บทที่ 468 ภาวะสมดุล
บทที่ 468 ภาวะสมดุล
“ภาพลวงตาหรือ?” เรย์ลินพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะมองไปที่บันทึกในชิป
“พบการรบกวนจากพลังงานสนามที่ไม่ทราบชนิด! เริ่มเข้าสู่ภาวะสับสน!”
“เริ่มการตอบโต้จากวงเวทมิติ กำลังชาร์จพลัง!”
“สายฟ้าทำลายพร้อมใช้งาน เริ่มจ่ายพลังงานจากหอคอยพ่อมด!”
“สภาพปกติกลับคืนมา! ยกเลิกการเตือนภัย!” ข้อความที่ปรากฏเป็นแถบสีแดงทำให้สีหน้าของเรย์ลินดูเคร่งเครียดขึ้นทันที
ขณะนั้นเอง เมล็ดพลังจิตที่เขาปล่อยไปในรอยแยกมิติก็สลายไปจนหมดสิ้น
“จิตวิญญาณของหอคอย!” เรย์ลินเรียก
“ท่านผู้เป็นนาย!” วิญญาณสีเขียวปรากฏตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
“พลังงานที่เหลือในหอคอยพ่อมดมีอยู่เท่าไหร่?”
“ปัจจุบันเหลือเพียง 1.9% แนะนำให้เริ่มชาร์จจากแหล่งพลังงานบวก-ลบทันที!” จิตวิญญาณของหอคอย ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ทำไมถึงใช้พลังไปมากขนาดนี้?”
“บันทึกขัดข้อง!” บนใบหน้าของจิตวิญญาณของหอคอยปรากฏความงุนงงที่หาได้ยาก
“ดูท่าว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา!”
เรย์ลินถอนหายใจ การสำรวจมิติลี้ลับมักมาพร้อมกับอันตรายซึ่งเขารับรู้มานานแล้ว สิ่งที่เขาเพิ่งเจอถือว่าเป็นวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการทดลองมา
“โชคดีที่กฎสามข้อของสตาร์รีลม์ยังมั่นคงแข็งแกร่งอยู่ สิ่งนั้นจึงไม่สามารถผ่านกระจกมิติเข้ามาได้โดยตรง ได้แค่ส่งภาพลวงตาเท่านั้น”
เรย์ลินลูบคาง ค่อย ๆ ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวอีกครั้ง
“แค่ภาพลวงตาก็สร้างผลกระทบได้ขนาดนี้ หากเปิดประตูสตาร์รีลม์ให้ตัวจริงของมันเข้ามาได้ ก็คงทำลายล้างทั้งดินแดนไปแล้ว…” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาอดหวาดหวั่นไม่ได้
“ยังดีที่พลังมันไม่เพียงพอ วงเวทมิติสามารถตอบโต้ได้ทัน!” เขาเป่าลมออกจากปากด้วยความโล่งใจ ก่อนจะหันกลับมา
“เจ้ารู้ไหม…”
ทันใดนั้น หัวแพะขนาดใหญ่ ปราศจากร่างกาย โผล่มาจากด้านหลังเขา บริเวณคอมีของเหลวสีเหลืองไหลหยดลงมา ดวงตาสองข้างที่ว่างเปล่าจ้องตรงมายังเรย์ลิน
“…”
ร่างของเรย์ลินถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีดำในทันที ดวงตากลายเป็นแววสีอำพันที่มีรูม่านตาเป็นเส้นตั้งตรง
“ดวงตาแห่งการกลายเป็นหิน!” แสงที่เต็มไปด้วยพลังลึกลับพุ่งออกมา ทำให้บริเวณผนังด้านหนึ่งปรากฏชั้นของหินสีเทาขาว
หัวแพะหายไปโดยไม่เหลือร่องรอย
“ดูท่าว่ามันยังไม่จบ” สีหน้าของเรย์ลินขรึมขึ้น “ชิป, สแกน!”
“ติ๊ง! เริ่มภารกิจ! เริ่มการสแกน!”
ไม่กี่วินาทีต่อมา ชิปส่งผลลัพธ์ล่าสุดกลับมา “พบพลังงานสนามที่ไม่ทราบชนิดหลงเหลือ คาดว่าเป็นมลพิษจากมิติลี้ลับ!”
“ฮึ่ม!”
เรย์ลินสะบัดมือ วงเวทมิติลี้ลับหยุดทำงานในทันที ขณะที่หินสตาร์รีลม์ที่เป็นหัวใจของวงเวทเกิดเสียงแตกกระจายกลายเป็นผง
หินสตาร์รีลม์ที่ได้มาจากท่านผู้นำตระกูลโนโนลิฟา ฟานส์ สิ้นสุดอายุการใช้งานด้วยการสูญเสียพลังงานทั้งหมด
เรย์ลินมองภาพนั้นอย่างเศร้าใจเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องที่อยู่ด้านนอก
ที่ทางเข้าออกของห้องทดลอง มีหัวฉีดน้ำหลายตัวลอยอยู่ใต้เพดาน และมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวสะอาดส่งกลิ่นหอม
“บ่อชำระล้างระดับห้า หวังว่าจะใช้ได้ผล!” การป้องกันจากมิติลี้ลับคือหลักสูตรที่ต้องเรียนรู้ เรย์ลินจึงยกมาตรการชำระล้างของดยุคกิลเบิร์ตมาใช้ ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพเข้าไปเล็กน้อย
“พรึ่บ!” “พรึ่บ!”
หัวฉีดพ่นน้ำสีเขียวออกมาทั้งหมด มีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแรงจัดทำให้แสบจมูกอย่างยิ่ง น้ำสีเขียวนี้ชะล้างตัวเรย์ลินจนเปียกปอน
ขณะเดียวกัน เส้นใยสีเขียวบางส่วนเริ่มลอยออกมาจากชุดป้องกันของเขาก่อนจะถูกน้ำชะล้างจนหายไป
“ยุ่งยากจริง!” เรย์ลินมองภาพนั้นพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะถอดชุดออกจนเหลือร่างกายเปลือยเปล่าแล้วกระโดดลงในสระน้ำตรงกลาง
ซ่า…
เมื่อเกิดกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ขึ้น น้ำสีขาวขุ่นในบ่อก็เริ่มเดือดปุด ๆ และสายตาก็เห็นหยดน้ำสีดำบาง ๆ ซึมออกจากรูขุมขนของเรย์ลิน
หลังจากชำระล้างหลายครั้ง เรย์ลินก็ย้ายไปยังห้องชำระล้างถัดไป ที่นั่นดอกไม้ขนาดใหญ่เท่าคนทั่วไปเบ่งบานเผยกลีบใหญ่สีสดและลิ้นสีแดงเข้มคล้ายกับหนวดดูด
หลังจากการชำระล้างหลายรอบ เรย์ลินสวมชุดคลุมหลวม ๆ นั่งเอนกายบนเก้าอี้นอนอย่างผ่อนคลาย
"สามเดือนที่ผ่านมานี้ ข้าเปิดประตูสตาร์รีลม์หลายครั้ง แต่พอขาดเหรียญโชคชะตา ข้าก็หาตำแหน่งของโลกฝนดำไม่เจอ นอกจากเสียพลังไปมาก คราวนี้ยังดันไปปลุกสิ่งประหลาดขึ้นมาอีก..." เรย์ลินครุ่นคิดถึงกำไรและขาดทุน
การทดลองในสตาร์รีลม์ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง แต่ยังเทียบไม่ได้กับวิชาฝึกฝนร่างกายที่เขาได้จากกลุ่มชนหลายแขน ตามการคำนวณของชิป วิชาลับนี้ได้จำลองออกมาและตั้งชื่อไว้ว่า "พลังแห่งหลายแขน!"
จากผลการทดลองจำลองที่ชิปคำนวณมา วิชานี้มีคุณสมบัติทะลุข้อจำกัดทางพันธุกรรม เสริมสร้างร่างกายและพลังได้มหาศาล! อาจจะเพิ่มค่าความแข็งแกร่งให้เรย์ลินได้อีก 5 ถึง 10 แต้ม ซึ่งดึงดูดเขาอย่างยิ่ง
ค่าความแข็งแกร่งยิ่งสูงขึ้น การจะยกระดับก็ยิ่งยากขึ้นอีก หากเป็นเมื่อก่อนตอนที่ค่าอยู่แค่ 10 หรือ 20 แต้ม เขายังไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้เมื่อคิดจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกกลับเป็นเรื่องยากลำบากเกินคาด
ดังนั้น หากวิชาพลังแห่งหลายแขนถูกเผยแพร่ออกไป พ่อมดที่เน้นการฝึกร่างกายคงแทบคลั่ง
แค่วิชานี้เพียงอย่างเดียวก็คุ้มค่ากับเวลาสามเดือนที่เขาทุ่มเทไปแล้ว สตาร์รีลม์จึงมีแรงดึงดูดมากเพราะเหตุนี้เอง
ทว่าทุกอย่างย่อมมีทั้งดีและร้าย หลังจากสูญเสียการนำทางของพลังโชคชะตา การทดลองของเรย์ลินกลับติดขัด แม้จะส่งเมล็ดพลังจิตไปหลายครั้งก็กลับมาไร้ผลลัพธ์
วันนี้เขายังดันไปดึงดูดบางสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจให้ปรากฏตัวขึ้นอีก
มันแทบไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นเหมือนการรวมตัวของแนวคิดหลากหลายเข้าด้วยกัน
และหากมันเริ่มออกฤทธิ์จริง ผลกระทบอาจรุนแรงยิ่งกว่าคำสาปยุคโบราณเสียอีก
“ดวงไม่ดีจริง ๆ ได้เวลาถอนตัวแล้ว” อันตรายในครั้งนี้ทำให้เรย์ลินเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
เขาหลับตาลงช้า ๆ เมื่อเปิดขึ้นอีกครั้งก็พบหัวแพะนั่นลอยอยู่ตรงหน้าอีก ดวงตาที่เต็มไปด้วยความตายกลับมีแววขบขันในครั้งนี้
เรย์ลินถอนหายใจ มองสบดวงตาของมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สิบกว่าวินาทีต่อมา หัวแพะก็เลือนหายไปอีกครั้ง คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา
"น่ารำคาญจริง ๆ !" พอหัวแพะหายไป เรย์ลินก็กระโดดขึ้นอย่างเดือดดาล "จะไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ หรือไง!"
เขาคว้าชุดขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็วแล้วเดินตรงไปยังห้องแห่งศูนย์กลางชั้นควบคุม
ขณะมือของเขาจับลงบนที่จับประตู ราวกับเป็นภาพหลอน ที่จับประตูทองเหลืองนั้นกลับกลายเป็นหัวแพะ กำลังส่งยิ้มที่ดูเหมือนมนุษย์ให้เขา
สถานการณ์แบบนี้อาจทำให้พ่อมดแทบเสียสติได้ และยังไม่รวมถึงผลกระทบอื่น ๆ ที่จะตามมา
“พื้นที่นี้คือห้องควบคุมหลัก! อนุญาตให้เฉพาะเจ้าของ เรย์ลิน ฟาเรล เข้าได้เท่านั้น ผู้บุกรุกอื่นจะถูกกำจัดทั้งหมด!”
เมื่อประตูเปิดออก เสียงกลไกเย็นชาดังก้องตามด้วยพลังเวทอันน่าหวาดกลัวที่พุ่งมาล็อกเป้าไปยัง เรย์ลินทันที
“เริ่มการสแกน! ยืนยันว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ระดับสูงสุด ยกเลิกสัญญาณเตือน!”
แสงสีฟ้า สีแดง และสีเขียวส่องผ่านเรย์ลินทีละสีจนสุดท้ายจึงส่งสัญญาณสิ้นสุด เรย์ลินรู้สึกว่าแรงกดดันบนร่างกายผ่อนคลายลงในทันที
ภายในห้องควบคุมขนาดเล็กนี้มีเพียงแท่นทดลองหนึ่งเดียว โดยที่ด้านบนของแท่นมีคริสตัลบอลที่เผยให้เห็นกระดูกนิ้วขาวซีดลอยอยู่ในนั้นอย่างเลือนราง
“เริ่มปล่อยรังสี!”
เรย์ลินนอนลงบนแท่นทดลอง ขณะเดียวกันเสียงแปลก ๆ ก็ดังขึ้นใกล้หู คล้ายเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตบางชนิดและเสียงคร่ำครวญของมนุษย์ในวาระสุดท้ายของชีวิต
สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยและสั่งการเสียงเย็นชา
“เริ่มปล่อยรังสี!” รังสีลึกลับเริ่มกระจายทั่วเรย์ลินจากกระดูกนิ้วของงูสาว ทำให้เลือดโคโมอินในร่างกายของเขาเริ่มเดือดพล่านเบา ๆ
ปกติแล้วกระบวนการนี้จะเป็นสิ่งที่น่ารื่นรมย์ยิ่ง แต่ตอนนี้สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปทันที
หมอกสีเทาขาวปรากฏขึ้นมาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คล้ายกับว่าเขากำลังถูกห่อหุ้มในรังไหมและทุรนทุรายต่อสู้กับบางสิ่งอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยภายในร่างกายของผู้ใช้ คาดว่าเป็นรังสีตกค้างจากมิติต่างมิติ!”
เสียงของชิปดังขึ้นในตอนนี้
“แนะนำให้หยุดการปล่อยรังสีจากงูสาวในทันที!”
“ไม่! เพิ่มปริมาณเป็นสิบเท่าของค่าก่อนหน้า!” เรย์ลินแววตาแข็งกร้าว
ชิปทำได้เพียงแนะนำแต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ ดังนั้นเมื่อเขาสั่งการ กระแสไฟฟ้าสีน้ำเงินเริ่มพวยพุ่งออกจากกระดูกงูสาว ก่อให้เกิดรังสีที่ทรงพลังยิ่งจนทะลุผ่านหมอกสีเทาขาวแล้วกระทบร่างของเรย์ลินโดยตรง
“อึ้ก!” เรย์ลินกัดฟัน สองมือกำแน่นกับแท่นทดลองด้วยแรงมหาศาลจนทิ้งรอยลึกบนแท่นโลหะ
ผิวของเขาเกิดรอยคล้ำดั่งโดนแสงอาทิตย์เผาไหม้ทันที ร่างกายบอบช้ำด้วยบาดแผลสีม่วงดำ
“เซลล์พื้นผิวร่างกายของผู้ใช้เสียหาย 39.78%! แนะนำให้หยุดการปล่อยรังสีในทันที!” ชิปเตือนอีกครั้ง
“ดูเหมือนจะยังไม่พอ! เพิ่มเป็นสิบห้าเท่า!” เรย์ลินกัดฟันตอบออกมาจากไรฟัน
เสียงชำแรกดังขึ้น รังสีที่เข้มข้นต่อสู้กับหมอกสีเทาขาวจนเกิดหยดน้ำสีเทาขาวร่วงหล่นลงมาทีละหยด
ในขณะเดียวกัน เสียงรบกวนในหูของเรย์ลินก็ยิ่งทวีความเข้มข้นและแหลมสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หัวแพะสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้ขนของมันหลุดออกมาทีละเส้น เขาแพะก็หดลง เปลี่ยนรูปร่างอย่างบิดเบี้ยวจนหัวแพะกลายเป็นศีรษะของหญิงสาว นัยน์ตาของเธอขาวโพลนไหลรินไปด้วยเลือด
..........