บทที่ 6 เข้าร่วมการประลองใหญ่
การได้เกิดใหม่ครั้งนี้ นางจะไม่มีทางปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย! ครั้งนี้...นางจะต้องกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด! ไม่ว่าจะเป็นเซียนจุน เซียนผู้สูงส่ง ปีศาจ เผ่าผี หรือแม้แต่หญิงที่มีโชคชะตาแข็งแกร่งเพียงใด นางจะเอาชนะให้หมด!
เมื่อชายแก่เห็นสีหน้ามุ่งมั่นของนาง เขาก็พยักหน้าอย่างจริงจังในที่สุด
“ดี อาจารย์จะอนุญาตให้เจ้าลงแข่ง!”
แม้ว่าอัจฉริยะเช่นนางติดตามเขาอาจจะถูกจำกัดศักยภาพอยู่บ้าง...แต่...เขามองไปที่ศิษย์พี่ใหญ่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วก็ได้ไอเดียอะไรบางอย่างขึ้นมา… ฮึๆ
ที่ตำหนักเซียวหยุน ในห้องฝึกของโหลวหยุนเซียนจุน...
“กักเก็บพลังในตันเถียน รวบรวมสมาธิ!”
โหลวหยุนเซียนจุน ผู้ซึ่งปกติมีท่าทางสง่างามเยือกเย็น ตอนนี้ขมวดคิ้วแน่น มองดูเด็กสาวตัวน้อยที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยความเคร่งเครียด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ในฐานะอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เหนือใคร โหลวหยุนเซียนจุนย่อมไม่เข้าใจว่า “ความธรรมดา” และ “ความเข้าใจช้า” นั้นเป็นอย่างไร! แม้เขาจะลงมาสอนด้วยตนเอง แต่ซูเซียนจือก็เพิ่งเข้าสู่ระดับฝึกพลังอย่างยากเย็น และยังไม่ถึงขั้นฝึกพลังหนึ่งเลยด้วยซ้ำ...
“เซียนจุนเจ้าขา ศิษย์คงโง่เขลาเกินไป ต้องขอโทษเจ้าค่ะ ศิษย์จะพยายามเต็มที่ ไม่ให้เซียนจุนผิดหวังเด็ดขาด!”
ท่าทีมุ่งมั่นของนางทำให้เขาพอใจขึ้นเล็กน้อย คิ้วจึงคลายลงไป แต่หลังจากนั้นเพียงสองนาที เขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง จนอดไม่ได้ที่จะดุนางออกมา
“ดึงพลังวิญญาณเข้าสู่ตันเถียน ไม่ใช่ดึงลงสู่ก้น! ตันเถียนอยู่ที่ท้องน้อย ไม่ใช่สะดือ เจ้าเก็บพลังผิดตำแหน่ง!”
“เจ้าต้องควบคุมพลังวิญญาณให้เป็นประโยชน์กับเจ้า ไม่ใช่วิ่งไล่ตามมันไปอย่างไม่มีจุดหมาย!”
...
“เจ้าละ…ช่างเถอะ! วันนี้พอแค่นี้!”
ในตอนนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าหลายเดือนก่อนตนมองนางผิดไปหรือเปล่า เขาเคยเห็นแสงโชคชะตาบนตัวนางอย่างชัดเจน และเชื่อว่าเด็กสาวคนนี้มีอนาคตที่น่าจับตามอง แต่เมื่อจินเป่าเอ๋อปฏิเสธการเป็นศิษย์ เขาจึงรับซูเซียนจือแทน แต่นางกลับมีพรสวรรค์ที่ไม่สูงและเข้าใจยาก ทว่ายังดีที่พูดจาไพเราะเสนาะหู
ซูเซียนจือที่ถูกตำหนิหน้าแดงไปทั้งใบหน้า เพราะนางเพิ่งเข้าสู่ระดับฝึกพลังได้เพียงเดือนเดียวซึ่งนับว่าพรสวรรค์ของนางถือว่าดีในหมู่ศิษย์ใหม่ แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นางมัวแต่สนใจสร้างสัมพันธ์กับศิษย์คนอื่นๆ จึงไม่ได้ทุ่มเทฝึกฝนมากนัก และวันนี้ที่ถูกเรียกให้มาฝึก ก็กลายเป็นฉากน่าอายเช่นนี้...
นางมองแผ่นหลังของโหลวหยุนเซียนจุนที่จากไปด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ เพราะพรสวรรค์ด้านรากวิญญาณน้ำที่นางมีนั้นไม่เหมาะกับการโจมตี การที่นางเข้าสู่ระดับฝึกพลังได้อย่างรวดเร็วจึงถือว่าดีเยี่ยมแล้ว แต่นางไม่คาดคิดว่าเซียนจุนจะตั้งความหวังกับนางสูงเพียงนี้
อีกสองเดือนต่อมา เป็นไปตามคาด จินเป่าเอ๋อบรรลุถึงขั้นฝึกพลังสามในเวลาอันรวดเร็ว และการควบคุมพลังวิญญาณของนางก็ยิ่งชำนาญมากขึ้น และแล้วการประลองใหญ่ประจำปีก็มาถึง!
ตามปกติ ศิษย์ใหม่ที่เข้ามาเพียงครึ่งปีไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการประลอง ทว่าในรายชื่อกลับมีชื่อหนึ่งปรากฏขึ้นมา…
จินเป่าเอ๋อ?!
เหล่าศิษย์ต่างพากันฮือฮาเมื่อเห็นชื่อที่แปลกประหลาดนี้ ปรากฏว่าศิษย์ใหม่หลายคนถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นชื่อนี้!
“จินเป่าเอ๋อ? เด็กสาวที่ได้อันดับหนึ่งในตอนทดสอบเข้าใช่หรือไม่?”
“โอ้พระเจ้า! หากข้าไม่ได้จำผิด นางเพิ่งเข้ามาเพียงห้าเดือนเองมิใช่หรือ? แล้วนางก็เข้าสู่ขั้นฝึกพลังสามแล้วหรือ?”
“ไม่ต้องพูดมาก ผู้ที่เข้าร่วมประลองได้ต้องมีระดับฝึกพลังสามขึ้นไป ดูท่าว่านางนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ!”
เมื่อได้ยินเหล่าศิษย์ต่างแสดงความตกตะลึงในความเร็วในการฝึกฝนของจินเป่าเอ๋อ ร่างเล็กที่แอบฟังจากกลุ่มคนด้านหลังถึงกับแข็งทื่อ…
จินเป่าเอ๋อ? เด็กสาวที่ปฏิเสธการเป็นศิษย์ของเซียนจุน และทำให้นางได้ตำแหน่งนี้มาแทนใช่หรือไม่? เมื่อนึกถึงดวงตาเยือกเย็นของนาง ซูเซียนจือก็รู้สึกซับซ้อนใจเล็กน้อย!
หากไม่ใช่เพราะจินเป่าเอ๋อปฏิเสธการเป็นศิษย์ เซียนจุนคงไม่รับนางเป็นศิษย์คนโปรด ตำแหน่งของนางก็เหมือนเป็นตำแหน่งที่จินเป่าเอ๋อไม่ต้องการเสียด้วยซ้ำ แม้จะไม่ถึงขั้นโกรธเกลียด แต่นางก็รู้สึกไม่ชอบใจในตัวจินเป่าเอ๋ออย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงสายตาผิดหวังของเซียนจุนเมื่อสองเดือนก่อน นางรู้สึกใจสั่นและพยายามฝึกฝนอย่างหนักจนถึงขั้นฝึกพลังที่สอง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ดีในหมู่ศิษย์ใหม่...
แต่ในตอนนี้ เมื่อเห็นชื่อ “จินเป่าเอ๋อ” ที่ติดอยู่บนกระดานการประลอง พร้อมกับคำว่า “ขั้นฝึกพลังสาม” ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าตำแหน่งของนางไม่ใช่สิ่งที่ภาคภูมิใจเลย มีเพียงเด็กสาวที่ไม่เคยออกจากภูเขาฮวาหมิงอย่างจินเป่าเอ๋อ ที่ดูเหมือนจะเหนือกว่านางในทุกๆด้าน!
ด้วยความรู้สึกไม่ยอมแพ้ ซูเซียนจือจึงหันหลังวิ่งออกไปทันที ยังมีเวลาอีกครึ่งเดือนก่อนการประลองใหญ่...
บนภูเขาฮวาหมิง…
จินเป่าเอ๋อกำลังถือพู่กันพร้อมกับวาดเส้นลวดลายบนกระดาษ (ฟู) อย่างตั้งใจ ใบหน้าเล็กละเอียดแสดงถึงความตั้งใจแน่วแน่ ผ่านมาเพียงครึ่งปี นางที่เคยผอมแห้งก็เริ่มมีรูปร่างอวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าใสมีเนื้อเพิ่มขึ้น และตัวสูงขึ้นประมาณห้าเซนติเมตร
“เขียนได้ดี!”
ศิษย์พี่ใหญ่ผู้เย็นชามองดูอักษรที่เขียนด้วยความประณีตและอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณ เขารู้สึกทึ่งในความสามารถและไม่ลังเลที่จะกล่าวคำชื่นชมออกมา
เขามองจินเป่าเอ๋อด้วยสายตาซับซ้อน ใครจะคิดว่าหญิงสาวอายุยังไม่ถึงสิบเอ็ดจะสามารถสร้างยันต์ด้วยการชักนำพลังวิญญาณลงบนกระดาษสีขาวจนกลายเป็นยันต์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณได้สำเร็จ!
หากเล่าขานเรื่องนี้ออกไป คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ เพราะแม้แต่อัจฉริยะในดินแดนเซียนที่ได้รับการขนานนามว่าอัจฉริยะ ก็ใช้เวลาถึงหนึ่งปีในการเรียนรู้ทักษะนี้ แต่นางกลับทำได้ภายในเวลาเพียงครึ่งปี!
นอกจากพรสวรรค์แล้ว ความพากเพียรของนางในช่วงเวลาหลายเดือนนี้ก็น่าทึ่งเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเวทนาต่อนาง ศิษย์พี่สามพูดถูกจริงๆ เด็กคนนี้มีชีวิตที่ยากลำบากและมุมานะเหลือเกิน!
จินเป่าเอ๋อทำท่าเหมือนไม่ได้ยินคำชมของเขา นางยังคงมุ่งมั่นวาดลวดลายอย่างตั้งใจ จนกระทั่งจบยันต์แผ่นนั้น นางจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ วางพู่กันลงก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า
ในขณะนี้ นางใช้พลังวิญญาณที่มีจนหมดสิ้น เพียงเพื่อจะสร้างยันต์ ธรรมดาขึ้นมาแผ่นเดียว ดูเหมือนว่าการเป็นนักพรตที่เชี่ยวชาญการทำยันต์หรือเครื่องราง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครทุกคน!
“พักผ่อนเสียก่อน อีกสิบกว่าวันจะเป็นวันประลองของนิกาย เจ้าอาจต้องสะสมพลังวิญญาณให้เต็มเปี่ยม”
ไป๋อี้เหลิ่งพูดจบก็เดินออกไปทันที เกรงว่าหากอยู่ต่อจะอดไม่ได้ที่จะแสดงความทึ่งออกมาให้เห็น!
จินเป่าเอ๋อมองแผ่นหลังของเขาที่รีบจากไป ดวงตามีแววแปลกใจเล็กน้อย คล้ายศิษย์พี่ใหญ่วันนี้จะทำท่าทางเหมือนคนที่กำลังหนีไปอย่างไรชอบกล นางส่ายหัวเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ศิษย์พี่ทั้งเจ็ดและอาจารย์ต่างดูแลนางอย่างอบอุ่น แม้แต่นางที่หัวใจเย็นชา ก็ยังเริ่มรู้สึกเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชาติก่อนทำให้นางไม่รู้จะตอบสนองต่อความห่วงใยของพวกเขาอย่างไร นางจึงคิดจะตอบแทนด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรมที่สุดแทน!
เช่น… การชนะการประลองใหญ่ในระดับฝึกพลัง!
ในช่วงครึ่งเดือนที่เหลือ นางปิดประตูเพื่อสะสมพลังวิญญาณ และเตรียมตัวเพื่อทะลุถึงขั้นฝึกพลังสี่ ระดับฝึกพลังมีทั้งหมดห้าขั้น หากนางเข้าสู่ขั้นที่สี่ได้ นางจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ในการประลอง!