บทที่ 320 มนุษย์สร้างเทพีแห่งรัตติกาลทั้งสาม
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 320 มนุษย์สร้างเทพีแห่งรัตติกาลทั้งสาม
เอสโซรีลถึงกับตาค้าง ดวงตากลมโตทั้งหมดยืนขึ้นแข็ง ลูกตาสั่นระริก
"โอ้พระเจ้า! นี่ท่านทำได้ยังไงกันวะเนี่ย? !"
ดูสิ นี่คือฝีมือของเย่เหริน
ทำเอาเอสโซเรียลผู้สูงส่งถึงกับหลุดสำเนียงบ้านนอกออกมา
ตลอดชีวิตอันยาวนาน ในฐานะเทพผู้สูงส่ง เอสโซรีลรักษาภาพลักษณ์มาโดยตลอด
เทพอย่างเขาไม่ควรพูดคำหยาบ ...เว้นแต่จะอดใจไม่ไหวจริงๆ !
เย่เหรินยักไหล่ "มันยากตรงไหน?"
เอสโซเรีลพูดไม่ออก อยากพูดก็พูดไม่ได้ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยปากชม "สุดยอด"
ต้องรู้ว่าในความคิดของเขา สิ่งมีชีวิตที่ถูกมลทินกลืนกินไปแล้วแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม
เปรียบเหมือนกระดาษขาวที่ถูกย้อมด้วยหมึก จะลบหมึกออกให้หมดสิ้น ยากเย็นแสนเข็ญ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยอมแพ้รื่องนครแห่งรัตติกาลและดินแดนต้นกำเนิดอื่นๆ ไปโดยสิ้นเชิง
ทว่าเย่เหรินกลับทำในสิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด ...
ไม่ใช่แค่ล้างมลทิน แต่ยังทำให้พวกเขากลับคืนสู่สภาพเดิมได้อีก!
แม้แต่เทพก็ไม่อาจทำได้!
เย่เหรินเบะปาก "รู้ว่าใจร้อน แต่อย่าเพิ่งรีบ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น"
เอสโซรีล "?"
เริ่มต้น?
เดี๋ยวก่อน เจ้าอย่าบอกนะว่า ...
เย่เหรินสะบัดดาบโลหิตสูญญากาศ แสงสีแดงเลือดพุ่งออกมาในพริบตา!
"วู้ม——!"
หมอกสีเลือดแผ่ไปทั่ว ถนนหนทางที่เคยบิดเบี้ยวจากมลทินก็ค่อยๆ กลับมาเรียบเนียน
ราวกับเวลาหมุนย้อนกลับ ทุกสิ่งกำลังคืนสู่สภาพเดิม!
สิ่งที่น่าตกตะลึงที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตในห้วงลึก ...
ร่างกายที่บิดเบี้ยวของพวกมันเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงภายใต้การชำระล้างของหมอกสีเลือด
แขนขาและอวัยวะที่ผิดรูปร่างหายไปในพริบตา
แขนที่เคยฟาดฟาดเหมือนหนวดปลาหมึกกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม
ใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัวก็ค่อยๆ อ่อนโยนลง ฟันแหลมคมหดหายไป
ในที่สุด เมื่อหมอกสีเลือดจางหายไป สิ่งมีชีวิตในห้วงลึกก็กลับคืนสู่ร่างมนุษย์อย่างสมบูรณ์
ชาวนครแห่งรัตติกาล ทุกคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม!
"แม่เจ้า ..."
เอสโซรีลพูดไม่ออก
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ท่ามกลางยามราตรี เมืองทั้งเมืองกลับตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างน่าประหลาด
ผู้คนมากมายในเมืองต่างมองไปรอบๆ อย่างเหม่อลอย ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสนและไร้จุดหมาย
การปรากฏตัวของเย่เหริน ได้ดึงพวกเขาออกจากห้วงลึกแห่งมลทิน ทำให้พวกเขากลับคืนสู่สภาพเดิม
ทว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ทันตั้งตัว
แต่ไม่ว่าอย่างไร อารยธรรมขั้นสูงก็ยังคงเป็นอารยธรรมขั้นสูงอยู่วันยังค่ำ
ไม่นานนัก จากฝูงชนที่เงียบงัน ก็มีบุคคลพิเศษผู้หนึ่งเดินออกมา
บุคคลผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะล้านเกลี้ยงเกลา ดวงตาสี่คู่เปล่งประกายแห่งปัญญา
เขาคือผู้ปกครองสูงสุดแห่งอารยธรรมยามราตรี นักปราชญ์แห่งรัตติกาล อับราฮัม!
อับราฮัมกวาดสายตามองไปรอบๆ มองดูผู้คนในเมืองที่ยังคงสับสน ดวงตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความจนใจ
เขารู้ดีว่า ผู้คนเหล่านี้ต้องการเวลาเพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
จากนั้น อับราฮัมก็รีบตรงไปยังเย่เหริน ก่อนจะโค้งคำนับอย่างนอบน้อม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพและซาบซึ้งใจ
"ท่านผู้ทรงเกียรติ ข้าขอเป็นตัวแทนแห่งอารยธรรมยามราตรี ขอบพระคุณท่านจากใจจริง!"
อับราฮัมแสดงท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตน
เพราะแม้เขาจะไม่รู้จักเย่เหริน แต่เขารู้จักเอสโซรีล!
และท่าทีระมัดระวังของเอโซรีลเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เหริน ทำให้อับราฮัมตระหนักได้อย่างเฉียบแหลมว่าควรปฏิบัติต่อเย่เหรินเช่นไร
เย่เหรินยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย"
สำหรับเขา นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยจริงๆ เป้าหมายที่แท้จริงคือการลบล้างมลทินในเขตต้นกำเนิด
แต่อับราฮัมกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น!
เขามองดูท่าทางที่สงบนิ่งของเย่เหริน ยิ่งรู้สึกเคารพยำเกรง
ผู้ยิ่งใหญ่ก็คือผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ !
ท่าทาง สายตา และน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยอำนาจเช่นนี้ เขาคงไม่มีวันเลียนแบบได้
จากนั้น อับราฮัมก็มองไปยังเย่เหริน ดวงตาเต็มไปด้วยความหวังและความคาดหวัง
"ท่านผู้ทรงเกียรติ..." อับราฮัมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ "ท่านพอจะช่วยพวกเราได้หรือไม่?"
เย่เหรินเลิกคิ้วเล็กน้อย
"ยังมีอะไรที่ฉันต้องช่วยอีกเหรอ?"
เขาลบล้างมลทินของเมืองทั้งเมืองไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
ยังมีอะไรที่ต้องช่วยอีก?
แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเย่เหรินคิดง่ายเกินไป
พลังมลทินแห่งความกลัวของเขามีคุณสมบัติในการลบล้างมลทินก็จริง แต่ในทางทฤษฎี คุณสมบัตินี้ใช้ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตในห้วงลึกที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
หากสิ่งมีชีวิตถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตในห้วงลึกอย่างสมบูรณ์แล้ว พลังมลทินแห่งความกลัวก็ไม่อาจทำให้มันกลับคืนสู่สภาพเดิมได้
ส่วนที่ชาวเมืองสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ด้วยพลังมลทินแห่งความกลัว
เป็นเพราะพวกเขายังไม่ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตในห้วงลึกอย่างสมบูรณ์
แน่นอนว่ายังมีเหตุผลอื่นๆ อีก
"ท่านผู้ทรงเกียรติ ท่านทราบหรือไม่ว่า พวกเราได้สร้างเทพีขึ้นมาสามองค์"
น้ำเสียงของอับราฮัมเต็มไปด้วยความเคารพ "ด้วยการมีอยู่ของพวกนาง ชาวเมืองจึงไม่ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตในห้วงลึกอย่างสมบูรณ์"
เย่เหรินรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
เอสโซรีลเพิ่งกล่าวถึงผลงานชิ้นเอกของอารยธรรมแห่งรัตติกาล นั่นคือเหล่าเทพีที่ถูกสร้างขึ้น
ว่ากันว่าเทพีทั้งสามองค์นี้มีพลังอันแข็งแกร่งเทียบเคียงได้กับชิ้นส่วนเทพเจ้า
เทพีทั้งสามมีนามว่า...
เทพีแห่งรัตติกาลนิรันดร์ ซอมนุส
เทพีแห่งดวงดาว แอสตร้า
เทพีแห่งความฝัน นอสทัส
"แต่..." น้ำเสียงของอับราฮัมแฝงไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง "เทพีทั้งสามของพวกเราต่างก็ถูกมลทินกัดกิน บัดนี้คงเหลือพลังเพียงน้อยนิด"
ก่อนเย่เหรินจะปรากฏตัว อับราฮัมแทบจะสิ้นหวัง
หรืออาจกล่าวได้ว่า...
ชาวนครแห่งรัตติกาลทุกคนต่างก็สิ้นหวัง
เพราะทุกคนต่างเห็นเทพีถูกมลทินครอบงำทีละองค์ ก่อนจะลุกลามมาถึงตนเอง
ทุกคนต่างเห็นญาติมิตรและผู้คนรอบข้างกลายเป็นสิ่งมีชีวิตในห้วงลึกทีละคนๆ ต่อหน้าต่อตา
ลองคิดดูสิว่ามันเจ็บปวดทรมานเพียงใด?
แต่บัดนี้อับราฮัมมองเห็นความหวังที่จะทำให้เทพีกลับคืนสู่สภาพเดิม!
"ท่านสามารถช่วยพวกเราได้ บางทีท่านอาจจะช่วยเทพี..."
เมื่อคิดถึงตรงนี้อับราฮัมก็รู้สึกหัวใจเต้นรัว
เย่เหรินยักไหล่ "ตราบใดที่พวกเธอยังไม่ถูกกลืนกินโดยสมบูรณ์ ฉันก็สามารถดึงพวกเธอกลับมาได้"
นี่คือความมั่นใจของผู้ผิดปกติระดับจินตภาพ!
อับราฮัมนำเย่เหริน เอสโซรีล และผู้กลืนกินลงสู่เบื้องลึกใต้ดินของเมืองแห่งรัตติกาล
ที่แห่งนี้คือสถานที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมแห่งรัตติกาล และเป็นที่สถิตของเทพีทั้งสามแห่งรัตติกาล
"ที่นี่ล่ะ" อับราฮัมชี้นิ้วไปข้างหน้า
เบื้องหน้าปรากฏรังไหมขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่
มันดูราวกับภูเขาที่ผุดขึ้นมาจากใต้พิภพ หรือร่องรอยสุดท้ายที่เทพเจ้าโบราณทิ้งไว้ในโลกนี้
เย่เหรินและพรรคพวกยืนอยู่เบื้องหน้ารังไหมขนาดยักษ์ ราวกับมดปลวกตัวเล็กๆ ที่ไม่อาจเทียบเคียง
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_