ตอนที่แล้วOS ตอนที่ 43 พิสูจน์ทฤษฎีการวิวัฒนาการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปOS ตอนที่ 45 กลายเป็นลูกศิษย์

OS ตอนที่ 44 ลักษณะพิเศษของอาลักษณ์


อีควิน็อกซ์โดนตีที่หัว แต่ไม่เจ็บมาก ดูเหมือนว่าพัดกระดาษจะส่งเสียงดังแทนที่จะเจ็บจริง ๆ

จากนั้น อีควิน็อกซ์จึงจ้องมองไปที่พัดเพื่อให้แน่ใจว่าเขาโดนฟาดจากมันจริง ๆ

==

ชื่อ: พัดกระดาษหรรษา

ระดับ: พิเศษ

ความเสียหาย: 1 ~ 5

ทักษะเพิ่มเสียง: เสียงที่เกิดจากการตีจะดังขึ้น 10 เท่า

คำอธิบาย: พัดกระดาษที่ได้รับการเสิรมทักษะโดยปรมาจารย์เอิร์นนาส ใช้เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างเสียงตลก สิ่งเดียวที่พัดนี้สามารถสร้างความเสียหายได้คือแมลงตัวเล็ก ๆ เท่านั้น

==

อีควิน็อดซ์หัวเราะคิกคัก เมื่ออ่านคำอธิบายของพัดกระดาษ และเขาก็โดนตีหัวอีกครั้ง

จากนั้น เขาก็จ้องไปที่เด็กชายด้วยสายตาที่งุนงง ดวงตาของอีควิน็อกซ์กำลังบอกเป็นนัยว่า 'ทำไมคุณถึงตีฉันอีกครั้ง' ก่อนที่เอเดรียนจะพูดออกมา เด็กชายก็เปิดปากและพูดออกมาว่า

"ฉันรู้สึกเหมือนคุณดูถูกฉัน นั่นคือสาเหตุที่ฉันตีคุณอีกครั้ง แต่ฉันแน่ใจว่าคุณรู้เหตุผลว่าทำไมฉันถึงตีคุณในครั้งแรก" เด็กชายกล่าว

"ผมขอโทษ" อีควิน็อกซ์พูดในขณะที่เขาโค้งคำนับ

ตอนนี้ที่เขาสามารถมองเด็กชายได้เต็มตาแล้ว เขาสังเกตว่าเด็กชายก็เหมือนกับเด็กปีศาจ แต่มีเขาที่ใหญ่กว่า และสีผิวของเขามีโทนสีที่ดูแตกต่างกัน

อีควิน็อกซ์นึกขึ้นได้ว่า ชาวเดมอสมีสีผิวที่แตกต่างกัน บางทีอาจเป็นเพราะเพอร์โซน่าก็เป็นได้ และอัสคาเลอร์เคยกล่าวไว้ว่าสายเลือดแอสโมเดียนสามารถ ‘วิวัฒนาการ’ ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่อัสคาเลอร์มีผิวสีน้ำเงินบางส่วน ไม่เหมือนกับเขาที่เป็นสีน้ำเงินทั้งตัว

ขณะที่อีควิน็อกซ์กำลังคิดอยู่ ก็มีอีกคนเดินเข้ามาในร้ายด้วยความกระตือรือร้น และออร่าแห่งความสุขที่ทำให้อีควิน็อกซ์หลุดออกจากภวังค์

“เอียร์นาสจัง... พี่สาวของเธอมาแล้วจ้า” เสียงของผู้หญิงที่น่าดึงดูดกล่าว

อีควิน็อกซ์และเด็กชายมองไปที่ที่มาของเสียง และเด็กชายก็หน้าซีด เขาอยากจะวิ่งหนี แต่ก็สะดุดล้มในชุดคลุมสีดำของตัวเอง และจากนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาอุ้มเด็กชายขึ้น และกอดเขาด้วยสีหน้ามีความสุข แต่สีหน้าของอีกฝ่ายกลับดูตรงข้ามโดยสิ้นเชิง

ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจีอันนา และเธอก็พูดชื่อของเด็กชาย ซึ่งก็คือเอียร์นาส

‘เขาคือเอียร์นาสสินะ งั้นก็หมายความว่าเขาเป็นปรมาจารย์อาลักษณ์ เราไม่สามารถหนังสือจากหน้าปกได้จริง ว่าแต่ทำไมปรมาจารย์อาลักษณ์ถึงอยู่ในร่างของเด็กชายด้วยล่ะ?’ อีควิน็อกซ์คิด

เอียร์นาสกำลังหายใจลำบาก และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกำจัดจีอันนาออกไป ในขณะเดียวกัน เธอก็สังเกตเห็นการมีอยู่ของอีควิน็อกซ์

“สวัสดีจ้า อีควิน็อกซ์ ฉันไม่นึกว่าคุณจะอยู่แถวนี้ ทำไมคุณไม่แวะมาที่ร้านของฉันล่ะ? ฮิฮิฮิ” จีอันนาพูดด้วยท่าทางน่ารัก

ก่อนที่อีควิน็อกซ์จะตอบ เอียร์นาสก็หลุดจากการอ้อมกอดของจีอันน่าได้สำเร็จ และฟาดเธอด้วยพัดกระดาษเหมือนที่เขาทำกับอีควิน็อกซ์

เมื่อเอียร์นาสทำอย่างนั้น อีควิน็อกซ์ก็รู้หน้าที่ของพัดกระดาษในทันใด เขาไม่รู้ว่าทำไมจีอันน่าถึงทำแบบนั้น เธอมีบุคลิกเจ้าชู้ แต่เธอก็แสดงความยับยั้งชั่งใจด้วย ซึ่งน่าตกใจจริง ๆ

เพราะเธอเป็น NPC เขาจึงไม่คิดว่าเธอจะมีความซับซ้อนมากขนาดนี้ ซึ่งทำการเขารู้สึกทึ่งกับเกมนี้มาก

“เอ่อ.. ผมออกไปข้างนอกก่อนได้นะครับ ถ้าพวกคุณสองคนยังทำธุระไม่เสร็จ”

อีควิน็อกซ์พูดขณะที่เขาเห็นจีอันน่าต้องการจะจู่โจมเอียร์นาสอีกครั้ง

เมื่อเห็นคำพูดที่เก้ ๆ กัง ๆ ของอีควิน็อกซ์ เอียร์นาสก็กระแอมและมองให้จีอันนาทำตัวสำรวม ซึ่งเธอก็ทำตาม พร้อมกับทำสีหน้าบูดบึ้ง

“เอาล่ะ หนุ่มน้อย ในฐานะเจ้าของร้านแห่งนี้ ฉันพอจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง?”

เอียร์นาสพูดด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจบนใบหน้าของเขา แต่ขาดความสง่างาม เพราะหน้าตาที่น่ารักของเขา

อีควิน็อกซ์มองเห็นจีอันนาพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้บีบแก้มของเอียร์นาส

“ผมกำลังมองหาอาชีพรองอยู่ครับ และบังเอิญไปเจอร้านของคุณเข้าพอดี เพราะผมอยากรู้ว่าอาลักษณ์ทำอะไรได้บ้างครับ?”

อีควิน็อกซ์พูดอย่างตรงไปตรงมา

เอียร์นาสดีใจที่มีคนสนใจอาชีพของเขาจริง ๆ แต่เขาไม่ได้แสดงออกมาบนใบหน้า โดยยังคงมีท่าทีที่นิ่งเฉย เอียร์นาสพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวดว่า

“อย่างที่เห็น อาลักษณ์เป็นหนึ่งในอาชีพที่สำคัญที่สุด มันเกี่ยวข้องกับพื้นฐานการสร้างเวทมนตร์” เอียร์นาสพูดในขณะที่ยกมือขึ้น เขาคงคิดว่าตัวเองดูเท่ แต่จริง ๆ แล้วเขาแค่ดูน่ารักเท่านั้น

“ถ้าคุณกำลังมองหาอาชีพรอง ฉันยินดีที่จะเป็นที่ปรึกษาของคุณ ฉันไม่รังเกียจที่จะมีลูกศิษย์ที่น่ารัก”

จีอันนาพูดกับอีควิน็อกซ์ ขณะที่เอียร์นาสจ้องมองเธออย่างไม่พอใจ

อีควิน็อกซ์จึงพูดว่า

“ผมไม่คิดว่าการเล่นแร่แปรธาตุจะช่วยผมในการต่อสู้ได้มากนัก ผมต้องการอาชีพรองที่สามารถช่วยผมต่อสู้ได้ เพราะผมอยากเป็นผจญภัย และเดินทางไปทั่วโลก”

เมื่ออีควิน็อกซ์พูดจบ เอียร์นาสก็ยิ้มด้วยความยินดี เพราะเขาสามารถช่วยเด็กหนุ่มคนนี้ได้จริง ๆ และที่สำคัญ เขาไม่สามารถหาลูกศิษย์ได้เลยตั้งแต่ที่พวกเขาอยู่ที่ที่ราบพาราด็อกซ์

“หากคุณต้องการอาชีพรองที่มีประโยชน์ในการต่อสู้ ฉันขอแนะนำให้คุณเป็นอาลักษณ์ อาลักษณ์นั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเวทมนตร์ได้ เพราะเราเข้าใจความรู้โบราณที่ไม่มีใครเข้าใจได้ แล้วในฐานะที่คุณเป็นนักอัญเชิญ สิ่งที่คุณเรียนรู้จากการเป็นอาลักษณ์ มันจะช่วยเสริมการต่อสู้ของสัตว์อัญเชิญของคุณได้

และจากสิ่งของที่คุณเห็นในร้าน คุณคงเห็นแล้วว่าอาลักษณ์ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังสร้างเครื่องรางสำหรับการโจมตี การป้องกัน และของประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งต่างจากนักเวทย์ที่ต้องอาศัยพลังธาตุต่าง ๆ เพื่อทำให้สิ่งของมีพลังบางอย่าง”

หูของอีควิน็อกซ์ตั้งขึ้น และเอียร์นาสก็มองเห็นความสนใจที่อีกฝ่ายมอบมาให้เขา

จีอันนาพบว่าการโต้ตอบของพวกเขานั้นดูน่ารักมาก แต่เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เธอจึงบอกลาพวกเขาทั้งสองคน และบอกให้อีควิน็อกซ์มาที่ร้านของเธอก่อนที่เขาจะออกผจญภัยในรอบถัดไป

เอียร์นาสบอกเธอว่าอย่ามายุ่งกับเขาอีก แต่จีอันนากลับยักไหล่กับคำพูดของเขา เอียร์นาสยังบอกอีควิน็อกซ์ด้วยว่าการเป็นอาลักษณ์ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพของเวทมนตร์เท่านั้น แต่ยังให้รูปแบบของคาถาเปลี่ยนไปเป็นแบบที่คาถาที่ปกติไม่มีอีกด้วย

อาชีพอาลักษณ์เป็นอาชีพอันสูงส่งในสมัยที่ผู้คนยังคงศึกษาเวทมนตร์ เพราะอาลักษณ์คือผู้จดบันทึกและนักวิจัยในสมัยนั้น

อย่างไรก็ดี พวกเขายังเป็นเป้าหมายแรก ๆ ของการบุกโจมตีของพวกคอร์รัปแทนท์ เนื่องจากพวกเขามีความรู้มากมายที่คนทั่วไปไม่รู้ ด้วยเหตุนี้เอง บางส่วนจึงจำใจแปรพักตร์ไปอยู่กับอีกฝ่าย เพื่อเอาชีวิตรอด

ยิ่งอีควิน็อกซ์เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นอาลักษณ์มากเท่าไร เขาก็ยิ่งอยากเป็นมากขึ้นเท่านั้น แต่เอียร์นาสยังเตือนเขาด้วยว่า

“แม้ว่าการเป็นอาลักษณ์จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม และอาจทำให้คุณเก่งกว่าผู้ใด แต่ความยากในการเป็นอาลักษณ์ก็สูงมากเช่นกัน ดังนั้นหากคุณต้องการเดินทางสู่การเป็นอาลักษณ์ จงเตรียมใจให้พร้อมสำหรับความยากลำบาก”

ตอนนี้อีควิน็อกซ์กำลังคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับผลประโยชน์และต้นทุนต่าง ๆ เนื่องจากเขาอาศัยเวทมนตร์เป็นหลัก เขาจึงควรได้รับประโยชน์มากมายจากการเป็นอาลักษณ์

เขาสามารถเลือกอาชีพรองอื่น ๆ ที่ง่ายกว่าได้ แต่ผลตอบแทนจะไม่คุ้มค่าเท่ากับการแนอาลักษณ์

อีควิน็อกซ์จึงตัดสินใจได้ในที่สุด และบอกกับเอียร์นาสว่าเขาต้องการเป็นอาลักษณ์

เอียร์นาสมองเห็นถึงความทุ่มเทของอีควิน็อกซ์ และมอบทดสอบให้กับเขา เพราะเขาไม่อยากให้คนขี้เกียจมาทำให้ชื่อเสียงของอาลักษณ์เสื่อมเสีย

อีควิน็อกซ์จึงได้รับหนังสือ และภารกิจจากเอียร์นาสในเวลาเดียวกัน

==

[แจ้งเตือนภารกิจ: บททดสอบคุณสมบัติของอาลักษณ์]

เอียร์นาสต้องการทดสอบว่าคุณเหมาะสมกับการเป็นอาลักษณ์หรือไม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพที่ยากที่สุด จงพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าคุณสามารถเอาชนะความคาดหวังของเขา และกลายเป็นอาลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมในอนาคตได้

เงื่อนไข: ผ่านบททดสอบของเอียร์นาส

ระยะเวลา: 8 ชั่วโมงในการศึกษาเนื้อหา ก่อนที่เอียร์นาสจะดำเนินการทดสอบ

รางวัล: อาลักษณ์ระดับปรมาจารย์ เอียร์นาส จะอนุมัติให้คุณเป็นอาลักษณ์

==

จากนั้น เอียร์นาสก็เล่าเรื่องราวในหนังสือให้อีควิน็อกซ์ฟัง โดยหนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ภาษาและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในเวทมนตร์ในโลกนี้

มีหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่พูดถึงรายละเอียดของเวทมนตร์จากโลกต่าง ๆ แต่เอียร์นาสคิดว่าเวทมนตร์พื้นฐานของโลกนี้น่าจะเหมาะสมที่จะใช้ทดสอบอีควิน็อกซ์

อีควิน็อกซ์หยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเดินไปที่โต๊ะที่มีเก้าอี้พร้อมหน้าต่างที่สามารถมองเห็นเหล่าสัตว์อัญเชิญที่กำลังเล่นอยู่ข้างนอก เพื่อทำให้บรรยากาศการเรียนจะได้ไม่น่าเบื่อ

อีควิน็อกซ์ ไม่คิดว่าเขาจะต้องเรียนในเกมด้วยซ้ำ เขาเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลาย และพักการเรียนจากมหาวิทยาลัย เพราะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บของเขา

เขาเชื่อในคำพูดที่ว่าความรู้คือพลัง มันจะช่วยเขาฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ นานาได้

อีควิน็อกซ์เริ่มอ่านบทแรก ๆ ของหนังสือที่พูดถึงการก่อตัวของเวทมนตร์ในโลกนี้ และเขาคิดว่ามันน่าสนใจมากที่เทพเจ้าออกแบบโลกให้เวทมนตร์มีความเข้ากันได้กับผู้คนที่ได้รับการฝึกฝน แต่ก็ไม่ได้ให้อิสระทั้งหมด มันยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง

และแล้ว เวลาหลายชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด