บทที่ 19 รอบการพัฒนานี้ยาวนานเกินไปแล้ว!
จางหลินเห็นท่าทางของลุงใหญ่ก็อดยิ้มไม่ได้
ที่บรรดาลุงๆ อาๆ ในหมู่บ้านบ่นเรื่องที่ลุงใหญ่อยากเอาใจภรรยานั้นไม่ใช่เรื่องไม่มีเหตุผล ดูสิ พอลองกินผลไม้แล้วอร่อยก็รีบเอาไปให้ภรรยาทั้งหมด
“เสี่ยวหลินมาแล้วไม่บอกกันก่อนเลย!” เสียงอ่อนโยนของป้าใหญ่ดังมาจากในห้อง ก่อนจะมีเสียงอุทานตามมา “ซันไชน์โรสนี้อร่อยมากจริงๆ!”
พูดจบ จางหลินก็เห็นป้าจางเหยียนเดินออกมาพร้อมลุงใหญ่จากห้อง
“ป้าครับ!” จางหลินยกมือทักทายด้วยความเคารพ
“เสี่ยวหลิน ช่างมีน้ำใจจริงๆ” จางเหยียนนั่งลงแล้วเอ่ยชมไม่หยุด “ป้าชอบกินผลไม้อยู่แล้ว แต่ไม่เคยเจอซันไชน์โรสที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลย”
“แม่ อร่อยขนาดนั้นจริงๆเหรอครับ?” จางเจาที่อยู่ใกล้ๆพูดพลางหยิบซันไชน์โรสลูกหนึ่งเข้าปาก แล้วก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “แม่ พูดถูกครับ ผมก็ไม่เคยกินซันไชน์โรสที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน”
จางหลินเห็นทุกคนชื่นชอบก็อดยิ้มอย่างพอใจไม่ได้
การที่ผลงานของตัวเองได้รับการยอมรับเช่นนี้ บางครั้งก็เป็นความสุขเล็กๆ
หลังจากอยู่บ้านลุงใหญ่สักพัก จางหลินก็ขอตัวลา แล้วไปเยี่ยมเยียนเจ้าหนี้อีกหลายบ้านเพื่อแสดงเจตนาว่าจะใช้หนี้คืน ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับไปยังลานกว้างโซนเหนือ
เขาก็ได้ยินเสียงโฆษณาจากลำโพงดังมาแต่ไกล
จางตงกำลังยุ่งอยู่กับการชั่งน้ำหนักลูกพีชให้ลูกค้าหลายคน และไม่ลืมที่จะเรียกลูกค้าเข้ามาเพิ่มอย่างกระตือรือร้น เห็นได้ชัดว่าเขาปรับตัวเข้ากับการขายได้ดีทีเดียว
พอจัดการลูกค้าชุดหนึ่งเสร็จ จางตงก็เห็นจางหลินกลับมาแล้ว จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “จางหลิน ลูกพีชของนายขายดีมากเลย อีกสักชั่วโมงก็น่าจะหมดแล้ว”
จางหลินมองไปที่ลูกพีชที่เหลือบนรถก็เห็นว่าไม่เยอะจริงๆ
ตามที่จางตงคาดไว้ อีกประมาณชั่วโมงหนึ่งลูกพีชที่เหลือก็ขายหมด
“จางหลิน ขอบใจมาก!” จางตงอดไม่ได้ที่จะกอดจางหลินอย่างแรง เพื่อแสดงความขอบคุณ หลังจากที่ขายลูกพีชไปทั้งหมด เขายิ่งตระหนักว่าโอกาสที่จางหลินยื่นให้นั้นมีค่าเพียงใด
“เลิกกอดหน่อยได้ไหม ฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย!” จางหลินพูดแซว
“เฮ้ย! ใครว่าฉันชอบผู้ชายล่ะ ฉันมีแฟนแล้วนะ” จางตงรีบแถลง พอพูดจบเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
พอเห็นว่าใครโทรมา เขาก็ยิ้มโชว์ “หลุยหลุยโทรมา การได้คุยกับแฟนนี่นะ เป็นประสบการณ์ที่คนโสดไม่มีวันรู้หรอก!”
“ไปเลย!” จางหลินได้แต่คิดในใจว่าถ้าคบกันโชว์มากๆจะลงเอยไม่ดี
จางตงยิ้มรับสาย “ฮัลโหล หลุยหลุย(ชื่อเล่นที่จางตงเรียกแฟน) ผมอยู่ที่ลานกว้างโซนเหนือประตูทางใต้นะ ใช่แล้ว กำลังจะบอกข่าวดี…”
แต่ยังไม่ทันพูดจบ ปลายสายก็ตัดไปเสียก่อน
ไม่นานนัก ก็เห็นหญิงสาวร่างเล็กน่ารักเดินมาที่แผงขาย
จางหลินจำได้ว่าเป็นแฟนของจางตง หลิวหลุย
จางตงรีบเดินเข้าไปหา “หลุยหลุย เมื่อกี้ยังพูดไม่จบเลย ทำไมถึงวางสายไปซะก่อน ผมกำลังจะบอกข่าวดี…”
“จางตง เราเลิกกันเถอะ” หลิวหลุยพูดขัดขึ้นมาทันที
คำพูดนี้ทำให้จางตงชะงักไปทันที เสียงของเขาติดอยู่ในลำคอ
จางหลินเองก็ชะงักไปเช่นกัน
แม้ว่าในใจเขาจะเคยคิดไว้ว่า “โชว์หวานเกินไปเดี๋ยวก็เลิกกัน” แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง
เขาไม่ใช่คนที่ชอบยุให้เพื่อนเลิกกับแฟน แถมไม่ได้หวังให้เพื่อนมาอยู่เป็นโสดด้วยกันเสียหน่อย
จางตงเริ่มร้อนใจ “หลุยหลุย ทำไมจู่ๆถึงจะเลิกกันล่ะ? ผมรู้ว่าการส่งอาหารทำให้คุณรู้สึกไม่ดี แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ส่งอาหารแล้วนะ ตอนนี้ผมขายผลไม้อยู่ และผมกำลังจะบอกคุณว่า…”
“จางตง!” หลิวหลุยพูดขัดขึ้นอีกครั้ง และเหมือนว่ามีอารมณ์บางอย่างสะสมอยู่ในใจเธอ “บอกฉันทีสิว่าการขายผลไม้ต่างจากการส่งอาหารยังไง? ใช่ ฉันไม่พอใจที่คุณส่งอาหารเพราะมันดูไม่น่าภาคภูมิใจ แต่เหตุผลที่ฉันจะเลิกกับคุณไม่ใช่แค่นั้น!”
“ผ่านไปตั้งสามปีแล้ว แต่คุณยังมองฉันเหมือนเมื่อสามปีก่อน ใช้แต่แนวทางเดิมๆ ฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ความคิด มุมมอง และทัศนคติของฉันเปลี่ยนไป”
“แต่คุณไม่เปลี่ยนอะไรเลย เราเข้ากันไม่ได้อีกต่อไป ทั้งความคิดและมุมมองในชีวิตไม่เหมือนกันแล้ว เวลาอยู่ด้วยกันฉันรู้สึกเหนื่อยมาก”
จางหลินได้ยินดังนั้นก็อดสงสารเพื่อนไม่ได้
เวลาสามปีมันเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากมาย โดยเฉพาะกับคนในวัยยี่สิบต้นๆที่เพิ่งเข้าสู่สังคม และกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทัศนคติและมุมมองต่อโลกก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไป
หากคู่รักไม่สามารถปรับตัวตามกันได้ บ่อยครั้งก็มักจะกลายเป็นคนแปลกหน้า
เมื่อหลิวหลุยเอ่ยถึงความคิดและมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป เขาเองก็รู้สึกว่าคำพูดของเธอมีเหตุผลอยู่มาก
แต่ทั้งหมดนี้คงจะดูน่าเชื่อมากกว่านี้ หากไม่มีรถ BMW Series 5 จอดอยู่ข้างๆ
“หลิวหลุย ไปกันเถอะ!” คนขับ BMW ยื่นหัวออกมาจากรถแล้วตะโกนเรียก
“คุณมาทำอะไรที่นี่? ฉันบอกแล้วไงว่าจะไปหาเอง” หลิวหลุยหันไปมองคนขับด้วยท่าทีไม่พอใจ
แม้ว่าคนขับ BMW จะถูกดุ แต่เขาก็ยิ้มอยู่ดี ดูเหมือนจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว
หลิวหลุยตั้งสติ ก่อนจะหันมาพูดกับจางตง “จางตง เราไม่เหมาะกันจริงๆ เลิกกันแบบดีๆเถอะนะ”
พูดจบเธอก็เดินไปที่ BMW และขึ้นไปนั่งข้างคนขับ
หลังจากนั้นคนขับ BMW ก็เหยียบคันเร่งออกไปทันที
จางตงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ราวกับถูกทิ้งให้อยู่กับความเงียบ
จางหลินเห็นเพื่อนในสภาพนั้นก็อดถามไม่ได้ “ไม่คิดจะรั้งเธอไว้หน่อยเหรอ?”
จางตงเพียงแค่ถอนหายใจ “ขอให้มันจบแบบมีศักดิ์ศรีเถอะ ตอนอยู่ข้างในฉันก็คิดเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง หลุยหลุยทั้งเด็กและสวย มีคนที่เก่งกว่าเข้ามาจีบ การที่เธอจะเปลี่ยนใจมันก็เข้าใจได้”
จางหลินจึงพูดเตือนว่า “คนขับ BMW คนนั้นอาจจะไม่ได้หาเงินได้มากเท่ากับที่นายจะได้จากการขายผลไม้ ถ้าจะรั้งเธอก็น่าจะพอมีทางนะ”
ถ้ามองให้ดี ปัญหาก็น่าจะมาจากเรื่องคุณภาพชีวิต เพราะยังไงการส่งอาหารกับการมีรถ BMW ขับก็แตกต่างกันมาก
ทั้งตัวหลิวหลุยเอง เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คงไม่มีใครสนับสนุนจางตงหรอก
“การรั้งไว้แบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการอยู่แล้ว แถมทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันแล้ว” จางตงพูดพร้อมส่ายหัวเบาๆ เขานั่งยองๆลงกับพื้น จุดบุหรี่ขึ้นสูบหนึ่งมวน
จางหลินเห็นแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
จริงๆแล้วการรั้งคนไว้ด้วยวิธีแบบนั้นก็คงไม่มีความหมายอะไร
ในความคิดของเขา ถ้าจะรั้งไว้ด้วยเงินให้เธออยู่ต่อไป ก็ไม่สู้ไปหาผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าและสวยกว่านั้น แล้วก็ซื้อรถที่ดีกว่า BMW คันนั้นให้ได้ แบบนี้อีกฝ่ายจะต้องเสียใจไปเอง
หลังจากที่สูบบุหรี่หมดมวน จางตงก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “ฉันไปหาหน้าร้านก่อนนะ พรุ่งนี้จะได้เริ่มทำงาน!”
พูดจบเขาก็เดินจากไปทันที
จางหลินถอนหายใจเงียบๆ
แม้ว่าจางตงจะพูดเหมือนเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่เขาก็รู้ว่าไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้เลย มันเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนาน และหากไม่รู้สึกอะไรเลย ก็คงไม่เดินจากไปด้วยท่าทีรีบร้อนเช่นนี้
จางหลินขึ้นรถบรรทุกเล็กและขับกลับฟาร์ม พอว่างจากงานแล้วเขาก็ไปสำรวจพื้นที่ปลูกดอกคาโนล่าและตรวจดูสภาพของบ่อเก็บน้ำ
ฐานบ่อเก็บน้ำถูกสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว และปูด้วยปูนซีเมนต์เสร็จเรียบร้อย
“เถ้าแก่!”
เมื่อพนักงานสองคนเห็นเขา พวกเขาก็ทักทายด้วยความเคารพ
จางหลินพยักหน้าตอบรับ เมื่อบ่อเก็บน้ำสร้างเสร็จ เขาก็จะสามารถติดตั้งระบบชลประทานอัตโนมัติได้ การใช้แรงงานคนเพื่อรดน้ำดูเหมือนจะเป็นการเสียเวลาเกินไป และมันยังทำให้กระบวนการพัฒนาพื้นที่ปลูกดอกคาโนล่าช้าลงอีกด้วย
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน จางหลินก็เปิดดูข้อมูลการอัพเกรด:
เงื่อนไขการอัพเกรด: 1. พนักงาน 6 คน (6/6)! 2. กำไร 500,000 หยวน (179,474/500,000)! 3. พื้นที่การเกษตร 200 ไร่ (118/200)
เมื่อวานนี้เขามีพื้นที่พัฒนา 109 ไร่ วันนี้เพิ่มมาเป็น 118 ไร่ แปลว่าหลิวเต๋อพัฒนาพื้นที่ได้แค่ 9 ไร่ในวันนี้
การสร้างระบบชลประทานอัตโนมัติยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก เขาจึงคิดว่าอาจจะต้องจ้างพนักงานเพิ่ม ไม่อย่างนั้นรอบการพัฒนาพื้นที่ปลูกดอกคาโนล่าขนาด 500 ไร่นี้คงจะยาวเกินไป
นอกจากนี้ การจ้างพนักงานครบ 10 คนยังมีรางวัลเล็กๆจากภารกิจย่อยอีกด้วย
(จบบท)