ตอนที่แล้วบทที่ 49 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51 ร่างกายพิเศษ

บทที่ 50 ตัวตลกคือตัวเขาเอง


บทที่ 50 ตัวตลกคือตัวเขาเอง

กลับมาที่บ้าน

เฉินอวี่หรานเข้ามาก็นอนลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับตบหัวของเต้าหู้เหม็นที่วิ่งเข้ามาหาอย่างตื่นเต้นไปทีหนึ่ง

"ไปเล่นที่อื่นไป เหนื่อยอยู่นะ!"

"อู้..."

เต้าหู้เหม็นโดนตบ ส่งเสียงครางอย่างน้อยใจ

ในฐานะหมาเลี้ยงในบ้าน ไม่ได้เจอเจ้านายมากว่ายี่สิบชั่วโมง มันตื่นเต้นนิดหน่อยก็ไม่เกินไปใช่ไหม?

ถึงจะเหนื่อย ก็ควรจะทักทายสักหน่อยไม่ใช่เหรอ?

ในขณะที่กำลังน้อยใจอยู่นั้น เฉินอวี่หรานบนโซฟาก็กางแขนออก

"จีชิง"

ตอนนี้จีชิงกำลังเกาะอยู่บนไหล่ของหลี่จิ้ง หาวอย่างเกียจคร้าน

เมื่อได้ยินเสียงเรียก ดวงตากลมโตของเธอที่เหมือนอัญมณีก็กะพริบสองที ยืนขึ้นบนไหล่ของหลี่จิ้งแล้วใช้ขาสั้นๆ ทั้งสี่ข้างออกแรงกระโดด พุ่งออกไปสี่ห้าเมตรตกลงในอ้อมกอดของเฉินอวี่หราน

แรงปรารถนาในการเอาตัวรอดของจีชิงนั้นมีมาโดยตลอด

แต่ว่าครั้งนี้มันไม่เกี่ยวกับการเอาตัวรอด

ส่วนใหญ่เป็นเพราะเธอคุ้นเคยกับการสนิทสนมกับเฉินอวี่หรานโดยไม่รู้ตัว

นอนเตียงเดียวกันทุกวัน แถมยังถูกกอดนอนอีก เธอจะไม่ชินก็คงไม่ได้ จะว่าไปก็คงเรียกได้ว่าเธอถูก 'กอดจนเคยชิน' แล้ว

เห็นเฉินอวี่หรานอุ้มจีชิงอย่างมีความสุข เต้าหู้เหม็นที่เพิ่งโดนตบและถูกรังเกียจก็รู้สึกไม่ค่อยดีทั้งตัว ส่งเสียง "โฮ่ง" อย่างน้อยใจวิ่งมาหาหลี่จิ้ง

หลี่จิ้งเห็นดังนั้นก็อมยิ้ม

สำหรับจีชิงในฐานะ "มือที่สาม" การได้ขึ้นมาเป็นที่รักก็กลายเป็นเรื่องเก่าของสัปดาห์ที่แล้วไปแล้ว

หมาโง่ตัวนี้ น่าจะปรับตัวได้แล้วไม่ใช่เหรอ?

ทำไมยังบอบบางจิตใจอ่อนไหวขนาดนี้?

หลี่จิ้งยื่นมือลูบหัวเต้าหู้เหม็น แล้วพูดว่า

"พอเถอะ อย่าส่งเสียงเห่าไปทั่ว ตามฉันไปที่ครัว ฉันจะหาอะไรให้กิน"

"โฮ่ง!"

เต้าหู้เหม็นเห่าเสียงดัง ราวกับกำลังบอกว่าหลี่จิ้งเป็นคนดี

หลี่จิ้งยิ้มแล้วหันหลัง

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกวันในช่วงสัปดาห์กว่าที่ผ่านมา เขาคุ้นเคยแล้ว

กำลังจะเดินไปที่ครัว เฉินอวี่หรานบนโซฟาก็เอ่ยปากขึ้น

"หลี่จิ้ง อย่าให้เต้าหู้เหม็นกินเนื้อมากเกินไป นายไม่สังเกตเหรอว่าช่วงนี้มันไม่กินอาหารหมาเลย? ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้ว ถ้านายให้มันกินแต่เนื้อ ขนจะร่วงหนัก"

พูดจบ เธอก็เสริมอีกประโยคว่า

"อีกอย่าง นายอย่าใจดีเกินไป จริงอยู่ว่าฮัสกี้มันเปลี่ยนนิสัยยาก แต่ไม่ได้โง่อย่างที่คิดหรอกนะ ช่วงนี้มันชอบมาหาฉันเพื่อสร้างความวุ่นวาย แล้วก็ไปหาคุณขอความปลอบใจ ความจริงมันก็แค่ได้ผลประโยชน์จากการมากินมาดื่มฟรีเท่านั้นเอง"

ฟังประโยคแรกๆที่เฉินอวี่หรานพูด ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

แต่พอประโยคหลังๆ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าแปลกๆ

ถ้าเป็นคนอื่นพูด เขาอาจจะไม่ได้สนใจมาก

พอเฉินอวี่หรานพูด...

เฉินอวี่หรานเป็นคนแบบไหน?

คนที่เลี้ยงเต้าหู้เหม็นมาสิบเจ็ดปีเต็ม!

ถ้าจะพูดว่าใครรู้จักเต้าหู้เหม็นดีที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเธอ

หยุดเดินแล้วขมวดคิ้ว หลี่จิ้งหันกลับมามอง

สิ่งที่เห็นคือเต้าหู้เหม็นที่สายตาลอกแลกมีท่าทางเหมือนคนทำผิด หางก็ไม่กระดิกแล้ว

"..."

หลี่จิ้ง

เพียงแค่ท่าทางรู้สึกผิดของเต้าหู้เหม็นตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่เฉินอวี่หรานพูดล้วนเป็นความจริง

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก

หลังจากที่จีชิงมา เฉินอวี่หรานก็กลายเป็นคนเลวที่ชอบของใหม่แล้วเบื่อของเก่า

แต่ถึงแม้เต้าหู้เหม็นที่โดนทิ้งไม่เคยโวยวายหรืองอแงเลย ไม่เพียงแค่นั้น มันยังเลียทุกครั้งที่เข้ามาอีกด้วย โดนเมินก็ยังกลับมาหาเขาอีก

ลองคิดสลับมุมมองดู

เขาแทบจะไม่ต่างกับตัวสำรองเลย

เมื่อเทียบกันแล้ว การที่เต้าหู้เหม็นมาหาเขาเพื่อการมากินมาดื่มฟรีก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

เมื่อเข้าใจประเด็นสำคัญ สีหน้าของหลี่จิ้งก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

ตลอดหนึ่งสัปดาห์กว่าที่ผ่านมา เขามองเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกมาตลอด

สุดท้าย ตัวตลกกลับเป็นตัวเขาเอง!

คนที่ถูกทอดทิ้งอย่างแท้จริง คือเขา!

เขาถูกหมาตัวหนึ่งหลอก...

พยายามควบคุมความรู้สึกอยากตีgต้าหู้เหม็น หลี่จิ้งชี้ไปที่มุมห้องนั่งเล่นที่มีที่นอนหมา

"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายไม่มีเนื้อกิน ไปกินอาหารหมาเองซะ"

เต้าหู้เหม็นได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที อ้าปากเห่า "โฮ่งๆๆ" ราวกับกำลังบอกว่าฟังฉันอธิบายก่อน

หลี่จิ้งกลอกตาไม่สนใจมัน หันหลังเดินจากไป

ก่อนหน้านี้ยังไม่เข้าใจอะไร ก็ปล่อยไปเถอะ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว จะไปใส่ใจเต้าหู้เหม็นที่มาเรียกร้องได้ยังไง?

ที่สำคัญคือพอเข้าใจแล้ว เขาก็นึกถึงอะไรได้มากขึ้น

ฮัสกี้มันเปลี่ยนนิสัยยากก็จริง

การทำตัวโง่ๆ เป็นเรื่องปกติ

แต่ที่สำคัญคือ มันไม่ใช่ฮัสกี้ธรรมดา

แถมตัวนี้ ยังเป็นหมา "แก่" ที่มีชีวิตอยู่มาสิบเจ็ดปี!

คนแก่ยิ่งฉลาด!

หมาแก่จะแย่ไปได้ไง?

หลี่จิ้งโกรธมาก

ถูกผู้หญิงเลวทอดทิ้ง ก็พอจะยอมรับได้

คนเราเกิดมา ใครจะไม่เคยเจอคนเลวสักคนสองคน?

แต่การถูกหมาตัวหนึ่งหลอกความรู้สึกและฉวยโอกาสจากความใจดี กว่าจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีคนเตือน นี่มันเรื่องบ้าอะไร?

เห็นหลี่จิ้งเดินเข้าครัวไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง จีชิงก็จ้องมองเต้าหู้เหม็นที่กำลังเห่าไม่หยุดด้วยดวงตาแมวของเธอ

เมื่อครู่ที่เฉินอวี่หรานพูด

ไม่ได้เตือนแค่หลี่จิ้ง ยังเตือนเธอด้วย

เช่นเดียวกับหลี่จิ้ง เธอก็ไม่เคยตระหนักว่าเต้าหู้เหม็นแอบซ่อนความลึกลับไว้มากขนาดนี้

สำคัญคือเต้าหู้เหม็นทำตัวโง่ๆ ทุกวัน บางครั้งก็มีอาการคลั่งๆ ทำให้คนคิดไม่ถึง

...

หลังจากกินข้าวเสร็จ

เฉินอวี่หรานอุ้มจีชิงขึ้นไปนอนชั้นบน หลี่จิ้งที่ตระหนักว่าตัวเองเหมือนตัวตลกก็เข้าไปในห้อง ปล่อยให้เต้าหู้เหม็นอยู่ในห้องนั่งเล่นตามลำพังอย่างโดดเดี่ยว

พอนอนลงบนเตียง หลี่จิ้งก็ได้รับข้อความส่วนตัวจากคงอู่

"หัวหน้าทีมไต้จากหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ได้ติดต่อมาหาฉันแล้ว ผลงานของนายในคดีผู้ฝึกตนนอกรีตดีมาก ไม่ต้องรีบกลับมาทำงาน ฉันให้นายหยุดสองวัน นายพักผ่อนให้เต็มที่"

อ่านข้อความแล้ว อารมณ์หดหู่ของหลี่จิ้งก็สดชื่นขึ้นมาก

แม้คงอู่จะมีนิสัยแปลกๆ แต่ในการทำงานและการปฏิบัติต่อผู้อื่นก็ยังถือว่าเป็นคนดี

กำลังคิดแบบนั้นอยู่ คงอู่ก็ส่งข้อความมาอีก

"แม้ว่าจะเป็นวันหยุดก็ตาม แต่แผนกผู้ช่วยตรวจการของเราไม่มีวันหยุดแบบได้เงินเดือนเต็ม ถ้าเดือนนี้นายอยากได้เงินเดือนเต็ม ก็ต้องชดเชยชั่วโมงทำงานในภายหลัง"

เห็นคำพูดแบบนายทุนแล้ว หลี่จิ้งยิ้มมุมปากเล็กน้อย และขอยกเลิกความชื่นชมที่พูดไปเมื่อกี้

พิมพ์ "รับทราบ" ส่งให้คงอู่ หลี่จิ้งถอนหายใจแล้วนอนราบบนเตียง

ยี่สิบกว่าชั่วโมงที่ถูกส่งไปช่วยหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ 6 ชั่วคราว ได้ประสบการณ์มากมาย

โอกาสที่จะหยุดพักผ่อน แทบจะไม่มีเลย

ทำงานหนักตลอดเวลา

ผ่านประสบการณ์ครั้งนี้ หลี่จิ้งก็เข้าใจว่าทำไมเงินเดือนของผู้ตรวจการเหอถึงได้สูงขนาดนั้น

ไม่ใช่แค่ทำงานหนัก เมื่อเจอปัญหาต้องทำงานล่วงเวลา มันไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ แม้แต่จะมีเวลาพักผ่อนนิดหน่อยยังไม่มีเลย"

เมื่อเทียบกันแล้ว แผนกผู้ช่วยตรวจการสบายกว่ามาก

คิดว่าอาจได้พักสองวัน หลี่จิ้งก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดแอปเซียนซิ่นหาแชทหลิวซือซือ แล้วพิมพ์ข้อความ

"พี่ซือซือ นับดูเวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนแล้ว ร้านตกแต่งเป็นยังไงบ้างครับ?"

หลิวซือซือตอบกลับเร็ว เช่นเดียวกับที่เคยเป็น

หลี่จิ้งส่งข้อความไปยังไม่ทันวางโทรศัพท์ เธอก็ตอบกลับมาทันที

"ไอ้คนใจจืดนึกถึงฉันได้ซะที! ตั้งแต่นัดกินข้าวครั้งที่แล้ว ไม่เคยส่งข้อความมาหาฉันเลย! ฉันนึกว่านายลืมฉันไปแล้วซะอีก!"

มองข้อความที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ หลี่จิ้งก็อมยิ้ม

ช่วงก่อนหน้านี้ เขาทำงานกะดึกทุกวัน

แม้จะไม่ได้กลับบ้านแล้วนอนทันที แต่เขากลับมาก็เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว

เขากับหลิวซือซือ เวลาไม่ตรงกันเลย

จะโทษเขาได้ยังไง?

กำลังจะพิมพ์ข้อความตอบกลับ หลิวซือซือก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง

"ร้านตกแต่งเสร็จเกือบหมดแล้ว อีกสามถึงห้าวันก็จะเปิดทำการได้"

ไม่ทันที่หลี่จิ้งจะตอบกลับ หลิวซือซือก็ส่งข้อความมาอีก

"นายส่งข้อความมาหาฉันแบบนี้ คงจะหยุดพักแล้วใช่ไหม? พอดีฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย เรานัดกินข้าวเย็นกันดีไหม?"

หลิวซือซือ หลี่จิ้งคุ้นเคยแล้ว

อย่างน้อย ทั้งสองคนก็อยู่กันมาสามเดือนกว่าแล้ว

เห็นหลิวซือซือบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แถมยังชวนกินข้าวเอง หลี่จิ้งก็ไม่คิดอะไรมาก ก็ตอบกลับไป

"ได้ครับ เย็นนี้เดี๋ยวผมไปรับ"

-------

อีกตอนจะมาช่วงบ่ายสามนะครับ พอดีติดธุระนิดหน่อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด