บทที่ 183: คัดลอกภารกิจ (3) (ตอนฟรี)
บทที่ 183: คัดลอกภารกิจ (3)
*ขอเปลี่ยนจากพวก “อสูร” เป็นพวก “มาร” นะครับ
จู่ๆ เขาก็ชนเข้ากับใครบางคนโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าของหลี่เย่เปลี่ยนไป และเขาก็คิดจะสู้กลับโดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ชนเขานั้นเป็นผี หลี่เย่ก็ยิ้มอย่างรวดเร็วและพูดว่า “คุณตา คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เห็นได้ชัดว่าหลี่เย่กลัวที่จะไปขัดใจชายชราคนนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างสุภาพ
ซูหนานโบกมือและไม่พูดอะไรมากนัก เดินต่อไปตามถนนและในที่สุดก็หายลับไปในฝูงชน
บนหน้าต่างภารกิจของเขา มีข้อความปรากฏขึ้น
[คุณต้องการใช้การ์ดจำลองภารกิจหลักกับเป้าหมาย “หลี่เย่” หรือไม่?]
“ใช่”
[ตรวจพบว่าเป้าหมาย “หลี่เย่” มีภารกิจหลักสองอย่าง โปรดเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อคัดลอก]
[ภารกิจหลัก 1: ความโกรธเกรี้ยวของราชาปีศาจ]
[ภารกิจหลัก 2: คำสาปมาร]
“ภารกิจหลักสองอย่าง?” ซูหนานรู้สึกประหลาดใจเพราะภารกิจหลักนั้นไม่ง่ายนักที่จะได้มา
นอกจากภารกิจมือใหม่แล้ว ภารกิจเหล่านี้ก็จะได้รับได้ก็ต่อเมื่อเปิดใช้งานผ่านกิจกรรมพิเศษเท่านั้น
หากเขาไม่นับ “มรดกเต่ามังกร” ที่เขาได้รับจากการใช้ปราณโชคชะตา เขาก็คงมีภารกิจหลักพียงภารกิจเดียว
หลี่เย่มีภารกิจหลักสองอย่าง และหนึ่งในนั้นก็ได้รับมาจากการเปิดใช้งานผ่านกิจกรรมพิเศษ
“ภารกิจทั้งสองอย่างนี้ดูไม่ง่ายเลย!”
ดวงตาของซูหนานแสดงสีที่แตกต่างกัน และเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะนี้
เมื่อมองดูครั้งแรก มันก็ดูเหมือนว่าภารกิจทั้งสองอย่างจะไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองพยัคฆ์คำราม แต่เมื่อวิเคราะห์เพิ่มเติมแล้ว ทั้งสองอย่างก็เป็นไปได้
ก่อนอื่นเลย ภารกิจแรกคือความโกรธเกรี้ยวของราชาปีศาจ
หากราชาปีศาจในที่นี้หมายถึงปีศาจเสือ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แม้ว่าปีศาจเสือจะมีพลังเทียบเท่ากับระดับจักรพรรดิเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่ใครจะรู้ว่ามันจะก้าวไปสู่ระดับจักรพรรดิได้หลังจากผ่านไปยี่สิบปีหรือไม่?
สำหรับภารกิจที่สองคือคำสาปของปีศาจ
ภารกิจนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากน่าจะเกี่ยวข้องกับมารเมื่อพิจารณาจากชื่อของมัน
จื่อฉางเฟิงเคยพูดว่าปีศาจเสือเป็นปีศาจปกติเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่จู่ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของมันเนื่องมาจากเหตุการณ์หนึ่ง
หากอุปนิสัยของปีศาจเสือเปลี่ยนไปเพราะได้รับผลกระทบจากพลังมาร มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
“ทำไมต้องคิดมากขนาดนั้นด้วย กลับไปถามจื่อฉางเฟิงซะก็จบ”
เมื่อพบสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ ซูหนานก็แปลงร่างเป็นผีหนุ่มและกลับไปที่โรงเตี๊ยม
หลี่เย่และคนอื่นๆ ยังไม่จากไปและยังคงพูดคุยกันอยู่
ซูหนานฟังอย่างตั้งใจและพบว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องการเข้าภูเขาด้านหลัง
ซูหนานไม่ได้สนใจพวกเขาอีกและรีบขึ้นไปชั้นสอง จากนั้นก็แปลงร่างกลับเป็นจางหยางและกลับไปที่ห้องรับรองแขก
“น้องจาง คนนอกพวกนั้นรู้วิธีออกไปไหม” ซ่งจื้อถามอย่างกระตือรือร้น
“พวกเขารู้ แต่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะบอกเรา” ซูหนานพูดซ้ำเงื่อนไขที่หลี่เย่พูดถึง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จื่อฉางเฟิงก็พูดขึ้นทันทีว่า “เราไม่สามารถตกลงตามเงื่อนไขของพวกเขาได้ เมื่อเราปล่อยให้พวกเขาเข้าไปในภูเขาด้านหลัง ปีศาจเสือก็อาจจะถูกรบกวน และพวกเราก็จะไม่มีใครหนีออกจากที่นี่ได้!”
ซ่งจื้อพูดอย่างโกรธจัด “จะพูดหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกมัน ฉันจะไปจับพวกมันมารีดข้อมูลให้หมดเปลือกซะตอนนี้เลย ฉันจะฆ่าพวกมันวันละครั้งแล้วดูว่าพวกมันจะยอมพูดไหม!”
จื่อฉางเฟิงส่ายหัวอีกครั้ง:“ไม่มีประโยชน์ ถ้าพวกเขาไม่อยากพูด พวกเขาก็จะไม่พูด และเราก็ไม่สามารถเสียเวลาไปเปล่าๆ ได้!”
ซูหนานมองไปที่จื่อฉางเฟิงและพูดว่า “ผู้อาวุโส อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในอุปนิสัยของปีศาจเสือเมื่อยี่สิบปีก่อนกันแน่?”
จื่อฉางเฟิงครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมอุปนิสัยของปีศาจเสือถึงเปลี่ยนไปเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่ฉันได้ยินมาจากผู้ว่าการว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับพลังมารก็ได้”
มาร?
เมื่อได้คำตอบ ซูหนานก็มองไปที่ตัวเลือกสองตัวบนหน้าต่างแล้วตัดสินใจเลือก..