EP.8 อีสต์บลูซาก้า โรแมนซ์ ดอว์น
EP.8 อีสต์บลูซาก้า โรแมนซ์ ดอว์น
การปรากฎของร้านค้าศิลปะทำให้เกิดความกลหลอย่างมากในไม่กี่นาทีหลังจากการเปิดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่สะดุดตาที่แขวนอยู่บนท้องฟ้าซึ่งมันเชิญชวนให้ไปดูว่ามันคืออะไร
คนธรรมดาๆเหล่านี้ตื่นเช้ามาเพื่อทำงานหรือช็อปปิ้งต่างๆก็ได้รับความสนใจในทันที เพราะที่ตั้งของร้านนั้นอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งความรู้และไม่ไกลจากเมืองที่ที่มีประชากรหนาแน่น
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจและรวมไปถึงทำให้เหล่านักโบราณคดีสับสนก็คือ การที่อยู่ๆก็มีอาคารขนาดมหึมาปรากฎออกมาจากอากาศบางๆได้ยังไง !?
เพราะเมื่อวานมันยังไม่มีอยู่เลยด้วยซ้ำ
ด้านนอก ผู้คนต่างรวมตัวกันหน้าร้านเพื่อพูดคุยกันอย่างสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ภายในใจของร็อบตอนนี้กลับสนใจกับงานของตัวเอง เค้านั้นกำลังวาดโฟลเดอร์แรกของมังงะวันพีชที่ชื่อว่า Romance Dawn (โรแมนซ์ ดอว์น)!
วิธีการวาดนั้นค่อนข้างเรียบง่าย แต่ผลงานในมือของร็อบ ผลงานในมือของเค้ามันดูวิเศษมากสำหรับศิลปินทุกคน เพราะเค้านั้นจินตนาการถึงเหตุการณ์ในบทต่างๆที่เค้าอ่านในอดีตขึ้นมาใหม่ในหนังสือเล่มที่เค้าสร้างขึ้นมาด้วยพลังของผลปีศาจ
ก่อนหน้านี้ร็อบซื้ออุปกรณ์วาดภาพทั้งหมดมาแล้ว ยกเว้นกระดาษ ด้วยแต้มศิลปะที่เค้าได้รับเป็นของขวัญจากระบบ
หลังจากซื้อทุกอย่าง รวมถึงเครื่องชงกาแฟและเครื่องขายอาหารที่เค้าซื้อไว้ก่อนหน้านี้เค้าก็เหลือแต้มศิลปะเพียง 4,000 แต้มเท่านั้น
ด้วยพรสวรรค์ในการวาดภาพบวกกับความทรงจำภาพถ่ายและฉายานักวาดการ์ตูนมือใหม่ถือเป็นการผสมผสานที่ดีที่สุดที่เคยมี เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้นั้น ทำให้บทแล้วบทเล่ามีความแม่นยำเหนือกว่าผลงานต้นฉบับหลายเท่า และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ร็อบใช้พลังของผลปีศาจในการเติมสีสันและเอฟเฟกต์ในการวาด การวาดมังงะด้วยมือนั้นมันทำให้มังงะดูมีชีวิตชีวาและสนุกมากขึ้น
แม้ว่าร็อบจะสามารถรวบรวมสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของเค้าและนำมันออกมาด้วยความสามารถของผลปีศาจได้ แต่เค้าก็ต้องใช้ความสามารถทางจิตที่เหนือมนุษย์ ซึ่งน่าเสียดายที่เค้าไม่มีในตอนนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตอนต่างๆในมังงะก็มีความละเอียดถี่ถ้วนมากมาย โดยมันเป็นโลกที่ถูกทำขึ้นเป็นภาพวาด ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เค้าสามารถรวบรวมได้เหมือนที่อยู่ในความทรงจำของเค้า
ร็อบชอบใช้พรสวรรค์ในการวาดภาพของเค้าเพื่อให้สิ่งต่างๆเรียบง่าย
ด้วยความสามารถที่น่าอัศจรรย์ทั้งหมดนี้ ร็อบใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการวาดมังงะเล่มแรกทั้งหมด ซึ่งมันมีทั้งหมด 7 ตอนตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 7!
นี่คือภาคแรกของมหากาพท์อีสต์บลูที่มีชื่อว่า โรแมนซ์ ดอว์น ซึ่งภาคนี้เป็นภาคสรุปเรื่องราวของตัวเอกอย่าง Monkey D. Luffy (มังกี้ ดี. ลูฟี่) ว่าได้พลังของผลปีศาจมาได้ยังไง
มังกี้ ดี. ลูฟี่
และมันยังเกี่ยวกับความปรารถนาและความฝันของเค้าที่อยากจะเป็นราชาโจรสลัดอีกด้วย!
ต่อมาเมื่อลูฟี่อายุได้ 17 ปี เค้าก็ออกเดินทางและได้เจอกับเด็กชายคนนึงที่ชื่อ Koby (โคบี้) และเค้าก็ได้ช่วยโคบี้หนีจากโจรสลัดหญิงที่ชื่อ Alvida (อัลวีด้า)
โคบี้
อัลวีด้า
ในที่สุดลูฟี่ก็พยายามโนมน้าวใจนักล่าโจรสลัด Roronoa Zoro (โรโรโนอา โซโล) ให้เข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดของเค้า ในขณะเดียวกันเค้าก็ต้องเผชิญหน้ากับทหารเรือเผด็จการอย่าง Captain Morgan (นาวาเอก มอร์แกน)
โรโรโนอา โซโล
นาวาเอก มอร์แกน
ร็อบได้สร้างมังงะวันพีชขึ้นมาใหม่ในรูปแบบที่ยอดเยี่ยมมาก โดยภาพวาดนั้นดูใหม่และไม่ดูเก่าเหมือนต้นฉบับดังเดิม และด้วยการใช้ผลปีศาจกระดาษร็อบจึงให้ชีวิตแก่มังงะในตำนานได้สำเร็จ
ร็อบตื่นเต้นมากกับการเริ่มต้นการผลิตที่ประสบความสำเร็จ และคาดการณ์ว่าคนในโลกนี้จะตอบสนองต่อมังงะเรื่องนี้กันยังไง
ตอนนี้เค้าวาดภาพเสร็จแล้ว งานที่เหลือไม่ได้ยากอีกต่อไป
คราวนี้ มันขึ้นกับความสามารถผลปีศาจของเค้าที่จะคัดลอกต้นฉบับที่วาดไว้ไปยังเล่มอื่นๆนับพันเล่ม
เนื่องจากเค้าได้วาด 7 ตอนแรกไปแล้ว เค้าจึงสามารถคัดลอกมันด้วยความสามารถของผลปีศาจได้อย่างง่ายดาย
เค้าใช้เวลาอีกชั่วโมงนึงในการคัดลอกหนังสือทั้ง 7 ตอนเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 เล่ม ร็อบนั้นไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าทางร่างกายเพราะเค้าเป็นอมตะ และเค้ายังไม่รู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจอีกด้วยเช่นกันเพราะเค้าคือคนที่แข็งแกร่ง เค้าไม่มีทางรู้สึกเหนื่อยล้าเพียงแค่ใช้พลังของผลปีศาจเพียง 2 ชั่วโมงแน่นอน เพราะการคัดลอกนั้นง่ายกว่าลงมือทำเยอะ
วิธีการคัดลอกนั้นง่ายกว่ามากเพราะค้าสามารถคัดลอกสิ่งใดๆก็ได้ ที่เค้าวาดลงบนกระดาษที่สร้างขึ้นตามความสามารถของเค้าเพียงแค่สัมผัสกับกระดาษที่เค้าสร้างขึ้นก่อนหน้านี้
ด้วยวิธีนี้ เค้าจึงสามารถผลิตหนังสือออกมาได้หลายพันเล่มและนำมันไปวางไว้บนชั้นเพื่อจำหน่อยตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ชั้นวางหนังสือที่เคยว่างเปล่า ตอนนี้เต็มไปด้วยมังงะ ภาพที่เห็นทำให้ร็อบรู้สึกถึงความสำเร็จที่โอบล้อมตัวเค้าไว้
หลังจากพิจารณาเรื่องสภาพทางการเงินโดยเฉลี่ยของชาวโอฮาร่าอย่างรอบคอบแล้ว ร็อบเลยตัดสินใจตั้งราคามังงะเอาไว้ที่ 1,000 เบรี
นอกจากนี้ราคาดังกล่าวยังเป็นราคาขั้นต่ำสุดที่ระบบอณุญาติ
สำหรับนักโบราณคดีและพลเมืองที่มีสถานะร่ำรวย ราคานี้ถือว่าเป็นราคาเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น และสำหรับคนยากจน พวกเค้าก็สามารถจ่ายได้ด้วยวิธีอื่นที่ต่างกัน
สิ่งที่ร็อบสนใจจริงๆก็คือ แต้มศิลปะ ตราบใดที่เค้าได้รับแต้มศิลปะเพิ่ม เค้าก็ไม่มีปัญหา ส่วนเบรีนั้นเป็นเพียงโบนัสของเค้าเท่านั้น
เค้าจะได้รับแต้มศิลปะจากความพึงพอใจของลูกค้า หากลุกค้าพึงพอใจกับการอ่านมังงะและต้องการอ่านเพิ่มเติม เค้าก็จะได้รับแต้มเพิ่มนอกเหนือจากประสบการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มระดับของระบบ
"บัดนี้ ถึงเวลาแห่งการตัดสินแล้ว"
ร็อบเดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับของร้าน ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของพื้นที่ภายในร้านใกล้ๆกับประตู ซึ่งเค้าสามารถต้อนรับลูกค้าและเริ่มการขายอย่างเป็นทางการได้
"เปิด!"
เมื่อเค้าพูดจบ ประตูร้านสีทองก็เปิดต้อนรับลูกค้าชุดแรก
ที่ด้านนอกฝูงชลชายหญิงนับสิบคนสังเกตเห็นว่า ประตูร้านลึกลับกำลังเปิดออกช้าๆ
ในที่สุดพวกเค้าก็จะได้สำรวจภายใจอาคารลึกลับว่าข้างในนั้นมีอะไรอยู่
หลังประตูนั้นจะมีอนาคตอะไรให้พวกเค้าได้ชื่นชมบ้าง?!
โลกได้หยุดนิ่งไป ราวกับว่ากล่องแพนโดร่าที่ในตอนนี้มันกำลังจะถูกเปิดออกในขณะนี้
ไม่มีใครรู้ว่ากฎของโลกกำลังจะสั่นสะเทือนมากขนาดไหนในขณะนี้
โดยเฉพาะกฎแห่งโชคชะตา
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________