พี่จิน! ดูสิ ข้าเองก็เลือกดาบวิญญาณมาเหมือนกัน! ดาบชิ้นนี้ชื่อ ชือหมู่! ฮ่าๆ เป็นธาตุเดียวกับสัตว์อสูรคลั่งสิงโตเลย! พลังโจมตีเยี่ยมยอดจริงๆ!"
จินเป่าเอ๋อเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนนึกถึงจินหวงที่ทำสัญญากับนาง ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวเล็กจะตื่นขึ้นมา ตอนนั้นนางสะบัดมันแรงไปหน่อยจนทำให้มันเกิดก่อนกำหนด ถ้าไม่เช่นนั้นคงไม่หลับยาวถึงขนาดนี้
“ว่าแต่ เราจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ”
เมื่อได้ยินคำถามนั้น จินเป่าเอ๋อคิดเล็กน้อย หากนับจากเวลาชาติที่แล้ว สมบัติล้ำค่าชื่อว่าจู้ลู่หยวนควรจะปรากฏออกมาแล้ว…
"ไป...เราจะไปที่งานประมูล!"
ไม่กี่วันต่อมา ภายในเมืองหลิวกวง…
ชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดสีดำและขาวเดินอยู่บนถนน ดึงดูดสายตาของผู้คนรอบข้างจนต้องหันกลับมามอง!
เด็กหนุ่มในชุดสีดำดูอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปี หน้าตางดงาม แววตาคมกล้าแต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและสง่างาม เป็นคนที่ดูห่างเหินแต่ก็ดึงดูดความสนใจจากระยะไกล! ส่วนชายหนุ่มในชุดขาวก็ดูอ่อนโยน มีใบหน้าสดใสแต่งดงาม เขามีท่าทางสบายๆ และเป็นมิตร ยิ้มแย้มอย่างไม่เกรงใจใคร
“ฮ่าๆ พี่จิน! พวกเราเดินอยู่บนถนนแบบนี้ เหล่าหญิงสาวรอบข้างคงอยากจะกลืนกินพวกเราทั้งคู่! เฮ้อ…หล่อเกินก็เป็นเรื่องที่น่าลำบากนะบางที!”
จินเป่าเอ๋อเคยชินกับความหลงตัวเองของหลี่ฉิงจี่จนไม่สนใจเลย นางจ้องตรงไปข้างหน้า จนกระทั่งมีคนมาขวางทางนาง
“คุณชาย กรุณาแสดงบัตรเชิญด้วยขอรับ!”
ชายวัยกลางคนผู้มีกลิ่นอายที่สงบแต่ทรงพลัง ร่างกายกำยำแข็งแรง แม้จะพูดด้วยความเคารพแต่ท่าทางก็ยังคงแน่วแน่ไม่ยอมถอย! เกือบลืมไป ชาติก่อนตอนนั้นนางยังอยู่ในสำนักเพียวเมี่ยว จึงไม่ได้เข้าร่วมงานประมูลนี้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเป็นศิษย์น้อยแบบนางจะมีบัตรเชิญได้อย่างไร ดูท่าคงต้องคิดหาวิธีอื่นก่อนจะหันกลับไป แต่ไม่ทันไร หลี่ฉิงจี่ก็หยิบป้ายตัวแทนออกมา พร้อมกล่าวด้วยท่าทางภูมิใจ
“ดูให้ดี ข้าคือหลี่ฉิงจี่ ทายาทสำนักหลงหู่ พอดีลืมเอาบัตรเชิญมาแค่นั้นเอง ว่าไง ท่านลุงหลาน ท่านจะต้อนรับแขกแบบนี้หรือ”
พอเขาพูดจบ ชายหนุ่มที่ยิ้มแย้มเดินออกมาทันที ผลักชายกลางคนออกไปพร้อมทำความเคารพหลี่ฉิงจี่ด้วยความนอบน้อม
“อ้าวขอโทษจริงขอรับๆ ไม่คิดว่าเป็นคุณชายหลี่แห่งสำนักหลงหู่! เจ้าคนใหม่นี้มันไม่รู้จักท่าน เชิญข้างในเลยขอรับ!”
หลี่ฉิงจี่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองจินเป่าเอ๋อเหมือนจะบอกว่า
‘เห็นไหม? ต้องเป็นข้าถึงจะเข้าได้!’
แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ เดินตรงเข้าไปทันที!
ทำให้หลี่ฉิงจี่ได้แต่งุนงง แต่สุดท้ายก็รีบตามเข้าไป
ภายในห้องรับรอง…
“หากข้าไม่แสดงตัวตนเมื่อครู่ เจ้าก็คงเข้าไปไม่ได้ แล้วเจ้าก็ยังไม่สนใจข้าอีก!!”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาตัดพ้อ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ ราวกับลูกสุนัขที่ถูกทำโทษ
จินเป่าเอ๋อได้ยินก็หันไปมองเขา กล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ถึงแม้ไม่มีเจ้า ข้าก็หาทางเข้าไปได้ในภายหลัง...”
ในงานประมูลมีคนมากมาย จินเป่าเอ๋อคิดว่าแค่หาใครสักคนแล้วทำให้สลบ จากนั้นเอาบัตรเชิญของพวกเขาก็สามารถเข้าไปได้…
หลี่ฉิงจี่! เสียศักดิ์ศรีทันที!
“ฮึ! เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนจะใส่ใจเจ้ามากทีเดียว!”
ในจิตสำนึกของจินเป่าเอ๋อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่แยแส นางอึ้งไปสักครู่ก่อนจะตอบกลับด้วยความเคารพ
“ท่านอาวุโสคงจะคิดมากไปแล้ว ข้ากับเขาเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม เสียงนั้นก็เงียบหายไป เหมือนว่าเสียงที่นางได้ยินเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงภาพหลอนของนางเอง
และในไม่ช้างานประมูลก็เริ่มขึ้น!
“ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานประมูลของเราในวันนี้! การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากวังเสี่ยวเหยา…”
บนเวทีมีหญิงสาวผู้มีเสน่ห์กำลังบรรยายถึงสิ่งที่จะประมูล จนกระทั่งงานประมูลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ…
“สินค้าชิ้นแรก! ตานหนิงระดับสาม! เริ่มต้นที่ราคาพันหินผลึกระดับกลาง!”
ตานหนิงเป็นยาที่สามารถเติมพลังวิญญาณได้รวดเร็วเช่นเดียวกับจูหลิงตาน แม้ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็หาได้ยากยิ่ง เพียงไม่ถึงสามนาทีก็มีผู้ประมูลจนราคาขึ้นไปที่สองพันหนึ่งร้อยหินผลึกระดับกลาง!
หลี่ฉิงจี่นั่งทานเมล็ดแตงโมด้วยท่าทางเพลิดเพลินพลางเยาะเย้ยอย่างสนุกสนาน
“ระดับสาม? เฮ้! เจ้าคือปรมาจารย์หลอมยาชั้นสี่ ข้าจะซื้อมันไปทำไมกัน?ว่าแต่ว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อทำอะไรกันแน่”
จินเป่าเอ๋อยังคงนั่งเงียบ มองไปที่เวทีด้วยสายตาแน่วแน่ ราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
เมื่อสินค้าชิ้นที่สองและสามถูกประมูลออกไป ในที่สุดสินค้าชิ้นที่สี่ก็ปรากฏขึ้น! มีคนหนึ่งถือถาดขึ้นมา โดยมีผ้าสีแดงปิดทับอยู่…
“ชิ้นที่สี่ ทุกท่านโปรดดู!”
หญิงสาวค่อยๆ เปิดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นกิ่งไม้แห้งบนถาด ทำให้ผู้คนหัวเราะขึ้นทันที!
“นี่…วังเสี่ยวเหยาไม่คิดจะล้อเล่นพวกเราใช่ไหม”
“อะไรกัน? กิ่งไม้แห้ง? ซื้อไปทำอะไร? เผาไฟหรือ?”
“ไม่ใช่ว่ายิ่งเป็นสินค้าชิ้นหลังยิ่งควรจะมีคุณค่าหรอกหรือ? ของแบบนี้หาได้ง่ายดายข้างนอกไหม?!”
“ใช่แล้ว พวกเจ้าล้อเราเล่นหรือไง ข้ามาไกลเป็นพันลี้ ไม่ได้มาถูกหลอกเล่นหรอกนะ!”
ไม่เพียงแค่คนอื่นๆ แม้แต่จินเป่าเอ๋อก็อึ้งไปครู่หนึ่ง แต่นางสังเกตเห็นว่ากิ่งไม้มีพลังวิญญาณไหลเวียนอยู่อย่างเข้มข้น
มีข่าวลือว่าจู้ลู่หยวนคือต้นไม้ที่ตกลงมาจากแดนสวรรค์เมื่อพันปีก่อน พลังวิญญาณยังคงอยู่ไม่จางหาย แม้จะไม่มีใครรู้ว่ามันใช้ทำอะไรได้!
ในชาติที่แล้ว ขณะที่จินเป่าเอ๋อกำลังหนี นางเคยได้ยินว่ากิ่งไม้นี้มีพลังป้องกันอย่างมหาศาล สามารถเป็นศูนย์กลางของค่ายกลป้องกันระดับสูงสุด
ป้องกันการโจมตีได้แม้กระทั่งจากผู้บรรลุช่วงออกจากกาย! นางหมายมั่นจะได้ครอบครองสิ่งนี้!
หญิงสาวยิ้มอ่อนและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเพื่อคลายข้อสงสัยของทุกคน
“แขกทุกท่านอย่าเพิ่งใจร้อน ท่านล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญ นายท่านของเราจะไม่เอากิ่งไม้ธรรมดามาหลอกลวงทุกท่านแน่!”
หลังจากการอธิบาย ทุกคนก็เริ่มใจเย็นลง
“สินค้านี้มีชื่อว่า~จู้ลู่หยวน แม้ไม่ทราบถึงการใช้งาน แต่พลังวิญญาณยังคงอยู่เป็นพันปี! ราคาเริ่มต้นที่สามพันหินผลึกระดับกลาง!”
เสียงพูดจบ คนในห้องต่างซุบซิบกัน แต่ไม่มีใครยื่นราคา!
หญิงสาวไม่รีบร้อน เพียงยืนรอด้วยท่าทีสง่างาม
จินเป่าเอ๋อเกือบจะยื่นราคาออกไป แต่ถูกคนหนึ่งแย่งพูดก่อน เสียงทุ้มแกร่งดังก้องไปทั่ว ทุกคนหันไปมองเห็นชายชุดผ้าเรียบๆ สีเทา สวมหมวกฟางและมีผ้าคลุมหน้าปิดมิดชิด
“สามพันหนึ่งร้อยหินผลึกระดับกลาง!”
ผู้คนต่างตกตะลึง! แม้จะเป็นของจากแดนสวรรค์ แต่สำหรับพวกเขาไม่เห็นจะมีประโยชน์ เพราะพลังวิญญาณที่มีก็น้อยเกินกว่าจะคุ้มกับราคา แล้วใครกันจะยอมทุ่มเงินถึงสามพันหินผลึกระดับกลางเพื่อซื้อ! อีกทั้งชายผู้นั้นก็ดูไม่เหมือนคุณชายจากสำนักใดเลยด้วย!
หญิงสาวยิ้มบางๆ และกล่าวขึ้น
“สามพันหนึ่งร้อยหินผลึกครั้งที่หนึ่ง!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ จินเป่าเอ๋อจึงดึงสายตากลับและพูดเบาๆ ลงไปในห้องด้านล่างด้วยเสียงที่ฟังไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย
“สามพันห้าร้อยหินผลึกระดับกลาง!”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ไม่เพียงแต่ผู้คนในห้องด้านล่างที่ประหลาดใจ แม้แต่หลี่ฉิงจี่ที่นั่งข้างนางก็ถึงกับตาโตในทันที!