บทที่ 25 รายการแลกเปลี่ยนแปลกประหลาด
คะแนนบำเพ็ญคือสิ่งที่ใช้แทนเงินตราในสำนักเวิ่นเต๋า ไม่ว่าจะซื้อของ กินอาหารในโรงอาหาร หรือแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมสำนัก ล้วนต้องใช้คะแนนบำเพ็ญ นอกจากนี้ในศาลาภารกิจยังมีรางวัลพิเศษที่ต้องใช้คะแนนบำเพ็ญด้วย
อย่างเช่น "ประสบการณ์หนึ่งวันในตำแหน่งเจ้าสำนัก" ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแต่ไม่มีใครซื้อไหว ตามชื่อเลย แลกรางวัลนี้ได้จะได้เป็นเจ้าสำนักหนึ่งวัน ประชุมกับผู้อาวุโส จัดการกิจการสำนัก ให้คนเรียกว่าเจ้าสำนัก ออกคำสั่งสั่งการ เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษของผู้นำสูงสุดแห่งห้าสำนักใหญ่...
ข้อดีมากมาย แต่น่าเสียดายที่ต้องใช้คะแนนบำเพ็ญสูงเกินไป จึงยังไม่มีใครแลกได้ ว่ากันว่ามีศิษย์พี่หลายคนคิดจะรวมคะแนนกันแลกสักครั้ง แต่เถียงกันเรื่อง "ให้ใครเป็นเจ้าสำนัก" จนตีกัน สุดท้ายถูกหามไปรักษาที่เขาตานติ่ง ดึงดูดคนมาดูมากมาย ปัจจุบันศิษย์พี่เหล่านั้นออกไปทำภารกิจระยะยาว ไม่ได้กลับสำนักเวิ่นเต๋านานแล้ว
อย่างเช่น "น้ำวิเศษราชันยา" ตามคำโฆษณาว่าเป็นน้ำวิเศษที่ผู้อาวุโสสำนักเวิ่นเต๋าเป็นผู้หลอมโดยเฉพาะ ไม่มีที่อื่นทำได้ ดื่มหรือทาภายนอกก็ได้ สามารถเสริมร่างกาย เพิ่มพละกำลัง เสริมดวงจิต มั่นคงวิชา แม้คะแนนบำเพ็ญจะแพง แต่ยอดขายยังติดอันดับต้นๆ ได้รับความนิยมในหมู่ศิษย์พี่ศิษย์น้องมาก
ดื่มตอนประลองวิชา รับรองฟื้นฟูพลังและพลังวิเศษเต็ม แผลหายเร็วขึ้น ใครใช้ก็ชม
หรืออย่าง "ประกันอุบัติเหตุเรือบิน" ที่ใช้แค่คะแนนบำเพ็ญเดียว
"เดี๋ยวก่อน ทำไมถึงมีประกันอุบัติเหตุเรือบินด้วย?" ลู่หยางรู้สึกว่าคำนี้ไม่ค่อยเป็นมงคลนัก
ศิษย์พี่ที่มอบภารกิจตอบอย่างเป็นเรื่องปกติ "ก็ธรรมดานะ ไม่มียานพาหนะไหนปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก แม้แต่เรือบินของสมาคมการค้าลั่วตี้จินเฉียนก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ อย่างเช่นชนผู้ทรงพลัง ค่ายกลเรือบินขัดข้องลงจอดฉุกเฉินไม่สำเร็จ กัปตันประท้วงเรียกร้องขึ้นเงินเดือน... ล้วนเป็นอุบัติเหตุทั่วไป โชคดีที่ไม่ค่อยมีคนตาย ไม่ต้องแปลกใจไป"
"หลังจากประธานสมาคมการค้าลั่วตี้จินเฉียนพบว่าเรือบินมักเกิดอุบัติเหตุ คิดว่านี่เป็นความเสี่ยง จึงเสนอให้ผู้โดยสารจ่ายเงินส่วนหนึ่งเข้ากองกลาง หากเรือบินเกิดอุบัติเหตุ สมาคมจะเอาเงินก้อนใหญ่จากกองกลางมาชดเชยให้ผู้โดยสาร"
"วิธีนี้ หากเรือบินไม่เกิดเรื่อง ผู้โดยสารก็เสียเงินแค่นิดหน่อยไม่เป็นไร หากเรือบินเกิดเรื่องทำให้ผู้โดยสารเสียธุระ ผู้โดยสารก็ได้รับการชดเชย"
"ประธานสมาคมเรียกระบบนี้ว่า 'ประกันความเสี่ยง' เรียกย่อว่า 'ประกัน' และเผยแพร่ในวงการธุรกิจอื่นๆ อย่างกว้างขวาง"
"แต่เจ้าไม่ต้องกังวล สำนักเวิ่นเต๋าของพวกเราไม่ทำให้ศิษย์เสียน้ำใจ เรื่องประกันนั้นใจกว้างมาตลอด ตอนที่พวกเจ้าเข้าสำนัก ก็ทำประกันต่างๆ ให้แล้ว รวมถึงประกันอุบัติเหตุเรือบินด้วย ที่ขายในช่องรางวัลนี้เป็นการเพิ่มวงเงินชดเชย"
ศิษย์พี่แสดงสีหน้า "พวกเราเป็นสำนักฝ่ายธรรมะ ต่างจากสำนักมารที่เช้าชามเย็นชาม ประกันที่ควรทำก็ต้องทำ" ดูน่าเชื่อถือมาก
"โลกบำเพ็ญของพวกเราพัฒนาเร็วจริงๆ มีแม้กระทั่งประกันแบบนี้"
ลู่หยางกระตุกมุมปาก ในความทรงจำของเขา ชาติก่อนประกันเกิดจากการขนส่งทางทะเล แต่ไม่คิดว่าในโลกบำเพ็ญ จะเกิดจากการขนส่งทางเรือบิน
เขารู้สึกว่าของพวกนี้ไม่เป็นมงคล ซื้ออย่างอื่นดีกว่า
ในโลกบำเพ็ญต้องงมงายบ้าง
ศิษย์พี่เหมือนได้ยินความในใจของลู่หยาง จึงพูดต่อ "แต่ผู้ทรงพลังที่ศึกษาเรื่องเหตุและผลเสนอว่า การซื้อประกันจะสร้างความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลกับความเสี่ยงหรือไม่ ทำให้โอกาสเกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น"
"สมาคมการค้าปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ทันที ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันนาน ก็ไม่มีข้อสรุปอย่างเป็นทางการ"
"หัวข้อนี้น่าวิจัยมากในโลกบำเพ็ญ ถ้าวิจัยแล้วสรุปว่ามีความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล ผู้ทรงพลังท่านนั้นจะได้รับความโปรดปราน ถ้าสรุปว่าไม่มีความสัมพันธ์ สมาคมการค้าลั่วตี้จินเฉียนจะได้รับผลประโยชน์ กำไรชัวร์"
ลู่หยางคิดในใจ ถ้าข้าวิจัยออกมาว่ามีความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล สมาคมการค้าคงอยากฆ่าข้า
"หนึ่งคะแนนบำเพ็ญแลกได้หนึ่งร้อยหินวิเศษชั้นต่ำ หนึ่งร้อยยี่สิบหินวิเศษชั้นต่ำแลกได้หนึ่งคะแนนบำเพ็ญ"
"กระบี่บินดื่มเลือด สองพันคะแนนบำเพ็ญ ยิ่งแช่ในเลือดนานเท่าไหร่ พลังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดูคำอธิบายแล้วไม่ค่อยเหมือนอาวุธฝ่ายธรรมะเลย?"
ศิษย์พี่อธิบายข้างๆ "ไม่จำเป็นต้องแช่ในเลือดคนหรอก เลือดหมู เลือดวัว เลือดเป็ดก็ได้ ได้ยินว่าเมื่อสองวันก่อน ร้านหม้อไฟเสฉวนในสำนักยังไปร้องเรียนตามเขาต่างๆ ถามว่าไอ้เวรไหนแอบเอากระบี่บินดื่มเลือดไปแช่ในเลือดเป็ดของพวกเขา?"
"หลังจากสืบสวนอย่างละเอียด ก็จับคนร้ายได้แล้ว เจ้าของร้านหม้อไฟลงโทษให้เขาดื่มน้ำซุปน้ำมันแดงหนึ่งหม้อ ภาพตอนนั้นจริงๆ เหอะๆ ข้าคาดว่าชาตินี้เขาคงไม่อยากกินหม้อไฟอีกแล้ว" ศิษย์พี่ทำเสียงจุ๊ๆ หลายที สีหน้าประหลาดมา
ลู่หยางดูต่อ "ยาอดอาหารรสชาติตามใจหนึ่งขวด หนึ่งคะแนนบำเพ็ญ"
"ตำราลับสืบทอดการย่าง หนึ่งร้อยคะแนนบำเพ็ญ"
"ค่ายกลกระบี่ลอย ยี่สิบห้าคะแนนบำเพ็ญ ค่ายกลนี้สลักลงบนอาวุธได้ ทำให้ลอยอยู่หลังแผ่นหลัง ไม่ต้องใช้ฝักกระบี่ที่เป็นข้อจำกัด สะดวกในการใช้งาน ยังมีค่ายกลป้องกัน ช่วยปกป้องกระบี่จากแดดและลม"
ลู่หยางคิดแล้วรู้สึกว่าค่ายกลนี้ใช้ได้ จึงซื้อทันที
นี่เป็นค่ายกลกึ่งซ่อนเร้นที่รวมตัวในอากาศ พอลงบนกระบี่โบราณ ก็เหมือนหยดน้ำระเหยในอากาศ หายไปสนิท กระบี่ลอยนิ่งอยู่หลังลู่หยาง ดูเท่มาก
ลู่หยางขยับตัว กระบี่โบราณก็เคลื่อนตามไปด้วย ไม่มีการหน่วงหรือล่าช้าแม้แต่น้อย
"ของดี"
"ยาพละกำลังวัวสิบตัว? หนึ่งร้อยคะแนน หนึ่งพันคะแนน หนึ่งหมื่นคะแนน? ผลงานคลาสสิกของปรมาจารย์ยาอู๋หมิง กินแล้วจะได้พละกำลังเท่าวัวสิบตัว กวาดล้างศัตรูนับพัน ใช้ได้ตั้งแต่ขั้นสร้างฐานถึงขั้นทารกแรกกำเนิด"
ลู่หยางสงสัยว่าถ้าไม่ใช่ศิษย์พี่อู๋หมิงที่หลอมยามีพิษครึ่งหนึ่งเป็นคนหลอม ราคาคงสูงกว่านี้
แต่จากคำอธิบาย ยานี่ก็เป็นของดีจริงๆ มีประโยชน์มากในการต่อสู้ อาจซื้อสักเม็ดลองดูผล
"ศิษย์น้องเถาเหยาเย่ ขออภัยด้วย เจ้าจะใช้คะแนนบำเพ็ญซื้อของหรือไม่ ข้าอยากยืมห้าคะแนน ทำภารกิจเสร็จแล้วจะคืนให้"
คะแนนบำเพ็ญสามารถโอนระหว่างกันได้
เถาเหยาเย่อยากซื้อของต้องใช้คะแนนบำเพ็ญมาก มากกว่าหรือน้อยกว่าห้าคะแนนก็ไม่ต่างกัน
"ได้"
ลู่หยางซื้อยาพละกำลังวัวสิบตัวหนึ่งเม็ดอย่างคล่องแคล่ว
ศิษย์พี่ที่มอบภารกิจส่งขวดกระเบื้องเล็กๆ ให้ลู่หยาง ในขวดมียาสีทองหนึ่งเม็ด สะท้อนแสงวับวามยามต้องแสงอาทิตย์ ดูไม่ใช่ของธรรมดา
"พูดไว้ก่อนแล้วว่าจะฉลองที่เจ้าขึ้นขั้นสร้างฐาน ข้าจองโต๊ะที่หอไป๋เซียงไว้แล้ว ไป กินข้าวกัน รับรองมีแต่ของที่เจ้าชอบ" เมิ่งจิ่งโจวหัวเราะร่าเริง ยังเชื้อเชิญเถาเหยาเย่ด้วย
"ศิษย์น้องเถา ไปด้วยกันไหม?"
เมิ่งจิ่งโจวในฐานะที่เข้าสำนักเป็นอันดับสอง จึงเป็นศิษย์พี่ของเถาเหยาเย่
เถาเหยาเย่รู้สึกว่าถึงลู่หยางจะกลัวความสูง พูดโกหก แถมวางยาพิษในห้องนางโดยไม่บอก แต่ยังไงก็เป็นเพื่อนร่วมทำภารกิจ ควรนับว่าเป็นเพื่อนกัน