บทที่ 351 ขอแค่ทุกคนบ้าไปด้วยกัน ฉันก็ไม่ได้ป่วยแล้ว!
หลังจากที่สวี่เย่พูดจบ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างก็มีสีหน้าแปลกใจ
“โอ้โห คุณเล่นถึงกับเอาหน้ามาแปะแล้วเปิดท่าใหญ่เลยนะ”
ว่ากันว่าสวี่เย่เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น และครั้งนี้ก็ได้เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว
ฝั่งคณะกรรมการตัดสิน จางเหยาตกใจไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา
เมื่อได้ยินสวี่เย่พูด เขารู้สึกว่าครั้งก่อนที่เขาโต้กลับตงฮ่าวเฉิน เขาคงพูดน้อยเกินไป
แต่คำพูดเหล่านี้ คงมีแค่สวี่เย่ที่กล้าพูดออกมา
ในตอนนั้น ข้อความบนจอแชทก็เลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว
“บอกฉันสิว่าความประหลาดใจคืออะไร!”
“ดูหน้า ตงฮ่าวเฉินแล้ว ฮาแตก!”
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้ตงฮ่าวเฉินถึงหายตัวไป!”
ผู้ชมต่างหัวเราะไม่หยุด
การได้เห็นสถานการณ์แบบนี้ในรายการวาไรตี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ปกติแล้วแม้จะมีความขัดแย้งระหว่างแขกรับเชิญ แต่ก็จะรักษาบรรยากาศให้อยู่ในกรอบ
แต่สวี่เย่ไม่เหมือนใคร เขาไม่เคยกลัวใครเลย
แม้แต่สมาคมนักร้องฮวาเซี่ยเขายังกล้าวิจารณ์แล้วนับประสาอะไรกับตงฮ่าวเฉิน ตัวตลกแบบนี้
ฝั่งคณะกรรมการตัดสิน ตงฮ่าวเฉินเห็นว่ากล้องเล็งมาที่เขา สีหน้าของเขาก็ดูอึดอัดอย่างมาก
ตั้งแต่เริ่มการแสดงของวงหยวนฉีเส้าหญิง หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เขาไม่คาดคิดเลยว่าสวี่เย่จะเล่นออกมาแบบนี้
เซอร์ไพรส์เหรอ?
มันเซอร์ไพรส์สุด ๆ ไปเลย!
การแสดงบนเวทีนี้ ในรายการ "สาวน้อยเปล่งประกาย" ก็ถือว่าแปลกใหม่สุด ๆ ไม่มีการแสดงแบบเดียวกันมาก่อนเลย
ในส่วนของท่าเต้น ก็มีการออกแบบอย่างละเอียด
ตัวเพลงเองก็เป็นผลงานชั้นยอดที่มีทำนองหลักที่ดี
แบบนี้จะให้วิจารณ์ยังไง?
ถ้าเขาไม่เคยออกตัวแรงทางออนไลน์มาก่อน คงจะสามารถบ่ายเบี่ยงได้
แต่เพราะเขาพูดเพื่อกระตุ้นกระแส ตอนนี้จึงหนีไม่พ้นแล้ว
“ผู้กำกับเมิ่งทำฉันลำบากแล้วนะ เพลงแบบนี้คุณผ่านไปได้ยังไง!” ตงฮ่าวเฉินคิดในใจ
แต่ในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องพูดอะไรสักอย่าง
ตงฮ่าวเฉินหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วพูดตะกุกตะกัก “เซอร์ เซอร์ไพรส์ครับ”
เขาไม่กล้าสบตากับสวี่เย่เลย
แต่ในตอนนั้น สวี่เย่กลับยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วพูดว่า “อาจารย์ตง คุณต้องพูดความจริงนะครับ อย่าเพราะเห็นแก่หน้าผมแล้วพูดมั่วไป ไม่งั้นคนอื่นจะคิดว่าผมเอาอิฐมาขู่คุณนะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของตงฮ่าวเฉินแดงเป็นสีตับหมู
เขาพูดตะกุกตะกัก “ไม่ ไม่ใช่ ผมพูด พูดความจริงทั้งหมด การแสดงนี้มันเซอร์ไพรส์จริง ๆ ครับ”
สวี่เย่พยักหน้า “ดีใจที่ทำให้อาจารย์ตงรู้สึกเซอร์ไพรส์ได้ หวังว่าบนเวทีต่อ ๆ ไป อาจารย์ตงจะชี้แนะพวกเราเยอะ ๆ นะครับ”
หลังจากพูดจบ สวี่เย่ก็ไม่สนใจต่งห้าวเฉินอีกแล้ว
เขาไม่ได้ใส่ใจตงฮ่าวเฉินอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ต้องการพูดแทนพวกวงหยวนฉีเส้าหญิงที่พวกเธอไม่กล้าพูดและพูดไม่ได้เท่านั้น
ในวงการนี้มีตัวตลกเยอะแยะ จะให้ไปโต้กลับทุกคนก็คงไม่ไหว
สวี่เย่ยิ้มแล้วพูดว่า “เชิญอาจารย์ท่านอื่นวิจารณ์เลยครับ”
เฉินต๋าหัวเราะแล้วพูดว่า “โอเค สวี่เย่เชิญนั่ง”
หลังจากนั้น แขกรับเชิญคนอื่นก็เริ่มวิจารณ์กันทีละคน
ในคณะกรรมการตัดสินมืออาชีพ มีบางคนเป็นครูสอนเต้น
ครูสอนเต้นเหล่านี้เน้นวิจารณ์ไปที่ท่าเต้นเป็นหลัก
“การออกแบบท่าเต้นนี้ผมว่าน่าสนใจดี ช่วงแรก วงหยวนฉีเส้าหญิงใช้ท่าของการเต้นของชนเผ่าอี๋ จากนั้นเป็นท่าของชนเผ่าทิเบต แล้วก็ยังมีท่าของชนเผ่าอุยกูร์ ชนเผ่าไท และอื่น ๆ ที่ผมคงไม่พูดถึงทีละอัน การได้เห็นการเต้นแบบชนเผ่าในรายการนี้ ผมรู้สึกดีใจมาก”
“เวทีนี้สมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้นจนจบ”
“ผมขอพูดสักหน่อย ก่อนหน้านี้เพลงแนวนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเก่าและน่าเบื่อ แต่การออกแบบเวทีครั้งนี้ทำได้ดี ไม่มีใครถูกลดความสำคัญเป็นแค่แดนเซอร์ และทุกคนก็ไม่เสียเอกลักษณ์ของตัวเอง”
คณะกรรมการตัดสินหลายคนเริ่มเข้าสู่โหมดการชมเชย
ปกติแล้วเพลงแบบนี้จะมีคนร้องคนหนึ่ง และคนอื่นเป็นแดนเซอร์
แต่การออกแบบเวทีครั้งนี้มอบความรู้สึกที่แตกต่างให้กับผู้ชมหลายคน จนบางคนเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา
แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีบางคนพูดถึงเรื่องที่เพลงแนวทำนองหลักอาจจะไม่เหมาะกับเวทีนี้
ทุกคนก็แค่พูดคุยกันอย่างมีเหตุผล
แต่ในใจทุกคนก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
ถ้าให้ "จางเย่" มาร้อง คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น การเอาสวี่เย่ออกมาทำไมกัน?
เพราะสวี่เย่แบบนี้ ใครจะคาดหวังให้เขาจัดการเวทีจริงจัง?
ถ้าเขาไม่ให้วงหยวนฉีเส้าหญิงเต้นรำแบบหยางเกอ (การเต้นแบบพื้นบ้านจีน) ก็ถือว่าดีแล้ว!
ในใจหลายคนยังรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง
แบบนี้ก็เหมือนกับการเสียโอกาสฟังเพลงของ "จางเย่" ไปหนึ่งเพลง
ใครเป็นคนปล่อยสวี่เย่ออกมาเนี่ย?!
จากนั้นสายตาทุกคนก็มองไปที่ตงฮ่าวเฉินอย่างเปลี่ยนไป
สุดท้าย ไมโครโฟนก็ถึงมือจางเหยา
หลังจากเพลง “ลิ่วหลางเต๋ออินหยาง” จบลง จางเหยาก็กลายเป็นแฟนเพลงของสวี่เย่ไปเลย
เพลงของสวี่เย่ ฟังยิ่งนานยิ่งรู้สึกมีชีวิตชีวา
จางเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังเพลงแบบนี้บนเวทีแบบนี้ สมแล้วที่เป็นสวี่เย่ มีแต่คุณเท่านั้นที่กล้าทำแบบนี้ แต่ผมรู้สึกว่าเพลงนี้ยังขาดอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการแสดงของวงหยวนฉีเส้าหญิง มันเป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวของผมเท่านั้น”
ตอนที่พูด จางเหยาหันไปมองสวี่เย่
สวี่เย่หยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วพูดว่า “คนมันน้อยไป ถ้าหยวนฉีเส้าหญิง มีสักร้อยหรือแปดสิบคน ผลลัพธ์ก็จะเต็มที่กว่านี้”
จางเหยาหัวเราะออกมาในทันที
กล้องหันไปที่เวทีซึ่งมีหยวนฉีเส้าหญิอยู่
เสี่ยวหวังและคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าเซ็ง ๆ
ถ้าทีมเต้นมีร้อยหรือแปดสิบคน ก็ไม่ใช่แค่กลุ่มอีกต่อไปแล้ว ต้องเรียกว่ากองกำลังพิเศษแล้ว
คุณช่างคิดได้จริง ๆ
การวิจารณ์ในรอบนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้
หลังจากวงหยวนฉีเส้าหญิง ลงจากเวที เฉินต๋าก็ประกาศคะแนนสุดท้ายของแปดกลุ่ม
วงหยวนฉีเส้าหญิง ยังคงได้รับคะแนนสูงสุด และอยู่อันดับหนึ่ง
และเฉินต๋าก็ได้ประกาศว่า ในครั้งถัดไป รายการจะเริ่มถ่ายทอดสด
จริง ๆ แล้ว ตอนนี้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้ว
แค่เพียงเพราะการออกแบบกติกา ทำให้รอบรองชนะเลิศแบ่งเป็นสองรอบ
การแข่งขันครั้งถัดไปจะใช้กติกาการร้องเพลงช่วย ซึ่งเป็นกติกาที่พบเห็นได้บ่อยในรายการแข่งขันร้องเพลง
หลังจากที่เฉินต๋าประกาศข่าวนี้ ผู้ชมก็เริ่มแสดงความคิดเห็นบนจอแชททันที
“ฉันพนันห้าหยวนเลย ว่าแขกรับเชิญที่จะช่วยวงหยวนฉีเส้าหญิง ต้องเป็นสวี่เย่แน่ ๆ”
“พนันแค่ห้าหยวนเหรอ? ฉันพนันหนึ่งหยวน”
“แขกรับเชิญของวงอื่น ๆ เดายาก แต่ของหยวนฉีเส้าหญิงเดาง่ายสุด ๆ”
“พูดถึงเฉินหยูซินร้องเพลงให้สวี่เย่เป็นเพลงเต็ม แล้วพวกนายคิดว่าสวี่เย่จะร้องเพลงเต็มช่วยหยวนฉีเส้าหญิงไหม?”
“คนก่อน ๆ คุณหมายความว่าสวี่เย่จะร้องเดี่ยว วงหยวนฉีเส้าหญิง แค่เป็นแดนเซอร์?”
“หัวหน้าศูนย์จะได้ช่วยคนอื่นสักที!”
ในจอแชท ทุกคนก็กำลังพูดคุยเกี่ยวกับแขกรับเชิญที่แต่ละกลุ่มจะนำมาช่วยร้องเพลง
ตอนที่ 4 ของ “สาวน้อยเปล่งประกาย” ปิดท้ายอย่างเป็นทางการแล้ว
ในเวยป๋อชาวเน็ตต่างพูดคุยกันถึงรายการในวันนี้
โดยเฉพาะเวยป๋อของตงฮ่าวเฉิน
ชาวเน็ตตลก ๆ กลุ่มหนึ่งได้ไปแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ของเขา
โพสต์สุดท้ายของตงฮ่าวเฉิน คือโพสต์ที่เขาไปบันทึกรายการในวันนั้น
จากนั้น ชาวเน็ตก็เข้าไปคอมเมนต์ว่า “อาจารย์ตง เซอร์ไพรส์ไหม?”
ในเวลาไม่นาน คอมเมนต์นี้ก็ได้กลบคอมเมนต์ที่เคยให้กำลังใจตงฮ่าวเฉินไปหมด
เมื่อเปิดคอมเมนต์และจัดเรียงตามความนิยม ก็พบว่าเต็มไปด้วยคอมเมนต์เดียวกัน
ชาวเน็ตตลก ๆ พวกนี้ช่างเก่งจริง ๆ
จากนั้นชาวเน็ตก็พบว่า ไม่สามารถคอมเมนต์ได้อีกแล้ว
“ตงฮ่าวเฉินยังมีชีวิตอยู่ เขาตั้งค่าให้คนที่ติดตามเท่านั้นที่คอมเมนต์ได้!”
“ฉันนึกว่าอาจารย์ตงหายไปแล้ว ที่แท้ยังอยู่นะ”
“อาจารย์ตง ออกมาพูดอะไรหน่อยสิ”
ไม่เพียงแค่ชาวเน็ตที่ล้อเลียน แต่พวกแอคเคานต์การตลาดก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป
หัวข้อ “ตงฮ่าวเฉิน เซอร์ไพรส์ไหม?” ก็ถูกพวกแอคเคานต์การตลาดสร้างขึ้นมา
เมื่อไม่สามารถคอมเมนต์ในเวยป๋อของตงฮ่าวเฉินได้ ชาวเน็ตตลก ๆ ก็หันไปคุยกันในหัวข้อนั้น จนทำให้หัวข้อนี้ติดอันดับสิบของการค้นหายอดนิยม
ขณะเดียวกัน ที่อพาร์ตเมนต์ในเมืองโมโต
ตงฮ่าวเฉินมองหัวข้อในอันดับที่สิบนี้ด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาเคยฝันอยากติดท็อปเท็นในหัวข้อค้นหา แต่ไม่ใช่ในลักษณะแบบนี้แน่นอน
ตั้งแต่บันทึกรายการจบ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
เขารู้ว่าหลังจากรายการออกอากาศ ชาวเน็ตจะต้องลากเขาออกมาเล่นงานแน่ ๆ
นี่ไง มุกนี้ยังอยู่เลย
ในใจของตงฮ่าวเฉินไม่ยอมรับการพ่ายแพ้ เพลงทำนองหลักมักจะมีความได้เปรียบอยู่แล้ว
ในแง่ของความติดหู มันคงไม่สามารถเทียบกับเพลงป๊อปได้
หลังจากปิดการคอมเมนต์แล้ว ตงฮ่าวเฉินก็รู้สึกเงียบสงบขึ้นบ้าง
เขาเริ่มเปิดเวยป๋อเพื่อดูการพูดคุยเกี่ยวกับเพลง “ความงามของจีน”
ก็จริงอย่างที่คิด ยังมีคนพูดถึงประเด็นเรื่องการติดหูอยู่
จากนั้นตงฮ่าวเฉินก็กดไลก์โพสต์เหล่านั้น
แน่นอนว่าชาวเน็ตก็สังเกตเห็นเหมือนกัน
แต่ในเรื่องนี้ก็ไม่มีใครจะพูดอะไรมาก
เพราะเพลงนี้มีลักษณะเฉพาะแบบนั้น
การจะบุกชาร์ตเพลงคงเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว
สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือ เที่ยงคืน สวี่เย่ได้โพสต์วิดีโอลงในแอปพลิเคชันโต่วโส่ว
ชาวเน็ตโต่วโส่วได้เห็นวิดีโออย่างรวดเร็ว
คำบรรยายของวิดีโอนั้นเขียนว่า “#สวี่เย่ชวนคุณมาถ่ายวิดีโอ ความงามของจีนกับเขา# ผมอยู่ที่จิงเฉิง แล้วคุณอยู่ที่ไหน?”
ในภาพ สวี่เย่สวมเสื้อผ้าธรรมดา ไม่ใช่เสื้อผ้าแบรนด์เนมอะไร แค่เสื้อผ้าที่คนทั่วไปใส่ในชีวิตประจำวัน ยืนอยู่หน้าพระราชวังต้องห้าม
เพลงประกอบก็คือเพลง “ความงามของจีน” ที่หยวนฉีเส้าหญิงร้อง
“ภูเขาเขียวขจี ประชาร่ำรวย…”
ทันทีที่เสียงเพลงเริ่ม สวี่เย่ก็เริ่มเต้น
ท่าเต้นของเขาก็เป็นท่าเต้นแบบชนเผ่าที่หยวนฉีเส้าหญิงเต้นในรายการนั่นแหละ
แค่เสื้อผ้าที่เขาใส่ทำให้ท่าเต้นดูตลกนิดหน่อย
เพลงประกอบยังคงเล่นต่อไป
ในวิดีโอ สถานที่รอบ ๆ ตัวของสวี่เย่ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
ในช่วงแรกเป็นพระราชวังต้องห้าม จากนั้นเปลี่ยนเป็นตึกของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี และอื่น ๆ
สถานที่ทั้งหมดที่แสดงในวิดีโอล้วนเป็นสถานที่สำคัญหรือจุดท่องเที่ยวของจิงเฉิง
สวี่เย่เต้นท่าของ “ความงามของจีน” หน้าสถานที่สำคัญเหล่านี้
ที่มุมซ้ายบนมีการใส่ชื่อสถานที่เหล่านั้นด้วยตัวหนังสือ
เมื่อสถานที่ต่าง ๆ ปรากฏออกมา พร้อมกับการเต้นของสวี่เย่และเพลงของหยวนฉีเส้าหญิง
จู่ ๆ ก็ทำให้คนดูรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมา
“ดูไปทั้งขำทั้งเศร้า!”
“สถานที่พวกนี้สวยมากเลย!”
“ตอนดูรายการก็รู้สึกว่าเพลงนี้เข้ากับวิวพวกนี้มาก พอมาดูอีกที มันเข้ากันจริง ๆ!”
“ทำไมรู้สึกเหมือนการเต้นของสวี่เย่ทำให้วิวพวกนี้เสียหมด”
ท่าเต้นของสวี่เย่ช่างตลกเกินไป
ถ้าเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดีกว่านี้ ความรู้สึกที่ได้รับก็คงจะดีขึ้นมาก
แต่ว่าเขาใส่เสื้อผ้าธรรมดาที่ทุกคนใส่ในชีวิตประจำวัน
เมื่อวิดีโอเล่นไปถึงตอนท้าย สวี่เย่หันมายิ้มให้กล้องแล้วพูดว่า “ทุกคนใช้แฮชแท็กแล้วมาถ่ายวิดีโอ ความงามของจีน กับผมนะครับ ทุกคนสามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ของท้องถิ่นตัวเองได้ ถ้ามีโอกาสก็ถ่ายภาพสวย ๆ ของสถานที่อื่น ๆ ด้วย ให้ทุกคนได้เห็นความงดงามของประเทศจีน”
วิดีโอจบลงและเริ่มเล่นซ้ำอีกครั้ง
จากนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงเพลง “ภูเขาเขียวขจี ประชาร่ำรวย” ซ้ำอีกครั้ง
วิดีโอนี้ยาวไม่ถึงนาที
หลังจากดูหลายรอบ เพลง “ภูเขาเขียวขจี” ก็วนเวียนอยู่ในหัวทุกคนแล้ว
โดนล้างสมองไปอีก
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันฟังเพลงทำนองหลักแบบนี้ซ้ำหลายรอบขนาดนี้”
“ตอนแรก ฉันคิดว่าการที่สวี่เย่ใส่ชุดนี้คงจะเป็นแค่เรื่องตลก แต่พอดูหลายรอบเข้า ฉันรู้สึกว่านี่แหละคือความเป็นจริงของ ‘ความงามของจีน”
“สถานที่พวกนี้ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยพลังของชาวฮวาเซี่ยทุกคน!”
“ฉันจะรีบถ่ายวิดีโอด้วยเลย ฉันก็จะถ่าย ความงามของจีนบ้าง!”
ชาวเน็ตเริ่มลงมือทันที
ในวันถัดมา วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับแฮชแท็กนี้ก็เริ่มปรากฏขึ้นในโต่วโส่ว
มีทั้งจากอันเฉิง โมโต หางเฉิง และชาวเน็ตจากทั่วประเทศต่างเข้าร่วมการถ่ายวิดีโอนี้
เมื่อวิดีโอปรากฏขึ้นมากขึ้น ทุกครั้งที่เลื่อนดูในโต่วโส่ว ก็จะเห็นวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับแฮชแท็กนี้
และแล้วก็มีคนจำนวนมากขึ้นเข้าร่วมการถ่ายวิดีโอครั้งนี้ จนกลายเป็นการเฉลิมฉลองของคนทั้งประเทศ
บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวหลายคนก็เข้าร่วมหลังจากเห็นวิดีโอนี้
บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวเหล่านี้ท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ และในมือของพวกเขามีวิดีโอและภาพถ่ายสถานที่สวย ๆ จากทั่วทุกสารทิศ
บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามหลักล้านคนคนหนึ่งได้นำวิดีโอที่เขาถ่ายมาตัดต่อเข้าด้วยกัน
วิดีโอของเขาเป็นเวอร์ชัน ความงามของจีน ที่รวมภาพทั่วประเทศอย่างแท้จริง
ทันทีที่วิดีโอนี้ถูกโพสต์ ยอดกดไลก์ก็พุ่งทะลุหนึ่งแสนภายในวันเดียว และมีคอมเมนต์มากกว่าหนึ่งพันข้อความ
จากนั้น เหล่าคนดังจากหลากหลายอาชีพก็ต่างพากันเข้าร่วม
บางคนเป็นครูสอนเต้น บางคนเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา บางคนเป็นพ่อค้าในตลาดสด
พวกเขาทั้งหมดได้ถ่ายทำวิดีโอ ความงามของจีนในมุมมองของตนเอง
ด้วยการผลักดันของสวี่เย่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ภายในเวลาเพียงสองวัน
ทำให้คนในวงการบันเทิงหลายคนตกตะลึง
ตงฮ่าวเฉินอยากจะตบหน้าตัวเองด้วยความแค้นใจ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพลงนี้จะได้รับความนิยมด้วยวิธีการแบบนี้
มันช่างแปลกเหลือเกิน!
หัวของสวี่เย่ทำงานยังไงกัน?
เขาคิดออกมาได้ยังไงกัน?
ในขณะเดียวกัน วงไอดอลหญิงวงอื่น ๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันก็ต่างตะลึงไปตาม ๆ กัน
การทำให้เพลงทำนองหลักได้รับความนิยมเป็นเรื่องยากมาก
เพลงทำนองหลักมากมาย แม้ว่ารัฐจะผลักดันอย่างหนัก ก็ยังไม่สามารถแพร่กระจายบนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว
แถมเพลง ความงามของจีน ยังเป็นเพลงใหม่อีกด้วย
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดยังมีอยู่ข้างหน้าอีก
หลังจากเพลง ความงามของจีน แพร่กระจายออกไป สื่อของทางการก็เริ่มจับตามอง
เมื่อเพลงนี้ได้รับความนิยม สื่อของทางการก็ลงมือเช่นกัน
สวี่เย่ ซึ่งเป็นคนที่ถูกกฎหมายและมีพลังบวกสุด ๆ แม้ว่าหัวจะมีปัญหาบ้างนิดหน่อย ก็ยังคงเป็นที่จับตามอง
เพลงหลายเพลงของสวี่เย่ มักจะสร้างความสุขให้กับคนทั้งประเทศได้
ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้เพลงยังเป็นเพลงที่ถูกต้องตามกฎหมายมาก
ในวันนี้ ขณะที่ชาวเน็ตเลื่อนดูโต่วโส่ว ก็พบวิดีโอหนึ่ง
“ความงามของจีน เวอร์ชันสถานี CCTV”
ในวิดีโอ มีคนปรากฏตัวขึ้นมาทีละคน ทุกคนต่างก็จำได้ทันทีว่า พวกเขาเป็นพิธีกรของCCTV
พิธีกรเหล่านี้อยู่ในสตูดิโอของสถานีCCTVแห่งต่าง ๆ และร้องเพลงนี้ให้ทุกคนฟัง
“นี่มันข่าวภาคค่ำ!”
“นี่มันพยากรณ์อากาศ!”
“แล้วก็รายการเจาะลึกข่าว และรายการกฎหมายวันนี้!”
เมื่อทุกคนได้เห็นสตูดิโอเหล่านี้ที่คุ้นเคย ก็พากันหัวเราะออกมา
หลังจากดูวิดีโอจบ ทุกคนก็มองไปที่บัญชีผู้โพสต์วิดีโอ
โอ้โห นี่มันบัญชีทางการของสถานีCCTVจริง ๆ!
หน่วยงานอื่น ๆ ก็ไม่ยอมแพ้ ไม่นาน หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ก็ลงมาร่วมด้วย พวกเขาต่างถ่ายทำ ความงามของจีน เวอร์ชันของตนเอง
และเมื่อหน่วยงานของรัฐเข้ามา ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกสนานไปอีกขั้น
สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือ บัญชีของหน่วยงานรัฐทั่วประเทศก็เข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน
เมื่อหน่วยงานเหล่านี้โพสต์วิดีโอ ยังแท็กสวี่เย่ไว้ด้วย
สิ่งนี้ทำให้ชาวเน็ตนึกถึงเรื่องที่บัญชีของสวี่เย่ติดตามแต่บัญชีหน่วยงานรัฐเท่านั้น
“หัวหน้าศูนย์ ในที่สุดคุณก็โดดเด่นจนมีคนเห็นแล้ว!”
“หัวหน้าศูนย์ เมื่อไหร่จะไปสอบราชการเนี่ย ฉันไม่แปลกใจเลยนะถ้าคุณไปสอบ”
“พี่ชายข้างบน หัวหน้าศูนย์สอบไม่ได้หรอก เขาเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยนี่”
หน่วยงานรัฐพากันลงมาร่วมด้วย ต่างก็โปรโมททิวทัศน์ในท้องถิ่นของตนเอง
ผลคือ มีบัญชีใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาอีก
“ความงามของจีน เวอร์ชันอวกาศจีน” และ “ความงามของจีน เวอร์ชันกองทัพจีน”
วิดีโอทั้งสองนี้มีความเข้มแข็งทั้งในด้านเนื้อหาและความหมาย
ในวิดีโอของอวกาศจีน ภาพที่ปรากฏคือจรวดที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ส่วนในวิดีโอกองทัพจีน ก็เป็นภาพของทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์
โดยเฉพาะในวิดีโอกองทัพจีน เมื่อเพลงร้องถึงท่อน “เสียงกลองของจีนดังก้องไปทั่วฟ้าดิน” มีเสียงกลองสามครั้งดังขึ้น
ในวิดีโอของทุกคน เสียงนี้เหมือนเสียงปรบมือ ทุกคนต่างปรบมือสามครั้งติดกัน
แต่ในวิดีโอกองทัพจีน เสียงกลองกลายเป็นเสียงปืนใหญ่สามลูกยิงติดกัน
เสียงปังปังปังดังสนั่นไปกับเสียงเพลง ทำให้ชาวเน็ตฮากระจาย
“เสียงนี้สิ ที่เป็นเสียงของจีน!”
“นี่แหละการเผชิญหน้าทะเลจริง ๆ ยืนอยู่บนเรือรบแล้วหันหน้าไปทางทะเล คุณกลัวหรือเปล่า?”
“ยิงหนึ่งลูกนี้ ดอกไม้ก็ต้องบานแล้ว!”
วิดีโอกองทัพจีนและอวกาศจีนก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน
จากนั้น เหล่าทหารจากกองทัพก็เริ่มเข้ามาร่วมเล่นสนุกอีก
นอกจากหน่วยงานเหล่านี้แล้ว ก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์วิดีโอว่า
“อยู่ที่อังกฤษ แต่มาถ่าย ความงามของจีน”
ชาวเน็ตคนนี้เป็นนักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศ ในวิดีโอเธอสวมชุดฮั่นฝู (ชุดประจำชาติ) ยืนอยู่บนดินแดนต่างประเทศ ถ่ายวิดีโอ ความงามของจีน
เธอใช้รูปแบบวิดีโอเดียวกับสวี่เย่
ยังใส่ชื่อสถานที่สำคัญของอังกฤษแต่ละแห่งไว้อย่างละเอียดอีกด้วย
“เพลงนี้ชื่อว่า ‘ความงามของจีน’ ใช่ไหม? [หน้างง]”
“น้องสาวเธอออกนอกเรื่องแล้ว!”
“ขอโทษนะ เพื่อนร่วมชาติ โรงพยาบาลประชาชนลอนดอนแห่งที่หนึ่งอยู่ทางไหน?”
การเล่นสนุกกันของคนทั้งประเทศ จากในประเทศไปจนถึงต่างประเทศ จากชาวฮวาเซี่ยจนถึงชาวต่างชาติ กระจายออกไปทุกที่
ในชาร์ตเพลงใหม่ เพลง ความงามของจีน ไม่ได้ติดอันดับหนึ่ง เพียงแต่อยู่ในอันดับที่สิบ
แต่เพลงที่อยู่ข้างหน้านั้นเก้าเพลงก็ล้วนเป็นเพลงที่แต่งโดยสวี่เย่หรือ "จางเย่"
อย่างไรก็ตาม อันดับนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้
ทุกคนต่างรู้ดีว่า เพลงนี้ตอนนี้ฮอตแค่ไหน
“เพลงหนึ่ง ทำให้ทุกคนติดเชื้อ ทุกคนต่างพากันสนุกไปด้วย สวี่เย่ คุณทำสำเร็จแล้ว!”
“ขอแค่ทุกคนบ้าไปด้วยกัน ฉันก็ไม่ได้ป่วยแล้ว หัวหน้าศูนย์คุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหม?”
“ฉันไม่คิดเลยว่าแม้แต่บัญชีของรัฐยังเข้ามาร่วมเล่นสนุกนี้ด้วย สงสัยว่ามีคนของหัวหน้านั่งอยู่ในบัญชีพวกนี้แน่!”
“ชัดเจนเลย โรคจิตติดต่อได้!”
“ไม่พูดมากแล้ว ขอให้หยวนฉีเส้าหญิง ขึ้นเวทีตรุษจีนเลย!”
“ขึ้นเวทีตรุษจีน หนึ่งเสียง!”
“อีกหนึ่งเสียง!”
“อีกหมื่นเสียง!”
การพูดคุยของชาวเน็ต หยวนฉีเส้าหญิง ได้เห็นแล้ว
เมื่อมีการพูดคุยเรื่องช่วยหยวนฉีเส้าหญิง ขึ้นเวทีตรุษจีน สาว ๆ ทั้งหกคนต่างตื่นเต้นกันหมด
การได้ขึ้นเวทีตรุษจีนในฐานะวงไอดอลหญิง ก่อนหน้านี้พวกเธอไม่เคยกล้าคิดเลย
ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีโอกาสเข้าร่วมงานฉลองพิเศษบางงาน ก็พูดตามตรงว่ามาจากการที่สวี่ไป่เฟิงไปอ้อนขอให้ได้มา
แม้แต่งานเล็ก ๆ พวกเธอก็ยังถูกแฟนคลับของวงคู่แข่งตำหนิไม่น้อย
แต่ตั้งแต่ที่สวี่เย่มา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะเป็นงานฉลองวันชาติจีนหรืองานข้ามปี การแสดงสองครั้งของพวกเธอไม่มีใครพูดว่าไม่คู่ควรกับเวทีนี้อีกเลย
และในตอนนี้ ทุกคนต่างพากันเรียกร้องให้พวกเธอขึ้นเวทีตรุษจีนด้วยตัวเอง
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนเสนอขึ้นมาเอง ซึ่งต่างจากการที่พวกเธอไปขอร้องเอง
ที่บ้านเสี่ยวหวัง สาว ๆ ทั้งหกคนต่างมีแววตาเป็นประกาย
จากนั้นพวกเธอก็หันมามองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางโซฟา
สวี่เย่พักอยู่ในจิงเฉิงไม่กี่วันมานี้ยังไม่ได้กลับไป
ชาวเน็ตคาดเดาได้ถูกต้อง ผู้ที่จะมาเป็นแขกรับเชิญช่วยร้องในรอบถัดไปของวงหยวนฉีเส้าหญิง ก็คือเขาจริง ๆ
และเนื่องจากจางกวงหรง ก็มาถึงจิงเฉิงแล้วเช่นกัน เพื่อมาพูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมงานวาไรตี้โชว์ “สมบัติของชาติ” ของสถานีCCTV
ดังนั้นเขาจึงยังคงอยู่ในจิงเฉิงต่อไป
นี่ไม่ใช่เพราะเขาพบว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้หวังหนานเจีย ดวงของเขามักจะดีขึ้น
และก็ไม่ใช่ว่าเขามีอะไรกับหวังหนานเจียแน่นอน
จุดประสงค์ของผู้ใหญ่ก็เรียบง่ายมาก
ในตอนนั้น สวี่เย่กำลังเล่นเกมมือถือ
จบเกมหนึ่งก็ชนะอีกครั้ง โชคของเขาดีจริง ๆ
สวี่เย่เงยหน้าขึ้นแล้วสังเกตเห็นสายตาของทุกคนที่มองมาที่เขา
รู้สึกว่าอันตรายนิดหน่อย
จากนั้นหยวนฉีเส้าหญิงก็ล้อมรอบตัวสวี่เย่
มีคนบีบไหล่ บีบแขน และบีบน่อง
คราวนี้ ทุกคนมีงานทำ ยกเว้นหวังหนานเจียที่ไม่มีงานทำ
สวี่เย่ออกจากเกม นิ้วของเขากดค้างไว้ที่ไอคอนเกม จนมีเมนูป๊อปอัพขึ้นมา จากนั้นกดปุ่ม “ถอนการติดตั้ง”
หวังหนานเจียเห็นแล้วก็ถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ใหญ่สวี่ คุณลบเกมทำไม?”
“ตอนนี้ฉันไม่เล่นเกมแล้ว” สวี่เย่พูด
“หา?” หวังหนานเจียตกใจ แล้วพูดว่า “งั้นคุณจะไม่เล่นเกมอีกเลยเหรอ?”
“เปล่าหรอก ครั้งหน้าถ้าฉันอยากเล่น ค่อยโหลดใหม่”
หยวนฉีเส้าหญิง ทุกคนต่างตกใจ
ไม่ผิดแน่เลย คุณนี่แหละไม่เหมือนใคร
ช่างเป็นคนที่มีอาการป่วยจริง ๆ!
บนตัวคุณนี้ มีอะไรที่เป็นปกติบ้างไหม?
สวี่เย่หันไปมองหวังหนานเจียที่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วถามว่า “ทำไมคุณถึงว่างอยู่ล่ะ?”
หวังหนานเจียมองเพื่อน ๆ ทั้งห้าคนที่อยู่รอบตัวสวี่เย่ด้วยความหงุดหงิด แล้วพูดว่า “นี่พวกเธอดีนัก พูดเก่งแต่หนีฉันไปเร็วกว่าอีก”
เสวียนเสวียนพูดด้วยความภาคภูมิใจ “หวังหนานเจีย เธอไม่เข้าใจ เรากำลังช่วยคุณทดสอบความอดทนของสวี่เย่นะ”
“ไสหัวไป! ใครใช้ให้พวกเธอช่วยกันทดสอบล่ะ!” หวังหนานเจียพูดด้วยน้ำเสียงงอน ๆ
จากนั้นคนทั้งห้าก็พูดพร้อมกันว่า “งั้นคุณมาสิ?”
คนทั้งห้าเปิดทางให้หวังหนานเจียมานั่งข้าง ๆ สวี่เย่
หวังหนานเจียทำหน้างอนแล้วพูดว่า “ได้เลย ฉันก็ทำได้ ใครจะนวดไม่เป็นกัน”
เพิ่งพูดจบ สวี่เย่ก็ไอขึ้นมาสองครั้ง แล้วพูดว่า “พวกคุณจะใช้แบบนี้ทดสอบผู้ใหญ่เหรอ? ผู้ใหญ่ที่ไหนทนทดสอบแบบนี้ไม่ไหว?”