ตอนที่แล้วบทที่ 8 นี่แหละ! ศิษย์ของผู้อาวุโสปรมาจารย์สวรรค์ตัวจริง! 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 บิดหัวมันออกมา แล้วผ่าสมองมันดูว่าข้างในมันมีอะไร!

บทที่ 9 นักพรตเต๋าเคราขาว , นักต้มตุ๋นต่างถิ่น , หลวงจีนอ้วน


บทที่ 9 นักพรตเต๋าเคราขาว , นักต้มตุ๋นต่างถิ่น , หลวงจีนอ้วน

ฟ่านหวู่พูดขอเงินทันที ทำเอาเจ้าเมืองเฮ่อไฉ่เซิงถึงกับพูดไม่ออก

โชคดีที่เขาเป็นเจ้าเมืองมานาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก

ไม่นานเขาก็ตั้งสติได้

เขามองฟ่านหวู่ที่รูปร่างสูงใหญ่กำยำ สีหน้าแปลกไปเล็กน้อย

เพราะว่า...

เขารู้สึกว่าท่าทางขอเงินของฟ่านหวู่...

มันคุ้นตามาก!

เฮ้ย!

นี่มันไม่ใช่ท่าทางในยามที่เขาขอเงินคนอื่นหรอกเหรอ?

แต่เขาก็ไม่ได้พูดตรงๆ แบบฟ่านหวู่ เขายังพูดอ้อมๆ อยู่บ้าง เพราะบางอย่าง มันพูดตรงๆ ไม่ได้

บัดซบ!

ศิษย์ของผู้อาวุโสปรมาจารย์สวรรค์ผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะได้รับวิชาจากอาจารย์มา แต่ท่าทาง... มันไม่เหมือนนักพรตเต๋าที่ไม่ยึดติดกับกิเลสเลย!

เฮ่อไฉ่เซิงรู้สึกหนักใจ

เพราะเช้าตรู่วันนี้ เขาเพิ่งสัญญาไปว่า ใครปราบผีร้ายในจวนเจ้าเมืองได้ จะได้รับเงินห้าร้อยตำลึงกับที่ดินชั้นดีอีกยี่สิบมู่

นี่คือตัวเลขที่เขาคิดแล้วคิดอีก จนรู้สึกว่ารับได้

แต่ถ้ารวมกับรางวัลที่สัญญาจะให้ฟ่านหวู่เมื่อวันก่อน...

มันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ!

แย่แล้ว!

พลาดท่าซะแล้ว!

เฮ่อไฉ่เซิงกำลังจะหาข้ออ้างปฏิเสธ แต่พอพูดมาถึงปาก เขาก็พูดไม่ออก

เพราะฟ่านหวู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า กำลังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

เฮ่อไฉ่เซิงพบว่า ตัวเองรู้สึกกดดันจากสายตาคู่นั้น!

แล้วก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า? เขารู้สึกว่าท่านนักพรตฟ่านที่ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ดูเหมือนจะสูงขึ้น กำยำขึ้น

โดยเฉพาะกระบี่ยักษ์ที่อยู่ข้างหลังฟ่านหวู่ ยิ่งทำให้เขาใจเต้นแรง

สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่า - อย่าปฏิเสธ! ห้ามบ่ายเบี่ยง!

ไม่งั้น...

จะตาย!!

เฮ่อไฉ่เซิงตกใจกับความคิดของตัวเอง ที่นี่คือหน้าจวนเจ้าเมืองฉิวหลง เขาก็คือเจ้าเมืองฉิวหลง ข้างๆ ก็มีแต่คนของเขา ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้ล่ะ?

แล้วก็… นักพรตฟ่านผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะดูน่าเกรงขาม แต่คงไม่ชักกระบี่ออกมาฆ่าคนกลางถนนหรอกมั้ง?

แต่ทว่า...

เฮ่อไฉ่เซิงกระแอมไอหนึ่งที กลืนคำพูดที่กำลังจะปฏิเสธลงไป รีบพูดอย่างจริงจัง "ข้าจำได้สิ... แต่รางวัลของท่านนักพรตฟ่าน มันอยู่ในจวนเจ้าเมืองน่ะ ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นผู้ปกครองของเมืองฉิวหลง แต่ข้าก็ไม่มีวิชาปราบผีปราบปีศาจ นั่นเป็นหน้าที่ของหน่วยฉินเทียน"

"น่าเสียดายที่เมืองฉิวหลงอยู่ห่างไกล หน่วยฉินเทียนของราชสำนักก็เลยไม่ได้ตั้งสาขาที่นี่ ข้าก็เลยต้องเชิญท่านนักพรตฟ่านกับนักพรตเต๋าคนอื่นๆ มาช่วยเมืองฉิวหลงกำจัดผีร้าย"

เผชิญหน้ากับความกดดันที่บอกไม่ถูก

เขาก็เลยยอมแพ้

พอได้ยินแบบนี้ ฟ่านหวู่ก็จับใจความสำคัญได้ "หน่วยฉินเทียน?!"

เขาไม่ใช่ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

แต่ก็ไม่ได้รู้จักมันดีนัก

"ท่านนักพรตฟ่าน ท่านอยู่ที่เมืองฉิวหลง ศึกษาเต๋ากับผู้อาวุโสปรมาจารย์สวรรค์มาตลอด อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องข้างนอก หน่วยฉินเทียนเป็นหน่วยงานที่จักรพรรดิผู้ก่อตั้งราชวงศ์ต้าโจว ตั้งขึ้นมาตอนต้นราชวงศ์ หน้าที่หลักก็คือจัดการกับเรื่องลี้ลับต่างๆ ในอาณาจักร"

เฮ่อไฉ่เซิงอธิบายว่า "อย่างเช่นเรื่องวันนี้ ตามหลักแล้วควรจะเป็นหน้าที่ของหน่วยฉินเทียน แต่เมืองฉิวหลงอยู่ห่างไกล แล้วก็เป็นเมืองเล็กๆ ก็เลยไม่มีหน่วยฉินเทียน"

"ได้ยินมาว่า คนในหน่วยฉินเทียนล้วนเป็นผู้มีวิชาอาคม แต่ชื่อเสียงของพวกเขา...เอ่อ ไม่ค่อยดีนัก"

ไม่ใช่แค่ไม่ค่อยดี ในสายตาของเจ้าเมืองเฮ่อไฉ่เซิงที่มือไม่สะอาด หน่วยฉินเทียนก็เหมือนหมาป่า หมาใน เสือดาว!

น่ากลัวยิ่งกว่าภูตผีปีศาจ!

ส่วนฟ่านหวู่ที่ได้ยินแบบนี้

เขาก็ครุ่นคิด

นั่นก็หมายความว่า... ถ้าเจอเรื่องภูตผีปีศาจ งั้นก็สามารถให้หน่วยฉินเทียนจัดการได้สินะ?

เพราะคนในหน่วยงานนั้น ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้

ฟ่านหวู่ก็เลยเข้าใจว่า ทำไมอาจารย์จอมปลอมของเขา ถึงหลอกคนในเมืองฉิวหลงได้นานขนาดนี้โดยไม่ถูกเปิดโปง

ที่แท้ก็เป็นเพราะคนที่ดูออกว่าเขาเป็นนักต้มตุ๋น ไม่ได้อยู่ในเมืองฉิวหลงที่ห่างไกลความเจริญแห่งนี้นั่นเอง

โชคดียิ่งนัก ที่นี่ไม่มีหน่วยฉินเทียน

ไม่งั้น...

อาจารย์จอมปลอมของเขาคงโดนจับเข้าคุกไปนานแล้ว!

ส่วนเขาที่เป็นศิษย์ ก็คงจะซวยไปด้วย

บางที ตอนที่เขาทะลุมิติมาครั้งแรก...

เขาก็คงต้องอยู่ในคุก!

เห็นเจ้าเมือง ผู้ช่วยเจ้าเมือง เจ้าหน้าที่ หัวหน้ามือปราบหลิว มองเขาด้วยสายตาคาดหวังและเชื่อใจ ฟ่านหวู่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอับอาย

คนพวกนี้คิดว่าเขามีวิชาอาคมจริงๆ!

บัดซบ!

โชคดีที่อาจารย์จอมปลอมของเขา ไม่ได้เป็นคนที่สอบตกวิชาศิลปะ ไม่งั้นด้วยวิชาการหลอกลวงขั้นเทพแบบนี้ คงจะทำให้ราชวงศ์ต้าโจวปั่นป่วนแน่ๆ?

หลังจากมองคนพวกนี้ด้วยสายตาที่เหมือนมองคนโง่ เขาก็เดินเข้าไปในจวนเจ้าเมือง

พอเข้าไปข้างใน

เขาก็เห็นนักพรตเต๋าหลายคนที่แต่งตัวคล้ายๆ กับเขา แล้วก็เห็นหลวงจีนหลายคนที่ดูเคร่งขรึม

ไม่มีมือปราบหรือขุนนาง เพราะพวกเขากลัวจนไม่กล้าเข้ามา

การปรากฏตัวของฟ่านหวู่มักจะดึงดูดความสนใจ รูปร่างที่สูงใหญ่ของเขา ทำให้คนอื่นมองข้ามไม่ได้

"ขออำนวยพรจากเต๋าจวิน! ท่านผู้นี้คงจะเป็น... สหายเต๋าฟ่านจากศาลเจ้าฉิวหลงสินะ?"

ฟ่านหวู่รู้สึกว่าตัวเองดังมาก แม้แต่ "สหายร่วมอาชีพ" ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน ก็ยังจำเขาได้

คนที่พูดเมื่อกี้ คือนักพรตเต๋าเคราขาว ข้างๆ เขามีเด็กหนุ่มสองคนที่ดูอายุไม่มากนัก

เด็กหนุ่มทั้งสองคนดูเหมือนจะอายุประมาณสิบกว่าขวบ แต่งตัวเรียบง่าย

ชุดนักพรตเต๋าของพวกเขาซีดจาง

แถมยังขาดๆ อีก

ส่วนฟ่านหวู่...

อาจารย์จอมปลอมของเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มาก ชุดนักพรตเต๋าของศิษย์ก็ตัดเย็บจากผ้าชั้นดี

ฟ่านหวู่ดูออกว่า ตอนที่เด็กหนุ่มสองคนนั้นมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในแววตาก็มีความอิจฉาแฝงอยู่

"หืม?"

ฟ่านหวู่จ้องมองนักพรตเต๋าเคราขาว หรือว่าจะพูดว่า จ้องมองที่ศีรษะของนักพรตเต๋าเคราขาว

[นักพรตเต๋าเฒ่าที่มีวิชาอาคม - อายุขัย: 144 - พลัง: 4.5 - ทักษะ: คาถาคุ้มครองอวัยวะภายในทั้งห้า , ยันต์ปราบผีสิบสองกระบวนท่า]

[เด็กหนุ่ม A - อายุขัย: 76 - พลัง: 2.5 - ทักษะ: คาถาคุ้มครองอวัยวะภายในทั้งห้า]

[เด็กหนุ่ม B - อายุขัย: 70 - พลัง: 2.8 - ทักษะ: คาถาคุ้มครองอวัยวะภายในทั้งห้า]

มี [ทักษะ] อีกแล้ว!

แล้วก็ [ทักษะ] ของพวกเขา ต่างจากขุนนางในจวนเจ้าเมือง

[ทักษะ] ของพวกเขาคือวิชาอาคม!

วิชาอาคมจริงๆ!!!

ในเมืองฉิวหลง มีคนเก่งกาจอยู่จริงๆ สินะ?

โดยเฉพาะนักพรตเต๋าเคราขาวที่ดูผอมแห้ง ค่า [พลัง] ของเขาถึง 4.5 มากกว่าฟ่านหวู่ที่ยังไม่ได้เพิ่มค่าสถานะเสียอีก

ค่า [อายุขัย] ของนักพรตเต๋าเคราขาวก็ไม่น้อย แสดงว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาน่าจะอายุยืนถึงร้อยสี่สิบสี่ปี

ในจวนเจ้าเมือง ไม่ได้มีแค่นักพรตเต๋าเคราขาวกับเด็กหนุ่มสองคน

ยังมีนักพรตเต๋าอีกสองคน

แล้วก็หลวงจีนสามรูป

ฟ่านหวู่มองไปที่นักพรตเต๋าที่ดูอ้วนๆ สองคน สีหน้าของอีกฝ่ายดูหวาดกลัวเล็กน้อย... [นักต้มตุ๋นที่เพิ่งมาถึงเมืองฉิวหลง A - อายุขัย: 43 - พลัง: 1.2 - ทักษะ: ไม่มี]

[นักต้มตุ๋นที่เพิ่งมาถึงเมืองฉิวหลง B - ….]

สหายนักต้มตุ๋นสองคนนี้ แต่งตัวเป็นนักพรตเต๋า รูปร่างอ้วนท้วนเหมือนกันทั้งคู่ ทว่าเป็นแค่คนธรรมดา

ทั้งสองคนน่าจะเพิ่งมาเมืองฉิวหลงไม่นาน แล้วก็แอบอ้างว่าเป็นนักพรตเต๋าปราบผีสินะ?

แล้วจวนเจ้าเมืองก็เชื่อจริงๆ...

ถึงได้เชิญนักต้มตุ๋นสองคนนี้มา

นี่แหละ! สหายร่วมอาชีพที่แท้จริงของฟ่านหวู่ เพียงแต่พวกเขาโชคร้ายไปหน่อย

เพราะอาจารย์จอมปลอมของฟ่านหวู่ ไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับอะไรเลยตลอดชีวิต

แต่สองคนนี้ เพิ่งมาเมืองฉิวหลงได้ไม่นาน...

แม่งก็เจอเรื่องใหญ่เข้าแล้ว!

ถือว่าสมน้ำหน้า!

สุดท้าย...

หลวงจีนสามรูปนั้น…

หลวงจีนพวกนั้นทำหน้าหงุดหงิด เหมือนมีปัญหาอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขากังวล

หลวงจีนร่างกำยำสองรูป กำลังมองฟ่านหวู่ด้วยสายตาเคร่งขรึม

พวกเขารู้สึกกดดันจากฟ่านหวู่

ทำให้พวกเขาระวังตัวมาก

ส่วนหลวงจีนอ้วนที่เป็นหัวหน้า ไม่ได้มองฟ่านหวู่เหมือนคนอื่นๆ

แต่ทำสีหน้าเคร่งเครียด

[เจ้าอาวาสวัดจินหลง - อายุขัย: 123 - พลัง: 4.5 - ทักษะ: พระสูตรวัชรปรัชญาปารมิตาฉบับไม่สมบูรณ์]

[หลวงจีน A - อายุขัย: 43 - พลัง: 3 - ทักษะ: ไม่มี]

[หลวงจีน B - อายุขัย: 49 - พลัง: 3 - ทักษะ: ไม่มี]

ไม่น่าเชื่อ หลวงจีนพวกนี้มีวิชาอาคมจริงๆ

ถึงแม้ว่าเจ้าอาวาสวัดจินหลงจะดูอ้วนๆ เหมือนนักต้มตุ๋นคนนั้น

แต่ก็อย่างที่เขาว่าไว้ อย่าตัดสินคนจากภายนอก!

ค่า [พลัง] ของเจ้าอาวาสวัดจินหลง เท่ากับนักพรตเต๋าเคราขาว แต่ [ทักษะ] น้อยกว่านักพรตเต๋าเคราขาวหนึ่งอย่าง

ไม่น่าเชื่อว่าเมืองฉิวหลงเล็กๆ...

จะมีคนเก่งกาจอยู่เยอะขนาดนี้!

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ฟ่านหวู่ก็รู้จักคนพวกนี้คร่าวๆ แล้ว

"บัดซบ! มันเป็นไปไม่ได้!"

ก่อนที่ฟ่านหวู่จะตอบนักพรตเต๋าเคราขาว ก็มีเสียงหงุดหงิดดังขึ้น "เจ้าเมืองขี้โกงนั่น คงจะพูดจามั่วซั่ว! จวนเจ้าเมืองทุกแห่งล้วนมีพลังบารมีของจักรพรรดิคุ้มครอง ภูตผีปีศาจพวกนั้น จะกล้าเข้าไปอาละวาดได้ยังไง?"

"ท่านเจ้าอาวาส ท่านกำลังจะทำวจีกรรมอีกแล้ว..."

หลวงจีนข้างๆ เตือนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"เหรอ? งั้นก็ถือว่าอาตมาไม่ได้พูด!" เจ้าอาวาสวัดจินหลงสีหน้าไม่เปลี่ยน ประสานมือ ท่องบทสวด

"อมิตพุทธ~"

"..."

...

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด