ตอนที่แล้วบทที่ 54 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ตอนที่ 11
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ตอนที่ 13

บทที่ 55 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ตอนที่ 12 


บทที่ 55 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสี่ ขบวนสุดท้าย ตอนที่ 12 

เสิ่นชงหรานไม่คิดอะไรมาก เมื่อเห็นว่าผู้เล่นใหม่อย่างชิวฮุ่ยไม่มีกำลังป้องกันตัวเอง และต้วนถิงเองก็ดูจะไม่มียันต์ป้องกันมากนัก

พรุ่งนี้ก็ไม่แน่ว่าพวกเธออาจต้องเจอสิ่งชั่วร้ายพวกนั้นเหมือนกัน “สถานีอยู่ตรงนั้น เธอมาก็ได้”

พวกเธอแค่อยากพึ่งความรู้สึกปลอดภัย

ชิวฮุ่ยเก้อเขินเล็กน้อยและกล่าวขอบคุณตะกุกตะกัก “ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ”

เฟิงอี้เฉินมองดูชิวฮุ่ยที่กำลังกล่าวขอบคุณและสังเกตเห็นมือต้วนถิงที่สั่น ซึ่งดูยังไงก็ไม่ใช่เพราะกลัว แต่น่าจะเป็นเพราะบาดเจ็บ

รถไฟเคลื่อนที่อย่างมั่นคง ขณะที่พวกเขาต้องทำภารกิจต่อไป

เฟิงอี้เฉินไม่ต้องพูดอะไรมาก เขาทำตามวิธีเดิม ค้นหาตู้โดยสารสองตู้ จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร ทิ้งให้สวี่หัวได้แต่เพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากเขาเดินออกไปแล้วและประตูปิดลง

เขาหันไปมองเสิ่นชงหรานที่ลุกขึ้นเช่นกัน และคิดจะชวนเธอค้นหาตู้โดยสารไปด้วยกัน

แต่พอคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง คงไม่ช่วยอะไรได้เท่าไหร่ อาจจะได้แต่กรีดร้องหรือร้องไห้เหมือนที่เขาเห็น      ชิวฮุ่ยร้องไห้ตอนขึ้นรถไฟ

ใบหน้าเรียบเฉยของเสิ่นชงหรานดูเยือกเย็น เธอคล้ายกับผู้หญิงที่เขาเคยเจอในการทำภารกิจอื่นที่แสดงท่าทีสงบเรียบร้อย แต่พอเจออันตรายก็เผยธาตุแท้ที่น่าสมเพชออกมา

เมื่อคิดแบบนี้ สวี่หัวก็ละความคิดจะชวนเธอไปด้วย แล้วมุ่งหน้าสู่ตู้โดยสารที่เขาต้องตรวจสอบเอง

เสิ่นชงหรานสังเกตเห็นสายตาของสวี่หัว เธอคิดว่าชายคนนี้ดูท่าทีเป็นปกติตอนมองผู้ชาย แต่เมื่อมองพวกเธอทั้งสามคน โดยเฉพาะเธอ เขากลับแสดงท่าทีดูถูก ไม่เคยเห็นค่า

...

สวี่หัวอยู่ในตู้โดยสารตามลำพัง ตอนนี้เขาเหลือยันต์เพียงแผ่นเดียวเท่านั้น!

เขาคิดไว้ว่าหากเจอผีในสองวันนี้ ยันต์แผ่นเดียวต่อครั้งก็น่าจะพอเพียงในการผ่านภารกิจ และตัวเขาก็เคยพบเศษตัวอักษรมาแล้วหนึ่งครั้ง ถือเป็นการผลักดันภารกิจ ทำให้คิดว่าน่าจะได้คะแนนสะสมเพิ่มขึ้นเมื่อสรุปภารกิจ

แต่ก็ไม่รู้ว่าซวยเพราะอะไร ภารกิจง่าย ๆ ครั้งนี้กลับยากขึ้นจนน่าคิดว่ามันคือภารกิจระดับกลาง

ภารกิจระดับต่ำครั้งก่อนๆ ใช้ยันต์แค่สองแผ่นก็จบไปได้

“ซวยจริงๆ…”

แม้จะบ่นพึมพำ แต่เขาก็ต้องหาต่อไปเพื่อหาเศษตัวอักษร

ความขุ่นเคืองในใจของเขาทำให้การค้นหาในตู้โดยสารน่าหงุดหงิดขึ้นเรื่อย ๆ เขาหาอย่างละเอียดแต่กลับไม่เจออะไรเลย

มองไปยังประตูที่กั้นไว้ สวี่หัวคิดจะเปิดออก พรุ่งนี้จะเป็นภารกิจวันสุดท้าย ความอันตรายต้องมากขึ้นแน่ ๆ

ถ้าเขารวมพลังกับเฟิงอี้เฉินได้ พวกเขาน่าจะมีโอกาสมากกว่า

เมื่อคิดเช่นนี้ สวี่หัวจึงก้าวไปข้างหน้า แต่เพียงสองก้าวก็ได้ยินเสียงแปลกๆ

"เอี๊ยด—เอี๊ยด—"

เสียงนี้เหมือนเสียงโลหะถูกบีบ สวี่หัวกวาดตาดูรอบๆ แต่ตู้โดยสารยังดูปกติ

ความเย็นยะเยือกแทรกเข้ามาในใจ สวี่หัวยิ่งแน่ใจว่าต้องไปหาเฟิงอี้เฉินให้เร็วที่สุด

เขาเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า เสียงแปลกๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“เอี๊ยด—” “เอี๊ยด—”

มือของสวี่หัวหยุดเหนือที่จับประตู เมื่อเขาหยุด เสียงนั้นก็หยุดลงเช่นกัน

บางอย่างผิดปกติ เขาถูกเฝ้ามอง

หลังจากลังเลไม่กี่วินาที สวี่หัวคว้าที่จับประตูหมายจะเปิด แต่หมุนเท่าไหร่ก็ไม่ออก

“เอี๊ยด—” “เอี๊ยด—”

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง สวี่หัวหันขวับกลับไปด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าปรากฏแววตกตะลึง

ที่ไหนจะเป็นตู้โดยสารที่กำลังเปลี่ยนรูปแบบ ที่แท้ก็เป็นผีร้ายตนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขา ก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว

ทุกครั้งที่มันก้าว จะมีเสียงนั้นดังขึ้น และพื้นโลหะที่มันเหยียบก็ทิ้งรอยเท้าไว้อย่างชัดเจน

สวี่หัวหายใจหอบ มือสั่นเทาขณะพยายามเปิดประตูต่อ ส่วนมืออีกข้างเริ่มเคาะประตูอย่างแรง

“เปิดหน่อย เปิดหน่อย ช่วยหน่อยสิ!”

แต่ฝั่งตรงข้ามไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เหตุการณ์แบบนี้เขาเคยเจอมาแล้ว แต่สวี่หัวก็ยังคงเคาะต่อไป

เขาเหลือยันต์แค่แผ่นเดียว…

เขารีบหยิบยันต์ออกมา แต่ผีร้ายนั้นก็ยังคงเดินเข้ามาหา

สวี่หัวพยายามหมุนที่จับประตูอย่างบ้าคลั่ง เสียงเคาะดังไปทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีใครสนใจยกเว้นผีร้ายที่อยู่ด้านหลัง

“ไอ้พวกเห็นแก่ตัว ไปตายซะเถอะ…”

เขามั่นใจว่าเฟิงอี้เฉินได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของเขาแล้วแต่ไม่สนใจแน่ ๆ

สวี่หัวเลิกเคาะประตูและหันหน้าเข้าหาผีพลางชูยันต์ขึ้น

“ไปหาคนอื่น ไปสิ ฉันมียันต์นะ”

ร่างหญิงสาวที่ถูกไฟไหม้ทั้งตัวมีรอยไหม้กระจายทั่วเรือนร่าง เลือดที่ไหลเปื้อนเส้นผมยาวหยดลงพื้นทีละหยด จนเมื่อเข้าใกล้สวี่หัวในระยะที่แทบจะมองเห็นได้ชัด ผีหญิงตนนั้นก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

สวี่หัวสาบานว่า เขามองเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของปีศาจร้าย

“หัวเราะอะไรของแก หวังจะฆ่าฉันน่ะเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

เสียงกลั้วฟองดังขึ้นจากลำคอของผีสาว ก่อนที่หัวของเธอจะกระตุกอย่างแรง

“เฮ้...เฮ้…”

เสียงหัวเราะอันน่าขนลุกทำเอาสวี่หัวตัวอ่อนยวบจนแทบทรงตัวไม่อยู่

ทั้งสองจ้องกันอยู่เพียงไม่กี่วินาที

“ฮิฮิฮิ!”

จู่ๆ ผีสาวก็ขยับตัว! ก้าวเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว!

“อ๊ากกกกก!” สวี่หัวตกใจสุดขีด เขากระแทกตัวเข้าประตู พร้อมกับบีบยันต์ในมือแน่นและยื่นออกไปเพื่อแปะบนร่างผีสาว

ทันทีที่ยันต์แปะลงไป ผีร้ายก็ถูกกระแทกด้วยพลังที่มองไม่เห็น ร่างเธอถูกแรงอัดจนกระเด็นหายไปจากตู้โดยสาร

สวี่หัวทรุดตัวลงข้างประตูด้วยความสั่นเทา หยุดพักเพื่อเรียกสติ ก่อนที่ความโกรธจะพลุ่งพล่านและเริ่มขยับประตูอีกครั้ง เขาต้องการหาเฟิงอี้เฉินเพื่อถามว่าทำไมถึงไม่ช่วยเขา!

แต่ประตูยังคงไม่ขยับ สวี่หัวกัดฟันแน่น ความโกรธทั้งหมดพุ่งเข้าไปที่การบิดที่จับประตู

ไม่ว่าจะบิดหรือกระแทกแรงแค่ไหน ประตูก็ยังคงทนอยู่ตรงนั้น สวี่หัวโกรธจัด เขายกเท้าถีบประตูอีกครั้ง แต่ประตูก็ยังคงมั่นคงเหมือนเดิม

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในตู้โดยสาร กระจกได้ถูกหมอกควันปกคลุมจนไม่สามารถมองเห็นอีกฝั่งได้

ทันใดนั้น มือคู่หนึ่งก็มาวางลงบนบ่าของเขา

สวี่หัวไม่ตอบสนองในทันที แต่แล้วร่างทั้งร่างก็แข็งทื่อ

ทั้งที่เขาก็ขับไล่ผีไปแล้ว นี่มันอะไรกันอีก?

ใบหน้าที่แตกร้าวและเต็มไปด้วยเศษแก้วโน้มเข้ามาใกล้เขา คอของเธอยาวขึ้นเรื่อยๆ…

สวี่หัวยืนแข็งอยู่กับที่ ตอนนี้เขาไม่มียันต์เหลือแล้ว

สิ่งที่เขาเห็นคือใบหน้าที่น่าสยดสยองโผล่มาจากด้านหลัง คอของเธอผิดปกติจนน่ากลัว

ทำไมกันล่ะ ทั้งที่ขับไล่ผีไปแล้ว

ทำไม ยังต้องเจออีก…

คอของเธอยืดยาวขึ้นเรื่อยๆ จนใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้สวี่หัว ใบหน้าหันข้างเพ่งมองเขาด้วยตาข้างที่ยังหลงเหลืออยู่

ความชั่วร้าย ความสยดสยอง ความน่ากลัว ปะทุขึ้นมาทุกทางจนทำให้เลือดในกายของสวี่หัวเย็นเฉียบ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ สมองก็เริ่มหยุดคิด

ความกลัวที่ไม่อาจบรรยายท่วมท้นทุกความรู้สึก หัวใจของเขาเต้นระรัว

ชิวฮุ่ยค้นหาเศษชิ้นส่วนอย่างระมัดระวังไปพร้อมกับต้วนถิง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นชิวฮุ่ยที่ออกแรง

ต้วนถิงเหนื่อยล้าจนแทบไม่มีกำลังจะหาเศษชิ้นส่วน แต่เธอก็ถือยันต์ไว้ข้างชิวฮุ่ย พร้อมจะใช้หากเกิดอันตราย

บางทีเพราะถูกจู่โจมที่สถานีก่อนหน้านี้ รอบนี้ในตู้โดยสารไม่มีอะไรผิดปกติ ทั้งคู่เดินทางไปยังตู้ถัดไปได้อย่างราบรื่น

ขณะค้นหามาถึงมุมสุดท้าย ชิวฮุ่ยก็เห็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป

“พี่ถิง นี่เป็นเศษชิ้นส่วนหรือเปล่า”

เธอยื่นมือไปแตะสิ่งนั้น แล้วก็เห็นข้อความแจ้งเตือน

【ระบบแจ้งเตือน: ผู้ทำภารกิจชิวฮุ่ยค้นพบเศษตัวอักษร ภารกิจวันนี้เสร็จสิ้น】

ในพริบตา ตู้โดยสารกลับมาเป็นปกติ สิ่งที่เธอแตะอยู่นั้นกลายเป็นแค่โฆษณาที่ติดอยู่บนผนังตู้เท่านั้น

ต้วนถิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “วันนี้ถือว่าผ่านพ้นไปแล้ว”

ชิวฮุ่ยมองดูมือของเธอ “พี่ถิง แล้วมือของพี่จะทำยังไงดีล่ะ”

ต้วนถิงมองมือที่เจ็บปวดของตัวเอง “ภารกิจจบก็จะกลับเป็นปกติเอง พรุ่งนี้ไปเจอคุณเสิ่นพร้อมกันนะ”

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด