EP.5 ถึงโอฮาร่า
EP.5 ถึงโอฮาร่า
ร็อบวางโอลิเวียลงบนเตียงก่อนจะลูบผมสีขาวนุ่มๆของเธออยู่พักนึง แม้ผมของเธอจะสั้นไปนิดหน่อย แต่มันก็สวยงามอย่างมาก
ราวกับว่าเธอสัมผัสความอบอุ่นของเค้าได้ โอลิเวียได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และจมดิ่งสู่การนอนหลับอันอบอุ่นต่อไป
ร็อบออกจากห้องและกลับไปที่ท้ายเรือและฝึกความสามารถของผลปีศาจต่อ
ในขณะที่เค้าเปลี่ยนส่วนต่างๆของร่างกายเป็นกระดาษโดยนึกถึงตัวละคครหญิงจากอนิเมะเรื่อง นารูโตะ เธอนั้นมีความสามารถเดียวกับที่เค้ามีในปัจจุบัน ใช่แล้ว Konan (โคนัน) สามารถใช้กระดาษได้กีมาก แม้แต่ในตอนต่อสู้
ผ่านทางความทรงจำภาพถ่ายของเค้า เค้าค้นพบทุกอย่างเกี่ยวกับโคนันจากนั้งอนิเมะและมังงะ และพบว่าเค้าสามารถบินได้ด้วยพลังของผลปีศาจ ซึ่งมันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ค่อนข้างเจ๋ง
ด้วยความคิดเดียว กระดาษสีดำจำนวนมากก็รวมตัวที่หลังด้านขวาของเค้า และก่อตัวเป็นปีกสีดำขนาดใหญ่ และไม่ใช่แค่ปีกสีดำ ที่ทางด้านซ้ายของเค้า มีกระดาษสีขาวก่อตัวเป็นปีกสีขาว แต่ขนาดและความแม่นยำนั้นไม่ต่างจากปีกสีดำเลย ทุกอย่างนั้นต่างเพียงแค่สีเท่านั้น
ตอนนี้ ร็อบดูเหมือนเป็นทั้งครึ่งเทวดา และครึ่งเทวดาตกสวรรค์
ร่างกายของเค้าครึ่งตัวเป็นเหมือนกระดาษ มันราวกับเค้าสามารถลอยตัวขึ้นจากเรือได้จริงๆ โดยอาศัยแรงของลม
เค้าเริ่มกระพือปีกกระดาษและลอยตัวขึ้นจากดาดฟ้าเพียงเล็กน้อยก่อนจะตกลงมา
ในตอนนี้การบินเป็นเรื่องยากมากและต้องอาศัยการฝึกฝนและทักษะเป็นอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญที่ร็อบสรุปได้ก็คือมันเป็นไปได้!
เพียงแค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว
ยิ่งเค้าฝึกฝนมากเท่าไหร่ เค้าก็ยิ่งค้นพบมากขึ้นเท่านั้นว่าความสามารถนี้มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ร่างกายอมตะของเค้าช่วยให้เค้าพัฒนาความสามารถและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็วมาก
ภายใน 1 วันเค้าสามารถเพิ่มระดับความเชี่ยวชาญความสามารถได้อย่างน้อย 2 ระดับ เค้าแน่ใจว่าเค้าจะสามารถบินได้อย่างอิสระภายใน 2 วัน หากเค้ายังคงฝึกฝนด้วยพลังเท่าเดิม
ร็อบนั้นไม่ได้นอนทั้งคืนแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเค้าต้องการมัน ดังนั้นแม้แสงแดดในตอนเช้าจึงสาดส่องลงบนใบหน้าของเค้า แต่เค้ายังคงสร้างสรรค์กระดาษของเค้าต่อไป
เมื่อเค้าสังเกตเห็นว่าตอนนี้เป็นเวเลาเช้าแล้ว เค้าก็หยุดฝึกและพักซักหน่อย เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเค้าก็จะถึงโอฮาร่าในตอนท้ายของวันนี้ และเค้าจะเริ่มการปฎิวัติวงการโลกแห่งโจรสลัดทันทีที่ไปถึงเกาะ
ร็อบนั่งลงบนที่นั่งประจำของเค้าที่ท้ายเรือและชักดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวของเค้าออกจากฝักสีแดงออกมา
เค้าปล่อยฝักดาบให้อยู่ที่ข้างเอวต่อไปแล้วมองไปที่ใบดาบที่เป็นสีดำเงาและมีลวดลายสีขาวที่ใบดาบ ดาบนี้มีความคล้ายกับดาบของโซโลอย่างชูซุย แต่ยาวกว่าและดูแข็งแกร่งกว่า
ออร่าที่ล้อมรอบดาบนั้นแหลมคมราวกับว่ามันสามารถตัดสิ่งใดๆ ก็ได้เพียงแค่เพียงเข้าใกล้มัน
"ฮาคิเกราะ!"
โดยอาศัยความทรงจำทางจิตและแม้กระทั่งในกล้ามเนื้อของเค้า ร็อบพยายามใช้ฮาคิเกราะของเค้าหุ้มตัวดาบเอาไว้
ตามที่คาดเอาไว้ มือของเค้ากลายเป็นสีดำเหมือนน้ำหมึกพร้อมมีออร่าสีม่วงอ่อนๆ และมันเริ่มปกคลุมใบดาบทีละนิด ดาบไม่สามารถต้านทานฮาคิของเค้าได้ก่อนที่ฮาคิของเค้าจะปกคลุมไปทั่วทั้งใบดาบโดยสมบูรณ์
พลังที่เฉียบคมและทรงพลังที่รวมอยู่ในดาบ และด้วยทักษะที่ฝังอยู่ในกระดูกของเค้า เค้าจึงทำการกำหนดทิศทางการโจมตีไปที่ทะเล
บูม!!!
มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ใบมีดพลังงานที่ถูกฟันใส่อากาศพุ่งออกไป ทะเลถูกตัดเป็นระยะทาง 50 เมตรก่อนที่คลื่นดาบจะกระจายหายไป
การแสดงนี้มันทรงพลังมากจนทำให้ทุกคนบนเรือที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมา
น้ำกระเด็นสูงถึง 10 เมตร ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำเล็กๆขึ้นมา
การทดลงเล็กนี้ทำให้เรือสั้นสะเทือนไปตามแรงของคลื่น
"ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!"
"จ้าวทะเลเหรอ ?!"
"จ้าวทะเลพยายามจมเรือเราเหรอ ?!"
"อย่ากังวลเลย เรามีคุณร็อบอยู่กับพวกเรา แม้จะเป็นจ้าวทะเลเค้าก็หันมันเป็นชิ้นๆได้"
...
"..."
"..."
"อะไร ?! มีอะไรติดหน้าชั้นหรือไงพวกนาย!"
ร็อบรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางตกใจของกลุ่มนักโบราณคดีในตอนนี้
"เอ่อ คุณร็อบ ถ้าอย่างนั้นเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก้เป็นเพราะการฝึกของคุณสินะ ไม่ต้องขอโทษกับเรื่องเล็กน้อยนี่หรอกนะ"
ชายคนนึงที่ดูเหมือนมีสถานะสูงส่งทามกลางเหล่านักวิชาการ ไก้ก้าวออกมาและตบไหล่ร็อบเบากขณะพูด
"ผมซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณมาก"
ร็อบไม่ใช่คนที่จะปฎิเสธความมีน้ำใจของคนอื่น เค้าจึงตอบกลับไปอย่างสุภาพ
"แปลกจริงๆนะ คุณร็อบ ตอนนี้เราอยู่กางทะเลมา 1 เดือนจาก New World (นิวเวิร์ล) มาที่เวสต์บลู แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คุณพูดคุยกับเราได้คล่องขนาดนี้ โดยไม่มีท่าทีเขิญอายหรือหลบเลี่ยง"
กลุ่มนักโบราณคดีที่ประกอบด้วยผู้หญิง 5 คนและผู้ชาย 5 คน ทุกคนนั้นเป็นหุ่นส่วนกันโดยมีภรรยาของเค้าเป็นผู้นำ แต่เธอนั้นถือพรหมจรรย์ก่อนที่จะพบกับเค้าตอนที่ทีมของเธอขึ้นเรือของโรเจอร์เมื่อปีก่อน
พวกเค้าได้ใกล้ชิตกันบนเรือของโรเจอร์ และยังได้ฉลองงานแต่งงานของพวกเค้าอย่างเรียบง่ายบนเรือของโรเจอร์ด้วย ความทรงจำเหล่านั้นเป็น 1 ในความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของร็อบคนก่อน
แต่ร็อบคนก่อนมีปัญหาอยู่คือเค้าไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ทีเท่าไหร่ เพราะเค้าไม่มีความผูกพันทางอารมรณ์ที่ลึกซึ้งด้วย
เหล่านักโบราณคดีในทีมของภรรยาเค้าเป็นประเภทที่เค้าไม่สามารถสื่อสารได้ดีนัก ทุกครั้งที่เค้าพยายามจะพูดกับพวกเค้า เค้าจะเจอสถานการณ์ที่น่าอึดอัดจนลืมสิ่งที่เค้าจะพูด นี่เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ที่หายากที่ภรรยาของร็อบต้องเผชิญ
สำหรับเหล่าลูกเรือของโรเจอร์อย่างโรเจอร์และเรย์ลี่ และพวก แชงค์ บากี้ตัวแสบ คนแข็งแกร่งอย่างบุลเล็ต กาบัน และหมอประจำเรืออย่าง คร็อกคัส ร็อบไม่ได้มีปัญหาอะไรในการสื่อสารกับพวกเค้าตามปกติ เพราะพวกเค้าคือเพื่อนที่ร่วมเรือที่ต่อสู้เคียงข้างและใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปี
และโอลิเวียนั้นเป็นกรณีพิเศษเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ปลุกเร้าความรู้สึกอย่างความรักในหัวใจของเค้าจนเค้าสามารถเอาชนะความสับสนทางอารมณ์ของตัวเองได้และสามารถสื่อสารกับเธอได้อย่างราบรื่นด้วยความช่วยเหลือของพลังของความรัก
แต่นี่ไม่ได้รวมถึงนักโบราณคดีคนอื่นๆที่ก็อยู่บนเรือของโรเจอร์เช่นกัน
หลังจากคิดอย่างลึกซึ้งแล้ว เข้าใจว่าทำไมผู้ชายและผู้หญิงเหล่านี้ถึงประหลาดใจ เพราะพวกเค้าคุ้ยเคยกับร็อบที่ขี้อายมาเป็นเวลานาน
ในสายตาของพวกเค้า ร็อบในตอนนี้ที่พูดคุยกับพวกเค้าได้อย่างง่ายดายไม่ใช่ร็อบที่พวกเค้าคุ้นเคยอีกต่อไป
"อย่ากังวลไปเลยทุกคน ชั้นคิดว่าชั้นน่าจะชินกับการมีพวกนายอยู่ด้วยแล้ว เพราะงั้นอย่าคิดมากเกินไปเลย"
ชายที่ตบไหลเค้าและเหล่านักโบราณคดีคนอื่นๆต่างพูดกันไม่ออก
"ถ้าคุณร็อบชินกับการอยู่กับพวกเราจริงๆ นั่นก็ถือเป็นเรื่องน่าฉลองไม่ใช่หรือไงพวกเรา!"
ภรรยาของชายคนนั้นเดินออกมาก่อนจะขจัดบรรยากาศน่าอึดอัดออกไปด้วยคำพูดที่น่าเชื่อถือของเธอ
"ใช่แล้สที่รัก นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่าฉลองจริงๆ"
...
โอลิเวียก็ตื่นจากความกลหลที่เกิดขึ้นเช่นกัน แม้เธอจะมาถึงช้ากว่าคนอื่นๆ แต่เมื่อเธอก็ขึ้นไปบนดาดฟ้าเธอก็ต้องประหลาดใจที่สามีของเธอพูดกับเพื่อนร่วมงานของเธอได้อย่างคล่องแคล่ว
นอกจากนี้ เธอยังรู้เรื่องปัญหาทางจิตใจของสามีเธอจากโศกอนาถตกรรมที่เค้าเจอในอดีต และเธอก็รู้เรื่องปัญหาในการสื่อสารกับคนอื่นของเค้าด้วย
และภาพตอนนี้มันก็ทำให้เธอมีความสุขมาก
เวลาในการฝึกบินของเค้าน้อยลงเรื่อยๆ และคราวนี้ ร็อบไม่ได้ฝึกจนชำนาญในการใช้กระดาษอีกต่อไปเพราะเค้าได้เรียนรู้ทุกอย่างที่จำเป็นแล้ว เค้าเลยใช้เวลาที่เหลืออยู่กับโอลิเวีย
ร็อบไม่สามารถซ่อนความเปลี่ยนแปลงด้านบุคลิกภาพของเค้ากับใครๆได้ ท้ายที่สุดแล้ว เค้าไม่ใช่ร็อบที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ เค้าคือร็อบที่เข้าใจความหมายของการมีชีวิตอย่างลึกซึ้งจริงๆ
เนื่องจากเค้าไม่สามารถซ่อนบุคลิกอันสดใส่ที่เค้าที่ถุกเก็บกดเอาไว้ในโลกก่อนของเค้าได้ เค้าเลยปลดปล่อยมันออกมาและทิ้งให้ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
โอลิเวียมีความสุขมากที่สามีของเธอเป็นคนที่กล้าหาญและโรแมนติกกว่าเมื่อก่อนมาก และเธอไม่สนใจอย่างอื่นเลย เพราะยังไงเค้าก็เป็นสามีของเธอ และตอนนี้เค้าก็พยายามทำให้เธอพอใจอยู่แล้ว ทำให้ทำไมเธอต้งไปสนใจเรื่องอื่นด้วยล่ะ ?!
ช่วงท้ายของวัน ได้ปรากฎเกาะที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มันนั้นสูงจนกิ่งก้านของมันนั้นสามารถแตะเมฆได้ในสายตาของคนที่อยู่บนเรือ
นั่นคือต้นไม้แห่งความรู้และมันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะโอฮาร่า!
ในที่สุดเราก็ถึงบ้านแล้ว
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________