บทที่ 21 ทหารศพระดับเจ็ด! พรสวรรค์ระดับสูง!
บทที่ 21 ทหารศพระดับเจ็ด! พรสวรรค์ระดับสูง!
ณ กองกำลังดาบทมิฬ ใต้ตึกสามชั้นหลังเล็ก หวางหย่งก็มาที่นี่อีกครั้งและยามร่างใหญ่หยุดเขาไว้เช่นเคย
หวางหย่งตะโกนสุดเสียง "พี่ชาย! ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่จะบอกพี่..มันเป็นเรื่องสำคัญมาก!"
จากนั้นก็มีแต่คำสาปแช่งและคำด่าดังมาจากชั้นบน “บ้าเอ๊ย! หวางหย่ง แค่เพราะแกเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่ลงโทษฐานที่แกมาขัดจังหวะงานของฉันถึงสองครั้งสองครา!”
หวางกังเจี้ยนโผล่หัวออกมาจากหน้าต่าง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธราวกับว่าความพยายามอย่างหนักที่จะระงับความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ หวางหยงตะโกน "มันเกี่ยวกับซอมบี้ระดับสูง!"
“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นมา!..” หวังกังเจี้ยนตะคอกกลับ
ไม่กี่วินาทีต่อมา หวางหย่งก็นั่งอยู่ตรงข้ามกับหวางกังเจี้ยน “พี่ชาย ทำไมคุณยังต่อสู้กับราชายักษ์อีก คุณเลยไม่เก่งเลย ฉันว่าคุณเลิกเล่นซะ..อย่าเสียเวลาไปเปล่าๆเลย” หวางหย่งกล่าวอย่างไม่เต็มใจ
หวางกังเจี้ยนผงะถอย "แกไม่ต้องยุ่ง ครั้งนี้ฉันสามารถเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน"
เมื่อพูดจบเขาก็หันกลับสู่สมาธิอย่างเข้มข้นอีกครั้ง อดทนต่อการต่อสู้ที่เสมือนจริงของเขา
หวางหยงถอนหายใจเบาๆ "พี่ไม่สามารถเอาชนะมันได้หรอก แล้วพี่จะฟังฉันพูดไหม?"
หวางกังเจี้ยนพูดอย่างเยาะเย้ยขึ้นมาว่า "ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะมันได้สักครั้งเดียว ฉันจะหยุดเล่น"
จากนั้นหวางหย่งก็รับจอยเกมส์มาและนำทางตัวละครของเขาผ่านโถงทางเดิน พุ่งไปที่บัลลังก์ของราชายักษ์ เขาคว้าดาบใหญ่ที่พิงอยู่กับมันและโจมตีอย่างรุนแรง หลังจากโจมตีหลายครั้งราชายักษ์ก็ล้มลงกับพื้น และพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีอีกสองสามครั้ง
เมื่อวางจอยเกมส์ลง เขาจ้องไปที่ดวงตาของหวางกังเจี้ยน "ตอนนี้พี่จะฟังฉันได้หรือยัง?"
หวางกังเจี้ยนจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ "แกทำแบบนั้นได้ยังไง ทำไมดาบนั่นถึงทรงพลังขนาดนี้?"
“พี่จะฟังที่ฉันพูดได้หรือยัง?!” หวางหย่งคำรามออกมา
หวางกังเจี้ยนทำหน้าบูดบึ้ง "เออ..พูดมาสิ"
หวางหย่งเล่าถึงประสบการณ์ของเขาที่โรงแรมฮั่วไท่โดยไม่พลาดรายละเอียดใดๆ ด้วยมีสีหน้าเคร่งขรึม
“จริงเหรอ? แกเห็นซอมบี้ระดับสูงสองตัวงั้นเหรอ?” สีหน้าของหวางกังเจี้ยนเริ่มจริงจังขึ้น
“แน่นอนสิน พวกมันรูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาที่ดุร้ายแบบนั้น ไม่มีซอมบี้ที่ธรรมดาตัวไหนจะสามารถมีได้หรอก” หวางหย่งตอบด้วยความจริงจังเช่นเดียวกัน
ในตอนนั้นเมื่อเขาได้สบตากับซอมบี้ระดับสูง เขาก็รู้สึกว่าเลือดแทบจะแข็งตัวในเส้นเลือด หากไม่ใช่เพราะรถตู้ที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาก็อาจกลายเป็นอาหารของซอมบี้ระดับสูงไปแล้ว
“นี่ถือเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ เราควรหลีกเลี่ยงบริเวณนั้นตั้งแต่ตอนนี้” หวางกังเจี้ยนกล่าวอย่างจริงจัง
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าซอมบี้ระดับสูงพวกนั้นบุกมาที่นี่ เราไม่สามารถนั่งเฉย ๆ แล้วรอความตายได้นะ” หวางหย่งกล่าวอย่างจริงจัง
“แน่นอนว่าเราจะไม่อยู่เฉยๆ เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพหลินเจียง ให้พวกเขาส่งพวกยอดมนุษย์มาช่วย” หวางกังเจี้ยนพยักหน้า
หวางหย่งถอนหายใจด้วยความโล่งใจ "ดีจังที่ได้ยินอย่างนี้ แต่เนื่องคำพูดของเราคงไม่มีน้ำหนักมากนัก พี่ควรจะต้องติดต่อไปเองโดยตรงเพราะพี่ได้รับการปลดประจำการจากกองทัพหลินเจียง "
หวางกังเจี้ยนพยักหน้า “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน แกไม่ต้องกังวล”
ห้าวันต่อมา ที่โรงแรมฮั่วไท่ ชู่ซวนหายใจออกยาวและเสร็จสิ้นการฝึกฝนของเขา
ตอนนี้เหลือเพียงไข่มุกโลหิตขนาดใหญ่เก้าเม็ดเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในครอบครองของเขา ส่วนที่เหลือถูกดูดซับไปหมดแล้ว
เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวจากภายนอก เขาจึงตัดสินใจหยุดการฝึกฝนลงก่อน
“หืม? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือป่าว?”
จากนั้นจู่ๆ ชู่ซวนก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากอ่างอาบน้ำ เขารีบเดินไปทันทีและเห็นหุ่นศพขนาดยักษ์ปีนออกมาจากอ่างอาบน้ำ
เมื่อดูดซับน้ำยากลั่นศพถึงสองอ่างแล้ว ร่างกายของมันก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสูงถึงเกือบแปดฟุต และร่างกายของมันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่โป่งพองและเส้นเลือดที่ราวกับไส้เดือน มันเต้นเป็นจังหวะด้วยพลังมหาศาล คล้ายกับรูปปั้นนักรบที่มีกล้ามเป็นมัด แถมยังเกราะกระดูกสีขาวละเอียดปกคลุมหน้าอก หลังและข้อต่อของมัน
ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ ในมือซ้ายของมันถือโล่กระดูก และในมือขวามันถือหอกกระดูก อาวุธทั้งสองมีแสงสีซีดน่ากลัว ชัดเจนว่าไม่ใช่เครื่องมือเวทย์ธรรมดา
ชู่ซวนรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะหุ่นศพนี้กลับติดตั้งเครื่องมือเวทย์ไว้แล้ว!
หุ่นศพคำรามคำรามขึ้นสู่สวรรค์ ราวกับกำลังเฉลิมฉลองการเกิดใหม่ ทำให้หุ่นศพที่เพิ่งเกิดใหม่ตัวอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ สั่นเทา หมอบราบลงกับพื้นจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
แม้แต่ต้าโฮและเอ๋อโฮก็กลัวมากจนฉี่ราด ขณะที่มีแต่ฮูและเป่าเท่านั้นที่ต้านทานออร่าอันน่าเกรงขามนี้ได้
ชู่ซวนยืนอยู่ตรงหน้าหุ่นศพ สายตาของเขาเย็นชาและมั่นคง หุ่นศพตัวนั้นจ้องมองกลับมาที่เขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่งหุ่นศพก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม ส่งเสียงคำรามเบาๆ เพื่อแสดงความเคารพต่อเจ้านายของมัน
ด้วยท่าทางสบัดมือชู่ซวนก็ส่งหุ่นศพเข้าไปในหอคอยบ่มเพาะศพของเขา พร้อมกับแสงสีดำพุ่งผ่านหุ่นศพไป "ทหารศพระดับเจ็ด! พรสวรรค์ระดับสูง! "
ดวงตาของชู่ซวนสว่างขึ้น ศักยภาพโดยกำเนิดของหุ่นศพนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก มันเกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติระดับสูงและอยู่ในระดับทหารศพระดับเจ็ดแล้ว มันเทียบได้กับผู้ฝึกตนขอบเขตการกลั่นพลังปราณระดับที่เจ็ด!
“มาดูกันดีกว่าว่าเจ้ามีคาถาอะไรบ้าง”
ชู่ซวนร่ายเวทย์ระบุสถานะอีกครั้ง "แสงสีทอง พลังศักดิ์สิทธิ์ เสียงคร่ำครวญของศพ"
เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแสดงความยินดี
แสงสีทองก็เหมือนกับที่ฮูครอบครองอยู่ มันก็ทำหน้าที่เสริมการป้องกัน ในทางกลับกันพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยเสริมพลังทางกายภาพ
อย่างไรก็ตามเสียงคำรามของศพ ทำให้เขาประหลาดใจอย่างแท้จริง เนื่องจากถือเป็นหนึ่งในทักษะโดยกำเนิดที่ดีที่สุดที่ทหารศพสามารถเรียนรู้ได้
เมื่อเปิดใช้งานแล้ว มันจะโจมตีวิญญาณของศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับหุ่นศพตัวอื่นอีกด้วย ส่งผลให้มันมีพลังโจมตีที่รุนแรงขึ้นอย่างมาก
หุ่นศพที่มีเสียงคร่ำครวญของศพถือว่าเป็นผู้นำกลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย ตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่ หุ่นศพที่อยู่รอบๆ จะยังคงต่อสู้อย่างดุเดือดจนกว่าจะตกตายไป
“ยอดเยี่ยมๆ ยอดเยี่ยมมาก!” ชู่ซวนกล่าวชื่นชมสามครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจขณะที่เขามองดูหุ่นศพ “ถึงเวลาที่จะตั้งชื่อให้เจ้าแล้ว เจ้าจะใช้ชื่ออะไรดีนะ..”
“ครั้งหนึ่งเจ้าเคยถูกเรียกว่าจ่าวหง จ่าวเป็นแซ่ที่มีชื่อเสียง หงเป็นสัญลักษณ์ของความกว้างใหญ่และความแข็งแกร่ง เอ่อ.. เมื่อรวมความหมายที่ลึกซึ้งของทั้งสองเข้าด้วยกันแล้ว งั้นเจ้าก็เรียกว่าหลงก็แล้วกัน!” ชู่ซวนพยักหน้าอย่างพอใจ
ด้วยเสียงคำรามอันก้องกังวาน หุ่นคพก็ยอมรับชื่อใหม่ของมัน
“งั้นหลง ฮู ออกไปล่าเถอะ ฮูเจ้าก็สอนกฎให้หลงหน่อยว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ” ชู่ซวนสั่งการออกไป
ทั้งหลงและฮูต่างคำรามออกมาอย่างรับรู้ จากนั้นก็กระโดดออกไปและหายไปในตึกระฟ้า
หลังจากนั้น ชู่ซวนได้เก็บเป่าและหุ่นศพอีกหกตัวกลับเข้าไปในหอคอยบ่มเพาะศพ พลังหยินที่หนาแน่นภายในหอคอยนั้นมีประโยชน์อย่างมากต่อหุ่นศพ ซึ่งไม่เพียงแต่พัฒนาเนื้อและเลือดเท่านั้น แต่ยังเพิ่มพลังหยินจำนวนมากที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของหุ่นศพอีกด้วย
เมื่อทำภารกิจเหล่านี้เสร็จสิ้นแล้ว ชู่ซวนก็กลับมาฝึกฝนต่อ เขาตั้งใจที่จะยกระดับการฝึกฝนของเขาให้ถึงระดับที่เก้าของขอบเขตการกลั่นพลังปราณก่อนจะกลับไปยังอาณาจักรลึกลับ
ด้วยหุ่นศพจำนวนมากภายใต้การบังคับบัญชาของเขาและลวดเหล็กโลหิตที่เพิ่งเปลี่ยนร่างใหม่ พลังของเขาจะต้องแข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ฝึกตนที่ต่ำกว่าขอบเขตการก่อตั้งรากฐานไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเขาได้แล้ว
เมื่อกลับมาสู่อาณาจักรลึกลับ เขาจะทำการรวบรวมสมุนไพรและยาจิตวิญญาณเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทะลวงสู่ขอบเขตการก่อตั้งรากฐาน!....
……………………..