บทที่ 17 จางหลินเป็นคนมีน้ำใจ!
“ยังไงล่ะ? ไม่สนใจหรือไง?” จางหลินเห็นสีหน้าตกใจของจางตงจึงยิ้มและถาม
“จางหลิน ลูกพีชที่อร่อยขนาดนี้ไม่น่าจะขายยากหรอกนะ ฉันแค่คิดไม่ถึงว่านายจะให้ฉันเป็นคนขาย!” จางตงตอบ ใครจะไม่สนใจกันล่ะ?
ต้นทุนจินละ 24 หยวน ขาย 30 หยวน กำไร 6 หยวน!
ขายได้ 500 จิน ก็กำไร 3,000 หยวนต่อวัน
แต่เขาก็รู้สึกว่าจางหลินสามารถขายเองได้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยกสิ่งนี้มาให้เขาขาย
เท่ากับเอาเงินมาให้เขาก็ไม่ต่างกันเลย
จางหลินยิ้มและพูดว่า “ฉันสามารถขายส่งให้หลินทั๋วได้ ทำไมจะขายส่งให้นายไม่ได้? อีกอย่าง ปริมาณมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลาดในเมืองอวี๋เฉิงนี้อาจจะไม่เพียงพอด้วยซ้ำ เพราะงั้นอย่าคิดมากเลย นายแค่บอกว่าทำหรือไม่ทำก็พอ ถ้าทำ พรุ่งนี้ฉันจะส่งลูกพีชให้ 500 จิน”
“ทำสิ!” จางตงเห็นว่าอีกฝ่ายพูดถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่ปฏิเสธ รีบตอบรับอย่างรวดเร็ว
“โอเค!” จางหลินพยักหน้า ก่อนจะกำชับว่า “แต่ว่า ลูกพีชนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองขายแบบลับ นายไม่ต้องถามอะไรมากไป ราคาขายต้องเป็นไปตามที่กำหนด และเตรียมเงินสำหรับซื้อขายส่งให้พร้อม พรุ่งนี้ฉันจะเอาลูกพีช 500 จินมาให้ แล้วเซ็นสัญญาด้วย!”
แม้ว่าจะทำเพื่อแสดงน้ำใจตอบแทนความช่วยเหลือจากครอบครัวของจางตง และเพื่อช่วยเพื่อนพ้อง แต่เมื่อโอกาสถูกยื่นให้ไปแล้ว เขาก็ต้องพูดให้ชัดเจนในเรื่องธุรกิจ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในภายหลังที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์
หากบอกไปแล้วอีกฝ่ายยังไม่ให้ความสำคัญ นั่นก็แปลว่าเขาไม่เห็นค่าของโอกาสที่ได้รับ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลืออีกต่อไป
“ไม่ต้องห่วง นายว่าไงฉันก็จะทำตามนั้น” จางตงรีบตอบ
เขาไม่โง่พอที่จะทำให้เพื่อนรู้สึกไม่สบายใจ
จางหลินสามารถหาแหล่งผลไม้พิเศษเหล่านี้ได้ เขาเองก็ต้องเข้าใจว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เพื่อนได้ยื่นให้เขา จะโง่ไปทำลายโอกาสนี้ได้ยังไงกัน
“อืม!” จางหลินพยักหน้าและอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม “นอกจากนี้ การขายลูกพีช นายต้องเตรียมรหัสรับชำระเงินผ่าน WeChat ไว้ด้วย ส่วนตลาดทางใต้ที่หลินทั๋วขายอยู่ นายไปขายที่ลานกว้างโซนเหนือก็แล้วกัน วันแรกฉันจะให้ยืมรถเป็นแผงขายชั่วคราว แล้วหลังจากนั้นค่อยหาหน้าร้านนะ…”
จางตงพยักหน้าและจดจำทุกอย่างที่จางหลินบอก
หลังจากแยกกันแล้ว จางตงก็รีบไปพิมพ์รหัสชำระเงินผ่าน WeChat กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยก็พบว่ามีแค่พ่อของเขา เหอเกินอยู่คนเดียว
“พ่อ แม่ไปไหนครับ?” จางตงถาม
“ไปซื้อของ” เหอเกินอธิบาย
จางตงนั่งลงและคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นอย่างจริงจัง “พ่อ มีเรื่องจะบอกครับ ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมจะไม่ส่งอาหารแล้วนะ ช่วยบอกลุงหลี่ด้วย เดี๋ยวว่างแล้วผมจะไปขอโทษเขา”
“แกจะทำอะไรผิดๆ อีกเหรอ? หรือคิดว่าส่งอาหารมันน่าอาย?” เหอเกินได้ยินก็ตกใจขึ้นมา พยายามพูดเตือนลูกชาย “พ่อเคยบอกแล้วไงว่าทำงานได้เงินอย่าไปสนคำพูดคนอื่น แกเพิ่งออกมาจากข้างใน งานส่งอาหารพ่อยังต้องไปขอร้องลุงหลี่กว่าจะยอมรับแกเลยนะ”
จางตงเข้าใจถึงความเป็นห่วงของพ่อ จึงรีบปลอบว่า “พ่อ ผมไม่เคยคิดว่าการส่งอาหารเป็นเรื่องน่าอายเลย แต่จางหลินหาโอกาสงานใหม่ให้ผมแล้ว ตอนนี้เขาทำธุรกิจผลไม้อยู่ ผมว่ามันดูดีมากเลย”
“จางหลินหางานให้เหรอ?” เหอเกินถึงกับชะงักไปเล็กน้อย นึกถึงเงิน 50,000 หยวนที่จางหลินเพิ่งคืนมา
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเงิน 50,000 น่าจะมาจากการไปหาเงินมาจากที่นั่นที่นี่ แต่ถ้าจางหลินสามารถหางานให้ลูกชายเขาได้ ก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่แบบที่เขาคิดเสียแล้ว
จางตงรีบพยักหน้า “ใช่ครับ จางหลินหางานให้ผม อีกอย่าง ผมก็ทำงานส่งอาหารต่อไปไม่ได้ แฟนผมเธอทำหน้าบึ้งใส่เพราะไม่ชอบให้ผมส่งอาหาร ถ้ายังเป็นแบบนี้อีกคงได้เลิกกันแน่ๆ”
เหอเกินยังคงเชื่อมั่นในตัวจางหลิน แต่ก็เตือนจางตงว่า “ในเมื่อจางหลินจัดการเรื่องนี้ให้ นายก็ต้องทำให้ดี เขาเป็นคนมีน้ำใจ”
“ผมเข้าใจครับ พ่อ!” จางตงรีบพยักหน้ารับ
…
เมื่อกลับถึงบ้าน แม่ของจางหลินเข้าห้องเตรียมตัวพักผ่อนแล้ว ด้วยสุขภาพที่ไม่ค่อยดีเธอจึงเข้านอนเร็วเสมอ
จางหลินไม่ต้องการรบกวน เขาจึงอาบน้ำและหยิบโทรศัพท์ออกมาไถดูฟีดใน WeChat
ในยุคสมัยที่อินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลมาก คนส่วนใหญ่ก็มักจะทำแบบนี้ก่อนนอน
หลังจากไถฟีดอยู่หลายหน้า เขาก็เจอโพสต์ของฟู่เหยา ภาพในโพสต์เป็นรูปกระถางต้นไม้เล็กๆหลายกระถางพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆของเธอ
ดูเหมือนว่าเธอจะชอบปลูกต้นไม้มากทีเดียว
จางหลินไถฟีดต่ออีกเล็กน้อย ก่อนที่จะวางโทรศัพท์ลง แต่จู่ๆก็สังเกตเห็นว่าในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นกำลังพูดคุยกันอย่างคึกคัก เหมือนมีเรื่องสนุกเกิดขึ้น
เขาเปิดดูกลุ่มด้วยความอยากรู้ และก็ต้องตกใจ
วันนี้เป็นวันจัดงานเลี้ยงรวมเพื่อนร่วมชั้น และดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เพื่อนร่วมชั้นชายคนหนึ่งกับเพื่อนร่วมชั้นหญิงอีกคนแอบเล่นอะไรคลุมเครือกันอยู่ แต่ก็ถูกภรรยาของฝ่ายชายจับได้ตรงนั้นจนเกิดการทะเลาะกันใหญ่โต แถมมีเพื่อนในกลุ่มที่ชอบเรื่องแบบนี้อัดวิดีโอแล้วเอามาแชร์ในกลุ่มอีกด้วย
จางหลินอ่านไปก็ได้แต่ส่ายหน้า ดูเหมือนว่าการเลี้ยงรุ่นสมัยนี้กลายเป็นกิจกรรมที่ทำให้ครอบครัวแตกแยกได้ง่ายๆไปแล้ว
หลังจากอ่านดูอะไรในกลุ่มเสร็จ เขาก็วางโทรศัพท์และเตรียมตัวเข้านอน
…
เช้าวันถัดมา เขาเข้าไปดูในตลาดเกมที่อยู่ในหัว:
1. ลูกพีช (คุณภาพระดับ 1) ราคา 4 หยวนต่อจิน สามารถสั่งซื้อได้ 1,500 จินต่อวัน
2. องุ่นซันไชน์โรส (คุณภาพระดับ 1) ราคา 6 หยวนต่อจิน สามารถสั่งซื้อได้ 500 จินต่อวัน
3. เมล็ดพันธุ์ดอกคาโนล่าแบบเร่งการเติบโต (คุณภาพระดับ 1) ราคา 250 หยวนต่อจิน สามารถสั่งซื้อได้ 10 จินต่อวัน
จางหลินไม่ลังเล รีบสั่งซื้อของทั้งหมดทันที
วันนี้มีโควตาลูกพีชเพิ่มขึ้นอีก 500 จิน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อทั้งหมดสูงถึง 11,500 หยวน แต่ผลกำไรจากการขายส่งจะอยู่ที่ 44,500 หยวน
เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ เขาจึงสั่งซื้อลูกพีช 1,000 จิน และซันไชน์โรส 500 จิน ออกมาก่อน จากนั้นรอให้หลิวเต๋อและทีมงานนำสินค้าไปส่งให้หลินทั๋ว ก่อนที่จะสั่งออกมาอีก 500 จินให้จางตง
การแยกแบบนี้ทำให้จัดการง่ายขึ้น
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันและกินอาหารเช้าแล้ว จางหลินก็รีบออกจากบ้าน เมื่อมาถึงฟาร์มก็พบว่าหลิวเต๋อกับทีมงานกำลังขนลูกพีชและซันไชน์โรสขึ้นรถเรียบร้อยเกือบหมดแล้ว
เขาหยิบถุงพลาสติกมาหลายใบและนำลูกพีชกับซันไชน์โรสมาบรรจุเตรียมไว้เป็นของฝาก
ของพวกนี้เขาจะนำไปฝากให้เจ้าหนี้คนอื่นๆ
แม้ว่าเขาจะชำระหนี้ให้เหอเกินไปแล้ว 50,000 หยวน แต่ก็ยังมีคนอื่นๆที่ควรแสดงความขอบคุณบ้างด้วยการไปเยี่ยมและนำผลไม้ไปให้
ถึงจะมีระบบเกมช่วยเหลือ ทำให้เขาชำระหนี้ทั้งหมดได้ในเร็ววัน แต่ธรรมเนียมปฏิบัติก็คือธรรมเนียม มันแสดงถึงการที่เขายังระลึกถึงเรื่องนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับว่าจะชำระหนี้เมื่อไหร่
เขาจึงฝากให้หลิวเต๋อช่วยบอกหลินทั๋วให้หักปริมาณสินค้าไว้ตอนชั่งน้ำหนัก
จางหลินนำลูกพีชและซันไชน์โรสหลายชุดเข้าไปเก็บไว้ในห้องพักเหล็กหลายสีในจุดที่ร่มเย็น
เมื่อหลิวเต๋อและทีมงานจัดการขนลูกพีชและซันไชน์โรสทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยและออกไปส่งสินค้าแล้ว จางหลินก็สั่งซื้อลูกพีช 500 จินที่เหลือออกมา
จากนั้น เขาก็นำโปสเตอร์โฆษณาที่พิมพ์ไว้เกี่ยวกับข้อมูลการวิจัยและขาตั้งพร้อมทั้งลำโพงออกมาเตรียมไว้
นี่เป็นการขายส่งลูกพีชครั้งแรกให้จางตง เขาต้องใช้พวกนี้ไปที่ลานกว้างโซนเหนือเพื่อขายลูกพีช
(จบบท)