บทที่ 6 : ความลับของพี่สาว!
บทที่ 6 : ความลับของพี่สาว!
โฮกกก!
เสียงคำรามกึกก้องดังขึ้นจากลำคอของหมาป่านรกวายุ ก่อนที่มันจะพ่นเสาเพลิงสีดำขนาดมหึมาออกมาจนทำให้อากาศโดยรอบบิดเบี้ยวด้วยความร้อนที่แผ่กระจาย
นี่คือท่าไม้ตายของหมาป่านรกวายุ "คำรามอเวจี"
เพลิงนรกนั้นต่างจากเปลวเพลิงทั่วไป มันสามารถทะลุผ่านเกราะป้องกันของศัตรูเเละสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงได้โดยตรง!
คลื่นไฟที่น่าสะพรึงกลัวพัดพาซากปรักหักพัง สุดท้ายก็กลายเป็นเหมือนกับดาบยักษ์ที่พุ่งทะลุร่างของแมงป่องหางพิษ
สักพักหนึ่ง อุณหภูมิของอากาศก็ค่อยๆลดลง
ภายในซากปรักหักพัง แมงป่องหางพิษกลายเป็นเพียงก้อนถ่านดำๆโดยไม่เหลือเค้าโครงเดิม
ตอนนี้ แม้แต่แม่ของมันก็ยังจำมันไม่ได้
เเละเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นทันที
[ติ๊ง~]
[ยินดีด้วยกับการล่าสัตว์อสูรสำเร็จ ปลดล็อคความสำเร็จ (สังหารครั้งแรก)]
[รับรางวัลความสำเร็จ: (น้ำยาเพิ่มความเข้าใจ) 1 ขวด]
[รางวัลถูกส่งไปยังคลังแล้ว โปรดตรวจสอบ]
…..
เซียวซิงหยูรีบเปิดคลังระบบเพื่อตรวจสอบรางวัล
น้ำยาเพิ่มความเข้าใจ: หลังจากสัตว์อสูรดื่มน้ำยานี้แล้ว มันจะช่วยเพิ่มความเข้าใจอย่างมาก ทำให้สัตว์อสูรสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ข้ามระดับได้
ทักษะต่อสู้ คือทักษะการต่อสู้ของสัตว์อสูร
ตราบใดที่หมาป่านรกวายุดื่มน้ำยานี้ มันก็จะเพิ่มความเข้าใจได้มากมายมหาศาล
แม้ว่าระดับของมันในตอนนี้จะเป็นเพียงระดับเริ่มต้น แต่มันก็สามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ ที่สัตว์อสูรระดับเติบโตหรือระดับสมบูรณ์เท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ได้
เปรียบเทียบง่ายๆ มันก็เหมือนกับก๊วยเจ๋งตอนเด็กๆที่สามารถฝึกฝนวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรได้ล่วงหน้า
ถึงแม้ว่าพลังจากทักษะการต่อสู้จะลดลงไปอย่างมาก แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะจัดการกับคนในระดับเดียวกัน
……
ในขณะนี้ ทุกคนรอบๆต่างก็เงียบกริบ
“สัตว์อสูร…ตายแล้ว?”
มีคนพึมพำขึ้นเบาๆ
เซียวซิงหยูเดินไปที่ซากศพของแมงป่องหางพิษ แล้วหยิบแกนผลึกสีเขียวขึ้นมา
หลังจากสัตว์อสูรตาย มันจะทิ้งแกนผลึกเอาไว้ เรียกว่าแกนผลึกอสูร
แกนผลึกอสูรเป็นวัสดุที่จำเป็นสำหรับวิวัฒนาการของสัตว์อสูร
นี่คือแกนผลึกอสูรระดับเริ่มต้น คุณสมบัติพิษ มูลค่าไม่สูงนักเเละประโยชน์ก็ไม่มาก
แต่สำหรับเซียวซิงหยูที่เพิ่งก้าวเข้าสู่เส้นทางปรมาจารย์อสูร ถึงจะเป็นแค่เนื้อเล็กๆน้อยๆ มันก็ยังดีกว่าไม่มี
เมื่อเซียวซิงหยูโยนแกนผลึกไป หมาป่านรกวายุอ้าปากกลืนลงไปทันที
ตามหลักการแล้ว หมาป่านรกวายุเป็นสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติไฟเป็นหลัก… การกลืนกินแกนผลึกอสูรคุณสมบัติพิษ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน หรือแม้กระทั่งเกิดพิษ
แต่สายเลือดนรกของหมาป่านรกวายุนั่นพิเศษมาก มันสามารถต้านทานพิษได้ทุกชนิด ดังนั้นการกลืนกินแกนผลึกอสูรคุณสมบัติพิษนี้ จะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน แถมยังช่วยเสริมสร้างร่างกายได้อีกด้วย
…..
"ทุกคนครับ สัตว์อสูรตายแล้ว หมดห่วงได้เลย"
เซียวซิงหยูพูดพลางใช้เท้าเหยียบซากแมงป่องหางพิษ เเล้วขยี้จนกลายเป็นขี้เถ้าปลิวหายไปกับสายลม
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนต่างโล่งใจจนน้ำตาไหล
"เยี่ยม! เรารอดแล้ว!"
"เซียวหยู นายนี่มันฮีโร่ของชุมชนหมายเลข 743 ของเราชัดๆ!"
"พวกเราภูมิใจในตัวนายมาก!"
เพื่อนบ้านแถวนี้ต่างก็เห็นเซียวซิงหยูเติบโตมาตั้งแต่ยังเด็ก
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กน้อยที่ชอบปีนกำแพงไปแอบดูคุณนายหวังอาบน้ำ ถึงได้เติบโตเป็นปรมาจารย์อสูรที่ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดของเขา
เซียวซิงหยูไม่ได้ดื่มด่ำกับเสียงเชียร์และคําขอบคุณของทุกคน
เขารีบเดินไปหาเซียวรั่วเสวี่ยเเล้วพูดว่า
"พี่สาว ทำไมขมวดคิ้วเเบบนั้น, ฉันเข้าเรียนที่วิทยาลัยชิงหลงได้นะ…พี่ไม่มีความสุขเหรอ"
เซียวรั่วเสวี่ยตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ เธอปรับอารมณ์ของเธอ และบีบรอยยิ้มที่มุมริมฝีปาก
"มีความสุขสิ แน่นอนว่าฉันต้องมีความสุขกับนาย, และฉันภูมิใจในตัวเสี่ยวหยูมาก!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพึมพำในใจ
"วันนี้พี่สาวเเปลกๆ!"
"เห็นได้ชัดว่าเธอเเสร้งยิ้ม และดูเหมือนว่าเธอจะสงสัยอย่างมากกับการที่ฉันกลายเป็นปรมาจารย์อสูร"
"หรือบางที…ฉันอาจจะคิดมากไปเอง"
พี่น้องทั้งสองสบตากันแล้วยิ้มออกมา…แต่ในใจกลับคิดต่างกันมาก
ทันใดนั้น เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งก็เดินมาดึงชายเสื้อของเซียวซิงหยู
"พี่เซียวหยู หนูอยากเป็นปรมาจารย์อสูรเหมือนพี่จัง!"
เซียวซิงหยูนั่งยองๆลงไปบีบแก้มเด็กหญิงเบาๆ
เด็กหญิงคนนี้คือคนที่สะดุดล้มตอนวิ่งหนี แล้วเซียวรั่วเสวี่ยเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมา
เด็กหญิงอายุประมาณสิบขวบ รูปร่างผอมบาง ดูเหมือนจะเป็นโรคขาดสารอาหารเรื้อรัง
"น้องสาวคนสวย ชื่ออะไรจ๊ะ?"
"หนูชื่อโจวซือหวี่ค่ะ"
"โจวซือหวี่ พี่เชื่อว่าน้องจะเป็นปรมาจารย์อสูรได้แน่ๆ แต่ก่อนหน้านั้น ต้องกินข้าวเยอะๆ แล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ!"
เซียวซิงหยูเปิดกระเป๋าเป้ หยิบขนมปังเนยหนึ่งชิ้นส่งให้เด็กหญิง
แม่ของเด็กหญิงยืนอยู่ข้างๆ ปิดปากร้องไห้น้ำตาไหลพราก
ใบหน้าของผู้เป็นแม่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เธอน่าจะไม่ได้ให้ลูกสาวกินอิ่มมานานแล้ว
ขนมปังเนยชิ้นเดียวนี้ สะท้อนให้เห็นชีวิตที่ยากลำบากของคนจนในยุคสมัยนี้
อย่างไรก็ตาม, เซียวซิงหยูไม่ได้รู้สึกเห็นใจคนเหล่านี้มากนัก
เพราะในยุคนี้คือยุคที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ผู้แข็งแกร่งไม่เคยบ่นพึมพำเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม
ดังนั้น, สิ่งที่เขาให้โจวซือหวี่ไม่ใช่ขนมปัง แต่เป็นกำลังใจ
"พี่เซียวหยู ขอบคุณนะคะ พอหนูโตขึ้น หนูจะสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงให้ได้เลย!"
"จริงเหรอ? ตอนที่น้องสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้ พี่อาจจะเป็นอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัยชิงหลงแล้วก็ได้นะ"
เซียวซิงหยูพูดติดตลกพลางลูบหัวของโจวซือหวี่
จากนั้น พวกเขาก็เเยกย้ายกันไป
ตกกลางคืน
สายฝนโปรยปรายลงมาทั่วเมืองชิงเฟิง
คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาชายฝั่ง บนผิวน้ำปรากฏดวงตาสีแดงสองดวง ซึ่งมันเป็นดวงตาของสัตว์อสูรธาตุน้ำ
……
ณ โรงแรมราคาประหยัด
"เสี่ยวหยู เรามาพักโรงแรมเเบบนี้…มันฟุ่มเฟือยเกินไปนะ"
"พี่สาว วิทยาลัยชิงหลงมีทุนมาให้ผม ระยะสั้นๆพวกเราอาจจะยังซื้อบ้านไม่ได้ แต่พักโรงแรมไม่กี่วันไม่เป็นไรหรอก"
อีกอย่างจริงๆแล้ว นี่เป็นเรื่องที่จำเป็น
เพราะตึกที่พวกเขาเคยเช่าอยู่โดนแมงป่องหางพิษทำลายพังไปหมดแล้ว
เซียวซิงหยูจึงมาเปิดห้องพักมาตรฐาน ที่มีเตียงสองเตียง
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างธรรมดาอย่างแอร์และทีวีมีป้าย "รอซ่อม" แปะอยู่
แต่โชคยังดีที่ห้องพักสะอาดสะอ้าน
เซียวซิงหยูนอนเหยียดกายอยู่บนเตียง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆว่า
"พี่สาว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็เปิดเทอมแล้ว อาทิตย์นี้พวกเราก็พักที่นี่แหละ"
นักศึกษาใหม่ปรมาจารย์อสูรจะไม่มีปิดเทอมฤดูร้อน เพราะวิทยาลัยปรมาจารย์อสูรทุกแห่งจะเปิดเทอมพร้อมกันในอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้
….
ตกดึก
เซียวซิงหยูนอนหลับสนิท โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีเงาร่างหนึ่งกำลังย่องเข้ามาใกล้
เเละคนๆนั้นก็คือพี่สาวของเขา เซียวรั่วเสวี่ย
เซียวรั่วเสวี่ยเข้าไปใกล้เซียวซิงหยู เปิดผ้าห่มแล้วปลดกระดุมเสื้อของเขาออก
ด้านหลังของเซียวซิงหยูมีรอยสักรูปเเบบหนึ่งที่แทบจะมองไม่เห็น
"คำสาปราชามังกรยังอยู่ดี ตราผนึกไม่มีวี่แววว่าจะคลายเลย"
"แต่ทำไมเซียวหยูถึงยังทำสัญญากับสัตว์อสูรและกลายเป็นปรมาจารย์อสูรได้ล่ะ?"
"นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!"
เซียวรั่วเสวี่ยห่มผ้าให้เซียวซิงหยูอย่างเดิม แล้วเดินออกจากโรงแรมไปหาตู้โทรศัพท์
"ฮัลโหล, เสี่ยวหยูเป็นปรมาจารย์อสูรแล้ว แถมยังสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้ด้วย"
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมา
"ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโชคชะตา เจ้าก็คอยอยู่เคียงข้างเเล้วก็ดูแลเสี่ยวหยูต่อไปเถอะ"
"อ้อ พอไปถึงวิทยาลัยชิงหลงแล้ว เจ้าคอยเตือนเสี่ยวหยูหน่อยนะ"
"ให้เขาจำไว้ว่า จะจีบใครก็ได้ แต่อย่าไปยุ่งกับผู้หญิงตระกูลเย่!"
"เพราะว่าตระกูลเย่กับพวกเรานั้น…..."
เซียวรั่วเสวี่ยพยักหน้า "ค่ะ ฉันรู้แล้ว ฉันจะดูแลเสี่ยวหยูเอง"
………………..