ตอนที่แล้วบทที่ 26 แค่ถ่ายแบบสุ่มก็กลายเป็นงานคลาสสิก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม! ประเภทพนักงานที่รับสมัครได้เพิ่มขึ้น +2!

บทที่ 27 แป๊บเดียวฟาร์มก็เปลี่ยนไปขนาดนี้?


ฟู่เหยามองด้วยความสงสัย แต่ก็ถามออกไปว่า “เถ้าแก่ พี่เป็นอะไรหรือคะ?”

จางหลินเหมือนจับเชือกช่วยชีวิตไว้ทัน เขาชี้ไปที่แม่ของเขากับอิงจื่อที่อยู่ข้างหน้าแล้วพูดว่า “เห็นไหม แม่พี่กับพี่สาวของญาติคนนึงน่ะ พี่สาวคนนั้นเธอจ้องพี่ไว้ หนูช่วยแกล้งเป็นแฟนให้พี่ทีสิ!”

“เธอสนใจพี่เหรอ?” ฟู่เหยามองไปที่อิงจื่อ แล้วก็รู้สึกประหลาดใจที่น้ำหนักของเธอเกินคาด ฟู่เหยามองดูรูปร่างของตัวเองแล้วคำนวณดู อีกฝ่ายน่าจะใหญ่กว่าตัวเธอถึงสามเท่าได้

จางหลินรีบหันไปขอร้อง “ช่วยหน่อยเถอะ! จะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลย!”

ฟู่เหยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง เพราะเรื่องแบบนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอ

แต่เธอก็ไม่ได้คิดนานนัก ก่อนจะพูดว่า “เถ้าแก่ หนูช่วยพี่ก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ ขอหนูมาทำงานช่วงปิดเทอมที่ทุ่งดอกคาโนล่าของพี่”

“หนูต้องการเงินเหรอ?” จางหลินถามด้วยความสงสัย

ไม่น่าใช่นะ เพราะตอนแรกเธอเสนอจะเป็นนางแบบให้ฟรีๆ ดูท่าแล้วไม่ใช่คนที่ต้องการเงินขนาดนั้น

ฟู่เหยาส่ายหน้าตอบว่า “ไม่ร้อนเงินค่ะ คุณพ่อของหนูเลี้ยงหนูแบบตามใจน่ะค่ะ หนูมีเงินใช้ไม่ขาด แค่ว่าอายุครบ 16 ปีเต็มแล้ว ไม่ถือเป็นแรงงานเด็กแล้ว หนูก็เลยอยากลองทำงานดูค่ะ แถมหนูชอบดอกคาโนล่าด้วย ฟาร์มของพี่เลยเป็นโอกาสที่ดีเลย”

“เรื่องเล็กน้อยมาก พี่ตกลงเลย!” จางหลินยิ้มและเห็นว่าฟู่เหยาเป็นคนที่คิดได้ดีกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก

เขาเองก็มีแผนการระยะยาวเกี่ยวกับทุ่งดอกคาโนล่าอยู่แล้ว ดอกคาโนล่าสูงนี้หายากและมีข้อดีหลายอย่าง รวมถึงช่วงเวลาที่ดอกบานก็ยาวนานกว่าทั่วไป บานได้ถึง 2 เดือน อีกทั้งยังสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี

ดังนั้นการโฆษณาดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านทางออนไลน์ เช่น แอป DouYin จึงเป็นสิ่งจำเป็น หากให้ฟู่เหยามาเป็นนางแบบประจำก็เหมาะมาก เพราะสถานที่ท่องเที่ยวก็ใช้วิธีแบบนี้กันอยู่แล้ว

“ตกลงค่ะ” ฟู่เหยายิ้มอย่างพอใจ แล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณแม่ของพี่เดินมาทางนี้แล้วนะ เถ้าแก่…เอ้ย พูดแบบคู่รักไม่ควรเรียกแบบนั้นสินะ งั้นหนูเรียกพี่ว่าลุงแทนดีไหม จะได้ไม่โป๊ะแตก!”

“ลุงอะไรเนี่ย พี่แก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” จางหลินรู้สึกงง

ถึงเขาจะอายุมากกว่าเธอ 10 ปี แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นลุง เรียกพี่ก็น่าจะโอเคแล้ว!

ฟู่เหยาหัวเราะออกมา “โธ่ ลุงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอายุหรอกค่ะ มันเป็นคำเรียกแฟนที่อายุมากกว่าต่างหาก พี่นี่ตกยุคแล้วนะ!”

“???” จางหลินรู้สึกว่าตัวเองตามโลกไม่ทันแล้ว

หลังจากที่เขาเลิกรากับหลินซินตั้งแต่มัธยม เขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครอีกเลย จึงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนี้

หลินเหยียน แม่ของเขามาซื้อของที่ห้างนี้พอดี และบังเอิญเจออิงจื่อ ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน จนหลินเหยียนคิดจะชวนอิงจื่อไปบ้าน เลยตั้งใจจะโทรหาลูกชายอยู่แล้ว

แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะมาเจอลูกชายที่พาผู้หญิงมาด้วยแบบนี้

หลินเหยียนจึงพาอิงจื่อเดินตรงไปหา

“แม่ครับ พี่อิงจื่อครับ!” จางหลินรีบยกมือทักทายทั้งสองคน

“สวัสดีค่ะ คุณน้า พี่อิงจื่อ!” ฟู่เหยาแสดงบทบาทเต็มที่ ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

จางหลินต้องยอมรับว่า ฟู่เหยาดูเป็นธรรมชาติมาก เขาจึงรีบแนะนำ “แม่ครับ พี่อิงจื่อ นี่คือแฟนผม ฟู่เหยา!”

คำพูดนี้ทำให้หลินเหยียนตกใจไปครู่หนึ่ง ลูกชายเธอมีแฟนจริงๆเหรอ?

แฟนของลูกชายน่ารักและสวยเหมือนที่เขาพูดไว้ แต่ดูเด็กเกินไปหน่อยหรือเปล่า?

หลิวอิง(อิงจื่อ)เองก็รู้สึกอึดอัดใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าแฟนของจางหลินดูอายุน้อยมาก เธอเองก็รู้ดีว่าการที่เธอสนใจจางหลินนั้นมีผลประโยชน์แอบแฝงนิดๆ แต่ดูเหมือนจางหลินต่างหากที่กำลังมีผลประโยชน์แอบแฝงจากสถานการณ์นี้ เพราะการที่เขาพาแฟนสาวสวยที่อายุน้อยมากมาแนะนำ เธอเองก็เลยรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวตลกไป

จางหลินพาฟู่เหยามาเพื่อใช้เป็นกันชนกับพี่อิงจื่อ ดังนั้นเขาจึงแกล้งพูดต่อหน้าแม่ว่า “แม่รู้ไหมว่าตอนนี้จางตงเป็นยังไงบ้าง เขาลำบากกว่าเราอีก ออกมาจากคุกแล้วหางานไม่ได้ ส่งอาหารก็ไม่ได้ แถมแฟนของเขายังทิ้งไปแล้วไปนั่งรถ BMW ซีรีส์ 5 ต่อหน้าเขา และยังมีลุงเหอเกินที่ประสบอุบัติเหตุยืมเงินจนเป็นหนี้ไปหมด ถ้ามีใครยื่นมือช่วยเขาตอนนี้ เขาคงขอบคุณไปตลอดชีวิตเลย”

หลินเหยียนได้ยินแล้วถอนหายใจ “โธ่ ไม่แปลกเลยที่เจอจางตงครั้งก่อนแล้วหน้าตาดูทุกข์ใจขนาดนั้น”

คำพูดของจางหลินทำให้หลิวอิงที่ยืนฟังอยู่ตาเป็นประกาย เธอรีบหันไปบอกหลินเหยียนว่า “คุณน้า ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีธุระค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ!”

พอพูดจบเธอก็เดินจากไปทันที ไม่ใช่เพียงเพราะไม่อยากเป็นตัวตลกตรงนี้ แต่ดูเหมือนว่าจางตงจะเหมาะกับเธอมากกว่า แม้เขาจะไม่หล่อเท่าจางหลิน แต่รูปร่างแข็งแรงกว่าเยอะ

จางหลินเห็นว่าพี่อิงจื่อเดินไปแล้วก็รู้สึกโล่งอก

เขารู้ดีว่าเธอคิดอะไร ด้วยรูปร่างแบบนั้นผู้ชายทั่วไปคงไม่สนใจ แต่เธอคงหวังว่าการแสดงน้ำใจและช่วยเหลือจะทำให้เขารู้สึกติดหนี้บุญคุณและมีโอกาสสานสัมพันธ์

เขาเคยมีเพื่อนมหาวิทยาลัยที่หน้าตาธรรมดาแต่บ้านรวย ใช้วิธีนี้และได้แต่งงานกับดาวเด่นของภาควิชา

ตอนนี้เมื่ออิงจื่อรู้ว่าจางตงลำบากมาก เธอคงจะเปลี่ยนเป้าหมายแล้วล่ะมั้ง?

“แม่ครับ ผมกับฟู่เหยากำลังจะไปทานข้าวกัน แม่ไปด้วยกันไหมครับ?” จางหลินชวนแม่เขา

“พวกเธอไปเถอะ แม่ต้องกลับบ้านแล้ว” หลินเหยียนปฏิเสธอย่างน่าประหลาด และดูเหมือนอารมณ์ของเธอไม่ค่อยดีนัก

จางหลินรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในอารมณ์ของแม่ จึงอดสงสัยไม่ได้ ทำไมเธอไม่ดีใจที่ได้เห็นเขาพาแฟนมาแนะนำกันแน่?

เขากับฟู่เหยาทานอาหารด้วยความคิดฟุ้งซ่าน และเมื่อทานเสร็จก็รีบส่งฟู่เหยากลับไปและกลับบ้านทันที

“กลับมาแล้วเหรอ?” หลินเหยียนทักทายลูกชาย แต่ดูเหมือนเธอมีบางอย่างอยากพูดแต่ไม่กล้าพูดออกมา

จางหลินจึงถามอย่างเป็นกันเองว่า “แม่ ทำไมดูเหมือนมีเรื่องกังวลในใจล่ะ? ไม่ใช่ว่าแม่อยากเจอแฟนผมเหรอ วันนี้พามาแล้วน่าจะดีใจสิ”

หลินเหยียนถอนหายใจแล้วพูดว่า “เสี่ยวหลิน เด็กคนนั้นสวยจริงๆ แต่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าเธอมาก ราวกับเด็กมัธยม”

“หา!” จางหลินตกใจที่แม่เขาคิดเรื่องนี้อยู่ และรีบอธิบายว่า “แม่ คนสมัยนี้หาแฟนที่อายุน้อยกว่าตั้งเยอะ”

หลินเหยียนแสดงความกังวลว่า “แม่ไม่ได้จะว่าเรื่องอายุนะ แต่ที่บ้านเรามีหนี้เยอะ แม่กลัวว่าเธอจะอยู่ด้วยแล้วเจ็บปวดน่ะสิ”

จางหลินเข้าใจแล้วว่าแม่กังวลเรื่องอะไร เขายิ้มขำและบอกว่า “แม่ เรื่องของบ้านเราน่ะเหรอ? ผมบอกแม่แล้วไงว่ากำลังทำธุรกิจค้าส่งผลไม้อยู่”

“ตอนนี้ในฟาร์มก็เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว คนงานก็จ้างมา 10 คน เราปลูกดอกคาโนล่าไว้ 500 ไร่ ฟาร์มของเรากำลังจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมดอกคาโนล่า”

“ส่วนหนี้สินที่บ้านไม่ต้องห่วง ผมจะใช้คืนได้ในอีกไม่นานนี้”

คำพูดเหล่านี้ทำให้หลินเหยียนตกตะลึง เธอไม่กล้าเชื่อ ลูกชายเธอกำลังพูดเรื่องจริงหรือ?

ไม่แปลกที่เธอจะไม่เชื่อ เพราะเธอรู้เรื่องในฟาร์มอยู่บ้าง ตอนที่สามีเธอดูแลฟาร์มเธอก็ช่วยอยู่บ้าง

ตั้งแต่ที่จางหลินเริ่มบอกว่าจะพัฒนาฟาร์มก็ผ่านมาแค่สิบกว่าวัน

เธอรู้ว่าลูกชายมีหนี้สินมากกว่า 1 ล้านหยวน เริ่มต้นจากติดลบ

แต่ตอนนี้ในเวลาไม่ถึงเดือน ลูกชายบอกว่าเขามีลูกจ้างถึง 10 คนแล้ว พัฒนาแปลงดอกคาโนล่า 500 ไร่ แถมยังมีการสร้างศูนย์บริการและจะใช้หนี้ได้หมดในไม่ช้า?

แม้ว่าจะมีนักลงทุนก็คงไม่น่าจะเร็วขนาดนี้

ลูกชายเธอเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ?

จางหลินหัวเราะและพูดว่า “แม่ แน่นอนว่าจริงสิ แม่ไม่ได้ไปฟาร์มนานแล้ว ลองไปดูกับผมตอนนี้หน่อยดีไหม?”

หลินเหยียนพยักหน้าอย่างลืมตัว เพราะอยากเห็นด้วยตาตัวเองว่าเรื่องที่ลูกพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่

เมื่อออกไปข้างนอก จางหลินก็พาแม่เขาขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วขี่ไปยังฟาร์ม

เมื่อไปถึง หลิวเต๋อกับลูกจ้างคนอื่น ๆ กำลังพักกลางวันกันอยู่ พอเห็นจางหลินมา ลูกจ้างทุกคนก็ทักทายเขาเสียงดัง:

“เถ้าแก่ครับ!”

“เถ้าแก่ครับ!”

หลินเหยียนมองจากไกลๆ และได้ยินทุกคนเรียกลูกชายเธอว่า “เถ้าแก่” จึงเริ่มเข้าใจว่านี่คือพนักงานในฟาร์ม ซึ่งมีมากถึงสิบกว่าคน

และเธอยังเห็นอาคารห้องพักที่สร้างขึ้นใหม่ที่มุมหนึ่งด้วย

แค่นี้ก็ดูเหมือนสิ่งที่ลูกชายเธอพูดจะเป็นความจริง

จางหลินพยักหน้าให้ลูกจ้างแล้วพาแม่เขาตรงไปยังทุ่งดอกคาโนล่า

อีกไม่นาน ทุ่งดอกคาโนล่า 500 ไร่ก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา

หลินเหยียนเห็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาสำเร็จแล้วถึงกับตกตะลึง เป็นไปได้จริงๆเหรอ ที่จะพัฒนาได้ถึงขนาดนี้?

เธอนึกถึงตอนที่ช่วยสามีทำงานและใช้เวลาเนิ่นนานแต่ก็ได้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย เธออดทึ่งในความสามารถของลูกชายไม่ได้

ลูกชายของเธอช่างเก่งเหลือเกิน

เมื่อเข้าไปใกล้เธอก็ยิ่งประทับใจกับทุ่งดอกคาโนล่า ความสวยงามของดอกไม้ที่สะกดทุกสายตา

แม้ว่าเธอจะอายุมากแล้ว แต่พอได้เห็นทุ่งดอกไม้ก็รู้สึกอยากเที่ยวเล่นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“แม่ครับ สวยใช่ไหม?” จางหลินยิ้มแล้วพูดว่า “พอดอกคาโนล่าบานเต็มที่ ที่นี่จะต้องมีนักท่องเที่ยวมากมายมาเยี่ยมชม ผมจะใช้หนี้ทั้งหมดภายในเดือนเดียวให้หมด แม่ไม่ต้องห่วงแล้วนะครับ”

เมื่อหลินเหยียนเห็นศูนย์บริการที่กำลังสร้าง เธอก็ไม่สงสัยในคำพูดของลูกชายอีกต่อไป ความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินก็คลายไปทันที

เธอเพิ่งค้นพบว่าลูกชายเธอนั้นเก่งมาก แค่ผลงานที่ทำมาตอนนี้ก็ถือว่าน่าประทับใจสำหรับวัยของเขาแล้ว

แล้วเธอก็อดหัวเราะกับตัวเองไม่ได้ที่กังวลเกินเหตุไป

ลูกชายของเธอมีดีมากพอที่จะเหมาะสมกับเด็กสาวคนนั้น

เมื่อคิดเช่นนั้น เธอก็พูดกับจางหลินทันที “เสี่ยวหลิน แฟนของลูกชื่อฟู่เหยาถูกไหม? สวยจริงๆนะ แต่ว่าเธอดูเหมือนเด็กมัธยม ไม่ค่อยสมบูรณ์ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันพาเธอมาที่บ้านนะ แม่จะทำซุปขาหมูให้บำรุงเธอ!”

“……” จางหลินถึงกับอึ้ง

เธอเป็นเด็กมัธยมจริงๆนะ แถมยังเป็นแค่กันชนให้ลูกชายเท่านั้นเอง!

นี่คงจะเป็นสิ่งที่ในนิยายบอกไว้สินะ ว่าการใช้คนเป็นกันชนมักจะสร้างปัญหาตามมา?

แบบนี้จะจัดการยังไงดี?

(จบบท)

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด