ตอนที่แล้วตอนที่ 599
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 601

ตอนที่ 600


[เปลี่ยจาก พลังแห่งการสรรค์สร้าง -> พลังแห่งสรรพสิ่ง]

ตอนที่600

"ท่านพบลิงตัวนี้ที่ใดในหุบเขาแห่งความว่างเปล่า"เต๋าซุนถาม

"ท่านคงรู้จักจุดไร้ทางกลับสินะ"ท่านผายถาม

"ข้ารู้ว่ามิติในนั้นปั่นป่วน แม้แต่ต้นไม้แห่งความว่างเปล่าก็ไม่อาจอยู่รอด ผู้คนจึงเรียกจุดไร้ทางกลับ"เต๋าซุนกล่าวพร้อมพยักหน้า

"ถูกต้องหลังจากเข้าสู่หุบเขาแห่งความว่างเปล่าให้เดินไปทางเหนือหลายร้อยลี้ก็จะถึงเขตแดนระหว่างพื้นที่ปลอดภัยและจุดไร้ทางกลับหุบเขา ข้าพบรูปปั้นนี้อยู่ตรงเขตแดนนั่นเอง"ท่านผายพยักหน้า

"ท่านให้รูปปั้นลิงทองคำนี้แก่ข้าได้หรือไม่"เต๋าซุนถาม

"มันไร้ค่าสำหรับข้า ท่านจะเอาไปก็ได้ แล้วก็ข้ามีความคิดเห็นอยู่  ท่านอยากฟังหรือไม่"ท่านผายถาม

"เล่ามา"เต๋าซุนพยักหน้า

"หากลิงมิติมีอยู่จริงและรูปปั้นลิงทองคำที่ข้าพบก็ยืนยันได้ในระดับหนึ่ง แล้วเหตุใดหลายหมื่นปีมานี้จึงไม่มีผู้ใดพบเห็นมัน"ท่านผายกล่าว"มีเพียงคำอธิบายเดียวคือมันซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่สิ่งมีชีวิตเข้าไปไม่ได้"

"ท่านหมายถึงจุดไร้ทางกลับ"เต๋าซุนกล่าว

"เป็นเพียงการคาดเดาของข้า"ท่านผายพยักหน้า

"หากมันอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยย่อมมีผู้พบเห็นสักวัน เว้นแต่จะอยู่ในจุดไร้ทางกลับจึงจะซ่อนตัวได้นานนับหมื่นปี หากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงยุ่งยากเพราะพวกเราเข้าไปในจุดไร้ทางกลับไม่ได้"

"ข้าจะจัดการเอง"เต๋าซุนยิ้มรับรูปปั้นลิงทองคำจากท่านผายกล่าวลาสองสามคำก่อนจะจากไป

รูปปั้นลิงทองคำนี้หนักพอสมควรแต่ไม่มีพลังพิเศษใดๆเนื่องจากมันเปล่งแสงเต๋าซุนจึงเก็บมันไว้ในโลกแก่นชีวิตเพื่อป้องกันปัญหา

เต๋าซุนเรียกรถม้าอสุรกายราตรีออกมาจากโลกแก่นชีวิต แล้วเขาก็มาถึงทางเข้าหุบเขาแห่งความว่างเปล่าในยามค่ำคืน

ที่นี่มีคนเฝ้าตลอดเวลาแม้จะเป็นเวลาดึกดื่นก็ยังมีคนเข้าออก

"บัตรผ่าน"องครักษ์ในชุดสีน้ำเงินมองเต๋าซุนกล่าวอย่างเฉื่อยชา

เต๋าซุนยื่นบัตรผ่านให้องครักษ์จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไป

เขามองประตูมิติที่บิดเบี้ยวตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไป

ในตอนนั้นเขารู้สึกตัวเบาราวกับลอยอยู่ในอากาศ ลอยล่องสู่ห้วงลึกอันไร้ที่สิ้นสุด

ความรู้สึกนี้ดำเนินไปชั่วครู่ เต๋าซุนก็รู้สึกว่ามิติห่อหุ้มตัวเขาไว้ก่อนที่ภาพเบื้องหน้าจะสว่างขึ้น

ร่างกายของเขาตกลงบนพื้น

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆสภาพแวดล้อมแห้งแล้งไร้ซึ่งพืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิต

พื้นดินโล่งเตียนมีเพียงเสียง"ครืนๆ"ดังมาจากใต้พื้นดินเป็นครั้งคราว

เต๋าซุนจำทิศทางได้จึงเดินตรงไปทางเหนือ

หลังจากปีนขึ้นเนินเขาเต๋าซุนก็เห็นเงาพุ่งเข้าหาเขา

เขาคว้าเงาดำนั้นไว้ เงาดำร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะหายไปในความว่างเปล่า

"สัตว์อสูร"เต๋าซุนคิดพร้อมขมวดคิ้ว

เขากำมือขวา พลังจิตวิญญาณแผ่ซ่านทำให้มิติโดยรอบรุนแรงขึ้น

หลังจากนั้นทันทีพื้นที่เบื้องหน้าก็พังทลายลง อสูรกายขนาดยักษ์อ้าปากเปื้อนเลือดพุ่งเข้าใส่เต๋าซุน

เต๋าซุนตวาดมือขวาคว้าขาหน้าของอสูร เหวี่ยงกายหลบการโจมตี

พลังแห่งสรรพสิ่งพลุ่งพล่านในมือของเขา เขาฟาดอสูรกระแทกพื้น

หลังจากโจมตีหลายครั้ง อสูรก็ไร้เรี่ยวแรงต้านทาน

เมื่อมันสิ้นใจ เต๋าซุนจึงมองเห็นรูปร่างของมันชัดเจน

มันเป็นอสูรสีขาวโปร่งแสง

รูปร่างคล้ายปลามีเกล็ดแข็งแต่มีขาสั้นๆสี่ขา

ดวงตาเล็กเท่าเมล็ดถั่วมีจมูกแหลมคม

อสูรสิ้นใจในทันที

ร่างของมันสลายกลายเป็นก้อนพลังงานรวมเข้ากับความว่างเปล่า

เต๋าซุนเคยศึกษาเรื่องนี้มาบ้าง นอกจากมิติที่ปั่นป่วนแล้วผู้คนยังหวาดกลัวอสูรอีกด้วย

เพราะอสูรซ่อนตัวในความว่างเปล่ายากจะจับตัว ผู้มีพลังยุทธ์ต่ำต้อยย่อมมิอาจต้านทาน

ยิ่งไปกว่านั้นการฆ่าอสูรก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด

เพราะแก่นแท้ของมันคือส่วนหนึ่งของความว่างเปล่า เกิดจากความว่างเปล่า ตายแล้วก็กลับคืนสู่ความว่างเปล่า

เต๋าซุนมิได้ใส่ใจเขารีบมุ่งหน้าไปทางเหนือ

ตลอดทั้งคืนท้องฟ้าเริ่มสว่างในหุบเขาแห่งความว่างเปล่า

ดินแดนแห่งนี้แห้งแล้งยิ่งกว่าทะเลทราย ระหว่างทางเต๋าซุนไม่พบเจอสิ่งใดนอกจากกระโจมร้างที่ผู้คนทิ้งไว้

เจ็ดวันผ่านไปในหุบเขาแห่งความว่างเปล่า

ในตอนเที่ยงเสียงการต่อสู้ดังมาแต่ไกลเรียกความสนใจของเต๋าซุน

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับผู้อื่นนับตั้งแต่เข้ามาในหุบเขาแห่งความว่างเปล่า

เสียงดาบกระทบกันเสียงตะโกนดังก้องมาแต่ไกล

"ฉินหยวน ข้าพบต้นไม้แห่งความว่างเปล่านี้ก่อนเหตุใดเจ้าจึงแย่งชิง"

"จางฉีห่าว สมบัติบนโลกนี้มิมีเจ้าของผู้ใดมีวาสนาก็ครอบครองไป"

เสียงโต้เถียงกันดังมาเต๋าซุนมองเห็นร่างสองร่างต่อสู้กันอยู่เบื้องหน้า

เงาดำและเงาขาวพุ่งเข้าใส่กันราวกับพายุ คนหนึ่งชุดดำดุจรัตติกาลอีกคนชุดขาวราวกับหิมะ ทั้งคู่ชักดาบออกจากฝักคมวาววับสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย พวกเขาต่างอยู่ในระดับ 5 ซึ่งนับว่าไม่ย่ำแย่  กระบวนท่าดาบรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาดฟันใส่กันทำให้มิติโดยรอบปั่นป่วน

เบื้องหน้าทั้งสองมีต้นไม้สามต้นขึ้นอยู่ ลำต้นสีขาวโปร่งแสงราวกับแก้วใบสีเขียวสดใสตัดกับลำต้นดูแปลกตา เต๋าซุนยืนอยู่ห่างออกไปจึงมองไม่ชัดว่าเป็นต้นไม้ชนิดใด แต่สัมผัสได้ถึงพลังอันบริสุทธิ์ที่แผ่ออกมา

เขาก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆทีละก้าวคนทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่อีกฝ่ายกลับมิได้สังเกตเห็นเขาราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งการต่อสู้

ไม่นานเต๋าซุนก็มาถึงเบื้องหน้าต้นไม้แปลกตานั้น มันคือต้นไม้แห่งความว่างเปล่า มีสามต้นขึ้นอยู่ใกล้ๆกันมีพลังอันบริสุทธิ์แผ่ออกมาทำให้มิติโดยรอบปั่นป่วนเล็กน้อยต้น ไม้สูงเพียงหนึ่งเมตรลำต้นสีขาวโปร่งแสงราวกับแก้วแต่ละต้นมีเพียงกิ่งเดียวและใบสีเขียวเพียงใบเดียว ลำต้นมีลวดลายเป็นเส้นโค้งเว้าสวยงามราวกับงานศิลปะชิ้นเอก

ทันใดนั้นคนทั้งสองก็เห็นเต๋าซุน พวกเขาร้องตะโกน"มีผู้จะขโมยต้นไม้แห่งความว่างเปล่า!"พร้อมกับพุ่งเข้าโจมตีเขาด้วยกระบวนท่ารุนแรง

"หนวกหู"เต๋าซุนรำคาญเสียงตะโกนจึงโบกมือเพียงครั้งเดียวสะบัดคนทั้งสองกระเด็นออกไปไกลราวกับใบไม้ปลิวตามลม

"พวกเจ้าเสียมารยาทก่อน ข้าเพียงมาดูมิได้คิดขโมย"เต๋าซุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา"เป็นพวกเจ้าลงมือก่อน จะหาว่าข้าไร้เมตตามิได้"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด