บทที่ 5 : ล่าสัตว์อสูรครั้งเเรก!
บทที่ 5 : ล่าสัตว์อสูรครั้งเเรก!
เซียวซิงหยูเดินออกจากสนามสอบ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน
ตลอดทาง เซียวซิงหยูฉีกยิ้มกว้างอย่างที่ไม่ค่อยเป็นมาก่อน
“เมื่อพี่สาวเห็นใบตอบรับเข้าวิทยาลัยชิงหลงในมือฉัน เธอคงต้องอ้าปากค้างแน่ๆ”
“โฮ่ง~”
ข้างกายเซียวซิงหยู หมาป่าวายุนรกเดินตามติด เหมือนบอดี้การ์ดตัวใหญ่ ที่กำลังส่งเสียงคำรามด้วยความยินดี
แม้รูปลักษณ์จะเปลี่ยนไป แต่แววตาของมันก็ยังคงมีเค้าเดิมของฮัสกี้ตัวน้อย
ใช่แล้ว สัตว์อสูรที่ดูน่าเกรงขามตัวนี้ แต่ก่อนคือสุนัขวายุที่เซียวซิงหยูเก็บตกมาจากหน้าร้านขายสัตว์อสูร
เซียวซิงหยูใช้หินปลุกพลังสายเลือด เพื่อปลุกพลังสายเลือดนรกที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของสุนัขวายุ
เเละหลังจากปลุกพลังสายเลือดสำเร็จ สุนัขวายุก็วิวัฒนาการกลายเป็นหมาป่าวายุนรก ที่ช่วยให้เซียวซิงหยูผ่านการสอบระดับประเทศได้อย่างง่ายดาย
“ติ๊ง~”
ทันใดนั้น เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหัวของเซียวซิงหยู
[ยินดีด้วยกับการทำภารกิจสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้สำเร็จ]
[กำลังส่งรางวัลภารกิจ: [ศิลาหลอมรวมธาตุความมืด] 1 ชิ้น + คูปอง 300 แต้ม]
เซียวซิงหยูเปิดคลังระบบด้วยความคิด, เเละในคลังก็มีหินเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งก้อน
หินก้อนนี้คือหินหลอมรวมธาตุความมืด ตามชื่อของมันคือหินที่ช่วยให้สัตว์อสูรหลอมรวมธาตุความมืดได้
ตอนนี้หมาป่าวายุนรกมีคุณสมบัติธาตุไฟและธาตุลม
หากมันสามารถหลอมรวมธาตุความมืดได้ มันก็จะกลายเป็นสัตว์อสูรสามธาตุ อนาคตของมันจะสดใสไกลเกินคาดเดา
เซียวซิงหยูยกยิ้มที่มุมปากเเล้วพูดว่า
“เฮยเฟิง นายควรดีใจที่นายเป็นสัตว์อสูรตัวแรกที่ฉันทำสัญญาด้วย”
“ก่อนที่ฉันจะทำสัญญากับสัตว์อสูรตัวที่สอง ของดีทั้งหมดที่ฉันมี ฉันจะให้นายใช้ก่อนเลย”
“โฮ่ง~~~”
หมาป่าวายุนรกดีใจจนตัวลอย
มันวิ่งวนรอบเซียวซิงหยู หางที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีดำสะบัดไปมาอย่างร่าเริง
[ติ๊ง~]
[ระบบร้านค้าเปิดใช้งานแล้ว]
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็เพ่งสมาธิ เเละหน้าจอร้านค้าระบบก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า
เขาเลื่อนดูสินค้าไปพลางพึมพำไปพลาง
“อินเทอร์เฟซนี้ เหมือนแอพช้อปปิ้งเลย แถมยังมีระบบแนะนำสินค้าอีกด้วย…เเต่ถ้าอยากซื้อของก็ต้องใช้คูปองสินะ”
ในระบบร้านค้า มีไอเท็มและผลึกสัตว์อสูรมากมายที่สามารถช่วยในการวิวัฒนาการสัตว์อสูรได้
ตอนนี้เซียวซิงหยูมีคูปอง 300 แต้ม
แต่สินค้าที่ถูกที่สุดอย่างหญ้าวิญญาณเพลิง มีราคาสูงถึง 800 แต้ม
“ใจเย็นๆ ค่อยๆเก็บเงินไป”
“เฮยเฟิง กลับบ้านกันเถอะ!”
แสงสุดท้ายของตะวันทอดยาวผ่านร่างของคนกับหมาป่าไป
……
เขตชานเมืองชิงเฟิง
ย่านอพาร์ตเมนต์ราคาถูก
นี่คือบ้านของเซียวซิงหยูและเซียวรั่วเสวี่ย
พี่น้องสองคนกำพร้าพ่อแม่ ต้องอาศัยพึ่งพากันเเละอยู่ในย่านที่ถูกเรียกว่า "สลัม"
“เฮยเฟิง อีกหน่อยก็ถึงบ้านเราแล้ว”
“เดี๋ยวก่อน!”
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย…”
ทันใดนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวซิงหยูก็เลือนหายไปในทันที
ในสายตาของเขา, มันคือย่านอพาร์ตเมนต์ที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง เเละมีควันดำลอยคลุ้งไปทั่ว
บนถนนที่ทรุดโทรม มีเสียงร้องของผู้คนดังระงม
เเถมในอากาศ ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
“หนีเร็วเข้า สัตว์อสูรบุก!”
“ช่วยด้วย ช่วย…”
“เลือด! สมอง! ไส้!....อ๊าาา!”
…..
ณ เวลานี้ มีแมงป่องพิษตัวใหญ่บุกเข้ามาในย่านอพาร์ตเมนต์
มันคือสัตว์อสูรระดับเริ่มต้น แมงป่องหางพิษ
แม้จะเป็นระดับเริ่มต้นที่เป็นระดับที่ต่ำที่สุด แต่มันก็เหมือนยมทูตสำหรับคนธรรมดาที่ไม่มีอาวุธ
แมงป่องหางพิษแสยะยิ้มอย่างกระหายเลือด หางแหลมคมของมันแทงทะลุร่างมนุษย์ทีละคน ทีละคน แล้วก็จับยัดใส่ปาก เเละเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
แม้เหตุการณ์นี้จะมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ
ที่เป็นเเบบนั้น เพราะที่นี่คือเขตชานเมือง ผู้อยู่อาศัยล้วนเป็นคนยากจน
จำนวนปรมาจารย์อสูรในเมืองมีจำกัด ดังนั้น พวกเขาประจำการอยู่ที่ใจกลางเมืองและย่านคนรวย
ส่วนสลัมที่อยู่ชานเมืองนี้ ไม่มีใครมาสนใจหรอก
ทันใดนั้น
ขณะที่ตึกหลังหนึ่งกำลังจะถล่มลงมา หญิงสาววัยยี่สิบกว่าก็วิ่งโซซัดโซเซออกมา
แม้เธอจะสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย แต่เธอกลับมีใบหน้าที่งดงาม รูปร่างสะโอดสะอง และผมสีเงินยาวสลวยประบ่า
เเน่นอนว่าหญิงสาวผมเงินคนนี้คือพี่สาวของเซียวซิงหยู เซียวรั่วเสวี่ย
ตุบ!
อีกด้าน, เด็กหญิงคนหนึ่งสะดุดล้ม เข่าถลอกขณะกำลังวิ่งหนี
เซียวรั่วเสวี่ยรีบวิ่งเข้าไปประคองเด็กหญิงขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไรนะ?”
“ขอบคุณค่ะพี่สาว”
เเต่ทันใดนั้น เงาดำขนาดใหญ่ก็เข้าปกคลุมทั้งสองคน
เซียวรั่วเสวี่ยกอดเด็กหญิงไว้แน่น แล้วหันไปมอง
ตอนนี้ แมงป่องหางพิษอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงหนึ่งเมตร!
“พี่สาว เราจะตายไหมคะ?”
เด็กหญิงตัวสั่นด้วยความกลัวในอ้อมกอดของเซียวรั่วเสวี่ย
เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของเด็กหญิง แมงป่องหางพิษก็ยิ่งตื่นเต้น น้ำลายสีเขียวไหลออกจากมุมปากของมันตลอดเวลา
เซียวรั่วเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย รูม่านตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นรูม่านตาแนวตั้งอันน่าสะพรึงกลัว!
ต้องรู้ว่าในโลกสัตว์อสูร มีเพียงสัตว์อสูรสายพันธุ์มังกรเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น ที่จะมีรูม่านตาแนวตั้งเเบบนี้
“โฮ่ง!”
เเต่ในช่วงเวลาคับขันนั้นเอง
เสียงคำรามของหมาป่าดังกึกก้อง
โครมมมม!!!
แมงป่องหางพิษล้มลงกับพื้น
กระดองหนาของมันถูกกรงเล็บหมาป่าฉีกขาด อวัยวะภายในที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่ากระจายไปทั่ว
ผู้คนที่ตื่นตระหนกหยุดเดิน แล้วหันไปมองทางเดียวกัน
ณ เวลานี้ แสงสุดท้ายของตะวันได้ส่องกระทบเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง
เขาสวมชุดปรมาจารย์อสูรของวิทยาลัยชิงหลง เเละข้างกายเด็กหนุ่ม คือหมาป่ายักษ์ที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีดำ
“นั่นเซียวหยูไม่ใช่เหรอ!”
“เด็กคนนี้เป็นปรมาจารย์อสูรแล้วเหรอ?”
“ชุดของวิทยาลัยชิงหลง…”
“พระเจ้า ตอนเด็กๆเขายังปีนกำแพงมาแอบดูฉันอาบน้ำอยู่เลย ตอนนี้เก่งขนาดนี้แล้วเหรอ!”
เมื่อเรื่องราวในวัยเด็กถูกเปิดเผย เซียวซิงหยูก็จับจมูกตัวเองด้วยความเขินอาย
“แหะๆ ป้าหวัง ผมขอร้องล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องตอนเด็กๆของผมเลย”
ตอนนี้เซียวซิงหยูเป็นอัจฉริยะที่ได้รับความสนใจจากทั่วประเทศ ดังนั้นเขาก็ต้องรักษาหน้ารักษาตาของเขาบ้าง
“เสี่ยวหยู นี่มัน…”
รูม่านตาของเซียวรั่วเสวี่ยกลับมาเป็นปกติ เธอมองน้องชายที่คุ้นเคยแต่ก็แปลกตาด้วยความสับสน
“พี่สาว ผมสอบเข้าวิทยาลัยชิงหลงได้แล้ว ต่อไปผมจะทำให้พี่มีชีวิตที่ดี”
“อ้อ ลืมแนะนำไป นี่คือสัตว์อสูรตัวแรกที่ผมทำสัญญาด้วย หมาป่าวายุนรก มันมีชื่อว่าเฮยเฟิง”
“โฮ่ง~”
“เฮยเฟิงบอกว่า สวัสดีครับพี่สาว ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากเนื้อฝากตัวด้วย พี่สาวสวยจัง…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวรั่วเสวี่ยก็กระตุกมุมปากทันที
“มันแค่ร้องโฮ่ง นายแปลซะยาวเลย”
…..
“สัตว์อสูรนั่นยังไม่ตาย!”
“ทุกคน รีบหนีไป!”
ทันใดนั้น ผู้คนรอบๆก็เเตกตื่นอีกครั้ง
ตอนนี้แมงป่องหางพิษได้สติ มันลุกขึ้นจากพื้น พร้อมเลือดสีเขียวที่ไหลออกจากบาดแผลไม่หยุด
“พี่สาวพักสักเเปปเถอะ ผมขอจัดการสัตว์อสูรตัวนี้ก่อน”
เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวรั่วเสวี่ย ใบหน้าของเซียวซิงหยูมักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยน
แต่เมื่อเขาหันไปเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร ดวงตาของเขาก็ฉายเเววเฉียบคม พร้อมรังสีฆ่าฟันที่เเผ่ออกมา
หมาป่าวายุนรกสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเจ้านาย มันคำรามใส่แมงป่องหางพิษเสียงดังสนั่น
“กรรรร!!!”
แมงป่องหางพิษถอยกรูด เเละแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
เเน่นอนว่านี่คือการกดดันทางสายเลือด!
ในแง่ของระดับ หมาป่าวายุนรกและแมงป่องหางพิษเป็นสัตว์อสูรระดับเริ่มต้นเหมือนกัน
เเต่ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสอง คือสายเลือด
แมงป่องหางพิษมีสายเลือดคุณภาพธรรมดา
ส่วนหมาป่าวายุนรกมีสายเลือดคุณภาพระดับมหากาพย์
ความแตกต่างอย่างมากทางสายเลือด ทำให้แมงป่องหางพิษไม่กล้าต่อต้านแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นหมาป่าวายุนรกเดินเข้ามาใกล้ แมงป่องหางพิษก็ตกใจจนฉี่ราด แล้วหันหลังวิ่งหนี
“อยากหนีเหรอ?”
“ทำลายบ้านฉัน ทำร้ายเพื่อนบ้านของฉัน ทำให้พี่สาวของฉันตกอยู่ในอันตราย…”
“เเกตายซะเถอะ!”
ทันทีที่เซียวซิงหยูออกคำสั่ง
หมาป่าวายุนรกก็อ้าปากกว้าง เตรียปลดปล่อยท่าไม้ตาย
……………….