EP.20 เกาะแฟร์แวนซ์!
EP.20 เกาะแฟร์แวนซ์!
"ค่าเข้าเมืองสัปดาห์ละ 100 เบรีครับท่าน ไปจ่ายที่นั่นก็ได้นะครับ"
ตอนนี้ร็อบถูกหยุดไว้โดยยามที่ยืนเฝ้าทางเข้าเมือง เค้าเดินไปตามที่ยามบอก และจ่ายเงิน 100 เบรี ก่อนที่เค้าจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีขอใบอณุญาตถิ่นที่อยู่ถาวรที่นี่จากสำนักงานบัญชี
นักบัญชีบอกเค้าว่าวิธีทางตรงที่เค้าจะได้เป็นพลเมืองอย่างเป็นทางการก็คือ จ่ายเงิน 10 ล้านเบรีให้กับทางราชวงค์ และวิธีทางอ้อมก็คือ ถ้าหากว่าเค้าเป็นพ่อค้าเค้าจะต้องรับใช้ราชวงค์เป็นเวลา 5 ปี
"หวังว่าคุณจะจะสนุกกับการพักผ่อนที่นี่นะครับท่าน"
ร็อบส่ายหัวขณะคิดเกี่ยวกับความโลภของคนพวกนี้ ก่อนจะก้าวเข้าไปในเมืองสีขาวหรือที่รู้จักกันในชื่อ Flevance (แฟร์แวนซ์) ประเทศที่เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆที่ราวราวกับหิมะราวกับเมืองที่อยู่ในเทพนิยาย
ร็อบเดินเล่นภายในเมืองเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนจะตัดสินใจที่จะดำเนินการเป้าหมายของตัวเองต่อ
ถ้าหากว่าเค้าไม่ได้รู้ความจริงของสถานที่นี้ เค้าก็คงจะตกหลุมรักที่นี่ไปแล้วเหมือนกับนักท่องเที่ยวหน้าใหม่อื่นๆ
ภายนอกสถานที่นี้มันเหมือนกับเป็นสวงสวรรค์สีขาว เพราะเมืองนี้ถูกปูด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมดทำให้มันนั้นคือสวงสวรรค์จริงๆ
ประชาชนในเมืองต่างสวมเสื้อผ้าแบบผู้ดีและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขไร้ความกังวลบนใบหน้า
ที่นี่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความร่ำรวย และไม่มีคนจนที่นี่ และสาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะที่นี่มีสิ่งนึงที่มีค่ามากๆอยู่มากมาย
ซึ่งมันก็คือ ตะกั่วอำพัน
ร็อบสายหัวให้กับชะตากรรมอันน่าเศร้าที่จะเกิดขึ้นกับเมืองแห่งนี้
ใช่แล้ว ที่นี่คือบ้านเกิดของ Trafalgar Law (ทราฟัลการ์ ลอว์)! ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอนาคต
ทราฟัลการ์ ลอว์
ตอนนี้ร็อบกำลังนั่งกินอาหารอยู่ในร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมือง เนื่องจากเค้ามาที่นี่แล้วจึงไม่แปลกที่จะลองกินอาหารของที่นี่ แม้มันจะปนเปื้อนไปด้วยสารพิศจากตะกั่วอำพันก็ตามเค้าก็ไม่ได้สนใจ
หลังจากทานอาหาร ร็อบก็ได้ไปที่สถานที่ของรัฐภายในเมืองและยื่นคำร้องขอพบกับทางราชวงค์เนื่องจากเค้านั้นต้องการเปิดร้านค้าศิลปะทีนี่ และเค้ายินดีที่จะทำทุกวิถีทางด้วย เค้าจะยอมจ่าย 10 ล้านเบรีเพื่อขอเอกสารที่ดินและซื้อทรัพท์สินที่นี่ เพราะท้ายที่สุดเค้ามันก็คนรวยคนนึงเหมือนกัน
ไม่ว่าคนรวยจะไปที่ไหนพวกเค้าก็จะได้รับการปฎิบัติอย่างดี ทันทีที่พวกราชการได้ยินว่าร็อบนั้นอยากจะซื้อเอกสารที่อยู่จากทางราชวงค์ ท่าทีเย่อหยิ่งในตอนแรกของเค้าก็เปลี่ยนไปในทันที กลายเป็นท่าทีที่ถ่อมตนมากๆราวกับพ่อตาแก่ๆที่ได้เจอหลานชายตัวน้อยยังไงยังงั้น
ทางราชวงค์ได้รับการแจ้งอย่างรวดเร็วและมีการนัดหมายให้เค้าพบในวันรุ่งขึ้น
ร็อบใช้เวลาอีกวันที่ต้องห่างจากภรรยาและใช้เวลาคนเดียวในโรงแรมที่ดีที่สุดในอาณาจักร
...
เช้าวันต่อมา ร็อบได้เข้าเฝ้ากับทางราชวงค์ก่อนจะจ่ายเงินให้ 10 ล้านเบรีก่อนที่จะทำการเซ็นเอกสารรับรองถิ่นที่อยู่ ทำให้เค้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดกาลหากต้องการ
หลังจากซื้อที่ดินในแฟร์แวนซ์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเค้าเลย
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมสำหรับการสร้างร้านค้าศิลปะแห่งที่ 3 ของเค้าแล้ว
ที่เค้าเลือกประเทศนี้เพราะมันเป็นสถานที่ใดในนอร์ทบลูที่เหมาะแก่การตั้งร้านของเค้าอีกแล้วนอกจากอาณาจักรนี้
แม้ว่าเค้าจะยังไม่อยากเข้าแกรนด์ไลน์ในตอนนี้ แต่เค้าก็อยากจะแพร่กระจายมังงะของเค้าไปให้ทั่วทะเลทั้ง 4
เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์ทบลู มีผู้คนจาดทั่วทั้งสารทิศอาศัยอยู่บนเกาะนี้ ทำให้ที่นี่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน โดยไม่รวมเมืองและหมุ่บ้านโดยรอบ และยังไม่รวมเหล่านักท่องเที่ยวที่มาที่นี่เป็นจำนวนมากในทุกๆปี
และเนื่องจากคนที่นี่เป็นคนรวย เพราะงั้นพวกเค้าจึงมีแนวโน้มที่จะสนใจสิ่งใหม่ๆน่าสนใจ เช่นผลงานศิลปะของเค้า
โดยฟิวเจอร์ใหม่ที่ร้านของเค้าได้มาจากการอัปเกรดของระบบก่อนหน้านี้มันก็ช่วยให้ร็อบมีความกล้าที่หายไปก่อนหน้ากลับคืนมา
[สนามป้องกัน : จากนี้ไปดินแดนที่ร้านค้าศิลปะตั้งอยู่จะได้รับการป้องกันด้วยสนามพลังที่ทำลายไม่ได้]
ด้วยคุณสมบัตินี้ร็อบจึงไม่กลับว่ารัฐบาลโลกจะเอาบัสเตอร์คอลมาข่มขู่เค้าอีกแล้ว
พวกเค้าสามาถลองที่จะทำลายสิ่งที่ระบบบอกว่าทำลายไม่ได้ และเค้าจะไม่ต่อต้านเลย
นี่เป็นคุณสมบัติที่เค้ารอคอยมานาน
"ตอนนี้ ได้เวลาแห่งเวทย์มนต์แล้ว"
ในตอนนี้ทุกคนบนถนนต่างไม่มีใครสนใจร็อบ ทุกคนต่างสนใจอยู่กับงานของตัวเอง แต่เมื่ออากาศว่างเปล่าเริ่มบิดเบี้ยวและอาคารร้านค้าศิลปะก็ปรากฎออกมาจากอากาศบางๆ ผู้คนที่กำลังเร่งรีบต่างก็พากันหยุดชะงักไปด้วยความประหลาดใจขณะที่พวกเค้าเฝ้าดูอาคารแปลกๆแต่ก็ทันสมัยปรากฎขึ่นมาจากความว่างเปล่า
ความมึนงขั้นสุดคือคำเดียวที่จะสามารถนำมาใช้บรรยายสถานะปัจจุบันของพวกเค้าได้
แม้แต่คนที่อยู่บ้านหรือภายในร้านค้าต่างก็พากันออกมาดูปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ่น
ผู้คนเริ่มมารวมตัวกันรอบๆร้านค้าศิลปะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเค้านั้นไม่ได้มีเพียงชาวเมืองของแฟร์แวนซ์เท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจากที่มาจากทะเลอื่นด้วย เพราะชื่อเสียงของอาณาจักรแฟร์แวนซ์นั้นมันดึงดูดคนจากทั่วทุกมุมโลก
"สวัสดีชาวแฟร์แวนซ์ที่รักทุกคน ชั้นมีชื่อร็อบ ชั้นคือผู้อยู่อาศัยใหม่ของอาณาจักรที่แสนรุ่งเรืองของพวกคุณ และเป็นเจ้าของร้านค้าศิลปะแห่งนี้ พวกคุณจะนับว่าชั้นเป็นนักลงทุนคนนึงก็ได้ เพราะสิ่งที่ชั้นขายก็คือศิลปะ.....!"
ร็อบเริ่มต้อนพูดตามปกติของเค้า และไม่แปลกเลยที่เค้าสามารถนำเสนอตัวเองและโคตรงการของเค้ากับเหล่าแกะป่วยเหล่านี้ได้เห็น
ดวงตาของเหล่าคนที่ได้ฟังคำพูดของร็อบต่างเป็นประกาย ยิ่งพวกเค้าฟังมากเท่าไหร่พวกเค้าก็ยิ่งอยากเข้าไปในร้านค้าศิลปะมากเท่านั้น ด้วยรูปลักษณ์อันน่าอัศจรรย์ของมันก็ทำให้พวกเค้าเชื่อคำพูดของร็อบทุกคำ
เมื่อตอนนี้ร็อบได้เลือกที่นี่เป็นสถานที่ตั้งร้านค้าศิลปะของเค้า พวกเค้าก็ไม่ต้องประสบชะตากรรมอันน่าสังเวสอีกต่อไป อาจกล่าวได้เช่นเดียวกับชาวโอฮาร่า ที่ยังไม่ได้ตระหนักว่าได้มีสิ่งมีชีวิตประเภทใดได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเค้าจากชะตากรรมที่เลวร้ายแล้วในตอนนี้
ท่ามกลางผู้คนที่เดินเข้าร้านอย่างมีความสุขร็อบไม่ได้ทันสังเกตเลยว่ามีร่างของสามีภรรยาคู่นึงที่แต่งกายด้วยชุดของหมอและพยาบาลอยู่ด้วย
โปรดติดตามตอนต่อไป.
_______________