บทที่ 9 : พี่สาวคนใหม่!
บทที่ 9 : พี่สาวคนใหม่!
“หนุ่มน้อย นายไม่ใช่หมอสัตว์อสูร อย่าพูดมั่วซั่วสิ~”
“คุณฉิน อย่าไปฟังเด็กเมื่อวานซืนพูดไร้สาระเลยค่ะ”
หลังจากพูดจบ ลั่วซานเหนียงก็เดินเข้ามาใกล้เซียวซิงหยู แล้วกระซิบเบาๆว่า
“เด็กโง่ คนนี้คือคุณหนูฉิน ลูกสาวของประธานกิลด์นภา ถ้านายจ่ายยาผิดแล้วทำให้อาการของจิ้งจอกสายฟ้าสามหางแย่ลง นายจะซวยหนักนะ!”
เซียวซิงหยูยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เพราะยังไงเขาก็มั่นใจในความรู้เรื่องสัตว์อสูรของตัวเองมาก
ณ ขณะนี้ ฉินเยียนหรันจ้องมองเซียวซิงหยูเขม็งแล้วถามว่า
“นายแน่ใจเหรอ ว่าสามารถรักษาลู่ลู่ของฉันได้?”
เซียวซิงหยูพยักหน้า
“งั้นก็ได้ ฉันจะเชื่อนายครั้งนึง บอกรายชื่อยามาเลย”
ฉินเยียนหรันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้ และเลือกที่จะเชื่อเขาโดยไม่รู้ตัว
อีกอย่าง ฉินเยียนหรันจ่ายเงินมากมายไปกับหมอสัตว์อสูรหลายคนเเล้ว…แต่อาการของจิ้งจอกสายฟ้าสามหางก็ยังไม่หายขาดเสียที
พอมาเจอเซียวซิงหยู เธอจึงตัดสินใจลองเสี่ยงดู
“ซานเหนียง ช่วยจ่ายยาตามใบสั่งยาของฉันที”
ลั่วซานเหนียงหยิบกระดาษกับปากกามาจด
“ดอกบังสุกุล 1 ต้น ตำให้ละเอียดแล้วชงด้วยน้ำร้อน”
“เติมสารเร่งปฏิกิริยาธาตุสายฟ้า 1 ขวด”
“เติมแกนผลึกอสูรคุณสมบัติน้ำ ระดับสมบูรณ์ 1 เม็ด รอให้ละลาย”
“ขั้นตอนสุดท้าย…”
เซียวซิงหยูพูดไปเรื่อยๆ ลั่วซานเหนียงก็จดลงบนกระดาษ จากนั้นก็จ่ายยาตามใบสั่งยาแล้วปรุงยา
ในร้านขายสัตว์อสูรมีทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ การจ่ายยาและปรุงยาจึงใช้เวลาไม่กี่นาที
“ลู่ลู่ อ้าปาก”
ฉินเยียนหรันป้อนยาที่ปรุงเสร็จแล้วให้จิ้งจอกสายฟ้าสามหางกิน
ไม่ถึงหนึ่งนาทีหลังจากกินยา กระแสไฟฟ้าที่ไม่สามารถควบคุมได้บนร่างกายของจิ้งจอกสายฟ้าสามหางก็ค่อยๆหายไป
แววตาดุร้ายกลับมาอ่อนโยน หางทั้งสามที่ฟูฟ่องก็ค่อยๆตกลง
เมื่อเห็นแบบนี้ ฉินเยียนหรันก็ดีใจอย่างมาก
“ลู่ลู่ เจ้าหายแล้ว!”
จริงๆแล้วจิ้งจอกสายฟ้าสามหางเป็นสัตว์อสูรที่เชื่องมาก
มันเดินไปนอนข้างๆ ฉินเยียนหรัน แล้วเลียหลังมือของเธออย่างอ่อนโยน
จากนั้น จิ้งจอกสายฟ้าสามหางก็เดินไปหาเซียวซิงหยู ก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณ
เซียวซิงหยูยื่นมือลูบหัวของจิ้งจอกสายฟ้าสามหาง, จิ้งจอกสายฟ้าสามหางหลับตาพริ้มด้วยความเพลิดเพลิน
เมื่อเห็นเช่นนี้, ลั่วซานเหนียงก็เหม่อมองจนตาค้าง
“เหลือเชื่อมาก เด็กคนนี้เป็นหมอเทวดาชัดๆ!”
ฉินเยียนหรันเดินไปหาเซียวซิงหยู แล้วยิ้มหวานให้
“น้องชาย ขอบคุณมากนะที่รักษาลู่ลู่ของฉันจนหาย”
“ไม่เป็นไรครับพี่สาว”
“นายชื่ออะไร?”
“ผมชื่อเซียวซิงหยู”
“ฉันชื่อฉินเยียนหรัน ต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกันนะ…ไม่สิ ต่อไปนี้รายเป็นน้องชายของฉันแล้ว!”
ฉินเยียนหรันมีนิสัยห้าวๆ เธอจึงรับเซียวซิงหยูเป็นน้องชายเเล้วกอดคอเขาทันที
ณ เวลานี้, เซียวซิงหยูรู้สึกว่าหัวของเขาถูกห่อหุ้มด้วยความนุ่มนิ่ม จนเขาเกือบจะเลือดกำเดาไหล
“ผู้หญิงคนนี้ช่าง…เอ่อ…ใจกว้างจริงๆ”
“น้องซิงหยู ต่อไปนี้ฉันเป็นพี่สาวของนายเเล้ว…ในเมืองหลงอิ๋นนี้ จะไม่มีใครกล้ารังแกนายแน่!”
เซียวซิงหยูพูดเสียงเบา “ผมมีพี่สาวแท้ๆอยู่แล้วนะครับ”
“นายมีพี่สาวแล้วจะทำไม ฉันเป็นพี่สาวบุญธรรมของนายได้อยู่เเล้ว”
เซียวซิงหยูหน้าตาหล่อเหลา แถมยังมีความรู้เรื่องสัตว์อสูรอีก สิ่งนี้ทำให้ฉินเยียนหรันรู้สึกถูกชะตา จนตัดสินใจรับเขาเป็นน้องชายบุญธรรม
นอกจากนี้ยังมีลั่วซานเหนียงคอยยุยงส่งเสริมอยู่ข้างๆ
“หนุ่มน้อย การที่นายได้เป็นน้องชายของคุณหนูฉิน นั่นถือว่านายโชคดีมากเลยนะ!”
จากนั้น ฉินเยียนหรันก็ชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเซียวซิงหยู
พอรู้ว่าเซียวซิงหยูสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้โดยที่มีพื้นฐานมาจากเมืองเล็กๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมน้องชายคนนี้มากขึ้น
“นายมีพรสวรรค์ แถมยังเก่งเรื่องสัตว์อสูรอีก ฉันมีน้องชายแบบนาย ฉันภูมิใจมากเลยนะ!”
“ว่าแต่ นายมาที่ร้านขายสัตว์อสูรนี้…จะมาซื้ออะไรเหรอ?”
ฉินเยียนหรันถามเข้าเรื่อง
เซียวซิงหยูยังไม่ทันได้ตอบ ลั่วซานเหนียงก็พูดแทรกขึ้นมทันที
“คุณหนูฉิน หนุ่มน้อยคนนี้จะมาซื้อน้ำยาบำรุงธาตุไฟค่ะ”
“แต่เขาเป็นคนมาจากเมืองเล็กๆ เงินในกระเป๋าเลยไม่พอ…”
นี่ไม่ใช่เเค่การพูดแทรก แต่มันคือการส่งเสริมขั้นเทพ!
เเละคำพูดนี้ก็ทำให้ฉินเยียนหรันหยิบบัตรธนาคารออกมาวางบนเคาน์เตร์อย่างรวดเร็ว
“ซานเหนียง ในบัตรมี 500,000 หยิบน้ำยาบำรุงธาตุไฟคุณภาพดีที่สุดในร้านออกมาให้หมดเลย!”
“ได้เลยค่ะคุณหนูฉิน!”
ลั่วซานเหนียงวิ่งไปที่โกดังหลังร้าน ไม่กี่นาทีต่อมาก็วิ่งกลับมาพร้อมกับน้ำยาบำรุงธาตุไฟ 5 ขวด
น้ำยาบำรุงมีหลายคุณภาพ ราคาจึงแตกต่างกันไป
น้ำยาบำรุงธาตุไฟคุณภาพดีที่สุดในร้านนี้ ราคาขวดละ 100,000
ฉินเยียนหรันแพ็คน้ำยาบำรุงธาตุไฟทั้ง 5 ขวด แล้วส่งให้เซียวซิงหยูทันที
“พี่สาว แบบนี้มันไม่ค่อยจะเหมาะนะครับ…”
“ซิงหยู ตอนนี้นายเป็นน้องชายฉัน พี่สาวให้เงินน้องชาย มันก็เป็นเรื่องปกตินี่!”
“เอ่อออ…งั้นก็…ขอบคุณนะครับพี่สาว”
เซียวซิงหยูพูดอย่างเกรงใจ แต่มือของเขารับของมาเร็วมาก
ลั่วซานเหนียงบ่นพึมพำอยู่ข้างๆ “มือไวจริงนะ!”
หลังจากรับของขวัญจากฉินเยียนหรันแล้ว เซียวซิงหยูก็พึมพำในใจ
“ดูเหมือนว่านี่คือคุณค่าของข้อมูลเเละความรู้เรื่องสัตว์อสูร มันสามารถขยายเส้นสาย และสร้างสัมพันธ์กับคนใหญ่คนโตได้”
ดวงตาเทพอสูรของเซียวซิงหยู ไม่เพียงแต่สามารถมองเห็นสถานะและอาการป่วยของสัตว์อสูรได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถวิเคราะห์ใบสั่งยาได้อีกด้วย
มันเหมือนกับว่านอกจากอาชีพปรมาจารย์อสูรแล้ว เขายังมีอาชีพหมอสัตว์อสูรอยู่ในตัวอีกด้วย
เเละกิลด์ปรมาจารย์อสูรทุกแห่ง ต่างก็ต้องการคนที่มีความสามารถหลากหลายแบบเซียวซิงหยู
…..
ณ อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว
ตอนนี้ เซียวรั่วเสวี่ยนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้ากังวล
บนโต๊ะมีอาหารสี่อย่างและซุปหนึ่งอย่าง ซึ่งมันกำลังเย็นลงเรื่อยๆ
"อาหารเย็นจะหมดแล้ว ทำไมเสี่ยวหยูยังไม่กลับมาสักที..."
ขณะที่เซียวรั่วเสวี่ยกำลังจะออกไปตามหาน้องชาย ประตูห้องก็เปิดออก
"พี่สาว ผมกลับมาแล้ว!"
"เสี่ยวหยู ทำไมถึงกลับมาช้าจัง อาหารจะเย็นหมดแล้ว เดี๋ยวพี่ไปอุ่นให้ใหม่นะ"
"ไม่เป็นไรครับ เย็นๆผมก็กินได้!"
เซียวซิงหยูนั่งลงแล้วใช้ช้อนส้อมตักอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็ว
เซียวรั่วเสวี่ยเท้าคาง นั่งมองน้องชายด้วยสายตาอ่อนโยน
"เด็กโง่ ช้าๆหน่อย เดี๋ยวจะสำลักหรอก"
ทันใดนั้น เซียวรั่วเสวี่ยก็ขมวดคิ้ว และดมจมูกเบาๆ
ทันใดนั้น เธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดตัวเซียวซิงหยูมา
"เสี่ยวหยู ออกไปข้างนอกรอบนี้ไปเดทมาหรือเปล่า?"
"พี่สาว อย่าพูดแบบนั้นสิ ผมไปร้านสัตว์อสูรมา…ดูนี่สิ ยาบำรุงธาตุไฟคุณภาพสูงมา 5 ขวดสำหรับเฮยเฟิง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวรั่วเสวี่ยก็เงยหน้าขึ้นมองเป้ของเซียวซิงหยูเขม็ง
"ยาบำรุงธาตุไฟคุณภาพแบบนี้ ราคาอย่างน้อยก็หลายแสน…เสี่ยวหยูไปเอาเงินมาจากไหน?"
พูดถึงตรงนี้ เซียวซิงหยูจึงต้องตอบตามความจริง
"บังเอิญผมไปช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นปรมาจารย์อสูร, ผมช่วยรักษาสัตว์อสูรของเธอให้หายจากโรค เธอชื่อว่าฉินเยียนหราน"
"เธอดีใจมากที่สัตว์อสูรของเธอหายดี, เธอเลยรับผมเป็นน้องชายบุญธรรม"
"เงินซื้อยาบำรุงธาตุไฟ เธอเป็นคนให้มา"
"พี่สาว ช่วยตักข้าวให้ผมอีกถ้วยนะ"
"พี่สาว..."
เซียวซิงหยูหยุดช้อนกลางอากาศ พร้อมร่างกายที่สั่นเทาทันที
"พี่สาว อย่ามองผมแบบนั้นสิ ผมกลัว~"
เซียวรั่วเสวี่ยปกติเป็นคนอ่อนโยนและใจดี ต่อหน้าน้องชายเธอมักจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา
แต่ตอนนี้ เซียวรั่วเสวี่ยมีแววตาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
"ดีมากนะ เสี่ยวหยูไปมีพี่สาวบุญธรรมข้างนอก แล้วจะให้พี่สาวคนนี้อยู่ตรงไหน?"
"ใจเย็นๆนะครับ…พี่เป็นพี่สาวแท้ๆ ส่วนเธอเป็นแค่พี่สาวบุญธรรม"
เมื่อเห็นบรรยากาศตึงเครียด เซียวซิงหยูจึงพยายามเปลี่ยนเรื่อง
"พี่สาว ผมหิว ตักข้าวให้ผมอีกถ้วยนะ"
"อ๋อ หิวใช่ไหม งั้นให้พี่สาวบุญธรรมเสี่ยวหยูตักข้าวให้ก็แล้วกัน!"
"พี่สาว~"
"อย่าเรียก ฉันไม่ใช่พี่สาวของนายแล้ว พี่สาวเธอชื่อฉินเยียนหรานไม่ใช่หรือ"
เซียวรั่วเสวี่ยโยนผ้ากันเปื้อนทิ้ง กลับไปที่ห้องนอน แล้วล็อกประตูทันที
ณ เวลานี้…คลื่นของพลังความหึงหวงแผ่กระจายไปทั่วห้อง
ทันใดนั้น เซียวซิงหยูก็พึมพำออกมาเบาๆ
"ฉันแค่รับพี่สาวบุญธรรมมาคนหนึ่ง…ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนจับได้ว่านอกใจ?"
………………….