บทที่ 5 ฆ่าผีครั้งแรก! ได้รับแต้มสถานะอิสระ!
บทที่ 5 ฆ่าผีครั้งแรก! ได้รับแต้มสถานะอิสระ!
ฟ่านหวู่ไม่สนใจว่า ตอนนี้ตัวเองจะดูเป็นยังไงในสายตาของหัวหน้ามือปราบหลิว
เขากำลังก้มมองผีน้ำหน้าเขียว พลางครุ่นคิด
ผีตัวนี้ดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้ดูแข็งแกร่งอะไรมากนัก
เมื่อกี้เขาแค่เลือดขึ้นหน้า อยากจะฆ่ามันให้ตาย
แล้วก็ฆ่ามันจนเกือบตายจริงๆ
นี่มันเกินความคาดหมายของฟ่านหวู่ไปหน่อย
หรือว่า...
เทพเจ้าเจิ้นหวู่ช่วยเหลือเขา?
ฟ่านหวู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่ได้ฆ่าผีน้ำหน้าเขียวทันที แต่หยิบห่อกระดาษที่ใส่ขี้เถ้าธูปออกมา
ตอนที่อยู่บ้านของหวังเหล่าเอ้อ เขาได้พิสูจน์แล้วว่า ขี้เถ้าธูปที่บูชาเทพเจ้าเจิ้นหวู่ มีฤทธิ์ปราบผีอยู่บ้าง
อย่างน้อยก็ทำให้หวังเหล่าเอ้อที่โดนผีเข้า หายเป็นปกติได้
ตอนนี้มีโอกาสดี ฟ่านหวู่อยากจะลองดูว่า ขี้เถ้าธูปมีผลกับผีหรือไม่?
เขาใช้นิ้วจิ้มรูที่ห่อกระดาษ
ขี้เถ้าธูปสีเทาขาวก็ร่วงลงไปบนร่างของผีน้ำหน้าเขียว
เมื่อขี้เถ้าธูปโดนตัวผีน้ำหน้าเขียว...
ขี้เถ้าธูปก็เหมือนแมวเจอหนู เปล่งแสงสีแดงออกมาทันที!
ผีน้ำหน้าเขียวที่นอนหมดแรงอยู่ริมแม่น้ำ ก็เหมือนโดนทำร้ายอย่างหนัก!
ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากร่างกาย พร้อมกับเสียง "ซู่ๆ" เหมือนโดนกัดกร่อน!
"กรี๊ดดดดดดดด!!!"
ผีน้ำหน้าเขียวตัวสั่นอย่างรุนแรง ส่งเสียงกรีดร้องน่าขนลุกอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าขี้เถ้าธูปในศาลเจ้า จะใช้ได้ผลกับวิญญาณจริงๆ สินะ?
พลังทำลายล้างก็ไม่ใช่น้อยเลย
ค่า [อายุขัย] ของผีน้ำหน้าเขียวลดลงเรื่อยๆ!
อายุขัย: 1
อายุขัย: 0
เมื่อค่า [อายุขัย] เป็นศูนย์
มันก็หยุดกรีดร้อง
วิญญาณของมันสลายไป
[ท่านสังหาร "ผีน้ำที่เกิดจากแม่เล้าหอโคมเขียวที่ถูกจับถ่วงน้ำ" สำเร็จ ขอแสดงความยินดี ท่านได้รับแต้มสถานะอิสระ 2 แต้ม!]
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ทำให้ฟ่านหวู่มั่นใจว่าผีน้ำหน้าเขียวไม่ได้แกล้งตาย
มันตายแล้วจริงๆ!
รู้สึกว่า...
ฆ่าผีก็ไม่ได้ยากอะไรนี่นา ใช่ไหม?
ฟ่านหวู่คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาพบว่าตอนที่เผชิญหน้ากับผีน้ำหน้าเขียวในระยะประชิด เขากลับไม่รู้สึกกลัวเลย แถมยังใจเย็นรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
บางทีอาจเป็นเพราะเขาเป็นคนใจใหญ่มาแต่กำเนิด ไม่งั้นตอนแรกคงไม่คิดจะทุบรูปปั้นเทพเจ้าเจิ้นหวู่หรอก
คงไม่กล้าไปยืมกระบี่จากเทพเจ้าเจิ้นหวู่ ทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย
สรุปแล้ว วิกฤตคืนนี้ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เขาไม่ได้ถูกเปิดโปงว่าเป็นนักพรตปลอม
กลิ่นอายของนักพรตเขายังคงอยู่…
แต่ผีน้ำหน้าเขียวเหมือนจะทิ้งอะไรบางอย่างไว้ ฟ่านหวู่เห็นว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ที่เท้า เขาใช้กระบี่ตัดเขามารทมิฬแห่งแดนเหนือเขี่ยมันขึ้นมา มันคือตรวนที่ผุพัง
ตรวนที่แช่อยู่ในน้ำมานาน ผุพังจนแทบจะเรียกว่าพรุนไปหมด
"หืม? นี่มัน..."
ฟ่านหวู่สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
เขาเห็นว่าพื้นผิวของตรวนมันแปลกๆ เหมือนมีอะไรสลักอยู่ มันนูนขึ้นมาอย่างชัดเจน
คล้ายกับอักษรลัทธิเต๋า เหมือนกับตัวอักษรบนยันต์
บัดซบ!!
ถ้ามันเป็นอักษรเฉพาะของยันต์จริงๆ งั้นก็แสดงว่า ผีน้ำหน้าเขียวตัวนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ใช่ไหม?
ผีน้ำตัวนี้อาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด?
ถึงแม้ว่าฟ่านหวู่จะไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ แต่ชาติก่อนเขาอ่านนิยายมาเยอะ ก็อดคิดถึงทฤษฎีสมคบคิดไม่ได้
คิดได้ดังนั้น
สีหน้าของฟ่านหวู่ก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าเขาต้องรีบออกจากเมืองฉิวหลงจริงๆ
ในเวลานี้เอง
"ท่านนักพรต! ท่านนักพรตฟ่าน!"
เสียงของหัวหน้ามือปราบหลิวกับพวกมือปราบดังมาแต่ไกล
เห็นหัวหน้ามือปราบหลิวพามือปราบวิ่งมาทางนี้ ทุกคนถือดาบหรือไม้พลองไว้ในมือ
หัวหน้ามือปราบหลิวยิ้มกว้าง ชูหัวแม่โป้งขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม "ข้าก็ว่าอยู่แล้ว ท่านนักพรตฟ่าน ท่านได้รับวิชาจากผู้อาวุโสปรมาจารย์สวรรค์ การจัดการกับผีกระจอกแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่าน!"
มือปราบคนอื่นๆ ก็มองฟ่านหวู่ด้วยแววตาแบบเดียวกับหัวหน้ามือปราบหลิว
พวกเขาเห็นทุกอย่างกับตา
เห็นฟ่านหวู่ฆ่าผีร้ายด้วยตาตัวเอง!
เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองของผีร้าย วิธีการอันโหดเหี้ยมของฟ่านหวู่ พวกเขายังจำได้ไม่ลืม!
"ท่านนักพรต นี่มัน... ตรวนเหรอขอรับ?" หัวหน้ามือปราบหลิวสังเกตเห็นว่า บนกระบี่เล่มใหญ่ที่ดูเกินจริงในมือของฟ่านหวู่ เหมือนจะมีอะไรบางอย่างแขวนอยู่
ยังไงเขาก็เป็นหัวหน้ามือปราบ ตรวนแบบนี้เขาดูออก แค่มองก็รู้แล้ว
ฟ่านหวู่เอียงกระบี่เล็กน้อย ตรวนก็ตกลงไปที่เท้าของหัวหน้ามือปราบหลิว เขาพูดว่า "ตรวนที่อยู่ที่เท้าของผีน้ำ เจ้าเอาไปรายงานท่านเจ้าเมืองได้เลย"
นี่ก็ถือเป็นการโยนความเสี่ยง ถ้าเอาของนี่ไปไว้ที่จวนเจ้าเมือง ต่อให้ผีน้ำตัวนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลังจริงๆ...
คนผู้นั้นก็คงไม่มาหาเขาหรอก
อย่างน้อยก็ช่วงแรกๆ อะนะ…
ได้ยินดังนั้น
หัวหน้ามือปราบหลิวก็ดีใจ
เขาไม่รังเกียจว่านี่เป็นของที่อยู่บนตัวผี รีบหยิบมันขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจง "ท่านนักพรตฟ่าน คืนนี้ท่านลงมือกำจัดภัยร้ายให้เมืองฉิวหลง ชาวเมืองต้องซาบซึ้งในบุญคุณของท่านแน่ๆ"
"เรื่องเล็กน้อย" ฟ่านหวู่ยังคงตอบแบบคลุมเครือ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับศาลเจ้า เก็บข้าวของ แล้วออกจากที่ผีสิงแห่งนี้
แต่ประโยคถัดไปของหัวหน้ามือปราบหลิว ทำให้ฟ่านหวู่หยุดชะงัก
หัวหน้ามือปราบหลิวพูดต่อว่า "พรุ่งนี้ท่านเจ้าเมืองรู้เรื่องนี้ ท่านต้องจัดงานเลี้ยงฉลองให้ท่านนักพรตแน่ๆ ตอนนั้นคงจะเชิญพ่อค้ากับเศรษฐีเจ้าที่ดินมาเยอะแยะ ท่านเจ้าเมืองอาจจะให้รางวัลท่านนักพรตด้วย"
"แค่กๆ! ตอนนั้น ท่านนักพรตช่วยพูดถึงความพยายามของข้าต่อหน้าท่านเจ้าเมืองหน่อยได้หรือไม่? ถือว่า... ถือว่าข้าแซ่หลิวผู้นี้ เป็นหนี้บุญคุณท่านนักพรต!"
หัวหน้ามือปราบหลิวพูดเสียงเบามาก มีแต่ฟ่านหวู่ที่หูดี ถึงจะได้ยินว่าเขาพูดอะไร
น้ำเสียงของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความประจบประแจง ชัดเจนมาก
มันก็แค่อยากให้ฟ่านหวู่พูดดีๆ เกี่ยวกับเขาต่อหน้าท่านเจ้าเมืองสินะ?
ฟ่านหวู่ไม่ได้ตอบทันที...
เพราะตอนนี้เขาสนใจ...
คำว่า "รางวัล"
ถ้าไม่มีเงิน จะออกจากเมืองฉิวหลงไปเมืองหลวงทางใต้ ไปพึ่งพาพี่สาวต่างมารดาก็เป็นไปไม่ได้
กินข้าวก็ต้องใช้เงิน
เดินทางก็ต้องใช้เงิน
พักแรมก็ต้องใช้เงิน
อะไรก็ต้องใช้เงิน!
เงินในรูปปั้นเทพเจ้าเจิ้นหวู่ก็เอาออกมาไม่ได้ เงินเก็บของเขาก็มีไม่มาก
ถึงแม้ว่าจะขายของในศาลเจ้าได้ แต่มันก็เสียเวลา
แน่นอน ฟ่านหวู่ไม่คิดจะทำแบบนั้น
ดังนั้น...
เขาต้องได้รางวัลจากท่านเจ้าเมืองมาให้ได้
แต่ว่า...
งั้นก็ต้องอยู่ในที่ผีสิงแห่งนี้อีกวันสินะ?
ฟ่านหวู่ก้มมองกระบี่ตัดเขามารทมิฬแห่งแดนเหนือในมือ
เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เอาล่ะ!
ได้เงินจากท่านเจ้าเมืองแล้วค่อยไป!
"ข้าจะช่วยเจ้า"
ฟ่านหวู่เหลือบมองหัวหน้ามือปราบหลิว เขาตัดสินใจแล้ว เก็บกระบี่ตัดเขามารทมิฬแห่งแดนเหนือ พูดว่า "เรื่องคืนนี้จบลงแล้ว ผินเต้าก็ควรกลับศาลเจ้าเสียที เจ้าเองก็พาลูกน้องกลับไปเถอะ กลางคืนมันอันตราย"
"ขอรับ! ขอรับ!" หัวหน้ามือปราบหลิวเข้าใจ เขายิ้มกว้างทันที "ท่านนักพรตเดินทางปลอดภัย!"
ฟ่านหวู่กับมือปราบก็แยกย้ายกันไป
เห็นมือปราบแต่ละคนหน้าตายิ้มแย้ม พวกเขาคงกำลังคิดว่าจะกลับไปคุยโม้กับคนอื่นยังไงดี
ส่วนฟ่านหวู่ เขาก็ตรงไปที่ศาลเจ้า
...
ดึกแล้ว
เขากลับมาถึงศาลเจ้า เดินเข้าไป
ศาลเจ้าที่อาจารย์จอมปลอมทิ้งไว้ให้เขา ชื่อว่าศาลเจ้าฉิวหลง
นี่คือศาลเจ้าที่เศรษฐีเจ้าที่ดินในเมืองฉิวหลงที่โดนหลอก ร่วมกันบริจาคเงินสร้างขึ้นมา
ปกติก็จะมีชาวบ้านมาที่ศาลเจ้าฉิวหลงเพื่อจุดธูปไหว้พระ
บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ รูปปั้นเทพเจ้าเจิ้นหวู่ในศาลเจ้า ถึงมีพลังวิเศษอยู่บ้าง
ฟ่านหวู่ไม่ได้รีบเอากระบี่ตัดเขามารทมิฬแห่งแดนเหนือไปคืนเทพเจ้าเจิ้นหวู่ แต่เก็บมันไว้ที่ห้องของตัวเองในศาลเจ้าก่อน จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนโคลนออก เผยให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ
กล้ามเนื้อทุกมัดแข็งแรง สัดส่วนก็พอดี ดูแข็งแกร่งมาก แค่มองก็รู้สึกน่าเกรงขาม!
ฟ่านหวู่จดจ่ออยู่กับนิ้วทองคำ
คืนนี้เขาฆ่าผีน้ำหน้าเขียวได้ ก็เลยได้แต้มสถานะอิสระมา 2 แต้ม
เขาอยากรู้ว่าถ้าใช้แต้มสถานะแล้ว...
จะมีผลยังไง?
...