บทที่ 2 ปฏิเสธการรับเป็นศิษย์
จินเป่าเอ๋อเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่งก่อนก้มลงอย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเกลียดชังและความต้องการแก้แค้นในดวงตาของนางถูกผู้ที่เพิ่งมาถึงมองเห็น
“นั่นคือโหลวหยุนเซียนจุนในตำนานใช่ไหม หล่อมากเลย! หล่อกว่าพ่อของข้าอีก! แถมเขายังบินได้ เก่งจริงๆ!”
เด็กๆ หลายคนมองไปที่ร่างที่เย็นชาอยู่บนแท่นด้วยสายตาชื่นชม ใจแทบอยากพุ่งไปกราบขอเป็นศิษย์!
แต่ในดวงตาของจินเป่าเอ๋อกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา เมื่อคิดถึงความอัปยศและความเจ็บปวดที่เคยผ่านมา นางจะไม่เกลียดได้อย่างไร!
“ศิษย์น้อง มาทำอะไรที่นี่? หรือว่า…เจ้าคิดได้แล้ว! ข้าก็บอกแล้วไง พรสวรรค์ของเจ้านั้นหากไม่รับศิษย์ไว้ถ่ายทอด มันคงน่าเสียดายมาก!”
จงจู่ซานมองโหลวหยุนเซียนจุนด้วยความยินดี และรีบหลีกทางให้ แสดงให้เห็นถึงสถานะอันยิ่งใหญ่ของเซียนจุนผู้นี้!
โหลวหยุนเซียนจุนพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ เสื้อคลุมสีขาวของเขาทำให้ดูสูงส่งและสง่างาม พลังอันแข็งแกร่งของเขาในขั้นออกจากร่างทำให้เขาอยู่ในระดับสูงสุดแน่นอน
“อืม... มารับศิษย์”
เพียงคำพูดเบาๆ กลับทำให้ทุกคนตื่นเต้นสุดขีด บางคนที่เพิ่งเสร็จสิ้นพิธีการรับศิษย์ไปแล้วถึงกับเสียใจที่ตัวเองลงมือเร็วเกินไป!
ในตอนนั้น ดวงตาที่เย็นชาของเขากวาดมองไปทั่วฝูงชน จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ซูเซียนจือครู่หนึ่ง ซึ่งทำให้ซูเซียนจือแทบจะกระโดดด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าแสดงออกถึงความภาคภูมิใจ
แต่แล้วสายตาของเขาก็ละจากไปอย่างรวดเร็ว และมาหยุดที่ร่างเล็กๆ อีกคนหนึ่งที่ไม่ไกลจากซูเซียนจือ…
ในชั่วพริบตา ทุกคนต่างมองไปที่จุดนั้น เห็นเพียงเด็กหญิงในชุดสีน้ำเงินยืนอยู่ นางก้มหน้าจนไม่มีใครเห็นสีหน้าของนาง ผมยาวทั้งหมดถูกมัดไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย สง่างามและเฉียบขาด!
ทุกคนจำได้ทันทีว่าเด็กหญิงคนนี้คือใคร ผู้ที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งในการทดสอบเข้าสำนัก!
จินเป่าเอ๋อ! ผู้มีรากวิญญาณน้ำแข็งบริสุทธิ์! เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง!
อันดับหนึ่งคู่ควรกับเซียนจุนอันดับหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมดี!
ในขณะนั้น ทุกคนมีความคิดแบบเดียวกัน แม้แต่เโหลวหยุนซียนจุนก็คิดเช่นนั้น จงจู่ยิ่งเสียดายและภูมิใจมาก!
“ฮ่าๆ! เจ้าตาถึงจริงๆ เด็กคนนี้มีรากวิญญาณน้ำแข็งบริสุทธิ์เหมือนกับรากวิญญาณสายฟ้าของเจ้า ทั้งสองมีพลังโจมตีรุนแรงพอๆ กัน เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของเจ้า”
จินเป่าเอ๋อคิดถึงภาพในอดีตที่นางเคยกราบอาจารย์ ยิ่งพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับผู้คน นางก็ยิ่งรู้สึกถึงสายตาที่มองมาที่นาง และยังมีสายตาที่คุ้นเคยและน่ารังเกียจปะปนอยู่ด้วย ทำให้นางเกร็งตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ!
จนกระทั่งร่างของนางลอยขึ้นไปในอากาศ นางรีบเงยหน้าขึ้นด้วยความระมัดระวัง คิดจะต่อต้านแต่ถูกพลังบางอย่างกดไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้ ความรู้สึกไร้พลังยิ่งทวีความชัดเจน ทำให้นางเกลียดความอ่อนแอของตัวเองในขณะนี้อย่างยิ่ง!
ไม่นานนัก ร่างของนางก็ตกลงพื้นเบาๆ ต่อหน้านางปรากฏร่างสูงใหญ่ที่เย็นชา กลิ่นหอมเย็นๆ ของดอกกล้วยไม้ที่คุ้นเคยลอยมาแตะจมูก แต่นางกลับรู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งค้างอยู่ในคอ! ทุกอย่างเหมือนกับชาติก่อน...
อาจเป็นเพราะเซียนจุนรู้สึกถึงความกังวลของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เสียงของเขาจึงมีความอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
"เจ้าอย่าได้กลัว! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเป็นอาจารย์ของเจ้าเอง!"
‘เจ้าศิษย์อกตัญญู! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าขอตัดขาดความสัมพันธ์อาจารย์กับศิษย์!’
ช่างเป็นเรื่องที่น่าขัน! คนคนเดียวกัน แต่คำพูดที่เขาพูดออกมาในอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ใครจะไปคิดว่าอีกไม่นาน เซียนจุนผู้นี้จะเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนตอนนี้เลยสักนิด
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์ของพวกเขา ความพยายามทั้งหมดของนางจึงกลายเป็นเพียงประโยคเดียวในปากของคนอื่นว่า
‘ไม่แปลกใจเลยที่เป็นศิษย์ของเซียนจุนโหลวหยุน!’
แต่ความจริงแล้ว คะแนนของนางนั้นได้มาด้วยความพยายามของตัวเอง สมบัติของนาง นางก็ซื้อด้วยเงินของตัวเอง ระดับพลังของนางก็เป็นสิ่งที่นางฝ่าฟันมาด้วยตัวเอง… ยกเว้นเพียงอาวุธหลักเท่านั้น เซียนจุนโหลวหยุนไม่ได้ให้อะไรนางเลย!
คนเช่นนี้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์ของนาง!
เมื่อคิดเช่นนี้ ความโกรธและความขุ่นเคืองในใจของนางพลุ่งพล่านจนแทบจะล้นออกมา นางอยากจะสู้กับคนหน้าไม่อายคนนี้จนตายไปด้วยกัน! แต่สุดท้ายเหตุผลก็ยังชนะเหนือความปรารถนา นางจึงเงยหน้ามองชายผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของเซียนจุน! แต่ข้ามีอาจารย์ที่เลือกไว้แล้ว ดังนั้นข้าคงต้องขออภัย!”
เสียงใสๆ ของเด็กสาวดังไปทั่วแท่นสูง ทำให้เหล่าศิษย์ใหม่ด้านล่างได้ยินกันถ้วนหน้า บรรยากาศพลันเงียบสงัด ทุกคนจ้องไปที่แท่นอย่างตกตะลึง
พวกเขา...พวกเขาฟังผิดไปหรือเปล่า?!! มีคนกล้าปฏิเสธที่จะเป็นศิษย์ของเซียนจุนโหลวหยุนอย่างนั้นหรือ?
แม้แต่จงจู่ก็ยังตกตะลึง มองร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่างด้วยความไม่เชื่อ และพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ
“หนูน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเจ้าเป็นใคร? เขาคือเซียนจุนโหลวหยุน ผู้มีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดของสำนักเรา! ผู้มีพลังขั้นออกจากร่าง!!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จินเป่าเอ๋อก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แต่ในใจนางกลับรู้สึกดูแคลน
ต่อให้มีพลังมากเพียงใดก็ตาม นางจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย!
“ข้าเข้าใจดี แต่ข้าก็รู้เช่นกันว่า เส้นทางการฝึกฝนเซียนนั้นเป็นการฝ่าฝืนกฎฟ้า เต็มไปด้วยความยากลำบาก ทุกคนมีเส้นทางของตนเอง และเส้นทางของข้าไม่ได้อยู่กับเซียนจุน!” เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง!
แม้แต่จงจู่ก็ถึงกับพูดไม่ออก ประหลาดใจที่เด็กคนนี้อายุเพียงสิบปี แต่กลับมีความคิดลึกซึ้งขนาดนี้! ในอนาคตต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่แน่นอน น่าเสียดายที่นางดูเหมือนไม่มีวาสนากับโหลวหยุน
ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน เซียนจุนโหลวหยุนเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และมองเด็กหญิงที่อยู่เบื้องล่างพร้อมกล่าวว่า
“เช่นนั้น…ก็ตามใจ!”
สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรเป็นพิเศษ จงจู่จึงต้องออกมารับสถานการณ์
“ฮ่าๆ เจ้านี่ช่างมีความคิดเป็นของตัวเองดี เช่นนั้น เจ้าจะเลือกเป็นศิษย์ของท่านผู้อาวุโสท่านไหน?”
ทันทีที่พูดจบ ผู้อาวุโสสายพลังน้ำแข็งและดินทั้งหมดบนแท่นก็อดไม่ได้ที่จะหันมามอง เพราะเด็กที่มีพรสวรรค์น้ำแข็งบริสุทธิ์เช่นนี้สามารถเลือกได้เพียงพวกเขาเท่านั้น! การได้ศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงและยังเคยปฏิเสธเซียนจุนโหลวหยุนคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก!
อย่างไรก็ตาม จินเป่าเอ๋อกลับลุกขึ้นยืนอย่างสงบ ปัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่บนเข่าออก และเดินไปทางด้านขวาของแท่น...
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของนาง จนกระทั่งเธอยืนอยู่ข้างผู้อาวุโสติ้ง ผู้มีพลังธาตุน้ำแข็ง ทุกคนต่างคิดว่านั่นเป็นไปตามคาด!
ผู้อาวุโสติ้งรู้สึกภาคภูมิใจและตกใจในเวลาเดียวกัน กำลังจะทำท่าทางเป็นอาจารย์ที่เคร่งขรึม แต่ทันใดนั้นก็เห็นจินเป่าเอ๋อคุกเข่าลงต่อหน้าผู้อาวุโสฮัวที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาแทน!
“ตึง!”
“ศิษย์จินเป่าเอ๋อ ขอคารวะท่านอาจารย์ฮัว!”
“อุ๊บ!!”
จงจู่ที่เพิ่งดื่มชาสมุนไพรเข้าปากถึงกับพ่นออกมา เพราะไม่คาดคิดว่านางจะเลือกเป็นศิษย์ของนักปรุงยา!
แม้ท่านผู้อาวุโสฮัวจะมีฝีมือด้านการปรุงยาที่ไม่เลว แต่...เขามีพรสวรรค์ด้านธาตุไฟและทอง เป็นผู้ฝึกตนที่เน้นพลังป้องกัน ซึ่งขัดแย้งกับธาตุน้ำแข็งของจินเป่าเอ๋อโดยสิ้นเชิง! หากตามเขาไปเรียนก็อาจได้เรียนแค่เรื่องยันต์และยาเม็ดเท่านั้น...
นี่มัน...เสียพรสวรรค์ไปเปล่าๆ ไม่ใช่หรือ??
ต่างจากผู้อาวุโสติ้งที่หน้าถมึงทึง ผู้อาวุโสฮัวกลับมีท่าทีตื่นตะลึงอย่างยิ่ง เคราเล็กๆ ใต้คางของเขาสั่นสะเทือน ริมฝีปากอ้ากว้างด้วยความตกใจ ร่างผอมบางของเขาเทียบกับเซียนจุนโหลวหยุนที่สง่างามไม่ได้เลย!
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปตามๆ กัน ไม่มีใครคาดคิดว่านางจะปฏิเสธเซียนจุนผู้แข็งแกร่ง แต่กลับเลือกนักปรุงยาที่เป็นเพียงผู้ช่วย...
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ จินเป่าเอ๋อผ่านประสบการณ์มากมายในชาติก่อน นางมีวิชาการฝึกตนที่เหมาะสมอยู่แล้ว ด้วยความพยายามและพรสวรรค์ของนาง ระดับพลังการฝึกฝนไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล สิ่งที่นางตระหนักได้อย่างลึกซึ้งจากการถูกไล่ล่ามาโดยตลอดคือ บางครั้งพลังที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ การมียันต์ ยา และค่ายกลสำคัญกว่ามากในบางสถานการณ์!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางจึงเงยหน้าขึ้นพูดซ้ำคำเดิมอีกครั้ง นั่นทำให้ผู้อาวุโสฮัวถึงกับตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่อยู่!