ตอนที่ 135 อัปเดตโครงเรื่อง (ฟรี)
ตอนที่ 135 อัปเดตโครงเรื่อง
ฟางเฉิงหวู่ไม่ได้ออกมาด้วยรถที่พวกเขาขับมาจากฐานในเมือง L แต่เปิดระบบนำทาง และเลือกรถออฟโรดสีขาวเงินเป็นพาหนะ
แม้ว่าการเปิดนำทางจะต้องจ่ายเงิน 50 เหรียญทองแดงต่อชั่วโมง แต่รถที่เช่าจากระบบนำทางก็มีความปลอดภัยมากกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สามารถป้องกันซอมบี้ได้ในระดับหนึ่ง
ถ้าฉู่เจียงเยว่ และฉู่เจียงหยางไม่ได้บอกว่าสิ่งนี้ไม่มีขาย เขาคงจะซื้อไว้ใช้เอง
รถที่เขาขับจากเมือง L กำลังจมฝุ่นในลานจอดรถของเขตที่พักสองของโรงแรมเจียงหลิน
ภายนอกโรงแรมเจียงหลิน ทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ หากไม่ระวังอาจเกิดอาการตาบอดหิมะได้
( ***ตาบอดหิมะคือ อาการที่ตาสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว เพราะกระจกตาถูกเผาไหม้จากการสะท้อนของหิมะ น้ำแข็ง ทราย และน้ำ )
อย่างไรก็ตาม ด้านนอกโรงแรมเจียงหลินมีซอมบี้ถูกแช่แข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อพวกเขาขับผ่าน ฉู่เจียงเยว่ก็จะเปิดฉากโจมตี และเก็บแก่นคริสตัลไปตามรายทาง
“ทำไมถนนมันจึงดูเหมือนขรุขระจัง หรือจะมีซอมบี้ถูกฝังอยู่ข้างใต้?”
หลินซวี่หยวนที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับรู้สึกว่าถนนเหมือนจะเป็นหลุมเป็นบ่อกว่าปกติ พวกเขาเคยทำความสะอาดถนนด้านนอกโรงแรมเจียงหลินมาก่อน ดังนั้นจึงรู้ว่าปกติแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนี้
“เมื่อก่อนมีซอมบี้มากมายรอบๆ โรงแรมเจียงหลิน ตอนนี้พวกมันถูกแช่แข็ง บางตัวอาจยืนอยู่ และบางตัวอาจนอนราบ”
และตัวที่นอนราบ...หลังจากผ่านไปนาน แน่นอนว่าหิมะก็จะกลบทับเอาไว้
ที่รถของพวกเขากระดอนขึ้นลง ก็น่าจะเกิดจากการแล่นผ่านร่างของซอมบี้ที่นอนราบอยู่
หลังจากได้ยินคำอธิบายของเจียงเหอ หลายคนก็ส่ายตัว และขนลุก
“อย่าคิดมาก เมื่อกลายเป็นซอมบี้ก็ไม่ถือว่าเป็นมนุษย์อีกต่อไป”
ฉู่เจียงเยว่เคยขอให้จิ้งจอกตรวจสอบ และพบว่าอวัยวะภายในตัวซอมบี้นั้นหยุดการทำงานไปแล้ว มีเพียงสมองเท่านั้นที่ยังคอยสั่งการอยู่
ทันทีที่กลายเป็นซอมบี้ คนๆ นั้นก็ถือว่าตายไปแล้ว และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าพวกเขาเป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่กระหายเนื้อดิบ และเลือดเท่านั้น
“คุณพูดถูก”
แม้ว่าเขาจะยังขับรถอยู่ แต่เสิ่นจื้อกุยมองผ่านกระจกหน้าไปทางฉู่เจียงเยว่เป็นครั้งคราว
รถสีขาวเงินเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ในโลกสีขาวโพลนใบนี้ เจียงเหอหยิบแว่นกันแดดออกมาจากมิติส่วนตัว และนำมันออกมาให้ทุกคนได้ใส่
หากเกิดอาการตาบอดหิมะ มันจะค่อนข้างเสี่ยงๆ และการเดินทางครั้งนี้อาจต้องล้มเลิก
"ขอบคุณ"
ไม่มีแว่นกันแดดในมิติส่วนตัวของฉู่เจียงเยว่ ถ้าเจียงเหอไม่ยื่นมาให้ ฉู่เจียงเยว่คงขอให้จิ้งจอกน้อยหาซื้อจากร้านค้าของระบบ
“ไม่เป็นไร เมื่ออยู่ทีมเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกัน”
ที่เจียงเหอดีกับฉู่เจียงเยว่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉู่เจียงเยว่เป็นเจ้าของโรงแรมเจียงหลิน และอีกส่วนเป็นเพราะเสิ่นจื้อกุย แม้ว่าทั้งสองคนจะยังไม่ได้เป็นอะไรกันก็ตามในตอนนี้
“แล้วกลุ่มคนข้างหลังจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาได้ตามเธอมา หากเธอไม่สามารถพาทุกคนกลับไปที่โรงแรมได้ ฉู่เจียงเยว่คงจะรู้สึกอึดอัดใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแขกจำนวนมากที่มาจากเมือง L
“ในเมื่อเขาเป็นผู้นำฐานได้ ก็ต้องมีความสามารถอยู่ พวกเขาคงเตรียมพร้อมก่อนออกมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องกังวล”
แม้เจียงเหอจะไม่รู้ว่าจะแบบนั้นจริงหรือไม่ แต่เขาก็ไม่มีแว่นกันแดดเหลือแล้ว แต่ต่อให้มี เขาก็ไม่มีวันช่วยเหลือศัตรูหัวใจของเสิ่นจื้อกุ้ย
หากเรื่องแค่นี้ยังไม่เตรียมการรับมือ เจียงเหอก็สงสัยว่าตำแหน่งผู้นำฐานนี่จับฉลากกันมาหรือยังไง
“ถูกต้อง ก่อนออกมาพวกเขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม อีกอย่างแว่นกันแดดก็ไม่ได้หาได้ง่าย เราไม่มีพอที่จะแจกจ่ายหรอก”
อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขาที่จะหาร้านค้าสักแห่งภายใต้หิมะที่ตกหนัก
ไม่ต้องพูดถึงร้านที่ขายแว่นกันแดด นั่นไม่ต่างจากงมเข็มในกองหญ้า
“ว้าว! ดูซอมบี้ตรงนั้นสิ?”
เซี่ยซีหลินเหลือบมองโดยไม่ตั้งใจ และเห็นซอมบี้ตัวหนึ่งที่มีเกล็ดหิมะปกคลุม
สิ่งที่ห้อยลงมาจากแขนของซอมบี้คือเกล็ดหิมะที่ต่อกันจนสวยงาม แต่เมื่อรวมกับซอมบี้ที่น่าเกลียดน่ากลัวข้างๆ มันก็ให้ความรู้สึกแปลกๆ
คำพูดของเซี่ยซีหลินดึงดูดความสนใจของฉู่เจียงเยว่ และคนอื่นๆ ได้สำเร็จ
เมื่อมองไปตรงจุดที่เซี่ยซีหลินชี้ไป ทุกคนก็ได้เห็นซอมบี้ตัวนั้นที่มีเกล็ดหิมะปกคลุมร่าง
"มันดูสวยแปลกตา แต่ก็น่าขนลุกไปในเวลาเดียวกัน"
หากเอาไปตั้งโชว์ก็คงดังระเบิดเป็นแน่ แต่ตอนนี้คงไม่มีใครสนใจมาชม
“ตอนนี้อากาศหนาวมาก หากเราไม่ได้สวมเสื้อกันหนาว ตอนนี้เราคงตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าไปแล้ว”
“เรายังโชคดี ไม่รู้ว่าผู้คนในที่แห่งอื่นจะเอาชีวิตรอดกันได้ยังไง”
หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโรงแรมเจียงหลิน ใครก็ตามที่สามารถอยู่รอดผ่านอากาศร้อนจัด และหนาวจัดได้ถือว่าโชคดีมาก
ทุกคนในรถเงียบ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตาย แต่สถานการณ์ของพวกเขาก็คงไม่ถือว่าดีขึ้น
“โฮสต์ โครงเรื่องได้รับการอัปเดตแล้ว!”
ในขณะที่ฉู่เจียงเยว่ยังคงไว้ทุกข์ให้กับผู้คนที่เสียชีวิตเนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จิ้งจอกน้อยก็ได้พูดขึ้นหลังจากเงียบหายไปนาน
เมื่อได้ยินว่าเกี่ยวกับโครงเรื่อง ฉู่เจียงเยว่ก็ถูกดึงดูดความสนใจในทันที
“มีการอัปเดตอะไรบ้าง”
ฉู่เจียงเยว่ไม่คิดว่าโครงเรื่องเดิมจะดำเนินต่อไปได้ ไม่ว่ายัง มันก็พังทลายไปอย่างสมบูรณ์ เธอจึงอยากรู้มากว่าระบบจะทำยังไงต่อ
[ เนื่องจากมีการเบี่ยงเบนอย่างมากในการดำเนินเรื่อง จึงมีการปรับเปลี่ยนตัวละครบางส่วน นางเอก ( จินซู่หยู ) พระเอก ( ฮั่วฮวน )… ]
…
มีการเปลี่ยนแปลงตัวพระเอกเป็นฮั่วฮวนเหรอ?
ฉู่เจียงเยว่เหลือบมองจิ้งจอกน้อย “หากเจิ้งเหวินอันไม่ใช่พระเอกแล้ว แปลว่าในอนาคตฉันจะสามารถ…”
“เดี๋ยวก่อนโฮสต์ อ่านให้จบก่อน”
ฉู่เจียงเยว่มองลงไป อ่านต่อ และในที่สุดก็เห็น [ พระเอก ( ฮั่วฮวน ) นักแสดงสมทบ ( เจิ้งเหวินอัน )... ]
โอ้ชีวิต ทำไมการที่เธอจะจัดการใครสักคนจึงได้ยากเย็นแสนเข็ญถึงขนาดนี้
ฉู่เจียงเยว่ไม่สนใจอ่านต่อ เพราะโครงเรื่องใหม่ก็อาจอยู่ได้ไม่นาน และอาจพังทลายอีกครั้งในวันหน้า
สำหรับจิ้งจอกน้อย ตัวมันเองก็ไม่รู้ว่าโครงเรื่องใหม่นี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ดังนั้นมันจึงไม่บังคับให้ฉู่เจียงเยว่อ่านต่อ และการเปลี่ยนที่เหลือก็ไม่ได้มีอะไรที่สำคัญ
แม้จะยังไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ฉู่เจียงเยว่ก็รู้สึกพอใจมากขึ้นที่เจิ้งเหวินอันถูกเตะออกจากตำแหน่งพระเอก
"โฮสต์ ฉันพบร่องรอยของผู้รอดชีวิตห่างออกไปอีก 500 เมตรข้างหน้า!"
แม้ว่าครั้งนี้ฉู่เจียงเยว่จะต้องการไปที่มณฑล H แต่หากเธอพบกับผู้รอดชีวิตระหว่างทาง เธอก็จะไม่นิ่งเฉย
เว้นแต่ผู้รอดชีวิตเหล่านั้นจะนิสัยแย่ ฉู่เจียงเยว่ก็อาจจะไม่ยื่นมือช่วย
"อืม ฉันรู้แล้ว”
ฉู่เจียงเยว่นั่งตัวตรง และมองไปที่ลูกศรนำทางหน้ารถออฟโรดสีขาวเงิน
หลังจากยืนยันกับจิ้งจอกน้อยว่ารถจะผ่านจุดที่พบผู้รอดชีวิต ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้ขอให้เสิ่นจื้อกุย เปลี่ยนเส้นทาง
ระยะทาง 500 เมตรไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถออฟโรดที่ผลิตโดยโรงแรมเจียงหลิน แม้ว่าจะต้องแล่นบนหิมะก็ตาม
หลังจากขับไปที่ถึงจุดที่จิ้งจอกน้อยบอก ฉู่เจียงเยว่ก็พูดขึ้น “คุณเสิ่น หยุดรถก่อน”
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ฉู่เจียงเยว่ถึงขอให้หยุด แต่เสิ่นจื้อกุยก็ยังคงเหยียบเบรก
“ที่ตรงนี้มีอะไรงั้นเหรอ?”
ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้อธิบาย แต่เปิดประตูรถแล้วลงจากรถ เดินตามคำแนะนำของจิ้งจอกน้อยแล้วมาถึงเนินเล็กๆ แห่งหนึ่ง