ตอนที่แล้วบทที่ 59 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ตอนที่ 16
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 61 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ( ติดตามผล 1  )

บทที่ 60 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ( เสร็จสิ้นภารกิจ )


บทที่ 60 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ( เสร็จสิ้นภารกิจ

【คำแนะนำจากระบบ: ผู้ทำภารกิจเสิ่นชงหรานค้นพบเศษตัวอักษรแล้ว ภารกิจเสร็จสมบูรณ์!】

ทันทีที่ได้ยินข้อความนี้ รถไฟกลับคืนสู่สภาพปกติ เสิ่นชงหรานนั่งอยู่ตรงกลางของตู้โดยสาร ดาบไม้พีชที่อยู่ในมือเหมือนมีคราบน้ำมันสีดำติดอยู่

ตรงตำแหน่งที่ใช้ตราประทับสะกดวิญญาณชั่ว ตอนนี้เหลือเพียงรอยตราทองคำไว้เหมือนมีใครปั๊มตราประทับเอาไว้

เฟิงอี้เฉินเปิดประตูตู้โดยสารเข้ามาและเห็นเสิ่นชงหรานนั่งอยู่ตรงนั้น

เดิมทีเขายังต่อสู้กับผีสาวผมยาวอย่างสูสี แต่ทันทีที่ได้ยินข้อความภารกิจนี้ ผีสาวก็ร้องคำรามอย่างไม่ยินยอมและหายวับไป

“เธอได้เศษชิ้นสุดท้ายมายังไง”

ได้ยินคำถามจากเฟิงอี้เฉิน เสิ่นชงหรานก็ลุกขึ้นพร้อมดาบไม้พีช “ได้มาจากผีสาวนั่นแหละ”

เฟิงอี้เฉินพยักหน้า “คราวนี้เราไม่ได้กลับไปยังหน้าต่างสรุปภารกิจทันที”

เสิ่นชงหรานก็สังเกตเช่นกัน “นั่นสินะ อาจต้องรอถึงสถานีปลายทาง”

ชิวฮุ่ยและต้วนถิงโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ เป้าหมายหลักของสองผีสาวนั้นคือคนที่แข็งแกร่งอย่างพวกเขา ถ้าต้องพึ่งพาพวกเธอสองคนก็คงลำบากแล้ว

ชิวฮุ่ยยังคงสั่นไปหมด อยากจะร้องไห้เต็มที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าต้วนถิงยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน

“สถานีถัดไปคือปลายทาง ขอแสดงความยินดีกับผู้ทำภารกิจทั้งสี่ที่ทำภารกิจรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายของสายสี่สำเร็จ…”

ต้วนถิงนั่งนิ่งบนที่นั่ง ได้ยินข้อความนี้แล้วอยากชูนิ้วกลางให้

เมื่อรถไฟจอดสนิท ทุกคนก็ลุกขึ้น พอประตูเปิดออก กลับเห็นแค่ความว่างเปล่าด้านนอกเหมือนกับหน้าจอสรุปภารกิจครั้งก่อน

เสิ่นชงหรานเดินออกไปก่อน “ฉันไปก่อนนะ ไว้พบกันใหม่หากมีโอกาส”

แน่นอนว่าคนที่มีโอกาสพบกันอีกก็คือเฟิงอี้เฉินเท่านั้น

ก่อนที่เงาของเสิ่นชงหรานจะหายไป ชิวฮุ่ยยังคงร้องไห้ขอบคุณ “ขอบคุณมากค่ะ คุณเสิ่น!”

จากนั้นเฟิงอี้เฉินก็เดินตามออกไป ส่วนต้วนถิงก็หันมามองชิวฮุ่ยและตบไหล่เธอเบาๆ “ฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกันในโลกจริง”

ชิวฮุ่ยรีบพยักหน้า

เมื่อทั้งสี่คนออกไปแล้ว ประตูก็ปิดลง

รถไฟฟ้ากลับคืนสู่สภาพหลังอุบัติเหตุ และในตู้โดยสารที่เมื่อครู่ยังมีทั้งสี่คนนั่งอยู่ ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้โดยสารหลายสิบคนที่นั่งก้มหน้า

สองผีสาวก็อยู่ในนั้นด้วย รถไฟเที่ยวสุดท้ายนี้พาทุกคนจากไปสู่เส้นทางลึกลับที่ไม่อาจรู้ได้

【ขอแสดงความยินดีกับเสิ่นชงหรานที่ทำภารกิจสำเร็จ!

ได้รับคะแนนพื้นฐานสำหรับภารกิจระดับต่ำ: 2 รางวัลสำหรับการผนึกวิญญาณชั่ว: 20

คะแนนพิเศษจากผลงาน: 10】

ครั้งนี้ไม่มีรางวัลสุ่ม แต่คะแนนเหล่านี้ก็พอให้เธอซื้ออุปกรณ์เพิ่มได้

จากนั้นเธอก็หยิบดาบไม้พีชมาดูและถาม “ดาบไม้พีชของฉันยังใช้ได้ไหม?”

ถึงจะยังไม่หักเสียทีเดียว แต่ดูท่าว่าใกล้พังเต็มทีแล้ว

“ยังต้านทานการโจมตีจากวิญญาณชั่วได้อีกครั้ง”

เรียกได้ว่าใกล้พังแค่รอการโจมตีครั้งสุดท้าย

เสิ่นชงหรานหมดหนทาง เลยคิดว่าคงต้องซื้อดาบไม้พีชเกรดขาวมาใช้แทนไปก่อน เกรดแดงยังเกินกำลังที่จะซื้อ

“จริงสิ ฉันใช้ตราประทับสะกดผีสาวนั่นไว้ พลังสะกดจะคงอยู่ได้นานแค่ไหน?”

“สิบปี”

เสิ่นชงหรานขมวดคิ้ว “แล้วทำไมถึงได้คะแนนแค่ 20 คราวที่แล้วตอนสะกดวิญญาณชั่วในภารกิจระดับกลางยังได้ตั้ง 30 คะแนน”

ระบบตอบว่า “รางวัลสำหรับภารกิจระดับต่ำและระดับกลางต่างกันมาก คะแนนนี้เป็นไปตามกฎที่กำหนดไว้”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เสิ่นชงหรานก็ยอมรับได้

หากถามว่าสิ่งที่ยุ่งยากที่สุดในการทำภารกิจระทึกขวัญคืออะไร สำหรับเสิ่นชงหรานแล้วไม่ใช่ผี แต่เป็นบรรยากาศมืดมิดนั้นต่างหาก

ถึงเธอจะเตรียมไฟฉายมา แต่ผีก็ทำให้มันดับได้ง่ายๆ

เธอมองไปรอบๆ แล้วพบไอเทมที่ราคาถูกแต่ใช้งานได้ดีชิ้นหนึ่ง

【เทียนเกรดขาว: เมื่อจุดแล้วจะไม่ดับด้วยสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติหรือวิญญาณชั่วเกรดเดียวกัน ยกเว้นผู้จุดและวิญญาณชั่วเกรดพิเศษเท่านั้นที่สามารถดับได้ เป็นไอเทมให้แสงสว่างในความมืดที่ใช้งานได้ดี】

เทียนขนาด 2x10 เซนติเมตรที่เสิ่นชงหรานดูอยู่มีราคา 1 คะแนน

เธอซื้อมาสองแท่งเพื่อทดลองใช้

ยังเหลือคะแนนอีก 30 คะแนน อย่างแรกคือซื้อดาบไม้พีชใหม่ ใช้ไป 15 คะแนน

คะแนนที่เหลืออีก 15 คะแนนก็นำไปซื้อยันต์ไล่ผีเกรดแดงอีกแผ่น ทำให้เธอมียันต์ไล่ผีเกรดแดงอยู่สองแผ่นแล้ว

ยันต์ที่แปะไว้ด้านหลังตอนนั้นเป็นยันต์เกรดวิญญาณราคาถูก แม้จะใช้ไล่ผีไม่ค่อยได้ผลนัก แต่ก็ใช้เตือนภัยได้ดี

ส่วนยันต์ไล่ผีเกรดขาวระดับสูงที่เธอเคยมีอยู่สามแผ่นนั้น เธอใช้ไปแผ่นหนึ่งตอนกำจัดผีสาว คราวนี้เหลืออยู่สองแผ่น

หลังจากภารกิจนี้จบ เธอก็ได้ของใช้มาเติมเต็มอีกไม่น้อย

เมื่อลืมตาขึ้น เธอก็ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมหอปีนขึ้นเตียง

ช่วงนี้เพิ่งจะปิดไฟกัน ทุกคนกำลังเตรียมเข้านอน ซึ่งก็บังเอิญกับที่เธอเพิ่งกลับมาจากภารกิจ

...

แสงอาทิตย์ส่องสว่างปลุกให้เมืองถังเฉิงตื่นขึ้น ผู้คนที่ต้องไปทำงานรีบคว้าขนมปังติดมือ เดินตรงไปยังสถานีรถไฟฟ้า

ไม่มีใครสังเกตว่าป้ายสายสามที่เคยเห็น กลายเป็นสายสี่ไปแล้ว

วันนี้คุณยายก็ยังคงพาหลานชายไปรถไฟฟ้าไปโรงเรียนเช่นเคย แต่พอลงบันไดมาก็เห็นผู้คนจำนวนมากกำลังยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปอะไรบางอย่าง

เจ้าหนูที่กำลังสนใจอยากรู้ เมื่อเห็นคนมากมายถ่ายรูปอยู่ก็แหวกตัวผ่านฝูงชนไปดูจนได้

เขาตัวเล็กจึงแทรกผ่านคนอื่นไปถึงด้านหน้า และเห็นว่ากระจกที่กั้นระหว่างชานชาลากับตัวรถไฟนั้นหายไปแล้ว

ตรงหน้าคือขบวนรถไฟที่ยังมีรอยไหม้เกรียมจากการระเบิด การชนที่รุนแรงจนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ทำให้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ และตอนนี้ก็เหลือแต่ซากอันบิดเบี้ยวในสภาพที่เห็น

“โอ้พระเจ้า นี่มันระเบิดครั้งใหญ่แน่ๆ ทำไมเราอยู่ใกล้ขนาดนี้ถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย”

“ใครจะไปรู้ล่ะ อ้อ! กระจกนั่นหายไปไหนแล้ว โดนระเบิดไปด้วยหรือเปล่า ทำไมไม่มีเศษกระจกเลย”

“โอ๊ย! ทำไมยังมีเด็กอยู่ตรงนี้ รีบไปด้านหลังเถอะ อย่ามาดูเลย”

มือที่ไม่รู้ว่าใครส่งมาก็พยายามจะดันเด็กออกไปด้านหลัง แต่เด็กกลับดิ้นหลุดจากมือที่จับเขาไว้

“ตรงนั้นมีคนแปลกๆ เต็มไปหมดเลย”

ในสายตาของเด็ก เขาเห็นคนสิบกว่าคนยืนอยู่หน้าเหล่าฝูงชนตรงข้าม หลายคนถูกไฟเผาจนไหม้เกรียม และยังมีวิญญาณผีผู้หญิงสองตนในสภาพที่น่าสยดสยอง

ผู้คนพากันมองไปยังทิศทางที่เด็กชี้ แต่กลับเห็นเพียงฝูงชนธรรมดาเช่นเดียวกับพวกเขา

“มีตรงไหนกัน เด็กนี่อย่ามาเล่นพิเรนทร์น่ะ”

“ได้ยินว่าพวกเด็กๆ มักมีเซ้นส์ เห็นในสิ่งที่พวกเราไม่เห็น”

“อย่ามาหลอกกันสิ ให้ตายเถอะ”

คุณยายของเด็กก็พาหลานกลับมาได้ในที่สุด “อันตรายขนาดนี้แล้วยังจะเข้าไปอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้น ยายจะไปบอกพ่อแม่หนูยังไง”

เด็กถูกคุณยายดึงตัวกลับไป มองย้อนกลับไปอีกครั้ง แต่เงาของคนกลุ่มนั้นก็หายไปหมด เหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

ข่าวอุบัติเหตุในรถไฟฟ้าสายสี่ของเมืองถังเฉิงแพร่กระจายบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วและติดเทรนด์ทันที

ทว่าเมื่อคนที่ถ่ายวิดีโอในที่เกิดเหตุโพสต์คลิปออกมา ผู้ชมออนไลน์ต่างก็งงงัน

【ไหนล่ะขบวนรถไฟที่เกิดอุบัติเหตุ ก็เห็นแค่พวกคุณยืนเซลฟี่กับกระจกเท่านั้น!】

【ใช่! ฉันอุตส่าห์กังวลตามเข้ามาดู คิดว่าจะเจอสภาพสุดสลดของอุบัติเหตุ】

【หรือว่าทางการเมืองถังเฉิงจะเล่นอะไรผิดพลาด เลยเกิดเรื่องวุ่นๆ แบบนี้ขึ้นมา?】

มีคอมเมนต์แบบนี้เต็มไปหมด ทำเอาคนที่โพสต์คลิปเองก็งุนงง แต่พอมาดูคลิปซ้ำอีกครั้ง ทุกอย่างก็เป็นเหมือนที่คอมเมนต์ว่าไว้

ประตูรถไฟเปิดอยู่ ไม่มีใครขึ้นไป ทุกคนเพียงยืนบนชานชาลาถ่ายรูปกัน ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขนาดใหญ่

แต่หลายคนในตอนนั้นเห็นชัดเจนว่ารถไฟชนและพังเสียหาย พวกเขามองเห็นเหมือนกันหมด นี่จะบังเอิญไปหน่อยไหมหากว่าพวกเขามีภาพหลอนพร้อมกันหมดในที่เดียวกัน

ไม่นาน รถไฟฟ้าสายสามของเมืองถังเฉิงก็ถูกสั่งปิด เหลือเพียงทางสัญจรบนดินสำหรับการเดินทาง

กระแสบนโลกออนไลน์ก็ถูกลบออกไป วิดีโอที่ถ่ายก่อนหน้านี้ก็ถูกซ่อน

สถานีรถไฟแห่งนี้ถูกส่งต่อให้หน่วยสืบสวนจากเมืองหลวง เข้ามาตรวจสอบ นำโดยบุคคลในชุดเครื่องแบบสีดำ

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด