ตอนที่แล้วบทที่ 19 การตายของเซวียนสือจื่อ! ได้รับ [ทักษะ] ครั้งแรก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 เจอขบวนสำนักคุ้มกันภัยหู่เว่ย , หน่วยฉินเทียนปรากฏตัว

บทที่ 20 แผ่นแนบ! เจ้าเมือง:อะไรนะ? ท่านนักพรตฟ่านไปแล้ว?!?


บทที่ 20 แผ่นแนบ! เจ้าเมือง:อะไรนะ? ท่านนักพรตฟ่านไปแล้ว?!?

ถึงแม้ว่าเรื่องในหอโคมเขียว จะทำให้เมืองฉิวหลงวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีมือปราบคนไหนมาดู ดังนั้น ฟ่านหวู่จึงแบกหีบที่ใส่ทองกับเงิน เดินออกไปโดยไม่มีใครขัดขวาง

เขาไม่ได้ไปที่จวนเจ้าเมือง แต่ตรงไปที่ศาลเจ้าฉิวหลง

ส่วนเรื่องวุ่นวายในหอโคมเขียว เขาไม่ต้องไปสนใจ

ปล่อยให้เจ้าเมืองฉิวหลงจัดการไป!

ยังไงเจ้าเมืองเฮ่อไฉ่เซิงผู้นั้น ก็หาเงินทองมากมายในเมืองฉิวหลงมาหลายปี

มันคงถึงเวลาที่เขาต้องทำอะไรเพื่อเมืองฉิวหลงบ้างแล้ว ใช่ไหม?

...

พอฟ่านหวู่แบกหีบที่ใส่ทองกับเงิน กลับมาถึงศาลเจ้าฉิวหลง มันก็เป็นเวลาตีหนึ่ง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบนเขา มีรูปปั้นเทพเจ้าเจิ้นหวู่อยู่หรือเปล่า?

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะดึกมาก แต่บนเขาก็ไม่ได้ดูน่ากลัว

ฟ่านหวู่จงใจเดินช้าๆ ดังนั้น การกลับมาที่ศาลเจ้าฉิวหลงครั้งนี้ ก็เลยใช้เวลาพอสมควร

ตอนที่เขาออกจากจวนเจ้าเมือง เขาได้บอกหยางอี่จื่อกับเจ้าอาวาสวัดจินหลง ให้พวกเขาไปบอกเจ้าเมืองฉิวหลงนำเงินมาให้เขา

เขากลับมาดึกขนาดนี้ ก็เพื่อให้เจ้าเมืองฉิวหลงมีเวลาเตรียมตัว

ฟ่านหวู่คิดว่า ด้วย "ชื่อเสียง" ที่อาจารย์จอมปลอมของเขาทิ้งไว้ กับภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของคนในเมืองฉิวหลง อีกฝ่ายคงไม่กล้าเล่นตุกติก

แน่นอนว่า…

พอฟ่านหวู่เปิดประตูศาลเจ้า เขาก็เห็นของที่เขาต้องการ วางอยู่หลังประตู

ถึงแม้ว่าคืนนี้แสงจันทร์จะสลัว แต่เงินที่วางเรียงราย กับโฉนดที่ดินที่ถูกกดทับด้วยเงิน...

มันก็ยังสะดุดตา!

เงินตรงนี้มีประมาณหกร้อยกว่าตำลึง ส่วนโฉนดที่ดิน มันก็เป็นที่ดินที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูก

พูดตามตรง...

โฉนดที่ดินพวกนี้ ไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับฟ่านหวู่

เพราะเขาไม่ได้คิดจะอยู่ในเมืองฉิวหลงนานๆ

เพราะถ้าคนที่นับถือท่านมหาเทพนั่น ไม่ได้มีแค่เซวียนสือจื่อคนเดียว... แล้วเขาฆ่าเซวียนสือจื่อ ก็อาจจะทำให้สาวกของท่านมหาเทพมาหาเขา!

ที่สำคัญ ถ้าอีกฝ่ายไม่ทำตามแผน คนมาหาเขาไม่ใช่สาวกของท่านมหาเทพ แต่เป็นท่านมหาเทพตัวจริงล่ะ?

ฟ่านหวู่คิดว่าตัวเองคงจะ...

ตายแน่ๆ!

ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่ง แต่พอเจอกับสิ่งที่แปลกประหลาดแบบนั้น ก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน

สรุปแล้ว

อยู่ต่อไม่ได้!

"เงินที่ใช้หลบหนีก็ได้มาแล้ว ข้าเองก็ไม่มีสหายในเมืองฉิวหลง งั้นไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง มันถึงเวลาที่ข้าต้องออกจากที่ผีสางแห่งนี้แล้ว"

ฟ่านหวู่พูดพึมพำ เขาจะออกจากเมืองฉิวหลงคืนนี้!

ถูกต้อง!

เขาไม่อยากจะรอถึงพรุ่งนี้

ก่อนหน้านี้ เขาแค่รอรับรางวัลจากเจ้าเมืองฉิวหลง ถึงได้ยอมเสี่ยงอยู่ในเมืองนี้อีกวัน

แต่แค่เพียงวันเดียว เขาก็เจอเรื่องมากมาย

ถ้าเขาไม่ได้ปลุกพลังนิ้วทองคำ คงจะซวยไปแล้ว!

ดังนั้น...

ถ้าไม่หนีตอนนี้

จะรอให้ถึงเมื่อไหร่?

เพื่อที่จะหนีออกจากเมืองฉิวหลง ฟ่านหวู่เองก็เลยเตรียมตัวมาหลายวันแล้ว

ก่อนหน้านี้ เขาไปหาช่างไม้ในเมืองฉิวหลง สั่งทำหีบไม้ที่สามารถแบกได้ แล้วก็ให้วัวหรือม้าแบก

หีบไม้นั้นจะหนักแค่ไหนก็ไม่เป็นไร

ที่สำคัญที่สุดก็คือ มันต้องแข็งแรง สามารถใส่ของหนักๆ ได้

ตอนแรก ฟ่านหวู่สั่งทำหีบไม้นั้น เพื่อที่จะใส่เงินในรูปปั้นเทพเจ้าเจิ้นหวู่

แต่ใครจะไปคิดว่า เงินในนั้นเอาออกมาไม่ได้

เขาคิดว่าหีบไม้นั้นคงจะไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้มันกลับมีประโยชน์แล้ว

ฟ่านหวู่หยิบหีบไม้นั้นออกมา

ใส่ก้อนทอง ก้อนเงิน กับเสื้อผ้าที่ใช้ผัดเปลี่ยน ลงไปในหีบไม้

จากนั้นก็ยกหีบไม้ที่หนักอึ้งขึ้นมา

น้ำหนักขนาดนี้ สำหรับคนธรรมดา ต่อให้พยายามแค่ไหน พวกเขาก็คงแบกไม่ไหว

แต่สำหรับฟ่านหวู่ตอนนี้...

มันเป็นเรื่องง่าย!

ไม่รู้สึกว่ามันหนักเลย

เขาสามารถยกมันขึ้นมาด้วยมือเดียว!

ก่อนจะออกจากเมืองฉิวหลง ฟ่านหวู่ก็ไปจุดธูปไหว้เทพเจ้าเจิ้นหวู่ในโถงหลักของศาลเจ้าอย่างจริงจัง พอธูปไหม้หมด...

เขาก็เอาขี้เถ้าธูปทั้งหมดในกระถางธูป ใส่ลงไปในภาชนะที่แข็งแรง ทนต่อการตกกระแทก

ขี้เถ้าธูปพวกนี้เป็นของดี

ห้ามทิ้งเด็ดขาด!

ยังไงเทพเจ้าเจิ้นหวู่ก็มอบกระบี่ตัดเขามารทมิฬแห่งแดนเหนือให้เขาแล้ว ถ้าให้ขี้เถ้าธูปเพิ่มอีกหน่อย สำหรับเทพเจ้าเจิ้นหวู่ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?

ฟ่านหวู่คิดแบบนั้น

เขาก็เลยทำแบบนั้น

จากนั้น เขาก็ไปที่หลังเขาของศาลเจ้าฉิวหลง จุดธูปสามดอกให้กับอาจารย์จอมปลอมของเขา

ถือว่าเป็นการไหว้ลาอีกฝ่าย

สุดท้าย...

ฟ่านหวู่ไม่ลืมจดหมายที่อาจารย์จอมปลอมให้เขาก่อนตาย ติดตัวไปด้วย

ยังไงอาจารย์จอมปลอมก็เลี้ยงเขามาหลายปี ฟ่านหวู่จะช่วยส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้บุตรสาวของอีกฝ่าย

แต่ว่า เมืองหลวงของแคว้นหนานจวิน มันไกลจากเมืองฉิวหลงมาก!

"มอ..."

ทันใดนั้น

เสียงร้องของวัวก็ดังขึ้น ฟ่านหวู่หันไปมอง เห็นวัวตัวใหญ่แข็งแรง ผูกอยู่ที่มุมหนึ่งในศาลเจ้า

นี่คือวัวที่อาจารย์จอมปลอมของเขาเลี้ยงไว้

ฟ่านหวู่จำได้ว่า ตอนที่อาจารย์จอมปลอมยังมีชีวิตอยู่ ท่านมักจะนั่งบนหลังวัว แสร้งทำเป็นนักพรตเต๋าผู้วิเศษ

พูดถึงเรื่องนี้ มันก็เป็นวัวแก่แล้วสินะ?

"จิ๊ๆๆ ถ้าเจ้าแบกหีบไม้นี้ได้ ข้าก็จะพาเจ้าไปด้วย ถ้าเจ้าแบกไม่ไหว ข้าก็คงต้องเอาเจ้าไปผูกไว้ใกล้ๆ บ้านชาวบ้าน"

"ยังไงก็ไม่สามารถผูกเจ้าไว้ในศาลเจ้าได้ ถ้าเจ้ากินหญ้าในนี้หมด เจ้าก็คงจะอดตาย"

ฟ่านหวู่ไม่ได้สนใจว่าวัวแก่จะฟังรู้เรื่องหรือไม่?

เขาเดินไปวางหีบไม้ที่หนักอึ้ง บนหลังวัวแก่

"มอ~"

ดูเหมือนว่าวัวแก่จะไม่ค่อยชิน แต่ก็ไม่ได้ดูเหนื่อยอะไร เดินไปเดินมาสองสามรอบ

หีบไม้ที่หนักอึ้ง สำหรับมันแล้ว เหมือนจะไม่หนักเลย

"เอาล่ะ! งั้นก็พาเจ้าไปด้วย! อย่าบ่นว่าทางไกลก็แล้วกัน" ฟ่านหวู่พูดด้วยรอยยิ้ม

เขาแก้เชือกที่ผูกวัวแก่

ใช้เชือกที่แข็งแรง ผูกหีบไม้ไว้บนหลังวัวแก่

...

วันรุ่งขึ้น

ตอนเที่ยง

ในที่สุดเจ้าเมืองฉิวหลงก็กล้าเข้ามาในจวนเจ้าเมือง เขาสั่งให้มือปราบกลุ่มหนึ่ง ย้ายของที่เสียหายในจวนเจ้าเมืองออกไป แล้วก็ให้มือปราบอีกกลุ่มหนึ่งทำความสะอาด

ส่วนเฮ่อไฉ่เซิงที่เป็นเจ้าเมือง ก็นั่งจิบชาอย่างสบายใจ บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ราคาแพง

ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นได้ เขารู้สึกว่าชาในมือไม่อร่อยเลย

"ท่านนักพรตฟ่านผู้นั้น รีบร้อนเกินไปหน่อย ทำไมไม่รออีกสักสองสามวันกันนะ? ถ้าเขายอมรอ ข้าก็คงจะให้เงินเขาน้อยลงครึ่งหนึ่ง... เฮ้อ! น่าเสียดาย!"

"ไม่ได้การ เสียเงินไปหกร้อยกว่าตำลึง แล้วยังมีโฉนดที่ดินอีก ข้าขาดทุนย่อยยับ!"

เฮ่อไฉ่เซิงพูดพึมพำ "ต้องบอกว่าจวนเจ้าเมืองเสียหายหนักๆ แบบนี้ ราชสำนักต้องส่งเงินมาให้ข้าเยอะๆ ข้าถึงจะได้ทุนคืน..."

ในเวลานี้เอง

หัวหน้ามือปราบหลิวก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา บอกข่าวที่น่าตกใจ "ท่าน... ท่านเจ้าเมือง! เช้านี้ข้าจะไปเยี่ยมท่านนักพรตฟ่านที่ศาลเจ้าฉิวหลง แต่กลับพบว่า... ท่านนักพรตฟ่านหายตัวไป!!"

"แล้วข้าก็เจอกระดาษที่ท่านนักพรตฟ่านทิ้งไว้ในศาลเจ้า ในนั้น... ในนั้นท่านนักพรตฟ่านบอกว่า ท่านจะออกเดินทางไปทั่วหล้า!!"

เฮ่อไฉ่เซิงตกใจจนมือสั่น

ชาหกเลอะเทอะ

แต่เขาไม่สนใจ รีบเบิกตากว้าง พูดอย่างตกใจ "อะไรนะ? ท่านนักพรตฟ่าน... ไปแล้ว?!?!"

"ซูดดดด!!!"

เห็นหัวหน้ามือปราบหลิวพยักหน้า เฮ่อไฉ่เซิงก็ดูดลมหายใจเข้าลึกๆ "ไม่มีท่านนักพรตฟ่านแล้ว ถ้าจวนเจ้าเมืองมีผีดุอีกครั้งล่ะ..."

คิดได้ดังนั้น เขาก็กลืนน้ำลาย

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากลางวัน แสงแดดก็แรงกล้า...

แต่เฮ่อไฉ่เซิงก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว!

"เทพผู้พิทักษ์" จากไปแล้ว

เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วสิ…

...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด