ตอนที่แล้วบทที่ 67 การประลอง ความท้าทายครั้งแรก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 69 เซี่ยซินหยู่ ฉันมาแล้ว!

บทที่ 68 วิชาสองมือของเขา


บทที่ 68 วิชาสองมือของเขา

นี่มันอะไรกัน ทำไมต้องทำหล่อขนาดนั้นด้วย?

มองพวกเราเขตไห่จิ้งราวกับพวกเราเป็นอากาศงั้นเหรอ?

แต่แน่นอนว่า เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำเท่ห์อะไรหรอก หลังจากหาที่นั่งของตัวเองเจอแล้ว เขาก็นั่งลงแยกย้ายกันไป

"ชุดนักเรียนของโรงเรียนเขาดูดีกว่าเยอะเลย เป็นชุดสูททั้งหมด ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะต้องใส่กางเกงขายาวแบบตะวันตกก็เถอะ แต่มันก็ยังดีกว่าชุดวอร์มหลวมๆ  โทรมๆ  ของพวกเรา" ชิวเมิ่งบ่นพึมพำ

เฉินหยวนเสริมว่า "จริงด้วย น่าเกลียด แล้วยังคุณภาพแย่อีกต่างหาก ซักไม่กี่ครั้งสีก็ตกแล้ว เหอหงเทาต้องเอาเงินค่าทำชุดนักเรียนไปยักยอกแน่ๆ"

"อย่าพูดมั่วซั่วสิ..."

สมกับเป็นนักเรียนระดับสูงของห้อง 3 ถึงได้เคารพผู้อำนวยการของโรงเรียนที่ 11 มากขนาดนี้

"งั้นฉันไปก่อนนะ"

"อืม"

หลังจากที่ชิวเมิ่งเดินมาคุยกับเขาสองสามคำ เธอก็เดินกลับไป เฉินหยวนคิดว่าเธอกำลังจะกลับไปที่นั่งของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าเธอจะวิ่งไปหาคนอื่นเพื่อคุยด้วยที่โรงเรียนหมายเลข 11 ฝั่งผู้ชาย

อืม เป็นผู้หญิงที่มีนิสัยร่าเริงคนหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นผู้หญิงที่เก่งเรขาคณิตมากด้วย

เพราะเมื่อกี้เฉินหยวนได้ยินเสียงในใจของเธอ (ขอให้มีโจทย์เรขาคณิตเยอะๆ  ก็ดีสิ)

ได้แต่พูดว่า ห้องเรียนนี้เต็มไปด้วยคนเก่งเยอะแยะมากมาย

ถ้าต้องใช้พลังทั้งหมดจริงๆ  เกรงว่าวิถีแห่งเต๋าจะถูกทำลายล้าง !

แน่นอนว่า เป้าหมายหลักของเขายังคงเป็นการคัดลอกวิชานินจาจากนักเรียนโรงเรียนที่ 4 และนักเรียนโงเรียนที่ 5

ในบรรดาพวกเขา เขาจะตั้งใจฟังนักเรียนระดับท็อป 4 คนที่ติดป้ายทองเป็นพิเศษ

แต่ก่อนหน้านั้น เฉินหยวนต้องทำสิ่งที่สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากเสียก่อน

เขาเอามือเท้าหน้าผาก หลับตาลง ขยายเสียงในใจของทุกคนเข้ามาในหัว แล้วแยกแยะทีละคน จับคู่กับเสียงจริงของแต่ละคน

เปิดโหมดพลังเต็มที่ !

การใช้ท่านี้ ไม่ถึงกับต้องเปิดใช้ "สึคุโยมิ" หรอก

แค่ไม่กี่นาที เฉินหยวนก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก

และหลังจากที่จับคู่ทุกคนในใจได้แล้ว เขาก็ค่อยๆ  ผ่อนคลายจิตใจ พักผ่อนให้มากที่สุด

ในสายตาของชิวเมิ่ง เด็กหนุ่มร่างสูงเย็นชาคนนี้ดูเหมือนจะกำลังสงบสติอารมณ์ตัวเองเพราะความตื่นเต้นมากเกินไป

ไม่งั้นคงไม่หลับตาทำสมาธิในสถานการณ์แบบนี้หรอก

ถึงแม้ว่าการพูดแบบนี้ในใจจะค่อนข้างไม่ดี แต่ชิวเมิ่งก็ยังคงมีความคิดแบบเหมารวมเกี่ยวกับห้องสิบแปดอยู่ดี

ห้องเรียนนี้มีผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ติดท็อป 100 เป็นห้องเรียนระดับกลางๆ  ที่อยู่อันดับท้ายๆ  ของชั้นปีที่ 2

ส่วนเฉินหยวนเห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ชาย จึงตัดความเป็นไปได้ที่เขาจะติดท็อป 100

เหตุผลที่เขามาเข้าร่วมการแข่งขัน อาจเป็นเพราะห้องเรียนระดับกลางๆ  แต่ละห้องมีโควต้าสองคน เขาจึงจำใจต้องมา

ช่างเถอะ สนใจคนอื่นทำไม

ฉันต้องเข้ารอบ ไปคว้ารางวัลระดับจังหวัด!

คนที่เข้าสอบแค่รอบแรก จะไม่ได้ไปแข่งระดับประเทศ รางวัลสูงสุดที่ได้ก็คือระดับจังหวัด

ดูเหมือนว่าเป้าหมายของเธอไม่ได้มีแค่คะแนนพิเศษสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ยังต้องการแข่งขันเพื่อแสดงความสามารถด้วย

แต่เฉินหยวนไม่ได้ใส่ใจ

ฉันเอาคะแนนก็พอแล้ว

ระหว่างที่รอ ครูคุมสอบก็เข้ามาในห้องสอบ

13:55 น.

เมื่อนาฬิกาบนเพดานเดินมาถึงเวลานี้ เสียงประกาศก็ดังขึ้น

ครูคุมสอบแกะซองข้อสอบที่ปิดผนึกต่อหน้ากล้อง จากนั้นก็แจกข้อสอบให้กับนักเรียนในห้องสอบทีละคน

"ตอนนี้ยังเขียนไม่ได้ อ่านข้อสอบก่อนได้" ครูคุมสอบพูดเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เฉินหยวนก้มหน้าลง และเข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว

เขาอ่านโจทย์ด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาไปสองนาที

จากนั้นก็พลิกกลับมาดูใหม่อีกครั้ง ตรวจสอบโจทย์ที่เขาทำได้ ซึ่งก็คือโจทย์พื้นฐานที่เขาฝึกฝนอย่างหนักเมื่อวานนี้ตอนที่เซี่ยซินหยู่ไม่อยู่

ข้อนี้ทำได้ เซี่ยซินหยู่สอนแล้ว

ข้อนี้ก็ทำได้ ต้องคำนวณหน่อย ฉันก้มหน้าก้มตาเขียนก็คงหาคำตอบได้

ข้อนี้ก็ทำได้ ไม่ยาก เป็นคะแนนที่เก็บได้แน่นอน

ข้อนี้... ดูซับซ้อนหน่อย ข้ามไปก่อน

เอาเถอะ ปล่อยไว้ก่อน

เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น การตอบคำถามก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เฉินหยวนยกปากกาขึ้น วงกลมข้อที่เขาทำได้ทั้งหมด แล้วรีบคำนวณคะแนนของข้อเหล่านั้น

43

‘เยี่ยมเลย มากกว่าหนึ่งในสามอีกนะ’

ส่วนข้อที่เหลือ มีคะแนนรวม 77 คะแนน

ทุกคนเริ่มลงมือทำข้อสอบ เสียงความคิดของพวกเขา ดังสลับกันไปมาในหัวของเฉินหยวน

แต่แม้การสอบจะเริ่มมาห้านาทีแล้ว เฉินหยวนก็ยังไม่ขยับปากกาเลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมกับเวลาห้านาทีที่ใช้ตรวจข้อสอบ และห้านาทีที่ใช้จดจำ ตอนนี้เขาจำโจทย์ทั้งหมดได้หมดแล้ว

จากนั้น เขาก็เอาปลายปากกาไปจ่อที่ข้อที่ไม่ได้วงกลมเอาไว้ หมายความว่ายังไม่แน่ใจว่าจะทำได้

การเปิดใช้พลังทั้งหมด นั่นคือขีดจำกัดของเขาแล้ว

แต่การแข่งขัน คือการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

ขอบเขตสิบเท่า... อ๊ะ ไม่สิ เปิดใช้พลังทั้งหมดสิบเท่า!

ใช่แล้ว สิ่งที่เฉินหยวนกำลังจะทำ คือการรวบรวมเสียงความคิดของทุกคน จับคู่กับคนที่กำลังทำข้อนั้นอยู่ ซึ่งในบรรดาคนเหล่านี้ เฉินหยวนก็เลือกเฉพาะคนที่แข็งแกร่งกว่าระดับโจนินขึ้นไป โดยอาศัยข้อมูลที่เขารู้มาล่วงหน้า

ถ้ามีระดับคาเงะได้ก็จะยิ่งดี

แต่ถ้าไม่มี ก็ช่วยไม่ได้

ในตอนนี้ เฉินหยวนกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากกว่าการเขียนตัวเลขอารบิกหนึ่งพันตัวในวันนั้นถึงสิบเท่า

ถึงจะไม่ถึงกับงมเข็มในมหาสมุทร หรือบุกเดี่ยวไปตัดหัวเอี๋ยนเหลียงท่ามกลางกองทัพนับหมื่น แต่มันก็ยากพอๆ  กับการที่บลิทซ์แครงก์จะใช้สกิลโดนทีโมได้จากกลุ่มที่มี ไซออน นอติลุส และดร.มันโด

เฉินหยวนใช้ความสามารถในการฟังเสียงความคิดคนอื่น มุ่งจัดการกับข้อสอบที่ยาก หรือข้อที่ถ้าไม่มีเฉลยก็คงทำไม่ได้เลย

เขาสลับสับเปลี่ยนร่างไปสามครั้ง

พอมาถึงโจทย์เรขาคณิตข้อหนึ่ง เขาก็หยุดชะงักเล็กน้อย แปดคนจากโรงเรียนที่ 4 กับหนึ่งคนจาก โรงเรียนที่ 1 ตอนนี้ยังไม่มีใครทำข้อนี้เลย

จะข้ามไปเลยดีไหม?

ไม่ได้ การทำแบบนั้นจะทำให้จังหวะเสีย

คิดออกแล้ว! เสียงของชิวเมิ่ง!

อัจฉริยะจากโรงเรียนที่ 11 ของพวกเรา!

เชื่อใจเธอสิ

เฉินหยวนตามความคิดของชิวเมิ่งไป จัดการโจทย์เรขาคณิตไปได้สามข้อรวด แล้วในขณะที่เธอกำลังคิด เขาก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า รีบเปลี่ยนกลับมาทันที

แบบนี้แหละ พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ  เฉินหยวนที่กำลังจดจ่ออย่างเต็มที่ ก็แก้โจทย์ยากๆ  ที่ไม่ได้วงเอาไว้ได้ทีละข้อๆ

"แหมะ"

เหงื่อหยดหนึ่งตกลงบนกระดาษข้อสอบอย่างแรง เสียงดัง "แหมะ"

[มุมมอง เด็กมัธยมคนหนึ่งที่สอบในห้อง]

เสียงดังจนนักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ  อดไม่ได้ที่จะหันมามองเฉินหยวนที่ดูเหนื่อยล้าด้วยความงุนงง

จริงๆ  แล้ว สำหรับเขา ข้อสอบรอบแรก หรือข้อสอบชุดแรก ไม่มีความยากเลยสักนิด ดังนั้น การที่คนอื่นต้องพยายามอย่างหนัก เขาจึงค่อนข้างไม่เข้าใจ

แน่นอนว่าการแข่งขันคณิตศาสตร์ห้องสุดท้ายก็เป็นแค่ของเล่นของเด็กโรงเรียนดัง โรงเรียนหมายเลข 11 น่ะเหรอ?  ถ้าไม่ใช่พวกหัวกะทิระดับท็อป ก็ไม่มีทางสู้พวกเขาได้หรอก

แทนที่จะสนใจคนๆ  นี้ที่ดูทำข้อสอบด้วยความเหนื่อยเกินเหตุ ควรมองไปที่นักเรียนโรงเรียนที่ 4 ดีกว่า

แต่ก่อนที่หันไปทางอื่น เด็กมัธยมคนนั้นก็เห็นชายที่ดูเหนื่อยล้าคนนี้ วางมือไว้บนตัก มองโจทย์อย่างใจเย็น ไม่แม้แต่จะใช้กระดาษทด คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พยักหน้ากับตัวเอง แล้วเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบ

หมอนี่มันข้ามขั้นตอนการคำนวณไปกี่ขั้นตอนกันเนี่ย...?

หรือว่าจะได้เต็ม!?

ถึงจะเป็นแค่รอบแรก แต่ข้างในก็มีโจทย์ระดับประเทศอยู่นะ

ฉันเงยหน้ามองนาฬิกาบนหัวอาจารย์คุมสอบ เวลา 13:43 น. ตอนนี้คะแนนที่ฉันได้น่าจะประมาณเก้าสิบแล้ว

รอบคัดเลือกไม่ได้มีรางวัล ขอแค่ผ่านเกณฑ์ก็พอ ได้คะแนนสูงไปก็ไม่มีประโยชน์

ดูจากความยากแล้ว ปีนี้ข้อสอบง่ายค่อนข้างง่าย คะแนนผ่านน่าจะอยู่ที่ 91, 92

ถึงจะส่งตอนนี้ก็มีโอกาสผ่านตั้งครึ่ง

อืม เอาแบบชัวร์ๆ  ดีกว่า ได้ซักร้อยห้าแล้วค่อยส่งก่อนเวลา

จะพยายามทำเต็มที่ในรอบแรกไปทำไม ได้เต็มก็ไม่ได้ช่วยอะไรในรอบต่อไปอยู่ดี

อีกอย่าง พรุ่งนี้เช้ายังมีรอบสองสำหรับคนที่อยากเข้าแข่งระดับประเทศ รอใช้สมองพรุ่งนี้ดีกว่า

ส่วนนายน่ะ นักเรียนห้อง 1 โรงเรียนที่ 4 เจอกันรอบตัวแทนจังหวัดละกัน

ฉันเริ่มลงมือทำโจทย์ต่อไปเรื่อยๆ

หลังจากแก้โจทย์ยากๆ  ได้ข้อหนึ่ง ฉันก็ยืดเส้นยืดสายคลายกล้ามเนื้อ บิดคอไปมา แล้วก็พบว่า เด็กนักเรียนโรงเรียนที่ 11 คนนั้นดูเหมือนจะไม่เหนื่อยเท่าไหร่

เมื่อกี้ยังเห็นเขาตื่นเต้นและตั้งใจอยู่เลย จนเหงื่อแหมะไปลงกระดาษคำตอบแล้ว

แต่ตอนนี้กลับดูคล่องแคล่ว เขียนได้อย่างลื่นไหล เหงื่อที่เคยหยดจนทะลุกระดาษทดก็ไม่มีอีกแล้ว

ในขณะที่ฉันกำลังเหม่อสังเกตเขาอยู่นั้น เด็กนักเรียนโรงเรียนหมายเลข 11 คนนั้นก็วางปากกาลง แล้วเงยหน้ามองอาจารย์คุมสอบ

จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น ใช้มือปัดผมหน้าม้าขึ้นจนหมด เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูมีมิติ

ถึงแม้ในห้องจะปิดม่านหมดแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม เด็กคนนี้กลับดูเหมือนมีแสงแดดส่องลงมา อาบรัศมีแบบสุขภาพดี สดใส ต้องยอมรับเลยว่า...

หล่อจังโว้ย!

เดี๋ยวนะ... ฉันมัวแต่สนใจเขาทำไมเนี่ย?

ตั้งใจทำข้อสอบสิ! นี่มันเลยเวลาบ่ายสองโมงห้านาทีแล้วนะ เหลือเวลาอีกแค่สิบนาทีก็ต้องส่งแล้ว...

ทันใดนั้นเอง ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั่นเอง ชายหนุ่มจากโรงเรียนหมายเลข 11 ก็ลุกขึ้นยืน

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

แทบจะทุกคนในห้องต่างหันไปมองเขาเป็นตาเดียว

แม้แต่เด็กเรียนหัวกะทิจากห้อง 1 โรงเรียนที่ 4 ที่ตั้งใจทำข้อสอบมาตลอด ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาเช่นกัน

ชิวเมิ่งที่กำลังต่อสู้กับโจทย์ยากอยู่ถึงกับสะดุ้งตกใจ

เฉินหยวนจะทำอะไรน่ะ?

เขา... เขาจะส่งข้อสอบก่อนเวลา!

เพื่อนจากโรงเรียนที่ 1 ที่คอยจับตาดูเขาอยู่ตลอดเวลานั้น ก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่เฉินหยวนไม่ได้ทำเท่ห์ไปอย่างไร้เหตุผล...

นี่มันคือฉากจบของชัยชนะในการแข่งขันคณิตศาสตร์!

"นักเรียน นี่เธอ..."

อาจารย์คุมสอบเอ่ยถามด้วยความงุนงง เพราะยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะ

"อาจารย์ครับ ผมขอส่งข้อสอบ"

ขั้นตอนการส่งข้อสอบก่อนเวลาในการแข่งขันนั้นแตกต่างออกไป โดยนักเรียนจะต้องวางข้อสอบไว้บนโต๊ะแล้วรออาจารย์มาเก็บ ดังนั้นหลังจากที่เฉินหยวนปิดฝาปากกาแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปทันที

และในขณะที่ก้าวออกจากห้องเรียน เขาก็คว้ากระเป๋าที่วางไว้ข้างนอกมาสะพาย แล้ววิ่งออกไปเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด