EP.7 เปิดร้านค้าศิลปะ
EP.7 เปิดร้านค้าศิลปะ
ร็อบมีร้านค้า 2 แห่งที่เค้าสามารถเปิดได้ที่ระดับ 1 ของระบบ แต่เค้านั้นเชื่อว่าจำนวนมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อระบบมีระดับที่สูงขึ้น
โลกแห่งโจรสลัดนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากจนร็อบใฝ่ฝันที่จะครอบคลุมมันเพื่อให้สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทุกตัวในโลกได้เพลิดเพลินไปกับมังงะของร็อบผู้เป็นอมตะจะเขียนขึ้นมานับจากนี้ไป
ในอนาคต ร็อบจะมีงานหลัก 2 อย่างให้ทำ อย่างแรกคือวาดมังงะ และงานที่ 2 คือดูแลครอบครัว
แค่คิดว่าชีวิตของเค้าจะเป็นยังไงหลังจากนี้ ก็ทำเค้ามีความสุขมากแล้ว
โดยเฉพาะหลังจากที่คิดว่าเค้าจะมีลูกสาวที่น่ารักอย่างโรบินน้อย แค่คิดแบบนั้นก็ทำให้หัวใจของเค้าเต้นรัวด้วยความสุขแล้ว โรบินจะกลายเป็นจุดอ่อนของเค้าในอนาคตอยางแน่นอน
ผ่านทางร้านค้าในระบบ เค้าสามารถเปลี่ยนโลกแห่งดจรสลัดให้เป็นโลกสมัยใหม่พร้อมด้วยข้อมูลจำเพาะของโลกได้ถ้าเค้าต้องการ!
ร็อบกลับมาโลกความจริงและตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองในสวนข้างต้นไม้แห่งความรู้
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรูแล้ว ขณะที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ทำให้ที่ตรงที่เค้าอยู่ว่างเปล่า และมีเค้าคนเดียวในสวน
ในขณะที่ร็อบตัดสินใจเปิดร้านค้างานศิลปะ ก็ปรากฎปรากฎการณ์แปลกประหลาดขึ้นมา พื้นที่ในสวนเริ่มบิดเบี้ยว หดและขยายตัวและอาคารขนาดใหญ่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาจากไหนไม่รู้
รูปลักษณ์ของอาคารเริ่มสมบูรณ์ทีละนิดจนกระทั่งความบิดเบี้ยวในอากาศหายไป
อาคารที่อยู่ตรงหน้าร็อบนั้นดูทันสมัยมาก มันเกินกว่าที่อยู่ในโลกยุคใหม่ซะอีก มันเหมือนเป็นอาคารจากอารยธรรมที่ก้าวหน้าที่สุดยิ่งกว่าอารยธรรมใดๆในโลกเสียอีก!
มันเหมือนอาคารโรงภาพยนต์แต่มีความน่าสนใจมากกว่า
ด้านบนของร้านมีป้ายเรืองแสง 3 มิติปรากฎเหนืออาคารโดยมีข้อความเขียนเป็นตัวหนาๆอยู่
{ร้านค้าศิลปะ!}
{...}
ด้านล่างนั้นมีป้ายสีขาวกว้างๆอยู่ ซึ่งเห็นชัดว่าต้องให้ร็อบเติมลงไปเอง
[ติ๊ง! เจ้าของร้านสามารถคิดภาพเดี่ยว เพื่อโฆาณาร้านได้ และต้องมีประโยคที่น่าสนใจด้วย]
ไม่นาน ร็อบก็นึกถึงภาพของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่รวมตัวกันที่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางในอีสต์บลู พร้อมกับชื่อที่รู้จักกันดีอย่าง "วันพีช" และภาพเดียวกันนั้นก็ประทับลงในใจเค้าอย่างน่าอัศจรรย์ผ่านสัญญาณโฆษณาขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า
นอกจากนี้ยังมีการใช้คำเชิญชวนทางการตลาดที่ข้างใต้ชื่อของร้านด้วย
{ร้านค้าศิลปะ!}
{ที่ๆคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับอนาคตของโลกได้!}
นี่มันอัศจรรย์มากจริงๆ
ร็อบมันใจว่าต้องมีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้ในโอฮาร่า แม้แต่เรือที่อยู่ห่างออกไปก็สามารถมองเห็นป้ายร้านค้าศิลปะที่เหมือนประภาคารที่เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยแบบนี้ได้
ร็อบถึงกับตะลึงและพูดไม่ออกกับการออบแบบภายในร้านที่ดูซับซ้อน น่าทึ่ง และไม่น่าเป็นไปได้ในเวลาเดียวกัน
แบนเนอร์โฆษณาแขวนอยู่กลางอากาศ ท้าทายแรงโน้มถ่วงราวกับว่าไม่มีแรงโน้มถ่วงดึงมันเอาไว้ แม้แต่ร็อบก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นไปได้ยังไง
บนพื้นของร้านก็มีโฆษณาเหมือนกัน แต่ประตูของร้านนั้นโดนล็อกเอาไว้ รอให้เจ้าของร้านมาเปิด
[ขอแสดงความยินดีกับการเปิดร้านค้าศิลปะแห่งแรก!]
[ร้านค้าศิลปะ : 1/2]
[เส้นทางสู่การพิชิตโลกด้วยศิลปะเริ่มต้นที่นี่!]
[คุณได้รับฉายาใหม่ : ผู้ขายงานศิลปะ!]
[ผู้ขายงานศิลปะ : จากนี้ไปคำพูดของคุณจะมีอำนาจในการโน้มน้าวใจของลูกค้าในระดับนึง!]
[ลักษณะของร้านค้าระดับ 1 :
-ไม่สามารถทำลายได้
-เจ้าของร้าน ถ้าอยู่ภายในร้านจะไม่มีใครเอาชนะได้
-ลูกค้าที่อยู่ภายในร้านจะได้รับอันตรายได้จากเฉพาะเจ้าของร้านเท่านั้น
-การเทเลพอร์ตระหว่างร้านกับร้านค้าที่อื่น
-สินค้าที่ขายจากร้านค้าที่ขายได้ไม่สามารถถูกทำลายได้
-ร้านสามารถขายสินค้าได้เองแม้เจ้าของร้านไม่อยู่]
[ร้านค้าสามารถพัฒนาและได้รับฟีเจอร์ใหม่ได้เมื่อระดับของระบบสูงขึ้น]
ร็อบรู้สึกตะลึงอย่างยิ่งกับคุณลักษณะของร้านค้าที่มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย!
สินค้าที่ขายได้ไม่สามารถถูกทำลายได้ นั่นหมายความว่าใครก็ตามที่ต้องการทำลายมังงะของเค้าอย่างรัฐบาลโลกก็ต้องพบกับความล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้ลองด้วยซ้ำ
ร็อบเดินเข้าไปในร้านขายศิลปะ และก็ต้องรู้สึกหระหลาดใจกับพื้นที่ภายในร้านที่เป็นสีขาวทั้งหมดและพื้นที่ภายในมันก็กว้างขวางราวกับว่าจะมีขนาดเท่าสนามฟุตบอล!
[เจา้ของร้านสามารถประบเปลี่ยนทุกอย่างภายในร้านได้ตามต้องการ]
แผนที่ขนาดเล็กของร้านปรากฎบนหน้าต่างของระบบ ซึ่งเค้าสามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างภายในอาคารได้ด้วยความคิดของเค้า
ร็อบไม่ลังเลและทำการแบ่งอาคารขนาดใหญ่เป็น 3 ส่วน :
ส่วนแรกเป็นชั้นวางหนังสือแบบในซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยจัดวางมังงะเอาไว้หลายแสนเล่มเพื่อขาย
ส่วนที่ 2 เป็นเหมือนร้านอินเตอร์เน็ตคาร์เฟ่ โดยผู้ที่ต้องการพักภายในร้านสามารถเลือกพักในห้องแบบเก็บเสียงได้เพื่อที่พวกเค้าจะได้อ่านมังงะได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่มีเสียงรบกวน หรือจะนั่งอ่านในห้องพักสุดจะทันสมัยก็ได้
และส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเค้าที่ใช้สร้างโฟล์เดอร์มังงะและใช้สำหรับความสะดวกส่วนตัวและสำหรับเทเลพอร์ตระหว่างร้านต่างๆ โดยส่วนนี้ไม่ได้รับอณุญาติให้ลูกค้าเข้า
ร็อบไม่ลืมที่จะเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัย เช่น ห้องน้ำที่ทันสมัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี เครื่องชงกาแฟและเครื่องขายอาหารที่เค้าซื้อจากร้านค้าในระบบ และเค้าวางสิ่งเหล่านี้ไว้ในอาคารด้านในของทั้ง 3 ส่วน ท้ายที่สุดเจ้าตัวน้อยพวกนี้จะคืนคะแนนศิลปะที่เค้าใช้ซื้อพวกมันมาในเวลาอันสั้น เมื่อความหลงใหลเริ่มแพร่กระจายไปสู่ผู้คนในโลกนี้
ร้านขายศิลปะของร็อบอาจกลายเป็น จุดพักผ่อนที่ปลอดภัยสำหรับโจรสลัดในโลกนี้ แต่ร็อบจะไม่ปฎิบัติต่อพวกเค้าอย่างรุนแรงตราบใดที่พวกเค้าไม่สร้างปัญหาให้เค้าและให้คะแนนศิลปะกับเค้า!
ร็อบจิตนาการถึงภาพของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางในความทรงจำ ในตอนแรกของมังงะวันพีช โดยภาพเหล่านั้นที่เป็นการรวมตัวกันของ ลูฟี่ โซโล นามิ ซันจิ และ อุซป ที่กำลังยืนอยู่บนเรือโกอิ้งแมรี่ และประดับผนังร้านด้วยภาพถ่ายของกลุ่มและภาพถ่ายแบบเดี่ยวในช่วงต้นของการเดินทาง เช่น ภาพโฆษณาบนอินเตอร์เฟตด้านนอกของร้าน
ภาพบนฝ่าผนังจะเปลี่ยนไปตามเส้นเรื่องใหม่แต่ละครั้ง
ภายในร้านตอนนี้ไม่ได้มีแต่สีขาวอีกต่อไป ตอนนี้มันดูเหมือนร้านการ์ตูนระดับ 5 ดาวจริงๆเลย!
หลังจากนั้นเค้าก็ไม่ลืมที่จะวางรากฐานกฎของร้านไว้ที่หน้าประตูทางเข้าร้าน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย และเค้าก็ไม่ลืมที่จะใส่ชื่อของเค้าที่เป็นเจ้าของร้านไว้ด้วยเพื่อไม่ให้ใครสับสนว่าที่นี่ไม่มีเจ้าของ
ชื่อเต็มของเค้าก็คือ Rudes D. Rob (รูเดียส ดี. ร็อบ) ใช้แล้ว ร็อบ คนก่อนเค้าเองก็เป็น ดี. เช่นกัน!
ในส่วนกฎของร้านนั้นมันก็เปรียบเสมือนพระประสงค์ของสวรรค์ที่ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษโดยร้านเอง ไม่ว่าจะเป็นการขับไล่ออกจากร้าน การแบน ลงโทษชั่วคราว หรือการเพิ่มราคาเป็น 2 เท่า มันก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ความรุนแรงของคนที่ละเมิดกฎ
แน่นอนว่าต้องมีตำเตือนก่อนจะมีการลงโทษที่รุนแรงเช่น : ทำอีกครั้งโดนแบน
มันยังมีกฎอีกหลายข้อ แต่ที่เด่นที่สุดก็คือ ห้ามก่อเหตุวุ่นวาย เนื่องจากร้านนั้นไม่สามารถถูกทำลายได้ กฎพวกนี้เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ร้านดูเป็นทางการมากขึ้น
ในเรื่องการเวลาทำการ ร็อบตัดสินใจเปิดร้านตอนกลางวัน วันละ 10 ชั่วโมง
[ติ๊ง! คุณต้องการนำดีไซย์ของร้านไปใช้กับร้านอื่นๆของคุณไหม ?]
[ใช่ หรือ ไม่]
"ใช่!"
ร็อบตอบโดยไม่มีการลังเลใดๆเลยว่าร้านทุกแห่งที่เค้าเปิดหลังจากนี้จะเป็นแบบนี้ในพื้นฐานการออกแบบ และเค้าสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ภายหลังหากเค้าไม่ชอบ
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________