ตอนที่แล้วบทที่ 108: สายลับแคว้นหนานซวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 110: ช่วยเหลือ

บทที่ 109: แกล้งป่วย


“ขั้นต่อไปคือการทดสอบฝีมือการแสดงของเจ้ากับจื่อเฟิง” มู่ไป๋ไป่กวักมือให้หลัวเซียวเซียวขยับเข้ามาใกล้ ๆ แล้วกระซิบว่า “อีกไม่นานหมอหลวงฉินจะมาที่นี่ เจ้าจะต้องร้องไห้อยู่ข้างๆ ยิ่งเจ้าร้องไห้ดังเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น”

“ด้วยวิธีนี้ หมอหลวงฉินจะได้ไม่มีสมาธิ แล้วข้าก็จะทำตามวิธีการที่อวี้เซิ่งแนะนำ สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปได้อย่างราบรื่น”

หลัวเซียวเซียวพยักหน้าเข้าใจ

ปัจจุบันมู่ไป๋ไป่ได้กลายเป็นหลานคนโปรดของไทเฮา อีกทั้งเรือนพักที่เธออาศัยอยู่ก็อยู่ใกล้กับเรือนพักของพระนาง ดังนั้นตอนที่นางกำนัลตะโกนลั่น พระนางก็ทรงได้รับข่าว

ดังนั้นก่อนที่หมอหลวงจะมาถึง ผู้เป็นย่าก็เสด็จมาถึงก่อน

“ไป๋ไป่ของเราเป็นเช่นไรบ้าง?” ไทเฮาที่มาถึงก่อนใครเพื่อน ทันทีที่ประตูถูกเปิดเข้ามา พระนางก็เห็นหลานสาวนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้าของเจ้าถึงได้ซีดเช่นนั้น?”

“ท่านย่าไทเฮา” เด็กหญิงได้เปิดม่านการแสดง และทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “ท่านย่า ไป๋ไป่ปวดท้อง”

“เกิดอะไรขึ้น?” หญิงสูงวัยไม่กล้าแตะต้องร่างเล็กจึงทำได้เพียงนั่งลงข้างเตียงแล้วจับมือน้อย ๆ ของหลานสาวเอาไว้ “เมื่อวานเจ้ากินอะไรที่แสลงท้องเข้าไปหรือไม่ หรือเป็นเพราะนางกำนัลพวกนั้นไม่ได้ปรนนิบัติเจ้าตอนเข้านอนจึงทำให้เจ้าท้องเย็น?”

“ไป๋ไป่ไม่ทราบเพคะ” มู่ไป๋ไป่ส่ายหัวอย่างอ่อนแรง “วันนี้ไป๋ไป่รู้สึกไม่สบายท้องทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา จากนั้นความเจ็บปวดก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ”

นี่เป็นคำพูดที่เธอคิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ทว่าในสายตาของไทเฮาและคนอื่น ๆ นางเป็นเพียงแค่เด็ก 4 ขวบ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาได้อย่างชัดเจน

“นั่นสิ เราถามเจ้า เจ้าก็คงไม่สามารถตอบได้เหมือนกัน” ผู้เป็นย่ารู้สึกปวดใจที่เห็นหลานสาวทุกข์ทรมานเช่นนี้ “ไม่เป็นไร ๆ หมอหลวงกำลังจะมาที่นี่แล้ว”

“หลังจากหมอหลวงตรวจไป๋ไป่เสร็จ เขาก็จะสั่งยา พอกินยาแล้วไป๋ไป่ก็จะหายขาด”

“หมอหลวงอยู่ที่ไหน? ทำไมหมอหลวงยังไม่มา!”

ไทเฮาหันกลับไปถามนางกำนัลโดยที่สายตากับท่าทีอ่อนโยนที่เคยมีให้มู่ไป๋ไป่เปลี่ยนไป ทำให้นางกำนัลและขันทีทุกคนต้องรีบคุกเข่าลง

“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมาแล้ว” หมอหลวงฉินที่ได้ยินเสียงของไทเฮาจากหน้าประตูจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น “กระหม่อมมาช้า ขอพระองค์ทรงอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงฉินมีอายุถึงวัยเกษียณกลับบ้านนานแล้ว แต่ฝีมือการรักษาของเขาดีมากจนมู่เทียนฉงต้องเก็บเขาเอาไว้ในวังหลวง

ในยามที่ไทเฮาพบหน้าชายชรา พระนางก็ไม่รู้สึกอยากซักไซ้เขา ดังนั้นพระนางจึงยืนขึ้นและก้าวออกไปเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้าไปตรวจอาการของมู่ไป๋ไป่

“เป็นอย่างไรบ้าง? หลานสาวเราเป็นอะไรร้ายแรงหรือไม่?” พอสตรีสูงวัยเห็นว่าหมอหลวงฉินกำลังลูบเคราครุ่นคิดเงียบ ๆ พระนางก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาอย่างเป็นกังวล “หรือนางจะถูกวางยาพิษ?!”

การถูกวางยาพิษนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในวังหลวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในวัดฮู่กั๋วที่การอารักขาหละหลวมยิ่งกว่า

ทันทีที่พระนางคิดว่ามีใครบางคนแอบวางยาพิษหลานสาว พระพักตร์ของพระนางก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น

“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ” ผู้เป็นหมอหรี่ตาลง “ไทเฮา พระองค์ทรงอย่าได้กังวลไป ตามการวินิจฉัยของกระหม่อม ชีพจรขององค์หญิงหกไม่มีอะไรผิดปกติ นางน่าจะเป็นไข้ลมหนาวแล้วปวดท้องเท่านั้น ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นในยามที่ร่างกายอ่อนแอ”

“กระหม่อมจะสั่งยาให้องค์หญิงหก แล้วให้องค์หญิงหกพักสัก 2-3 วัน อาการไข้ลมหนาวก็จะหายไป ส่วนเรื่องปวดท้องไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงพ่ะย่ะค่ะ”

“จริงหรือ?” ไทเฮาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หมอหลวงฉิน ท่านแน่ใจหรือว่านางเป็นเพียงแค่ไข้ลมหนาว? แล้วทำไมใบหน้าไป๋ไป่ถึงได้ซีดขนาดนี้?”

ยามนี้คนตัวเล็กยังคงนอนกลิ้งร้องด้วยความเจ็บปวด

โอ๊ะ ดูเหมือนว่าฉันจะแสดงมากเกินไป

เมื่อเธอเห็นว่าหมอหลวงฉินกำลังจะเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของตน เธอก็รีบขยิบตาให้กับหลัวเซียวเซียวที่อยู่ด้านข้าง

เด็กหญิงที่ได้รับสัญญาณก็น้ำตาไหลพรากทันที เมื่อนางเริ่มร้องไห้ มือของคนเป็นหมอก็สั่นเพราะความตกใจ

“องค์หญิงหก ฮือ ๆๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของเซียวเซียวที่ไม่ดูแลพระองค์ให้ดี” หลัวเซียวเซียวกระโจนเข้ากอดคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียง โดยขวางไม่ให้ชายชราแตะต้องอีกฝ่าย “เป็นเซียวเซียวที่ทำให้องค์หญิงหกต้องลมหนาว องค์หญิงหก โปรดลงโทษเซียวเซียวเถิดเพคะ!”

“อะแฮ่ม… ไม่เป็นไร” มู่ไป๋ไป่แอบยกนิ้วโป้งให้สหายตัวน้อย แล้วพูดเสียงเบา “เป็นข้าเองที่ปฏิเสธไม่ยอมห่มผ้า ข้าจะตำหนิเจ้าได้อย่างไร”

“ไม่ ๆๆ มันเป็นความผิดของหม่อมฉันเอง…”

“ไม่ ๆๆ มันเป็นความผิดของข้า...”

ทันทีที่คนอื่น ๆ เห็นว่าเด็ก 2 คนนี้เอาแต่ทะเลาะกัน บรรยากาศที่หนักอึ้งภายในห้องก็ดูเหมือนจะเบาลง

“ไทเฮา องค์หญิงหกทรงเป็นคนมีจิตใจดีมากพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงฉินลูบเคราตัวเอง 2-3 ที ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “สำหรับใบหน้าซีดเซียวของนาง น่าจะเป็นเพราะความเย็นส่งผลต่อลมปราณในร่างกายจนทำให้เลือดลมบกพร่อง”

“หลังจากที่องค์หญิงหกได้พักสักครู่ กระหม่อมจะสั่งยาบำรุงให้องค์หญิงหก เพียงแค่นี้มันก็สามารถช่วยให้องค์หญิงหกกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ยอดไปเลย” ไทเฮาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถ้าเช่นนั้นหมอหลวงฉิน ท่านรีบไปสั่งยาเถิด”

ในขณะที่ซูหว่านกำลังวิ่งเข้ามา หมอหลวงฉินก็ตรวจมู่ไป๋ไป่เสร็จแล้ว พอนางได้รู้ว่าลูกสาวเป็นเพียงไข้ลมหนาว นางจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เจ้าเด็กนี่ ทำให้แม่ต้องกังวลอยู่เรื่อย” หว่านผินกล่าวพลางปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

มู่ไป๋ไป่มีสุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก และยังถูกรังแกมานานหลายปี

ตอนนี้ในที่สุดลูกสาวก็กลับมาแข็งแรงสมบูรณ์แล้ว นางกลัวว่าเด็กคนนี้จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหลังจากที่ได้ยินว่าเจ้าตัวป่วย

“ท่านแม่ ข้าขอโทษ” แม่และลูกสาวมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มู่ไป๋ไป่รู้ว่าซูหว่านกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้เธอได้คำนึงถึงทุกเรื่องแล้ว ยกเว้นความกังวลของผู้เป็นแม่ที่มีต่อตัวเธอ

“คนที่เจ้าต้องขอโทษไม่ใช่แม่ แต่เป็นตัวของเจ้าเอง” หว่านผินถอนหายใจ “ไป๋ไป่ ร่างกายเจ้าเป็นของเจ้า ในอนาคตเจ้าอย่าได้ทำเช่นนี้อีก เข้าใจหรือไม่?”

“ถ้า…ถ้าเกิดว่าเจ้าเป็นอะไรไป แม่จะทำเช่นไร?”

ในขณะที่พูดหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะสะอื้นเบา ๆ

ทางด้านมู่ไป๋ไป่ได้แต่โทษตัวเองไม่รู้จบ แต่เธอไม่สามารถบอกท่านแม่ได้ว่าที่จริงแล้วตนไม่ได้เป็นอะไร ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าก้มตารับถ้วยยาที่นางกำนัลนำมาให้ แล้วดื่มมันเข้าไปจนหมด

ซูหว่านอยู่ดูแลเธอในห้องสักพักก่อนจะกลับออกไปพร้อมกับไทเฮาเพื่อไปสวดมนต์ที่วิหาร

ก่อนที่จะออกเดินทาง หว่านผินยังได้กำชับให้ลูกสาวพักผ่อนให้ดี อย่าไปเล่นซนที่ไหนอีก

ทันทีที่เสียงฝีเท้าหายไป แล้วยืนยันว่าหว่านผินกับไทเฮาได้เดินออกไปไกลแล้ว มู่ไป๋ไป่ก็กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“รีบออกไปกันเถอะ ช่วงบ่ายท่านแม่จะต้องมาเยี่ยมข้าอย่างแน่นอน เราคงต้องรีบไปรีบกลับ”

“องค์หญิงหก เมื่อสักครู่นี้หม่อมฉันเห็นว่าหว่านผินร้องไห้อย่างเศร้าใจมาก” หลัวเซียวเซียวพูดขึ้นมาขณะช่วยอีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้า “ทำไมเราไม่บอกหว่านผินก่อนที่เราจะไปล่ะเพคะ?”

“ไม่ได้” มู่ไป๋ไป่ส่ายหัวพร้อมกับทำสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านแม่เป็นคนคิดมาก ถ้าข้าบอกนาง นางคงไม่ยอมให้ข้าลงจากเขาแน่”

“คราวนี้เรามีอวี้เซิ่งร่วมเดินทางไปด้วย ดังนั้นทุกอย่างจะเรียบร้อยดี”

“ไปกันเถอะ รีบไปจะได้รีบกลับ”

หลังจากหลัวเซียวเซียวได้ยินสิ่งที่องค์หญิงตัวน้อยพูด นางก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นางรีบเก็บข้าวของและออกไปพร้อมกับอีกคนทันที

ขณะนี้จื่อเฟิงรออยู่ที่ด้านนอกเรือนพักแล้ว เมื่อเขาเห็นพวกเธอเดินออกมา เขาก็โบกมือให้เด็กหญิงทั้ง 2

อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าสายตาของมู่ไป๋ไป่ก็ถูกหมาป่าสีเทาที่อยู่ข้างกายของเขาดึงดูดไป

“อ๊ะ ทำไมเจ้าตัวโตถึงมาอยู่ที่นี่?” คนตัวเล็กก้าวเข้าไปข้างหน้าด้วยความประหลาดใจก่อนจะลูบหัวหมาป่า

“เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือไม่ น่าเสียดายยิ่งนัก ตอนนี้ข้ามีเรื่องด่วนที่ต้องลงภูเขาไปจัดการ ไม่อย่างนั้น เจ้ารอตอนเย็นได้หรือไม่ แล้วเจ้าค่อยมาใหม่”

“ท่านจ้าวอสูร ข้าไม่ได้เป็นอะไร” หมาป่าสีเทาโน้มตัวเป็นการทำความเคารพมู่ไป๋ไป่เล็กน้อย “ข้าได้ยินจากเจ้าเด็กโง่คนนี้ว่าท่านมีปัญหาบางอย่างและต้องการความช่วยเหลือ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด