ตอนที่แล้วบทที่ 324 การขาย iPhone 8 ตกต่ำ และโครงการส่งไฟฟ้าไปภาคใต้ของตงเตี้ยนได้เริ่มต้นใช้งานอย่างเป็นทางการ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 326 ธนาคารกลางสหรัฐฯขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ผู้บังคับบัญชาเก่าจัดเครื่องไม้เครื่องมือที่ซ่อนไว้

บทที่ 325 ชิปขาดแคลน? โรงงานผลิตชิปเริ่มเข้าสู่การผลิตเต็มกำลัง!


“ดึกขนาดนี้แล้ว น้องเฉิน นายยังจะกลับไปเสินเจิ้นอีกหรือ?”

ที่หน้าโรงแรมไท่จื่อ เฉินหย่ง, คังเส้าฮว่า และเหล่าผู้บริหารพากันลงบันไดมาส่งเฉินซิงด้วยการเชิญชวนให้อยู่ต่อ

“ไม่ลองพักที่กวานเฉิงอีกคืนเหรอ? เวลาก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรนัก ยังไม่ได้ร่วมสังสรรค์ผ่อนคลายด้วยกันอย่างเต็มที่เลยนะ”

“ใช่แล้ว คุณเฉิน ขอให้พักอีกคืนเถอะ การขับรถตอนกลางคืนไม่ปลอดภัยนัก”

“ผมได้ยินว่าคุณเฉินเคยชอบเล่นไพ่นกกระจอก ตอนนี้ผมเองก็ชอบ ถ้าเป็นไปได้คืนนี้มาเล่นกันสักสองตาเป็นยังไง?”

เฉินซิงมองไปยังเหล่าผู้บริหารที่อยู่ข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม ก่อนปฏิเสธอย่างสุภาพว่า “ยังมีงานที่บริษัทต้องสะสาง ส่วนเรื่องไพ่นกกระจอก ไว้มีโอกาสจะมาแข่งกันสักสองตา”

ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบเล่นไพ่นกกระจอกจริง ๆ ซึ่งเหล่าผู้บริหารคงได้ยินมาจากใครสักคน แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ เฉินซิงนั้นกลับมาเกิดใหม่ และได้เลิกติดไพ่นกกระจอกไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือทุ่มเทให้กับการพัฒนา Dragonstar Technology ให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของโลก

เมื่อเฉินซิงปฏิเสธหลายครั้ง เฉินหย่งก็แสดงความเสียดายและพูดว่า “งั้นคงต้องรอให้เจอกันคราวหน้า แต่ยังย้ำคำเดิมนะ มาเยือนกวานเฉิงเมื่อไหร่ อย่าลืมโทรหาผม ทุกอย่างผมจัดการให้ได้”

“ไม่มีปัญหา” เฉินซิงตอบพลางเดินมาถึงข้างรถ ก่อนจะหยุดกล่าวลาครั้งสุดท้าย “ไว้เจอกันครั้งหน้า ท่านผู้บริหารทุกท่าน”

“เดินทางดี ๆ นะ คุณเฉิน”

“หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก”

“ขับรถปลอดภัยนะ”

เหล่าผู้บริหารยังกล่าวอำลาและช่วยเปิดประตูรถให้เฉินซิงเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง เฉินซิงก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ท่านผู้บริหารก็กลับไปพักผ่อนกันเถอะ ผมขอตัวก่อน”

เมื่อเสียงอำลาดังขึ้น เฉินซิงปิดประตูรถ และจ้าวซือชิวที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับก็ขับรถออกไปพร้อมกับแซวว่า “อาหารเย็นธุรกิจของพวกคุณนี่ดูยุ่งยากจริง ๆ นะ”

จ้าวซือชิวที่เคยอยู่ในวงการทหารไม่เคยเจอธุรกิจมื้อเย็นแบบนี้มาก่อน มากสุดก็มีคนเข้าหาเธอเพียงเพื่อขอให้เธออยู่ทำงานจนเกษียณเพื่อจัดงานให้เธอเมื่อปลดประจำการ แต่เมื่อเธอได้เห็นวิธีการเจรจาของเฉินซิงก็พบว่าการเจรจานั้นซับซ้อนมาก มีทั้งการบอกใบ้และการต่อรอง

“เธอยังมีประสบการณ์น้อยน่ะ กลับบริษัทเถอะ” เฉินซิงตอบพลางยิ้ม

การเจรจาทางธุรกิจนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่ผ่านเรื่องเหล่านี้มานาน หากจะถามว่าอะไรที่เขากลัวที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องญาติพี่น้องที่เร่งให้เขาแต่งงาน

จ้าวซือชิวไม่ได้ถามอะไรต่อ และหมุนพวงมาลัยออกจากโรงแรมเข้าสู่ถนนใหญ่

เฉินหย่งและเหล่าผู้บริหารมองตามรถเบนซ์ของเฉินซิงที่ขับออกไป ก่อนที่พวกเขาจะกล่าวคำอำลาและแยกย้ายกันกลับ

เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว พนักงานโรงแรมและผู้จัดการที่ยืนรออยู่หน้าโรงแรมก็รวมกลุ่มพูดคุยกัน

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเหล่าผู้บริหารที่มีมูลค่าหลายพันหลายหมื่นล้านจะดูถ่อมตัวมาก ใช้แค่รถเบนซ์และออดี้ ฉันนึกว่าจะใช้รถหรูอย่างโรลส์รอยซ์เสียอีก”

“รถ BBA ก็แพงนะ เบนซ์ S-Class ก็ราคาหลายล้านเลย”

“สำหรับคนทั่วไป BBA แพงก็จริง แต่ในมุมมองของคนรวยอย่างเฉินซิงที่มีมูลค่าทรัพย์สินระดับแสนล้าน ขับรถที่ราคาไม่ถึงห้าล้านก็ถือว่าถ่อมตัวแล้ว”

“เขาไม่ได้กำลังจะผลิตรถเหรอ? ไม่รู้ว่าเขาจะผลิตรถที่คนธรรมดาเข้าถึงได้หรือเปล่า ฉันเป็นแฟนตัวยงของเขาเลยนะ”

“ทำไมเมื่อกี้เธอไม่ขอลายเซ็นเขาล่ะ?”

“ก็ฉันขี้อายอ่ะ”

ขณะนั้นเอง จ้าวซือชิวได้ตั้งค่าระบบนำทางกลับเสินเจิ้นอย่างคล่องแคล่ว ขณะที่เฉินซิงเองก็กำลังพักผ่อนหลังจากดื่มในงานเลี้ยง

ขณะเขากำลังเคลิ้มหลับ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“(นี่คือจอมยุทธ์เด๊ะ

แต่ละมื้อแต่ละเว็น บ่เฮ็ดหยัง)

(ฝึกกำลังภายใน ไว้กั้นน้ำตาพัง

ที่เจ้าถั่ง เอิ๊กซ้ายไว้อย่างแฮง)

(เฉิดฉาย ในยุทธภพ

มาคว่ำบ๊บ ดั่งจันทราที่อับแสง)

(มือกำจอกสุรา กับเหล้านารีแดง

ยกซอดแจ้ง พอให้ลืมเหงา~)”

เพลงทำให้ความง่วงของเขาหายไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่โทรเข้า เมื่อเห็นว่าผู้โทรคือ “ซ่งเว่ยกั๋ว” ความง่วงก็หายไปทันที

“สวัสดีครับ ท่านซ่ง”

เมื่อได้ยินคำว่า “ท่านซ่ง” จ้าวซือชิวก็ตั้งใจฟังบทสนทนาของเฉินซิงทันที

“น้องเฉิน ครั้งนี้พี่มีข่าวดีมาบอกถึงสองเรื่อง นายอยากฟังเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก่อน?”

ซ่งเว่ยกั๋วพูดเป็นปริศนา

มีข่าวดีสองเรื่องและยังแบ่งเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก เฉินซิงที่ชอบฟังเป็นลำดับจึงตอบกลับว่า “ฟังเรื่องเล็กก่อนครับ ไหน ๆ ก็เป็นข่าวดีแล้ว ผมก็อยากฟังทีละเรื่อง”

“เรื่องเล็กก็คือ ทางเขตทหารจะสั่งซื้อชิปKaitianจำนวน5 พันล้านหยวน และจะจ่ายล่วงหน้า 70% หรือประมาณ3.5พันล้านหยวน”

คำสั่งซื้อนี้หากเป็นช่วงปกติถือเป็นข่าวดีมากเพราะคำสั่งซื้อล่วงหน้าแบบนี้มักจะไม่มีการค้างจ่าย แต่ตอนนี้เรื่องการผลิตชิปนั้นเป็นปัญหาใหญ่

ในระหว่างการประชุม เขาก็ได้พูดไปแล้วว่าแม้โรงงานชิปจะผลิตเต็มกำลัง แต่ก็ผลิตได้เพียงหนึ่งล้านสองแสนชิปต่อวันเท่านั้น

คำสั่งซื้อ5 พันล้านหยวน ถ้าคิดราคาชิปตัวละหนึ่งร้อยหยวน นั่นหมายความว่าต้องผลิตชิปถึงห้าสิบล้านชิ้น เขตทหารเขตเฟิงเทียนต้องการชิปเหล่านี้ไปทำอะไร? อาจจะเป็นเพราะต้องการใช้ในโดรนเพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G ทำให้สามารถควบคุมโดรนได้ไกลและแม่นยำในระยะที่เครือข่ายครอบคลุม

ในกรณีที่ไม่ได้คำนึงถึงระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ โดรนที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G สามารถบินจากเฟิงเทียนไปยังมณฑลกว่างตงเพื่อปฏิบัติการโจมตีอย่างแม่นยำได้

แต่ปัญหาคือ ความต้องการชิปนั้นสูงมาก โดยเฉพาะจากคำสั่งซื้อสมาร์ทโฟนอีกห้าสิบล้านเครื่อง ทำให้ความต้องการเกินหนึ่งร้อยล้านชิ้น

“อันนี้…”

เฉินซิงลังเลอยู่สักครู่ เขาอยากจะส่งมอบชิปให้ได้จริง ๆ แต่ไม่มีทางทำได้เลยถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก Loongson International แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องเครื่องจักรเพราะข้อกำหนดของ ASML บริษัทจากเนเธอร์แลนด์ที่สามารถหยุดการผลิตได้ทุกเมื่อเนื่องจากข้อตกลงในเครื่องจักรที่ใช้ในเทคโนโลยีระดับ 28 นาโนเมตรและ 20 นาโนเมตร

เขาคิดอยากจะเปลี่ยนโรงงานผลิตในจีนเพื่อแก้ปัญหาการผลิตชิปขาดแคลนอยู่เช่นกัน

ซ่งเว่ยกั๋วเข้าใจสถานการณ์ที่เฉินซิงอธิบายและตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “เดี๋ยวพี่บอกข่าวดีอีกเรื่องให้”

ข่าวดี?

เฉินซิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาคาดการณ์ไปต่าง ๆ นานา

“ตามที่นายคาดไว้” ซ่งเว่ยกั๋วพูดเหมือนกับรู้ใจเฉินซิงและบอกต่อว่า “โครงการ East Power Transfer ได้รับการทดสอบจนผ่านและไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์ชายฝั่งตะวันออกก็ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายไฟฟ้าในภาคใต้แล้ว”

“จริง… จริงเหรอ?”

เฉินซิงรู้สึกหายใจแรงขึ้น

โรงงานผลิตชิปของเขารอมานานสำหรับการใช้ไฟฟ้าที่เสถียร หากตอนนี้มีไฟฟ้าพร้อมแล้ว จะสามารถเริ่มการผลิตได้หรือไม่?

จ้าวซือชิว: “!!!”

จ้าวซือชิวที่แอบฟังอยู่ก็ตกใจเช่นกัน เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับแผน "โครงการ East Power Transfer" มาแล้วจากจ้าวเฉินกวงและเข้าใจว่านี่เป็นส่วนสำคัญสุดท้ายในการเริ่มการผลิตที่โรงงานผลิตชิป

“ฉันไม่เคยพูดโกหก” ซ่งเว่ยกั๋วยืนยันอีกครั้ง

เมื่อได้ยินคำยืนยันนั้น เฉินซิงกลืนน้ำลายและรีบตอบกลับ “เรื่องการส่งชิป ผมจะขอพิจารณาศักยภาพการผลิตก่อน พรุ่งนี้จะตอบกลับไปครับ”

“โอเค งั้นนายรีบไปทำธุระเถอะ” ซ่งเว่ยกั๋วก็ไม่ได้เร่งเร้า การสั่งซื้อชิปสำหรับพัฒนาโดรนแม้จะสำคัญ แต่ก็ไม่สามารถบังคับให้เขาผลิตได้หากความสามารถยังไม่เพียงพอ

เมื่อจบการสนทนา เฉินซิงหันไปบอกจ้าวซือชิวว่า “นำทางไปที่โป้วโก่วหลิ่งในตำบลหลงกังที่เสินเจิ้น ฉันมีธุระด่วน”

“เข้าใจแล้ว” จ้าวซือชิวมองดูสภาพการจราจร พบว่ามีสัญญาณไฟแดงที่ต้องรอ เธอจึงใช้ช่วงเวลานั้นค้นหาที่หมายใหม่ในระบบนำทาง

ขณะเดียวกันเฉินซิงก็เริ่มค้นหารายชื่อผู้ติดต่อที่เขาต้องเรียกตัวมาช่วย เพราะตอนนี้ปัญหาเรื่องไฟฟ้าได้รับการแก้ไขแล้ว ถึงเวลาให้โรงงานผลิตชิปเข้าสู่กระบวนการผลิตได้แล้ว

หากการผลิตสำเร็จ นั่นจะหมายความว่าเขาสามารถผลิตชิปโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องจักรจากชาติตะวันตกอีกต่อไป ทั้งยังไม่ต้องไปหาเครื่องจักรที่ใช้แล้วในตลาดมือสองอีก

วัสดุที่สำคัญอย่างแผ่นซิลิคอนสำหรับเซมิคอนดักเตอร์, ArF resist, ซอฟต์แวร์ออกแบบชิป EDA, เมทาคริลิกแอซิดเอสเทอร์, แอคริลิกเอสเทอร์... เฉินซิงสะสมไพ่ใบสำคัญไว้มากมาย และถึงเวลาที่จะนำมันออกมาใช้สักสองสามใบ ให้ชาติตะวันตกได้เห็นถึงพลังความสามารถของเขาแล้ว

......

อีกด้านหนึ่ง

สวนอุตสาหกรรมเถิงเฟย

ที่บริษัท Dragonstar Chemicals และ Dragonstar Silicon Industries วังฟู่กุ้ยในฐานะผู้จัดการคนใหม่ ได้เรียกรถบรรทุกมาเพื่อนำแผ่นซิลิคอนขนาด 12 นิ้วสำหรับเซมิคอนดักเตอร์และวัสดุแสงยูวี ArF ขนส่งไปยังโรงงานที่โป้วโก่วหลิ่งตามคำสั่งเร่งด่วนของเฉินซิง

ที่บาร์ หลงหมิง ในเสินเจิ้น

บรรยากาศในบาร์เต็มไปด้วยเสียงเพลงกระหึ่มจนหูแทบดับ “ดนตรีบีทหนักๆ ทำให้ทุกพื้นที่ของบาร์มีแต่ความตื่นเต้นรุนแรง” เหนือฟลอร์เต้นรำมีสาวๆ ในชุดที่ดูล่อแหลมและเซ็กซี่ กำลังเต้นอย่างยั่วยวน ทุกจังหวะของเพลงมักจะพาพวกเธอให้แสดงท่าทางที่มีนัยสื่อถึงความเร้าใจ ทำให้แขกที่อยู่ในบาร์ตาเป็นประกาย

การจะพาพวกเธอออกไปเที่ยวด้วยไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่แสดงให้เห็นว่า “มีเงิน” ก็เพียงพอแล้ว

ในโซน VIP หลินเทียนซึ่งทำผมสีทองและสวมกางเกงรัดรูป มาพร้อมกับรอยลิปสติกที่คอ กำลังคุยอย่างออกรสกับสาวนักการตลาดสองคน ขณะที่ปัญหาเรื่องพลังงานของโรงงานยังไม่ได้รับการแก้ไข โรงงานผลิตชิปก็ไม่สามารถผลิตได้ เขาจึงหวนคืนสู่ชีวิตหรูหรา โดยใช้เงินหลายหมื่นหยวนต่อคืน ช่วงเดือนที่ผ่านมาหมดไปเกือบล้านหยวน สาวนักการตลาดจากที่เคยเฉยๆ ก็เปลี่ยนมาคอยเอาใจ โดยไม่มีการบ่นหรือขัดแย้งให้เห็นเลย

“คุณหลิน วันนี้ยอดยังขาดอีกแค่ขวด Black Spade A คุณช่วยหน่อยได้ไหมคะ” สาวนักการตลาดด้านซ้ายยกขาขึ้นวางบนเข่าหลินเทียน

สาวทางขวาก็ไม่ยอมน้อยหน้า ทั้งตัวเบียดเข้ามากอดคอและจูบซ้ำๆ สำหรับพนักงานกลางคืนแบบเธอ นี่คืออาชีพที่กินระยะเวลาสั้น บางคนอาจทำได้แค่สี่ถึงห้าปี ดังนั้นพวกเธอจึงกล้าและตรงไปตรงมา

แน่นอน ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ทำแบบนี้ไม่ได้ สำหรับคนที่รับไม่ได้มักจะมีสองทางเลือก คือ ยอมรับและทำตามที่เห็น หรือออกจากงานนี้ไปเลย

ขณะที่หลินเทียนกำลังถูกสาวๆ รุมล้อม โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้น เขารู้สึกทันทีและผลักสาวๆ ออกเบาๆ ก่อนหันไปพูดกับพวกเธอ “พอๆ เอาล่ะ เอาคนละขวดไปดื่มเล่นได้เลย”

“ขอบคุณค่ะ คุณหลิน”

“ขอบคุณค่ะ คุณหลิน”

สาวๆ กล่าวขอบคุณพร้อมประทับรอยจูบที่แก้มของหลินเทียน หลินเทียนเองก็ไม่คิดมากอะไร ขวด Black Spade A ราคาเพียง 8,888 หยวน เขามีเงินโบนัสประจำปีมากกว่าหนึ่งล้านหยวน การจ่ายขวดพวกนี้จึงเป็นเรื่องเล็กน้อย

หลังจากที่เขาส่งสาวๆ ออกไป เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา

“ท่านประธาน?”

เมื่อเห็นชื่อที่บันทึกไว้ในสมุดโทรศัพท์ เขาสะดุ้งเล็กน้อยและรีบรับสายทันที “ท่านประธานมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยหรือครับ?”

“ปัญหาไฟฟ้าถูกแก้แล้ว” เฉินซิงตอบสั้นๆ

ทันใดนั้นหลินเทียนก็เข้าใจทันที เขาถามต่อ “หรือว่าการที่เสินเจิ้นดับไฟเมื่อกี้เป็นการทดสอบไฟฟ้าเพื่อจ่ายไปยังโป้วโก่วหลิ่ง?”

เมื่อครู่ทั้งบาร์กำลังเต้นรำกันอย่างสุดมันส์ แต่จู่ๆ ไฟฟ้าก็ดับ ทุกคนจึงเพิ่งรู้ว่าเสินเจิ้นต้องมีการปรับปรุงระบบไฟฟ้าใหม่ และเจ้าของบาร์ก็ดูใจถึงมาก เมื่อไฟฟ้าดับ เขาก็ใช้เครื่องปั่นไฟเดินระบบต่อไป

เมื่อเฉินซิงบอกว่า “ปัญหาไฟฟ้าแก้แล้ว” หลินเทียนก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“ใช่แล้ว” เฉินซิงตอบพร้อมมอบหมายงาน “นายรีบกลับไปที่โรงงานผลิตชิปที่โป้วโก่วหลิ่ง เพื่อปรับตั้งเครื่องจักรและติดต่อกับคุณเซี่ยะที่สำนักงานการไฟฟ้า ผมกำลังจะขึ้นทางด่วน คาดว่าจะถึงภายใน 60 นาที”

“ท่านประธานกลับมาเสินเจิ้นแล้วหรือ?”

“เพิ่งถึง”

“ได้ครับ ผมจะกลับไปทันที”

ทันทีที่หลินเทียนวางสาย สาวนักการตลาดสองคนก็กลับมาพร้อมกับขวด Black Spade A ทั้งสองมีทีท่าจะเข้ามาตอแยหลินเทียนต่อ แต่คราวนี้ดวงตาของหลินเทียนกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาหยิบบัตรธนาคารออกมาและบอกว่า “ช่วยไปจ่ายบิลให้ผมที ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”

ห้องน้ำ?

สาวๆ หันมองหน้ากัน นี่คือสัญญาณบางอย่างหรือเปล่า? โดยทั่วไป ห้องน้ำในบาร์ไม่มีการแยกชายหญิง มีเพียงฉากกั้นแต่ละห้อง ด้วยเสียง DJ “ตึงตึงตึง” ที่กระหึ่มตลอด ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยแอบไปหาความตื่นเต้นในห้องน้ำกัน

คำว่า “เข้าห้องน้ำ” จึงกลายเป็นคำแสลงของคนในวงการนี้ไปโดยปริยาย

สาวทางซ้ายเผยยิ้มแบบขี้เล่นพร้อมบอกว่า “คุณหลิน ยอดของเดือนนี้ยังขาดชุดเทพมังกรอยู่นะคะ…”

“ฉันก็ยังขาดชุดเทพมังกรเหมือนกันค่ะ”

หลินเทียนเหลือบตามองพวกเธอทั้งคู่ หากเป็นเวลาอื่นเขาคงไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้สายตาของเขากลับชัดเจนโดยไม่มีความต้องการใดๆ เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนบอกว่า “ผมมีธุระ ไว้ครั้งหน้าค่อยมาเปิดกันใหม่”

เมื่อพูดจบ เขาก็เดินออกจากโซน VIP ทันที

สองสาวนักการตลาดที่มองตามหลังหลินเทียนด้วยความสับสน

“เขาเป็นอะไรไปน่ะ?”

“ไม่รู้สิ หรือว่าเขา…ไม่ไหวแล้ว?”

“เธอไม่ได้เคยมีอะไรกับเขาหรอกเหรอ? ไม่ใช่ไปกินมื้อดึกด้วยกันเหรอ?”

“เขาบอกว่าไปกินมื้อดึกก็แค่ไปกินจริงๆ เธอเองก็ออกไปเดินเล่นกับเขาไม่ใช่เหรอ? เขาไม่ได้พาเธอไปโรงแรมหรือไง?”

“เขาก็แค่เดินเล่นจริงๆ นะ!”

เมื่อเทียบข้อมูลกันแล้ว สองสาวจึงเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไรและเดินไปจ่ายบิลตามคำสั่งของหลินเทียน

......

ช่วงรุ่งสาง

พื้นที่โป้วโก่วหลิ่งในหลงกัง

หมู่บ้านหลิวเจีย

หลังจากที่หมู่บ้านหลิวเจียได้รับการพัฒนามาหลายเดือน สภาพที่เคยยากจนไม่มีแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หมู่บ้านนี้มีร้านสะดวกซื้อถึงสองแห่ง ถนนในหมู่บ้านก็ได้รับการปูซีเมนต์ใหม่ มีร้านอาหารที่เปิดโดยคนในพื้นที่มากมาย

คำกล่าวที่ว่า “ถ้าอยากรวยต้องสร้างถนนก่อน” เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุผลนั้นง่ายมาก หากไม่มีถนน สินค้าภายในจะออกไปไม่ได้ และสิ่งของจากภายนอกก็เข้ามาไม่ได้ จะทำธุรกิจหรือค้าขายได้อย่างไร? แล้วจะเสริมสร้างการค้าขายและสร้างรายได้ได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่โดยรอบยังต้องการการพัฒนา เฉินซิงได้ลงทุนไปแล้วหกร้อยล้านหยวนในการพัฒนา ทำให้มีการดูแลความเป็นอยู่ของคนงานในทุกด้านทั้งอาหาร การนอนหลับ และความเป็นอยู่ในหมู่บ้านหลิวเจีย ซึ่งเป็นเหตุผลที่หมู่บ้านพัฒนาได้รวดเร็ว

เมื่อรถเบนซ์ของเฉินซิงเข้าสู่หมู่บ้าน เสียงเห่าของสุนัขที่ทางเข้าหมู่บ้านทำให้คนในบ้านรับรู้ พวกเขารีบเก็บของแล้วเดินออกมาทักทาย

“ท่านประธานเฉิน!”

เสียงเรียกดังขึ้น ทำให้รถที่วิ่งอยู่ที่ความเร็วเพียง 20 กม./ชม. ชะลอความเร็วลงไปอีก จ้าวซือชิวคนขับถามว่า “รู้จักกันหรือคะ?”

“นี่คือหัวหน้าหมู่บ้านครับ” เฉินซิงตอบกลับ

เมื่อได้รับคำตอบ จ้าวซือชิวจึงหยุดรถและปลดล็อก

เฉินซิงเปิดประตูรถและเดินลงมาตอบกลับอย่างอบอุ่น “หัวหน้าหลิว ทำไมดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกล่ะครับ?”

“ผมได้ยินว่าคุณจะมาที่นี่ เลยตั้งใจมามอบของให้ครับ”

หลิวเส้าหยี่พูดพร้อมกับแกะป้ายผ้าจากมือ เขาคลี่ออกให้เห็นคำว่า “ผู้ประกอบการแห่งประชาชน” ที่ปักด้วยตัวอักษรสีทองห้าตัว

“ขอบคุณจริง ๆ ที่คุณมาลงทุนพัฒนาที่นี่ หมู่บ้านเรายากจนไม่มีอะไรจะมอบให้ จึงตกลงกันว่าขอมอบป้ายนี้เป็นสัญลักษณ์แทนคำขอบคุณ ผมได้ยินจากผอ.เล่ยว่าคุณคือผู้ประกอบการหนุ่มไฟแรง จึงตั้งใจให้คนทำป้ายนี้ไว้รอรับคุณ”

ก่อนที่เฉินซิงจะมาลงทุนที่นี่ หมู่บ้านหลิวเจียแทบไม่มีใครมีรายได้เกินสามพันหยวนต่อเดือนเลย จะมีก็เพียงไม่กี่คนที่มีรายได้ถึงหนึ่งพันหยวนเท่านั้น ด้วยทำเลที่อยู่ห่างไกล การคมนาคมไม่สะดวก หมู่บ้านนี้จึงเป็นเหมือนมุมหนึ่งที่ถูกลืมของเสินเจิ้น ไม่มีใครสนใจ

คนหนุ่มสาวต้องออกไปทำงานนอกพื้นที่เพื่อหาเลี้ยงชีพ พอมีเงินก็ไม่อยากกลับบ้าน จนทำให้จำนวนประชากรในหมู่บ้านลดลงเรื่อย ๆ

แต่เมื่อ Dragonstar Technology มาถึงพร้อมกับการลงทุนมูลค่าหกร้อยล้านหยวน การพัฒนาไม่เพียงแต่ดึงดูดคนงานก่อสร้างเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในหมู่บ้าน ถนนยังได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังมีนักลงทุนที่ได้ข่าวว่าบริษัท Dragonstar Technology มาลงทุน จึงลงเงินมหาศาลเพื่อซื้อที่ดินและบ้าน

เมื่อบ้านเกิดสามารถทำเงินได้ คนหนุ่มสาวก็เริ่มกลับมาประกอบอาชีพที่นี่ เช่นการขายน้ำ ขายไส้กรอกแป้ง หรือข้าวกล่องที่ไซต์ก่อสร้าง ซึ่งสามารถทำรายได้หลายร้อยหยวนต่อวัน ถือว่าดีกว่าการออกไปทำงานเป็นลูกจ้างมาก

พูดได้ว่า การมาของเฉินซิงทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง และผู้คนต่างเริ่มสนใจที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ

“น้ำใจของพวกคุณ ผมขอรับไว้ด้วยความยินดีครับ”

เฉินซิงไม่ได้เกรงใจ เขาไม่ใช่คนที่จะปฏิเสธในเมื่อสิ่งนี้มาจากความปรารถนาดีของหมู่บ้าน

“เอ้อ อีกเรื่องหนึ่งครับ”

เมื่อเห็นว่าเฉินซิงรับป้ายผ้าแล้ว หลิวเส้าหยี่ก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาของเฉินซิงอีก เขาชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน “เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว มีรถเข้ามาในหมู่บ้านหลายคัน ทั้งหมดไปที่ไซต์ก่อสร้าง ผมยังเห็นรถของผ.อ.เซี่ยะและเล่ยด้วย คงไม่กวนคุณแล้ว เชิญคุณเฉินทำงานต่อเถอะครับ”

“ขอบคุณครับ มีโอกาสไว้มาเจอกันใหม่”

เฉินซิงกลับขึ้นรถ เมื่อประตูปิดสนิท รถก็เคลื่อนตัวออกไป หลิวเส้าหยี่ที่ยืนอยู่ข้างถนนโค้งขอบคุณอย่างเงียบ ๆ

อาจจะจริงที่เฉินซิงไม่ได้ตั้งใจจะมาลงทุนในหมู่บ้านหลิวเจียเพียงเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่นี่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้างโรงงานผลิตชิปและการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมนั้นนำชีวิตใหม่มาสู่ที่นี่

จ้าวซือชิวที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ผู้ประกอบการแห่งประชาชน ดูเหมือนว่าชาวบ้านที่นี่จะซาบซึ้งกับคุณมากนะคะ”

เฉินซิงเก็บป้ายผ้าที่ได้รับไว้อย่างเงียบ ๆ และยิ้มเล็กน้อย “ผมก็แค่ลงทุนที่นี่เอง อย่าคิดว่าผมยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ตั้งใจขับรถเถอะ อีกเดี๋ยวถึงแยกเลี้ยวขวานะ”

“ขับไปตามทางค่ะ” จ้าวซือชิวตอบพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ

บางครั้งเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฉินซิงเป็นคนแบบไหนกันแน่ จะบอกว่าเขารักเงิน เขาก็ยังใส่ใจผลประโยชน์ของประเทศชาติและไม่แตะต้องผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้อง แต่จะบอกว่าเขาไม่รักเงินก็ไม่ใช่ เขาไม่ยอมเสียแม้แต่น้อย

“เป็นคนที่ขัดแย้งในตัวเองจริง ๆ” จ้าวซือชิวคิดในใจ

เมื่อรถเข้าไปในหมู่บ้านและมาถึงบริเวณโรงงานผลิตชิปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็มีหลายคนมารวมตัวรอรับอยู่แล้ว

“น้องเฉิน”

“สวัสดียามค่ำครับท่านประธานเฉิน”

เล่ยปิงและเซี่ยะหยางกล่าวทักทายอย่างอบอุ่น

เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ทั้งสองคนจึงไม่ต้องทำงาน และเมื่อรู้ว่าเฉินซิงกลับมาเสินเจิ้น พวกเขาก็รีบมาทันที

“ผอ.เล่ย ผอ.เซี่ยะ ไม่คิดว่าจะเจอพวกคุณที่นี่นะครับ” เฉินซิงทำเป็นประหลาดใจพร้อมกับกล่าวทักทายเมื่อก้าวลงจากรถ

“พอได้ยินว่าน้องเฉินกลับมา เราก็ตั้งใจมาดูสถานที่หน่อยครับ” ตอนนี้เล่ยปิงชินแล้วที่จะเรียกเฉินซิงว่าน้องชาย

เฉินซิงเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเป็นเพียงแค่คำเรียก เขายิ้มเล็กน้อยแล้วตอบว่า “คงไม่ได้มาตรวจดูแค่ผมอย่างเดียวใช่ไหม? ผอ.เล่ย ถ้ามีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลย”

“แค่กๆ”

เล่ยปิงไอเบา ๆ สองครั้ง ก่อนจะหันมามองเซี่ยะหยางและพูดว่า “คืออย่างนี้นะครับ ทางเข้าโป้วโก่วหลิ่งมีโค้งหลายจุด ผมก็เลยคิดว่าจะดูว่าจะปรับปรุงมันได้ไหม”

“และการส่องสว่างตอนกลางคืนก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โคมไฟริมทางก็ค่อนข้างมืด กลัวว่าจะอันตรายเวลาขับรถตอนกลางคืน”

เซี่ยะหยางเสริมขึ้นมาทันที

ทั้งสองคนแอบใบ้อย่างชัดเจน จริง ๆ แล้วก็คือต้องการให้เฉินซิงช่วยออกเงินเพื่อให้พวกเขาได้สร้างผลงานในการพัฒนาเส้นทางนี้

พวกเขาทั้งสองช่วยเฉินซิงมาหลายครั้งแล้ว และการพัฒนาในโป้วโก่วหลิ่งก็จำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเฉินซิงจึงตอบกลับไปทันทีว่า “หากต้องการรวยก็ต้องสร้างถนนก่อน การพัฒนาโครงสร้างถนนนั้นผมขอเป็นตัวแทนของ Dragonstar Technology บริจาคสามสิบล้านหยวนครับ”

“ขอบคุณน้องเฉินมากครับ!”

“ขอบคุณมากครับท่านประธานเฉิน”

ทั้งเล่ยปิงและเซี่ยะหยางกล่าวขอบคุณทันที

เฉินซิงยิ้มเบา ๆ และโบกมือบอกว่า “เงินนี้เป็นงบเพื่อการพัฒนา ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอกครับ เอ้อ เกือบลืมไป ระบบไฟฟ้าในโรงงานผลิตชิปเป็นอย่างไรบ้างครับ?”

เซี่ยะหยางตอบกลับทันที “ไม่มีปัญหาเลยครับ”

ทันทีที่พูดจบ เขาเสริมว่า “เราเพิ่งทำการอัพเกรดระบบไฟฟ้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ และในช่วงที่คุณไม่อยู่ เราก็ต่อสายไฟใหม่หลายเส้นเพื่อเพิ่มความเสถียร รับรองได้ว่าระบบไม่มีปัญหาแน่นอนครับ”

เฉินซิงรู้สึกขอบคุณในสายตาของเขา เพราะเขาเข้าใจดีว่าการที่งานดำเนินไปอย่างรวดเร็วนั้นเครือข่ายคนรู้จักมีความสำคัญมาก

ทันใดนั้น เสียงของหลินเทียนก็ดังมาจากด้านหลัง “ท่านประธานครับ ผมตรวจสอบอุปกรณ์ในโรงงานเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะเริ่มการผลิตได้ทุกเมื่อครับ”

“ดีมาก!”

เฉินซิงตอบด้วยความพอใจและหันไปทางเล่ยปิงและเซี่ยะหยาง “พวกคุณอยากเข้าไปดูไหมครับ? หากสามารถเริ่มการผลิตได้ การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศของเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่”

“ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว”

"ถือเป็นเกียรติของพวกเรา"

กลุ่มของพวกเขารวมถึงจ้าวซือชิวได้มายังห้องควบคุมของโรงงานลิโทกราฟี ตรงหน้าพวกเขาคือแผงควบคุมและจอภาพที่แสดงการทำงานของระบบ

ในการทดสอบครั้งก่อน เฉินซิง, เล่ยปิง และเซี่ยะหยางเคยเห็นระบบแล้วจึงไม่รู้สึกแปลกใจมากนัก มีเพียงจ้าวซือชิวที่ตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยเช่นนี้จะเป็นผลงานของประเทศตัวเอง โรงงานที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัตินี้ล้ำหน้ายิ่งกว่าของทางตะวันตกเสียอีก

หลังจากทำการปรับค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ และตรวจสอบว่าไม่มีความผิดพลาดหลงเหลือ หลินเทียนหันไปบอกกับเฉินซิงว่า “ผมจะเริ่มการผลิตแล้วนะ”

“ได้เลย”

เฉินซิงพยักหน้าเบา ๆ

ตามคำสั่ง หลินเทียนได้เปิดสวิตช์ทั้งห้า ซึ่งตรงกับสายการผลิตทั้งห้าของโรงงานลิโทกราฟี

ทันทีที่เปิดสวิตช์

ระบบการขนส่งได้ถูกกระตุ้นให้เริ่มทำงาน

ระบบเคลื่อนย้ายได้ขนส่งแผ่นซิลิกอนจากพื้นที่จัดเก็บไปยังพื้นที่ทำความสะอาด เพื่อล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนแผ่นซิลิกอนออก

โดยทั่วไป การทำความสะอาดแผ่นซิลิกอนจะใช้สารทำความสะอาด SC1 หรือสารละลายกรดกำมะถัน โดย SC1 เป็นสารละลายที่ประกอบด้วยแอมโมเนีย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และน้ำ โดยอัตราส่วนเป็น 1 ต่อ 2 ต่อ 50 ส่วน ส่วนกรดกำมะถันนั้นมีอัตราส่วนของกรดกำมะถันและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็น 5 ต่อ 1

เมื่อแผ่นซิลิกอนถูกทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะถูกขนย้ายผ่านช่องทางพิเศษไปยังขั้นตอนการอบเพื่อกำจัดความชื้นบนพื้นผิว ป้องกันผลกระทบต่อขั้นตอนลิโทกราฟีที่ตามมา

สายการผลิตทั้งห้าทำงานพร้อมกัน หลายจุดของกระบวนการล้างและอบแห้งทำงานอย่างต่อเนื่อง

หลังจากรอไม่นาน แผ่นซิลิกอนก็แห้งสนิท จากนั้นระบบขนส่งแม่เหล็กจะนำไปยังขั้นตอนต่อไป ซึ่งคือการเคลือบโฟโตรีซิสต์

การหยิบจับอัตโนมัติ

การทำความสะอาดอัตโนมัติ

การเคลือบโฟโตรีซิสต์อัตโนมัติ

กระบวนการลิโทกราฟีอัตโนมัติ

สายการผลิตอัตโนมัติของโรงงานลิโทกราฟีทำให้จ้าวซือชิวถึงกับอึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าประเทศของตัวเองจะมีสายการผลิตล้ำหน้าเช่นนี้ โดยที่ตะวันตกยังไม่มีอะไรใกล้เคียงเช่นนี้เลย คนอื่น ๆ รู้สึกคุ้นชินแล้วเพราะเคยเห็นมาก่อนในการทดสอบครั้งก่อน

เมื่อเคลือบ ArF โฟโตรีซิสต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แผ่นซิลิกอนจะถูกขนย้ายอัตโนมัติไปยังโซนลิโทกราฟี

สิ่งที่ควรกล่าวถึงคือ โรงงานลิโทกราฟีนี้มีโซนลิโทกราฟีหลายร้อยจุดซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนและติดตั้งได้ตามต้องการ

เช่น หากต้องการแสงความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรที่เป็นแสงอัลตราไวโอเลตแบบพิเศษ ก็สามารถหยุดการทำงานของโรงงานลิโทกราฟีเพื่อปรับตำแหน่งและค่าพารามิเตอร์ในโซนลิโทกราฟีเพื่อให้ได้แสงความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรตามที่ต้องการ

หรือหากต้องการแสงความยาวคลื่น 7 นาโนเมตร ก็สามารถปรับค่าของโซนลิโทกราฟีจากแสง 13.5 นาโนเมตรเป็น 7 นาโนเมตรเพื่อให้ได้แสงความยาวคลื่นตามที่ต้องการ

ความยืดหยุ่นในการเลือกใช้แสงเป็นจุดเด่นของโรงงานลิโทกราฟีนี้เช่นกัน

เมื่อแผ่นซิลิกอนถึงตำแหน่งที่กำหนด ชุดเลนส์ได้ขยับไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง แสงความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรเกิดการหักเหอย่างแม่นยำไปยังโฟโตมาสก์ ซึ่งลวดลายบนโฟโตมาสก์จะถูกฉายลงบนแผ่นซิลิกอนที่รอการรับแสงอย่างแม่นยำ

"ฟึ่บ"

เมื่อ ArF โฟโตรีซิสต์สัมผัสกับแหล่งกำเนิดแสง กระบวนการเคมีภายในได้เริ่มเกิดขึ้น

เมื่อการลิโทกราฟีบนแผ่นซิลิกอนเสร็จสิ้น แผ่นซิลิกอนจะถูกส่งไปยังขั้นตอนต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดโฟโตรีซิสต์

คนในห้องควบคุมได้เฝ้าชมกระบวนการผลิตอัตโนมัตินี้โดยไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนต่างตั้งตารอผลสุดท้ายด้วยความตื่นเต้นและกังวล

ในการทดสอบครั้งก่อน การผลิตเสร็จสิ้นหนึ่งครั้ง โรงงานลิโทกราฟีเกิดปัญหาด้านความเสถียรของพลังงานไฟฟ้า ครั้งนี้เครื่องจักรห้าตัวเริ่มทำงานพร้อมกัน หากโรงงานสามารถทำงานได้ครบหนึ่งชั่วโมงโดยไม่มีปัญหา ก็จะเป็นเครื่องยืนยันว่าความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมานั้นเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

กระบวนการล้าง

การตัด

การทดสอบ

รายงานการตรวจสอบถูกส่งกลับมา

หลินเทียนมองดูข้อมูลก่อนจะหันไปบอกเฉินซิงว่า “ข้อมูลของชิปพระเจ้าไม่มีปัญหา ทุกพารามิเตอร์ผ่านตามมาตรฐาน”

“ดี”

เฉินซิงพยักหน้าเล็กน้อย

ผลลัพธ์นี้เขารู้แล้วจากการทดสอบครั้งก่อน แต่สิ่งที่เขาอยากรู้ตอนนี้คือโรงงานลิโทกราฟีจะทำงานได้ต่อเนื่องนานแค่ไหนในครั้งนี้

"ติ๊กตอก ๆ ๆ "

เวลาผ่านไปทีละนาที

ครึ่งชั่วโมง

หนึ่งชั่วโมง

สองชั่วโมง

สี่ชั่วโมง

ทุกคนยืนรออยู่ถึงสี่ชั่วโมง ไม่มีใครพูดอะไร

หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าเหงื่อเริ่มซึมขึ้นมาบนหน้าผากของเฉินซิง ระยะเวลาที่เฝ้ารอทำให้เขาอดทนไม่ไหวมากนัก

ในช่วงเวลาครึ่งชั่วโมงแรก หวังให้มันทำงานต่อไปได้ถึงหนึ่งชั่วโมง เมื่อถึงชั่วโมงแรกแล้วก็หวังให้มันทำงานถึงสองชั่วโมง สองชั่วโมงผ่านไปก็เริ่มคาดหวังให้มันทำงานได้ถึงสามชั่วโมง…

ในตอนนั้นเอง หลินเทียนได้ทำลายบรรยากาศเงียบลงพร้อมพูดว่า “ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรออีกแล้ว ถ้ารอต่อไปทุกคนคงต้องอดนอนกันหมด ท่านประธาน อย่างที่เห็น โรงงานลิโทกราฟีนี้สามารถผลิตได้จริงแล้ว มีคำสั่งใดเพิ่มเติมไหมครับ?”

เครื่องจักรทำงานมาได้ถึงสี่ชั่วโมงเต็ม หากมีปัญหาคงเกิดขึ้นแล้ว เฉินซิงไม่มีเหตุให้ต้องสงสัยในตัวหลินเทียน เพราะเขาเป็นบุคคลคุณภาพระดับแดง

ทันทีที่ได้ยินคำว่า "คำสั่งเพิ่มเติม" เฉินซิงก็คิดถึงปัญหาด้านการผลิตชิปที่เขาต้องการจัดการ และกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โรงงานลิโทกราฟีจะทำการผลิตเต็มกำลังเพื่อป้อนชิปพระเจ้าให้กับบริษัท Dragonstar Technology!”

“นอกจากนี้!”

เฉินซิงยังคงให้คำสั่งต่อไป “เร่งขยายโรงงานลิโทกราฟีระยะที่สองและสาม เข้าใจไหม?”

“เข้าใจ!”

หลินเทียนพยักหน้า

เขากำหมัดเบา ๆ รู้สึกยินดีที่ความสามารถของเขาจะได้แสดงออกอย่างเต็มที่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด